ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 251 จะให้คนจากเถาหยางมาเข้าร่วมยังไง
ตอนที่ 251 จะให้คนจากเถาหยางมาเข้าร่วมยังไง?
ตอนที่ 251 จะให้คนจากเถาหยางมาเข้าร่วมยังไง?
ผู้อำนวยการกัวไม่สังเกตเห็นอะไร เธอจึงคลี่ยิ้มแล้วพูดว่า
“ใช่ค่ะ เธอชอบเด็ก ๆ มาก โดยเฉพาะเด็กผู้ชายอายุสี่หรือห้าขวบในชั้นเรียนเล็ก ๆ”
ซูเถาขมวดคิ้วมุนแต่ก็ยังไม่พูดอะไร
เมื่อหลินฟางจือเจอเธอหลังเลิกงาน เขาก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายยังมีความกังวล เขาจึงเอียงศีรษะแล้วพูดว่า
“เถา พี่ไม่มีความสุขอีกแล้ว”
เขาเป็นคนที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของซูเถามากที่สุดซึ่งไม่มีใครเทียบได้
เฉียนหรงหรงก็มองไปที่ซูเถา เธอมองซูเถาอย่างสำรวจซ้ายขวาขึ้นลง แต่ไม่รู้สึกว่าเถ้าแก่ซูไม่มีความสุข เธอก็พูดกับพวกเขาด้วยรอยยิ้มไม่ใช่หรือ
ซูเถาเผยรอยยิ้มออกมา และมองไปที่ทั้งสองคนแล้วถามเฉียนหรงหรงทันที
“ถ้าจู่ ๆ แม่ของเธอไปชอบเด็กคนอื่นและกอดเขาทุกวันโดยไม่ปล่อยมือ เธอจะรู้สึกยังไง”
เฉียนหรงหรงคิดตามที่ซูเถาถามและพูดติดอ่าง “ฉัน ฉัน…อาจจะเศร้า?”
ซูเถาส่ายหัว นี่มันเป็นพฤติกรรมของคนปกติ แต่โบนวิงส์ไม่ใช่คนปกติ
เธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องนี้เข้า เขาอาจจะต้องการฆ่าเด็กกำพร้าทั้งหมด ไม่สิ น่าจะเป็นเด็กทั้งหมดที่เขาเคยเห็นมากกว่า
มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่…
ช่างเถอะ คืนนี้เธอไปดูก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที
หลินฟางจือมองเธอนิ่ง ๆ พลางนึกถึงคำถามของเธอในตอนนี้
เขาไม่ได้พูดอะไร และซูเถาก็ไม่คิดจะถามเขา ดังนั้นเขาจึงคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง
“รายได้จากธุรกิจขายเสบียงในช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง ได้ผลึกนิวเคลียสมาเยอะไหม?”
เฉียนหรงหรงเข้าสู่สถานการณ์ทำงานในทันทีที่ซูเถาถาม จากนั้นเธอก็ร่ายออกมา
“เถาฉือก่อสร้างเสร็จอย่างสมบูรณ์มาสามวันแล้ว และในสามวันที่ผ่านมานี้ มีคำสั่งซื้อทั้งหมด 8 รายการ หลังจากหักต้นทุนทั้งหมดแล้ว กำไรสุทธิทั้งหมดคือ 1,129,405 เหลียนปัง
ซูเถาฟังรายละเอียดที่เฉียนหรงหรงรายงานเธอ และคิดคำนวณอย่างรวดเร็วในสมองทันที ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็มี…
สินทรัพย์รวม +1.12 ล้านเหลียนปัง
หลินฟางจือกล่าวเพิ่มเติม “ได้รับผลึกนิวเคลียสมาทั้งหมด 14 อันแล้ว อยู่ในพื้นที่ของผม พี่ต้องการมันตอนนี้หรือเปล่า”
ซูเถาหยุดเขาเอาไว้ “นายเก็บมันไว้ก่อน”
เธอต้องการเก็บสะสมให้ได้มากกว่านี้ เพราะกลัวว่าถ้าเก็บไว้กับตัวเอง จะถูกล่อลวงให้ใช้จ่ายจนหมด
ทั้งสามคนพูดคุยเรื่องรายรับของการทำธุรกิจนี้ต่ออีกสักพัก โดยรวมแล้วซูเถายังคงพอใจกับรายได้ที่เถาฉือได้รับในตอนนี้
ถ้ามันเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ แน่นอนว่ามันจะทำเงินได้มากกว่าภูเขาผานหลิว
หลินฟางจือพยักหน้าและพูดว่า
“สัปดาห์ต่อไปน่าจะเยอะขึ้น แต่ผมบอกไปแล้วว่าอีกหนึ่งสัปดาห์ เราจะปิดทำการ”
อันที่จริง คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่เมื่อวาน แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ยังอยู่ในระหว่างการเดินทางมา ดังนั้นเธอเดาว่าพวกเขาคงจะยุ่งมากในอีกสี่หรือห้าวันข้างหน้า
