ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 229 รู้ซึ้ง
ตอนที่ 229 รู้ซึ้ง
ตอนที่ 229 รู้ซึ้ง
ซูเถาขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า
“รองติง สิ่งนี้ไม่เป็นไปตามกฎ ถ้าคุณหรือภรรยาของคุณไม่ได้อาศัยอยู่ในเถาหยาง และมาเสวยสุขในศูนย์สุขภาพแม่และเด็ก มันก็เหมือนการแหกกฎ สถานที่มีจำนวนจำกัดและก็จะมีผู้คนเข้ามาหาเราเรื่อย ๆ คุณว่าฉันควรให้หรือเปล่า”
ติงเหออวี้เงียบไปครู่หนึ่ง “เถ้าแก่ซูพูดถูก ผมวู่วามเกินไป ไว้ผมจะหารือกับภรรยาอีกครั้ง”
หลังจากวางสาย ติงเหออวี้ก็เล่าให้ภรรยาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
ชิวอินภรรยาของเขารู้สึกผิดหวังมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “มันไม่มีทางอื่นแล้วเหรอ หรือว่ามีทางที่เราจะเข้าไปอาศัยในเถาหยางไหม”
เพราะสุดท้ายแล้วเถาหยางก็เป็นหนึ่งเดียวกับตงหยาง ทางอู๋ไถน่าจะคุยกับตงหยางได้ ยิ่งเป็นระดับรองนายกเทศมนตรีคุยด้วยแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหา
แต่หากทั้งคู่อาศัยอยู่ในเถาหยาง พวกเขาอาจถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ
ติงเหออวี้ปลอบโยนเธอ “ผมจะหาทาง”
ภรรยาของเขาถอนหายใจ
“เมื่อก่อนฉันคิดว่าอู๋ไถของเราเก่งกาจมีความสามารถ สถานะในอู๋ไถและชีวิตของเราก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ตอนนี้… โดยเฉพาะเรื่องเมื่อคืนนี้ สิ่งที่ฉันคิดมาตลอดว่ามันไม่มีทางถูกทำลายและยังมีความปลอดภัยมาก แต่ก็กลับทำให้ฉันเกือบจะเสียคุณไป..”
ทั้งสามีและภรรยามีความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของพวกเขา
…
เป็นเวลาเที่ยงวันแล้วเมื่อซูเถาได้ยินข่าวว่าอู๋ไถสูญเสียอาณาเขตไปสองเขต
ข่าวนี้ส่งผลกระทบต่อชิงเผิงค่อนข้างใหญ่
สุดท้ายแล้วในฐานะผู้นำของชิงเผิง อู๋ไถกลับตกที่นั่งลำบากกว่าตงหยาง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอับอาย
แต่ซูเถาไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก ดีที่เธอสร้างห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นห้าห้อง ห้องชุดแบบ 3 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นสามห้อง และห้องคู่อีก 10 ห้อง เธอสั่งให้เมิ่งเชียนอัปโหลดไปยังเว็บไซต์ทางการ
คิดไม่ถึงว่าหลังจากอัปโหลดไม่ถึงสองนาที แอปพลิเคชันก็แทบระเบิด หน้าเว็บก็ล่ม และทำการโหลดไม่ได้ด้วยซ้ำ
ซูเถาและพนักงานต่างก็ตกตะลึง ผู้คนภายนอกที่คลิกแอปพลิเคชันอย่างเมามันก็ตกตะลึงเช่นกัน
หลังจากมึนงง ก็เริ่มรีเฟรชระบบอีกครั้งอย่างร้อนใจ
แม้แต่ผู้อำนวยการชิว ที่ยังคงใช้เวลาว่างเพื่อสมัครเข้าพักในเถาหยางระหว่างเดินทางไปทำงานก็ยังรีบร้อน
เถาหยางนี่มัน..!
