ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 232 เริ่มสร้างฟาร์มปศุสัตว์ขนาดเล็ก
ตอนที่ 232 เริ่มสร้างฟาร์มปศุสัตว์ขนาดเล็ก
ตอนที่ 232 เริ่มสร้างฟาร์มปศุสัตว์ขนาดเล็ก
การอัปเกรดเป็นเลเวล 7 สามารถเปิดร้านให้เช่าได้จริง!
ซูเถาค่อนข้างประหลาดใจ เพราะก่อนหน้านั้น เธอมีความคิดที่จะแบ่งโรงอาหารออกเป็นล็อก ๆ เพื่อทำเป็นร้านค้าขนาดเล็ก และทำสัญญาการเช่าที่
เหมือนกับคุณย่าเฉินที่มีฝีมือหน่อย ก็เช่าร้านเล็ก ๆ ขายอาหารได้ เช่น ร้านบะหมี่ ข้าวผัด ซาวเข่า หมาล่าทั่ง*[1]…
ในอนาคต จำนวนผู้เช่าในเถาหยางจะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเมื่อทำการเปิดร้านแล้วก็ไม่ต้องกังวลอะไร
เพียงแต่ต้องทำงานอย่างหนัก!
เธอคลิกเพื่อเข้าไปในร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์เลี้ยงสัตว์ และในนั้นมีสินค้าเพียงสองอย่างเท่านั้น คือเล้าไก่และเล้าเป็ด
รายการสีเทาอื่น ๆ ต้องใช้เงินเพื่อปลดล็อก
หลังจากการอัปเกรดระบบ เธอมีปัญหาเรื่องเงินเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงต้องหาวิธีเลี้ยงไก่และเป็ดในเล้าไปก่อน แล้วค่อยรอจนกว่าเธอจะมีเงินมากกว่านี้
หลังจากดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ เล้าไก่มูลค่า 5,000 เหลียนปัง ประกอบไปด้วยไก่ห้าตัว และเล้าไก่หนึ่งหลัง สามารถบรรจุไก่ได้ห้าตัว
เล้าเป็ดก็เช่นเดียวกัน
มันค่อนข้างสะดวก ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องสร้างมันเองหรือต้องหาคนมาสร้างเล้าไก่
และเล้าไก่ที่แถมมาก็สวยมาก เป็นเล้าไก่ 2 ชั้นสร้างด้วยไม้อย่างดี
มีรางน้ำอยู่ด้านนอกของชั้นที่ 1 ซึ่งใช้สำหรับให้แม่ไก่วางไข่ และไข่ที่วางไว้สามารถตกลงไปในรางเก็บไข่ได้โดยตรงตามทางลาดด้านล่าง
ชั้นสองเป็นบันไดให้ไก่และเป็ดเดินไปมา
มันใช้งานได้จริงและสวยงาม
ปัญหาเดียวในตอนนี้คือเธอไม่มีที่ดินเหลือที่จะเลี้ยงไก่และเป็ดเหล่านี้
คงจะเลี้ยงพวกมันที่ชั้นล่างอาคารไม่ได้
แต่สุดท้ายหลังจากการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ซูเถาก็ตัดสินใจใช้ผลึกนิวเคลียสอันสุดท้าย และขยายเถาฉือออกไปอีก 100 ตารางเมตร
อย่างไรก็ตาม บ้านต้นไม้ของอลิซก็ถูกย้ายไปยังที่ดินที่สร้างขึ้นใหม่ด้วย
ได้ยินจากสวีฉีว่าอลิซชอบสัตว์ตัวเล็ก ๆ มาก ไม่รู้ว่าเธอชอบไก่ตัวเล็ก ๆ หรือเปล่า
ด้วยเหตุผลนี้ เธอจึงไปที่เถาฉือ และเมื่อเธอไปถึง เธอก็เห็นอลิซนั่งอยู่บนหลังคาบ้านต้นไม้ กำลังแหงนหน้ามองท้องฟ้าคางเชิดขึ้น ให้ความรู้สึกเหงาเล็กน้อย
มีภาพลวงกระต่ายหลายตัวอยู่ใต้ต้นไม้ พวกมันกระโดดไปมาอย่างน่ารัก
เมื่ออลิซเห็นเธอ เธอก็หัวเราะออกมาทันที เด็กหญิงกระโดดลงมาแล้วก้าวเข้าไปหาซูเถาและพูดคุยกันมากมาย
ซูเถารู้สึกว่าอลิซเหงาเกินไป ซูเถาจึงรู้สึกสงสารเธอและอดทนฟังการแสดงท่าทางเพื่อ “บอก” อะไรบางอย่างด้วยมือและเท้าของเธอ
คิดไม่ถึงว่า เธอยังคงแสดงสิ่งที่เธอพูดอยู่หนึ่งชั่วโมงก่อนจะหยุดลง จากนั้นดึงซูเถาไปเล่นหลังจากพูดจบ
