ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 253 ในที่สุดก็เห็นความหวัง
ตอนที่ 253 ในที่สุดก็เห็นความหวัง
ตอนที่ 253 ในที่สุดก็เห็นความหวัง
ผ่านไปสักพักผู้ช่วยหมอตัวเล็ก ๆ ก็รีบวิ่งเข้ามา เมื่อเธอเห็นภาพนี้ดวงตาของเธอก็แดงก่ำ แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เธอรอให้ซูเถาปลอบโยนเด็กน้อยจนเสร็จ จากนั้นเธอก็กล่าวขอบคุณซูเถา
ซูเถาเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าหน้าตาของทั้งคู่ค่อนข้างคล้ายกัน จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “เธอเป็นน้องสาวของคุณเหรอคะ?”
ผู้ช่วยหมอตัวน้อยหน้าซีดและส่ายหัว “เธอคือลูกสาวของฉัน”
ซูเถาตกใจ ผู้ช่วยหมอตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงหน้าเธอดูเด็กกว่าเธอ ซึ่งน่าจะมีอายุเพียง 16-17 ปีเท่านั้น และเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่เสียน้ำตาให้กับขนมหวานเมื่อครู่ ก็อายุสองหรือสามขวบแล้ว
ถึงเธอจะตกใจ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรมาก
เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ถามอะไรอีก ผู้ช่วยหมอตัวน้อยก็โล่งใจ และรู้สึกขอบคุณเธอที่เข้าใจ ก่อนหันไปกระซิบกับลูกสาว
“จากนี้เวลาเจอเถ้าแก่ซู หนูต้องมีมารยาทนะเข้าใจไหม”
เด็กหญิงตัวน้อยสับสนเล็กน้อยไม่รู้ว่าแม่ของเธอกำลังพูดถึงใคร
ผู้ช่วยหมอตัวน้อยเปลี่ยนชื่อและพูดซ้ำ “ในอนาคต หนูต้องสุภาพเมื่อเจอพี่สาวนางฟ้านะรู้ไหม?”
เด็กหญิงหัวเราะทันทีและพยักหน้าอย่างแรง
พี่สาวนางฟ้าใจดีมาก ไม่เพียงแต่มอบเตียงเล็ก ๆ ที่สวยงามแก่พวกเขา เธอยังให้บะหมี่ผักให้กินด้วย ให้ของเล่นกับพวกเขา และที่สำคัญที่สุดคือเธอเลี้ยงขนมอร่อย ๆ ด้วย
เธอต้องสุภาพกับพี่สาวนางฟ้า!
หลังจากปาร์ตี้จบลง ซูเถาก็ฟังผู้อำนวยการกัวอธิบาย
“เด็กคนนั้นเป็นลูกของเธอจริง ๆ เธอมีลูกตอนอายุสิบสี่ เธอเป็นผู้หญิงที่น่าสงสาร เธอถูกคนกักขังและโดนกระทำชำเราเป็นเวลาหลายปี โชคดีที่ตอนนั้นหมอหลี่ออกไปเยี่ยมญาติได้ช่วยเธอไว้ หลังจากนั้นเธอก็อาศัยอยู่ในศูนย์ส่งเสริมแม่และเด็กมาโดยตลอด และได้ทำงานเป็นผู้ช่วยหมอ”
หัวใจของซูเถาปวดร้าวจนไม่กล้าถามไปมากกว่านี้
ในโลกที่วุ่นวายใบนี้ มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมากมายเหลือเกิน
ร่างกายของเจียงอวี่ที่อยู่ในเงามืดตลอดเวลา ในระหว่างทางกลับไปที่เถาหยางก็ทำให้เขารู้สึกว้าวุ่นใจ
เมื่อมาถึงชั้นล่างอาคารที่พัก เจียงอวี่ก็ต้องการกลับไปที่ห้องของเขาเพื่อสงบสติอารมณ์ชั่วขณะ แต่เขาถูกซูเถาเรียกเอาไว้
“เจียงอวี่”
เจียงอวี่ยืนนิ่ง และพยายามทำตัวให้ปกติ เพื่อให้พร้อมฟังคำสั่งของเธอ
ซูเถาพึมพำสองครั้ง รู้สึกว่าคำปลอบใจใด ๆ นั้นเบาบางมาก ดังนั้นเธอจึงพูดได้เพียง
“ฉันจะพยายามอย่างดีที่สุด เพื่อช่วยคุณตามหาเธอ”
เป็นเพราะร่างกายครึ่งหนึ่งของเจียงอวี่อยู่ในเงา ทำให้เธอมองไม่เห็นการแสดงออกของเขา เขาฟังสิ่งที่เธอพูดเงียบๆ และตอบด้วยเสียงแหบแห้ง “ครับ”
หลังจากเจียงอวี่กลับมาที่ห้องของเขา เขาก็ยืนพิงประตูเป็นเวลานาน และหยิบแว่นตาอันบอบบางออกมาจากกระเป๋าอย่างตัวสั่น
น้องสาวของเขาเกิดมาพร้อมกับสายตาที่ไม่ค่อยดีและสามารถมองเห็นได้ในรัศมีไม่เกินครึ่งเมตรเท่านั้น บวกกับเธอมองเห็นได้แค่ข้างเดียว นั่นก็เปรียบเสมือนคนตาบอด
เธอทำแว่นหายตอนถูกลักพาตัวไป ถ้ามีใครรังแก คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เธอจะไม่สามารถมองเห็นหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจน
เจียงอวี่สั่นสะท้าน แม้กระทั่งการหายใจก็ติดขัด จากนั้นตบตัวเองอย่างแรง
เขาไม่ควรทิ้งเธอไปแม้แต่ครึ่งก้าว!