ปล่อยเช่าห้องครั้งละไม่กี่ห้องเท่านั้น แต่มีคนหลายร้อยคนเข้าแย่งชิง ถ้าเครือข่ายไม่ล่มก็แปลก
หลังจากบ่นแล้วก็เริ่มรีเฟรชอย่างบ้าคลั่ง
ขณะที่เขากำลังวุ่นอยู่กับการรีเฟรชระบบ ก็มีสายเรียกเข้า น้องสาวของเขาโทรมา เขาจึงเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว
ชิวอินโทรมาขอความช่วยเหลือ “พี่ ช่วยอะไรฉันหน่อยสิ”
ผู้อำนวยการชิวพูดดักคอเอาไว้ก่อน “เธอคงไม่ได้ต้องการให้พี่ช่วยหาที่ว่างในศูนย์สุขภาพแม่และเด็กใช่ไหม”
ชิวอินพยักหน้าอย่างแรง “เมื่อฉันแต่งงานกับคนอู๋ไถ ฉันก็ไม่ถือว่าเป็นคนตงหยาง สามีของฉันโทรหาเถ้าแก่เสี่ยวซู แต่เธอบอกว่าตอนนี้ศูนย์สุขภาพแม่และเด็ก รับหญิงตั้งครรภ์จากเถาหยางและตงหยางเท่านั้น”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง จู่ ๆ เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดกับน้องสาวของเขา
“ตอนแรกเธอยืนยันที่จะแต่งงานกับคนอู๋ไถ โดยโอ้อวดว่าอู๋ไถนั้นดีที่สุดในโลก ตอนนี้เธอรู้ถึงประโยชน์ของตงหยางแล้วสินะ พี่สะใภ้ของเธอก็ได้ใช้ชีวิตเหมือนนางฟ้าในศูนย์สุขภาพแม่และเด็ก”
ชิวอินกำลังจะร้องไห้
“พี่…พี่อย่าเพิ่งเหน็บแนมฉันตอนนี้สิ เมื่อคืนนี้อาอวี้เกือบไม่มีชีวิตรอดมาแล้ว ตอนนี้อู๋ไถไม่ปลอดภัยจริง ๆ ฉันคิดว่าถ้าฉันไปคลอดลูกที่ตงหยาง ฉันจะสามารถสร้างความมั่นใจให้อาอวี้ได้”
ผู้อำนวยการชิวถอนหายใจ
“พี่ทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ ในเมื่อเถ้าแก่ซูพูดอย่างนั้น มันก็ต้องว่าไปตามกฎ ผู้อำนวยการแห่งศูนย์สุขภาพแม่และเด็กเป็นคนเข้มงวด ความซื่อสัตย์ของเธอเป็นที่หนึ่ง พี่เองก็อยากจะเอาของขวัญไปมอบให้เธอ แต่เธอก็คงโยนของขวัญออกมาต่อหน้าพี่”
“แล้วเราจะทำยังไงดี?”
ผู้อำนวยการชิวให้คำแนะนำที่ไม่ดีแก่เธอ “เธอก็หย่ากับเสี่ยวติง และกลับมาที่ตงหยางคนเดียว เธอก็จะถือว่าเป็นคนของตงหยาง แล้วเธอก็จะมีสิทธิต่าง ๆ”
ชิวอิน “…”
ขอบคุณมาก
……
หลังจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเถาหยางล่ม กานหงอวี้และเฝิงอันก็รีบแก้ไขอยู่กว่าสามชั่วโมงก่อนจะกลับมาใช้ได้
แต่เนื่องจากผู้เยี่ยมชมมากเกินไป พวกเขาคลิกเพื่อรีเฟรชอย่างลนลาน เพราะกลัวว่าจะไม่สามารถคว้าห้องได้ ซึ่งทำให้เครือข่ายทั้งหมดหยุดชะงัก
ซูเถาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขอให้เมิ่งเชียนลบข้อมูลการปล่อยเช่าออก จากนั้นจึงกลับสู่สภาวะปกติ
เมิ่งเชียนเป็นกังวลและถามอย่างลังเลว่า “แล้วต่อไปนี้จะประกาศปล่อยเช่าอีกไหม”
ซูเถาโบกมือ “ไม่ล่ะ มันน่ากลัวเกินไป เปลี่ยนเป็นการกรอกใบสมัครด้วยตัวเองไปก่อน”
ดังนั้น หลังจากที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเถาหยางกลับมาเป็นปกติ ทุกคนก็ดูข้อมูลห้องเช่าใหม่และพบว่ามันกลายเป็นสีเทา!
ไม่นะ!
