ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 2 เจ้าของอสังหาฯ ที่ยากจนที่สุดในประวัติศาสตร์ (รีไรท์)
- Home
- ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก
- ตอนที่ 2 เจ้าของอสังหาฯ ที่ยากจนที่สุดในประวัติศาสตร์ (รีไรท์)
ตอนที่ 2 เจ้าของอสังหาฯ ที่ยากจนที่สุดในประวัติศาสตร์ (รีไรท์)
ตอนที่ 2 เจ้าของอสังหาฯ ที่ยากจนที่สุดในประวัติศาสตร์ (รีไรท์)
ซูเถามาตามที่อยู่ที่ระบุอยู่หลังคีย์การ์ด สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ตรงประตูหมายเลข 2 ทางทิศเหนือของฐานตงหยาง ซึ่งเป็นประตูที่กองทัพบุกเบิกใช้เดินทางเข้าออกบ่อยที่สุด
ที่นี่มีผืนดินล้อมรั้วขนาดใหญ่ มีขนาดประมาณ 3,000 ตารางเมตร
หญิงสาวตกตะลึงเล็กน้อย
เธอรู้จักสถานที่แห่งนี้ ซูเถาเติบโตในตงหยางและได้ยินจากชายชราคนหนึ่งที่ฐานบอกว่าดินแดนแห่งนี้ปรากฏขึ้นในชั่วข้ามคืน
ฐานตงหยางมีมูลค่าสูง แม้ว่าจะเป็นเพียงบ้านขนาด 60 ตารางเมตรของพ่อเธอ หากต้องการซื้อตอนนี้ มันไม่เพียงแต่ต้องการคะแนนสมทบพื้นฐาน 6,000 คะแนน แต่ยังต้องมีเหรียญของรัฐบาลกลางมากกว่า 3 ล้านเหลียนปังอีกด้วย
ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่อยากได้พื้นที่เปิดโล่งขนาด 3,000 ตารางเมตรนี้
แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฐานก็ไม่กล้าแตะต้องมัน
มันถูกล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและมีลวดหนามไฟฟ้าติดอยู่ด้านบน ซอมบี้ยังไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ นับประสาอะไรกับมนุษย์
ตอนนี้ดินแดนนี้เป็นของเธอ ซูเถา?
ซูเถากลืนน้ำลายอึกใหญ่ เดินเข้าไปหยุดลงหน้าประตู หยิบคีย์การ์ดห้องพักที่ระบบมอบให้เธอ และแตะมันเข้ากับเซนเซอร์
‘ติ๊ง เจ้านาย ยินดีต้อนรับกลับบ้าน’
ประตูถูกเปิดออกช้า ๆ
ตรงหน้าซูเถาปรากฏบ้านหลังเล็ก ๆ ธรรมดา ๆ ที่มีผนังสีน้ำเงินอยู่กลางที่ดินอันแสนว่างเปล่า
เมื่อมองดูแล้วซูเถาก็รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย
หลังจากใช้ชีวิตมา 18 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่แห่งหนึ่ง ราวกับว่าที่นี่คือบ้านของเธอ และรอคอยให้เธอกลับมา
เธอวิ่งเหยาะ ๆ ไปที่ประตูบ้าน รูดบัตรตามปกติ และเปิดประตูอย่างมีความคาดหวัง
หืม?
ว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เก้าอี้?
ซูเถาตกตะลึง
ชั่วขณะหนึ่ง เธอเกิดความรู้สึกเสียดาย น่าจะเอาเตียงพับติดมาด้วย อย่างน้อยก็ยังมีที่ให้นั่งเล่นนอนเล่น เฮ้อ…
แต่คิดจะกลับไปตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว
นอกจากนี้ยังเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่จะซื้ออันใหม่ ตอนนี้เธอจนมาก ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินเพียง 50 เหลียนปัง อย่างมากที่สุดก็ซื้อได้แค่เก้าอี้ น่าอนาถเป็นที่สุด!
[ตรวจพบว่าโฮสต์ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว กรุณาตั้งชื่อเขต]
ซูเถาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถ้ามันใกล้กับตงหยาง งั้นเรียกว่าเขตเถาหยางแล้วกัน
[เปลี่ยนชื่อเป็นเขตเถาหยาง คุณยอมรับภารกิจผู้เริ่มต้นหรือไม่?]
ซูเถาลูบจมูก “ยอมรับ”
[ตกลง เชิญโฮสต์รับแพ็กเกจของขวัญสำหรับผู้เริ่มต้น]
วินาทีต่อมา แผงโปร่งใสก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของซูเถาอีกครั้ง มีห่อของขวัญลอยอยู่ในอากาศ
เธอคลิกเพื่อรวบรวม
[รับเหรียญ +2,000 เหลียนปัง]
ซูเถา “!!!”