เขาเป็นคนบาป!
เขาคือฆาตกรที่ฆ่าน้องสาวของตัวเอง!
แม้ว่าซูเถาจะไม่รู้ว่าเจียงอวี่กำลังทำอะไรอยู่ในห้อง แต่เธอก็เดาได้ว่าเขาอาจจะรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ตอนที่น้องสาวของเขาถูกลักพาตัวไป ตอนนั้นเธอมีอายุเพียงสิบสองปีเท่านั้น
เด็กหญิงอายุ 12 ปีเท่านั้น…
เป็นเรื่องปกติที่เจียงอวี่จะคิดมาก เธอส่ายหัวและหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมกับเปิดร้านค้าระบบ
เธอรู้สึกว่าการที่เธอจะรอแต่ทีมของซ่งเยว่ปิน และหน้าเว็บไซต์ของเถาหยางเพื่อค้นหาผู้สูญหายคงไม่พอ
บางทีเธออาจจะต้องพิมพ์ประกาศคนหายบนบรรจุภัณฑ์ของใช้ต่าง ๆ
ด้วยวิธีนี้ ตราบใดที่เสบียงของเธอได้ถูกส่งออกไป ไม่ว่าผู้คนจะรู้จักเถาหยางหรือไม่ ก็จะสามารถมองเห็นได้
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ระบบก็ดังขึ้นในหัวของเธอ
[โฮสต์สามารถปรับแต่งบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ และจ่ายค่าธรรมเนียมการดำเนินการเพิ่มเติมเพียง 1% เท่านั้น]
กล่าวคือหากขายของบางอย่างในราคา 100 เหลียนปัง ก็จะต้องจ่ายเพิ่มอีก 1 เหลียนปัง สำหรับค่าประกาศแจ้งคนหายที่สิ่งพิมพ์บนบรรจุภัณฑ์
มันไม่แพงเลย ซูเถาเลยตัดสินใจพิมพ์ประกาศคนหายลงในสินค้าที่จะขายในอนาคตทั้งหมด
และเพิ่มอีกหนึ่งสิ่งคือ ใครก็ตามที่ให้เบาะแสที่เป็นประโยชน์จะได้รับใบสมัครเข้าพักในเถาหยางหนึ่งใบ หรือขนมปัง 10 ชิ้นและน้ำ 10 ลิตร
ซูเถารีบดำเนินการอย่างรวดเร็ว และในวันต่อมา หลินฟางจือก็เห็นว่าเสบียงที่จะขายมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
แม้แต่รายการในตู้ขายของอัตโนมัติในเถาหยางก็ติดประกาศไว้อย่างเด่นชัด
เจียงอวี่นอนไม่หลับทั้งคืน ดังนั้นเขาจึงไปที่โรงอาหารในตอนเช้าและซื้ออาหารเช้า 2 ชุดทันทีที่เขาได้รับมัน
บนบรรจุภัณฑ์ไม่เพียงแต่อธิบายลักษณะเสื้อผ้าการแต่งกายของน้องสาวเขาอย่างละเอียดเท่านั้น แต่ยังกล่าวถึงลักษณะสายตาที่ไม่ดีของน้องสาวเขา ที่เขาได้บอกเล่าให้เธอฟังครั้งล่าสุดอีก
และยังได้รางวัลตอบแทนอีกด้วย….
เขาตัวแข็งและบีบห่อในมือแน่น
อาจมีบางคนที่ไม่รู้เกี่ยวกับเถาหยาง ไม่ต้องพูดถึงการเข้าดูเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเถาหยางเพื่อติดตามข้อมูลการประกาศต่าง ๆ แต่การที่ทำแบบนี้ ผู้ที่ได้รับจะเห็นอย่างแน่นอน!
ถึงแม้จะกินอาหารเสร็จแล้วและทิ้งบรรจุภัณฑ์ไป ข้อมูลการประกาศก็ยังคงอยู่ และมันก็จะถูกเผยแพร่ไปยังที่ต่าง ๆ และในที่สุดก็เห็นแสงแห่งความหวัง…
ซูเถาได้ขุดความหวังอันยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของเขาขึ้นมา
บางทีเขาอาจจะได้เจอเธออีกครั้งจริง ๆ
เจียงอวี่ลดศีรษะลง เขาบีบบรรจุภัณฑ์ให้แน่นขึ้นอีก อยากจะหัวเราะออกมา แต่ดวงตาของเขาก็แดงขึ้นมาอีกครั้ง
เขารีบวิ่งกลับไปเคาะประตูห้องของซูเถา เมื่อประตูเปิดออก เขาเห็นเธอหลับตาพริ้มเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน มีผมหยิกเป็นลอน ดูผ่อนคลาย เขาจ้องมองเธออย่างว่างเปล่าเป็นเวลาครึ่งวินาที ก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบา ๆ
เขาหัวเราะทั้งน้ำตา น้ำตาของเขาค่อย ๆ ร่วงหล่นจากมุมหางตาของเขา และตกลงไปที่คอเสื้อของเขาก่อนที่จะจางหายไป
เขากลับมามีความมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ยกอาหารเช้าในมือขึ้นแล้วถามด้วยรอยยิ้ม
“กินด้วยกันไหม?”