ซูเถาถือโอกาสซื้อเล้าไก่และปล่อยลูกเจี๊ยบขนปุยจำนวน 5 ตัวออกมา
ลูกไก่ตัวน้อยไม่กลัวคนแปลกหน้าเลย มันส่งเสียงร้องออกมาแล้วเดินรอบ ๆ พวกเธอ
อลิซเห็นไก่ตัวน้อยดวงตาก็เบิกกว้าง และหลังจากนั้นสองวินาที เธอก็หัวเราะคิกคักและเล่นซ่อนแอบกับเจ้าพวกลูกเจี๊ยบ
เมื่อเห็นว่าเธอชอบ ซูเถาก็รู้สึกโล่งใจ จึงซื้อเล้าไก่อีก 2 หลัง และเล้าเป็ดอีก 3 หลัง
บริเวณรอบ ๆ บ้านต้นไม้ของอลิซเต็มไปด้วยเสียงพึมพำ
ซูเถาสร้างรั้วล้อมเล้าไก่และเล้าเป็ด
มีการสร้างกำแพงสูงนอกพื้นที่ทั้งหมด 100 ตารางเมตร และติดตั้งประตูไม้ที่งดงามเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าที่มาซื้อเสบียงเดินผ่านหรือเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจ
ในที่สุดก็มีการสร้างโดมครอบป้องกันที่นี่ ซึ่งไม่เพียงรับประกันความปลอดภัย แต่ยังรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับการอยู่รอดของสัตว์ขนาดเล็ก
เห็นได้ชัดว่าอลิซชอบบ้านใหม่ของเธอและวิ่งไปรอบ ๆ หลายครั้งโดยถกกระโปรงไว้ในมือ
ซูเถามองไปรอบ ๆ และรู้สึกภูมิใจกับมันมาก และตัดสินใจขอให้จวงหว่านจ้างคนงานหญิงหนึ่งหรือสองคนมาดูแลไก่ตัวน้อยเหล่านี้และดูแลฟาร์มปศุสัตว์ขนาดเล็กของเธอ
ใช่ เธอวางแผนที่จะค่อย ๆ สร้างสถานที่แห่งนี้ให้เป็นทุ่งหญ้าที่มีทั้งไก่และเป็ด รวมถึงวัวและแกะ สระน้ำ และอื่น ๆ ด้วย
จวงหว่านรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อรู้ว่าเธอกำลังจะรับสมัครคนงานในฟาร์มและถามว่า
“ขอไปเยี่ยมสักครั้งได้ไหม”
เฉียนหรงหรงและแม่พร้อมกับอู๋เจิ้น มองดูอย่างมีความหวังหลังจากได้ยินคำพูดนั้น
ซูเถากล่าวว่า “ไปสิคะ มีประตูเคลื่อนย้าย หลังจากเข้าประตูแล้ว เลือกปลายทางเป็นเถาฉือ หลังจากออกไปแล้ว มีประตูไม้ที่งดงาม เข้าไปคือฟาร์มปศุสัตว์ขนาดเล็ก แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากไก่และเป็ด”
หลังจากพูดจบ เธอจำได้ว่ามีอลิซอยู่ในฟาร์มปศุสัตว์ เธอจึงเสริมว่า
“อลิซก็อยู่ที่นี่ด้วย ถ้าพวกคุณไปแล้วก็ช่วยพูดคุยกับเธอให้มากขึ้นด้วยนะคะ เธออยู่ที่นั่นคนเดียวค่อนข้างเหงา”
ทุกคนบอกว่าไม่มีปัญหา
อู๋เจิ้นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ผมจะปลูกผลพายเบอร์รีที่นั่น ปลูกหญ้าบนดิน และ ทำถนนลูกรังเพื่อให้ดูเหมือนทุ่งหญ้า ผมไม่รู้ว่าอลิซชอบดอกไม้หรือเปล่า แต่ผมยังพอมีดอกลิลลี่เหลืออยู่บ้าง”
คำพูดเหล่านี้ทำให้ทุกคนนึกถึงทุ่งหญ้าเขียวขจีที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ท้องฟ้าสีฟ้าและเมฆสีขาว มีฝูงไก่ เป็ด วัวและแกะ
เฉียนหลินเห็นด้วยอย่างมาก เธอมีความคาดหวังในดวงตาของเธอ “เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นวัวและแกะในสายลมและทุ่งหญ้า”
ทุกคนก็เห็นว่านี่เป็นสิ่งที่ดี
จวงหว่านถอนหายใจและถามเกี่ยวกับข้อกำหนดสำหรับการรับสมัครคนงานฟาร์มปศุสัตว์หญิง
ซูเถาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ “ขอคนที่มีประสบการณ์น่าจะดีที่สุด ถ้าไม่มี ก็ขอเป็นคนที่รักษาความสะอาดและขยันหมั่นเพียร”
จวงหว่านปฏิบัติตามคำที่เธอบอก และเธอก็นำตำแหน่งงานที่จะทำการคัดเลือกเร็วๆนี้แสดงให้ซูเถาดู
ซูเถาอ่านคร่าว ๆ และเพิ่มเติมอีกว่า
“หลังจากอาคารธุรกิจที่เถาฉือสร้างเสร็จ จำเป็นต้องมีแผนกต้อนรับเพื่อรับรองลูกค้าที่มาขอซื้อเสบียง เราต้องการคนที่มีความเฉลียวฉลาดและไม่สร้างปัญหา
“นอกจากนี้ หลังจากการขยายตัวของภูเขาผานหลิว จำนวนผู้เช่าก็เพิ่มขึ้น และพ่อครัวฉินก็คงจะยุ่งขึ้นมาก จ้างผู้ช่วยให้เขาเพิ่มด้วยแล้วกันค่ะ ส่วนเรื่องนี้ลองปรึกษากับพ่อครัวฉินดูว่าเขาต้องการคนแบบไหนยังไง”
จวงหว่านจดทุกอย่างลงไปในสมุดบันทึก และในที่สุดก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดด้วยรอยยิ้ม
“ตอนนี้อาจถึงคราวที่ระบบการรับสมัครจะล่มแล้ว กานหงอวี้และเฝิงอันก็จะกลับมาหัวหมุนอีกครั้ง”
แน่นอนว่าทันทีที่แปดตำแหน่งงานได้ประกาศรับสมัครออกไป ระบบก็ไม่เสถียรเล็กน้อย
กานหงอวี้ยุ่งมากจนไม่มีเวลาปลีกตัวไปไหน เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการทำให้หน้าเว็บของเถาหยาง ทำงานได้ตามปกติ
……
“เธออยากไปสมัครงานเพื่อเป็นฝ่ายรับรองลูกค้าที่เถาหยางเหรอ เอาสิ มาบอกฉันทำไม?”
เจียงจิ่นเวยพูดกับเฉินเฉียวอิ่งเพื่อนเก่าของเธอทางโทรศัพท์ในลักษณะที่ไม่ไยดี
เฉินเฉียวอิ่งพูดตะกุกตะกัก “…น้องสาวของเธออยู่ในเถาหยางไม่ใช่เหรอ เธอช่วยฉันพูดหน่อยสิ ถ้ามันได้ผล ฉันจะตอบแทนเธออย่างดีเลย”
เจียงจิ่นเวยรู้สึกว่าตอนนี้สถานะของเธอไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว และเธอก็ดูถูกเพื่อนคนนี้เล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธ
“ฉันไม่สนิทกับซูเถา ดังนั้นฉันคงช่วยอะไรเธอไม่ได้ เธอไปหาทางเอาเอง”
จากนั้นเธอก็วางสายไป
เฉินเฉียวอิ่งโมโหกับสิ่งที่เจียงจิ่นเวยปฏิบัติกับเธอพร้อมสาปแช่งเจียงจิ่นเวยในใจ พอเธอได้ดี เธอก็เริ่มดูถูกคนอื่น
แต่หลังจากที่เธอสบถออกมา เธอก็กลับสู่ความโศกเศร้าอีกครั้ง
จริง ๆ แล้วตัวเธอเองก็รู้จักซูเถา แต่เนื่องจากในอดีตเธอเคยเยาะเย้ยถากถางซูเถาอยู่บ่อยครั้ง เธอคงไม่มีหน้าไปอ้อนวอนซูเถา
เฉินเฉียวอิ่งเกาหัวด้วยความปั่นป่วน ถ้าไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ที่ดีของตำแหน่งเหล่านี้ที่เถาหยาง เธอคงไม่อยากไปสมัคร ทว่าที่นี่ไม่เพียงแต่เงินเดือนจะสูงเท่านั้น แต่ได้ยินมาว่ามีเงินอุดหนุนมากมาย อย่างน้อยก็มีอาหารหนึ่งมื้อ
หลังจากเข้าทำงานก็ถูกจัดให้อยู่ในหอพัก แม้ว่าจะไม่ใช่ห้องเดี่ยว แต่การได้อยู่ในเถาหยางและเพลิดเพลินกับสภาพแวดล้อมและการรักษาพยาบาลในเถาหยาง นั้นมันก็ค่อนข้างน่าอิจฉาแล้ว เธอคิดเรื่องนี้ไม่ตกจริง ๆ
ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ยอมไปขอร้องคนอย่างเจียงจิ่นเวยหรอก
[1] หมาล่าทั่ง (麻辣烫) คือ สุกี้สไตล์จีน เป็นการนำเนื้อสัตว์และผักต่าง ๆ ไปลวกหรือราดด้วยน้ำซุปหมาล่า