เธอรีบหยิบบัตรประชาชนออกมา บัตรประชาชนของยุคสุดท้าย เป็นระบบหน้าจอสัมผัส มีลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ ใช้แทนมือถือได้ แถมยังใช้สื่อสารในยามปกติได้อีกด้วย
ซูเถาลงชื่อเข้าใช้บัญชีของเธอ และยอดคงเหลือก็กลายเป็น 2,050 เหลียนปัง!
นี่เป็นเงินก้อนใหญ่ที่สุดที่เธอเคยได้รับ!
ขณะที่กำลังตื่นเต้นจนเนื้อตัวสั่น ระบบก็แจ้งเตือนอีกครั้ง
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่มีทรัพย์สินรวมเกิน 2,000 เหลียนปัง คุณสามารถอัปเกรดระบบขึ้นเป็นเลเวล 1 ได้แล้ว หลังจากอัปเกรด คุณจะได้รับห้องเดี่ยว 1 ห้อง และปลดล็อกร้านตกแต่งบ้าน คุณต้องการใช้ 2,000 เหลียนปังเพื่ออัปเกรด?]
ซูเถาตกตะลึง ระบบยังสามารถอัปเกรดได้ด้วย
เมื่อมองไปที่ห้องว่าง ก่อนเธอจะตัดสินใจเลือกอัปเกรดด้วยความปวดใจ
เงินที่เพิ่งได้รับยังไม่ทันหายร้อน ก็ถูกใช้ไปแล้ว…
[ระบบเจ้าของอสังหาฯ อัปเกรดเป็นเลเวล 1 ได้รับห้องเดี่ยว 1 ห้อง และปลดล็อกร้านตกแต่งบ้าน โปรดตรวจสอบและยอมรับ]
ทันทีที่เสียงเตือนดังขึ้น ซูเถาก็รู้สึกช็อกเล็กน้อย และห้องว่างเปล่าขนาด 10 ตารางเมตรก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเธอ
อสังหาริมทรัพย์เดิมที่ระบบมอบให้เธอนั้นอยู่ทางด้านขวาของห้องเดี่ยวห้องใหม่ และทั้งสองห้องก็ถูกเชื่อมต่อกันด้วยระเบียงทางเดินเล็ก ๆ
หัวใจของซูเถาสั่นสะท้าน
ความเร็วในการสร้างบ้านเร็วเท่ากับการเล่นเกมด้วยการคลิกเมาส์ ประสิทธิภาพสูงเกินไปแล้ว!
เธอเปิดแผงระบบอีกครั้ง และแน่นอนว่าเห็นคำว่าการตกแต่งบ้านลอยกระแทกสายตา
ต้องซื้อของที่จำเป็นก่อนสองอย่าง อย่างแรกดูว่ามีเตียงที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะเธอไม่สามารถนอนบนพื้นได้ตลอดทั้งคืนแน่ ๆ
แต่เมื่อเห็นว่าเตียงไม้กระดานที่ถูกที่สุดมีราคา 120 เหลียนปัง ซูเถาจึงปิดหน้าสังเวชตัวเองอย่างเงียบ ๆ
เธอเหลือเงินแค่ 50 เหลียนปัง!
ด้วยที่ดินผืนใหญ่เช่นนี้ เธอยังคงเป็นคนจนโดยเนื้อแท้ ซึ่งไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อเตียงนอน
หรือแค่เช่าเอา?
[ไม่มีให้เช่าชั่วคราว โฮสต์กรุณาทำตามเงื่อนไข 1 เตียง 1 โถสุขภัณฑ์ 1 อ่างน้ำ]
ซูเถาลมแทบจับ
ในร้านตกแต่งบ้าน สินค้าทั้งสามชิ้นนี้มีราคาเกือบ 1,000 เหลียนปัง
เธอจะหาเงินมากขนาดนั้นมาได้จากที่ไหน?
ซูเถาเกาหัวแกรก ๆ และในที่สุดก็ตัดสินใจลองเสี่ยงโชคที่ตลาดมือสองของฐาน
ระบบไม่ได้บอกว่าของตกแต่งบ้านเหล่านี้ต้องซื้อในร้านค้าของระบบเท่านั้น
เธอออกไปหาสินค้าลดราคา เพื่อให้เธอมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด!