บางคนที่ไม่ได้ไปถึงกับโทรหาเมิ่งเชียนเพื่อบ่นด้วยความไม่เข้าใจและพูดสิ่งที่น่ารังเกียจมากมาย เมิ่งเชียนไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ดังนั้นเธอจึงทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ
จวงหว่านปลอบเธอ “เป็นเรื่องปกติ เราโดนดุทุกครั้งที่ปล่อยห้องเช่าใหม่ และบางคนก็ส่งของมาขู่ ถ้าเจออีกก็วางสายและขึ้นบัญชีดำ”
เมิ่งเชียนพยักหน้าอย่างแรง
หลังจากการคัดกรองอยู่สองวัน รายชื่อผู้เช่าใหม่ก็ได้รับการสรุปในที่สุด และทั้งหมดล้วนเป็นคนจากตงหยาง
ซูเถาพูดด้วยความคาดหวัง “เชียนเชียน เธอทำเรื่องเข้าย้ายให้พวกเขาโดยเร็วที่สุด”
หากผู้เช่าเหล่านี้ย้ายเข้ามา เธอจะสามารถทำการอัปเกรดได้ทันที
เมื่อรู้สึกถึงความเร่งด่วนของเธอ เมิ่งเชียนจึงทำงานหนักยิ่งขึ้น และเริ่มจัดการขั้นตอนการเช็คอินสำหรับผู้เช่าระลอกแรกในวันนั้น
ซูเถาไม่ได้อยู่เฉยเช่นกัน และใช้เงินสองล้านอย่างไม่เต็มใจเพื่อสร้างเรือนกระจกหลังใหม่ และอาคารชั้นเดียวขนาดเล็กแถวหนึ่งถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ว่างข้าง ๆ พร้อมตู้เก็บความสดด้านในสำหรับจัดการและเก็บผลไม้ที่ผลิตในเรือนกระจก
อู๋เจิ้นรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อเห็นเรือนกระจกหลังใหม่ เขาเดินไปรอบ ๆ สองรอบ จากนั้นก็มองไปที่อาคารแถวเล็ก ๆ เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า
“สตรอว์เบอร์รีเน่าเสียได้ง่ายมาก แม้จะเก็บไว้ในตู้เย็น แต่ก็ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน นับประสาอะไรกับการขนส่งทางไกลไปขายที่อื่น”
เมื่อซูเถาได้ยินคำพูดนั้น เธอก็นึกถึงติงเหออวี้ที่อยู่ห่างไกลในอู๋ไถทันที
ความสามารถของเขาเหมาะมากสำหรับการรักษาความสดของอาหาร
เป็นอีกครั้งที่น่าเสียดายที่พรสวรรค์ดี ๆ แบบนี้ไม่ได้อยู่ในมือของเธอ
หลังจากสร้างเรือนกระจก สินทรัพย์รวมของซูเถาลดลงเหลือ 5.8 ล้านเหลียนปัง ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการอัปเกรดครั้งต่อไป
แต่ตราบใดที่ผู้เช่าใหม่ย้ายเข้ามาและชำระค่าเช่า ไม่เพียงแต่เงินที่จะเพียงพอต่อการใช้จ่ายเท่านั้น แต่จำนวนผู้เช่าก็จะเป็นไปตามมาตรฐานด้วย
ตอนนี้เธอแค่ต้องอดทนและรอต่อไป
วันรุ่งขึ้น ซูเถาเห็นติงเหออวี้ผู้ซึ่งเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
ครั้งนี้เขายังนำผลึกนิวเคลียสมาแปดอันเพื่อชำระค่าสมาชิก
ซูเถาซึ่งมีนิวเคลียสคริสตัลเพียงอันเดียวในร่างกายของเธอ รู้สึกมีความสุขทั้งกายและใจเมื่อเห็นผลึกนิวเคลียสทั้งแปดนี้
ติงเหออวี้ยื่นมือออกมาและพูดอย่างเคร่งขรึม “เถ้าแก่ซู ยินดีที่ได้ร่วมมือกัน”
“ยินดีที่ได้ร่วมมือกัน” ซูเถาจับมือกลับ
ครั้งนี้ ภาพการตายของติงเหออวี้ไม่ปรากฏในความคิดของเธอ
เธอมีความสุขจริง ๆ
ติงเหออวี้สั่งรายการเสบียงบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการแล้ว จากนั้นเขาก็หยิบจดหมายบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเอกสารของเขาและส่งให้ซูเถา
ซูเถารับมันมาและกำลังจะถามว่ามันคืออะไร แต่แล้วก็ได้ยินเขาพูดว่า
“เถ้าแก่ซูคงรู้เรื่องการประชุมสุดยอดพันธมิตรฐานทางตอนใต้แล้วใช่ไหม ปีนี้ฐานอู๋ไถของเรามีห้าโควตา ถึงเวลานั้นก็เลยอยากจะให้เถ้าแก่ซูพาใครสักคนไปร่วมงานด้วยกัน”