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาและซูเถาไม่รู้ก็คือจั๋วเอ่อร์เฉิงที่อยู่ในซินตู ก็ส่งคนมาปะปนกับลูกค้ากลุ่มนี้เช่นกัน และได้รับเสบียงในวันนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คนที่เขาส่งไป เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาเพื่อไปซื้อเสบียง เขากล่าวว่าเสบียงที่เถาหยางขายนั้นเป็นของจริง และน้ำนั้นเป็นน้ำแร่บรรจุขวด ไม่ใช่น้ำขุ่นหรือน้ำเสีย
เชื้อเพลิงก็ยังบริสุทธิ์และดีกว่าที่ผลิตในซินตู เทียบกับการใช้ปริมาณเชื้อเพลิงที่เท่ากันสามารถทำให้รถวิ่งได้นานขึ้นหลายกิโลเมตร
ไม่ต้องพูดถึงอาหารและเครื่องดื่ม
จั๋วเอ่อร์เฉิงวางสายโทรศัพท์และรายงานสถานการณ์ตามความเป็นจริงต่อหลิงเทียนจี้ผู้บังคับบัญชาของเขาทันที พร้อมกับพูดอย่างพึมพำ
“เถาหยางมีสิ่งที่โฆษณาไว้จริง ๆ ตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นกลเม็ดที่ทำขึ้นโดยโรงงานขนาดเล็กนี้”
หลิงเทียนจี้เคาะโต๊ะแล้วถามว่า “คนที่นายส่งไปไว้ใจได้เหรอ”
จั๋วเอ่อร์เฉิงยืนยันว่า “เชื่อถือเขาได้อย่างแน่นอน เพราะเขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะช่วยหรือปิดบังเรื่องต่าง ๆ ให้เถาหยาง”
หลิงเทียนจี้เงียบไปเป็นเวลานาน
“หาโอกาสให้เถาหยางได้โควตาการประชุมสุดยอดพันธมิตรในครั้งนี้ แล้วฉันจะดูด้วยตาตัวเองว่าใครอยู่เบื้องหลัง”
จั๋วเอ่อร์เฉิงไม่เห็นด้วยและกล่าวว่า “เถาหยางไม่ใช่แม้แต่องค์กร สิ่งนี้ไม่เป็นไปตามกฎ ถึงเวลานั้นฐานขนาดเล็กอื่น ๆ ที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมในการประชุมรู้เข้า มันจะต้องเกิดปัญหาตามมาอย่างมากแน่”
ผู้ที่สามารถเข้าร่วมการประชุมสุดยอดพันธมิตรได้นั้นจะต้องเป็นฐานทัพอย่างน้อยระดับ 3 ขึ้นไป ถึงแม้ว่าฐานเหล่านี้จะไม่ใช่สามฐานที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็ตาม
ฐานที่ต่ำกว่าระดับสาม ระดับสี่ และระดับห้าไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมการประชุม นับประสาอะไรกับเถาหยาง ซึ่งไม่ใช่แม้แต่องค์กร
หลิงเทียนจี้ขมวดคิ้ว “ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่เถาหยางกับฐานเหล่านั้นต่างกันแค่ระยะเวลาการครอบครองที่ดิน อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรที่สู้ไม่ได้”
จั๋วเอ่อร์เฉิงส่ายหัว “ท่านครับ เราไม่สามารถฝ่าฝืนกฎของเราได้ ไม่อย่างนั้น ในอนาคตก็ต้องมีคนเอาเป็นเยี่ยงอย่างและหยิ่งผยองมากขึ้น”
หลิงเทียนจี้ฟังและพยายามถามเขาต่อไป “แล้วนายจะให้คนจากเถาหยางมาเข้าร่วมยังไง”
จั๋วเอ่อร์เฉิงยิ้มเล็กน้อย
“ถ้าเถาหยางมาในนามตัวแทนของตงหยาง อู๋ไถหรือฐานอื่น ๆ ก็ไม่เป็นปัญหา ผมรู้จักคนในตงหยางและอู๋ไถ เมื่อถึงเวลา ก็แค่นำโควตามอบให้เถาหยางเพื่อเป็นของขวัญก็เท่านั้น”
หลิงเทียนจี้หัวเราะ “งั้นนายก็ไปจัดการแล้วกัน”
จั๋วเอ่อร์เฉิงตอบรับทันที
หลังจากแก้ไขเรื่องสำคัญแล้ว หลิงเทียนจี้ก็เริ่มสงสัยเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของจั๋วเอ่อร์เฉิง
“ฉันได้ยินมาว่านายเพิ่งได้สาวงามคนใหม่มา?”
ผู้คนในซินตู มีใครไม่รู้บ้างว่าหัวหน้าจั๋วเปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่สิ่งที่น่าอิจฉาคือแฟนสาวของเขาทุกคนชื่นชมเขาอย่างเต็มที่ และยินดีที่จะแบ่งปันเขาให้กับผู้หญิงคนอื่น ๆ
จั๋วเอ่อร์เฉิงยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ใช่ เธอเป็นคนของตงหยาง มีทั้งเสน่ห์ในแบบของหญิงสาว มีความเอาใจใส่ ช่วงนี้ผมก็เลยหลงใหลเธอเป็นพิเศษ”
หลิงเทียนจี้หัวเราะ “ดูเหมือนว่าคนนี้จะอยู่กับคุณได้นานหน่อย”
จั๋วเอ่อร์เฉิงจิบชา “นั่นขึ้นอยู่กับความสามารถของเธอ”