ทันทีที่พูดจบซูเถาก็ไปที่ตลาดมือสองพร้อมกับเงินทั้งหมด 50 เหลียนปัง
เพื่อประหยัดเงิน เธอจึงเดินไปที่นั่นอย่างหิวโหยและค่อย ๆ เช็ดฝุ่นบนใบหน้าอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ใบหน้าสกปรกยิ่งขึ้น
แม้ว่าจะไม่มีซอมบี้ในฐานตงหยาง แต่มนุษย์ภายใต้คำสั่งที่ล่มสลายมักจะน่ากลัวกว่าซอมบี้
เธอมาถึงตลาดมือสองก็บ่ายสี่โมงกว่าแล้ว
ตลาดการค้าแบ่งออกเป็นโซนตะวันออกและโซนตะวันตก
กฎหมายและความสงบเรียบร้อยในเขตตะวันตกนั้นดีกว่า แต่ของที่ขายก็ค่อนข้างธรรมดา ไม่เพียงแต่ขายเฟอร์นิเจอร์ทั่วไปเท่านั้น มีทั้งเครื่องใช้ในบ้าน เครื่องมือสื่อสารและแม้แต่ชุดชั้นในมือสอง
มันคงจะแย่กว่านี้มากถ้าไปทางตะวันออก ข้างในมีขายทั้งเด็กและผู้หญิง ขายไส้กรอกแฮมที่กินไปแล้วครึ่งหนึ่ง กะโหลกซอมบี้… และมีสิ่งปฏิกูลเกลื่อนพื้น
บางครั้งซูเถาก็รู้สึกว่าโลกนั้นบิดเบี้ยว ทั้งแออัด สกปรก และไม่เป็นระเบียบ
ซูเถากลับไปที่แผนกเฟอร์นิเจอร์มือสอง เตียงที่ถูกที่สุดมีราคา 20 เหลียนปัง แต่ขามันหัก ซึ่งไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ และเงินที่เหลือก็ไม่เพียงพอที่จะซื้อโถสุขภัณฑ์และอ่างน้ำ
ในที่สุดเธอก็มาหยุดอยู่ที่แผงขายเศษเสบียงทางการทหาร
ของที่ขายที่นี่ล้วนแต่เป็นของใช้ทางทหารที่ทิ้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้ามีตำหนิ มีกระติกน้ำ รองเท้า หมวก ถุงนอน…
ถุงนอน! ยังสามารถใช้เป็นเตียงนอนได้อีกด้วย
“เถ้าแก่ ถุงนอนนี้ขายยังไงคะ?”
เจ้าของร้านเป็นชายร่างผอมในวัยสี่สิบ ชายวัยกลางคนกำลังสูบบุหรี่ที่ทำขึ้นเอง เขาเลิกคิ้วและมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาที่จ้องมองมาของเขาช่างน่าสะอิดสะเอียน
“20 เหลียนปัง ค้างคืนกับฉันแล้วจะยกให้”
ซูเถารู้ว่าเธอไม่สามารถแสดงความขี้อายได้ในเวลานี้ ดังนั้นจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเผยสีหน้าไร้ความปรานี
“ถ้าอยากจะสนุกก็เลี้ยวซ้ายไป 300 เมตร จ่าย 10 เหลียนปังจะเจอกับผู้หญิงสองคนที่พร้อมจะเล่นกับคุณจนถึงเช้า สองคนก็ 15 เหลียนปัง ไม่มีใครจ่ายค่าถุงนอนของคุณนอกจากฉัน”
เถ้าแก่หยุดสูบบุหรี่และเป็นไปตามคาด เขามองไปทางอื่นแล้วส่งเสียง “เหอะ”
“งั้นเธอก็เอาไปสิ”
ซูเถารีบเหวี่ยงมันขึ้นไหล่ของเธอ
ในช่วงสิบแปดปีที่ผ่านมา ซูเถาไม่มีทักษะอื่นใด ตอนนี้จึงต้องแสร้งทำเป็นอวดดี
โถสุขภัณฑ์มีราคาแพงและน้ำหนักมาก เธอไม่สามารถแบกไปคนเดียวได้ ดังนั้นจึงซื้อถังล้างเท้าพลาสติกสองถังในราคา 5 เหลียนปังที่แผนกผลิตภัณฑ์พลาสติก
ระบบไม่ได้บอกว่าต้องซื้อโถสุขภัณฑ์แบบกดได้
ถังนี้สามารถลากไปได้ พวกเขาล้วนเป็นคนในยุคสุดท้ายคงไม่ต้องพิถีพิถันเกินไป
สำหรับอ่างน้ำ ซูเถาซื้อกะละมังพลาสติก 2 ใบ ซึ่งมีราคา 5 เหลียนปัง
หลังจากรวบรวมสิ่งของทั้งหมดเข้าด้วยกัน ซูเถาก็แบกมันไว้บนบ่าและเตรียมที่จะกลับบ้าน
เธอเหนื่อยและเริ่มหายใจไม่ออกหลังจากเดินมาเป็นเวลานาน ทั้งยังมีของหลายสิ่งหลายอย่างมากเกินไป ดังนั้นเธอจึงวางสิ่งของทั้งหมดลงและเตรียมที่จะพักผ่อน
คงจะดีมากถ้าสามารถเทเลพอร์ตเธอกลับไปได้ทันที…
ซูเถาหัวเราะเยาะตัวเองแปลก ๆ และกำลังเก็บข้าวของเพื่อเดินต่อไป วินาทีถัดมาเธอก็ปรากฏตัวที่ประตูเขตเถาหยาง…