ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 263 สาเหตุการตายของคุณจี้
ตอนที่ 263 สาเหตุการตายของคุณจี้
ตอนที่ 263 สาเหตุการตายของคุณจี้
ห้าวันหลังจากการล่มสลายของเหอคัง คนที่ฉางจิงก็ส่งคนไปช่วยชีวิตจี้ไฉเจ๋อและคนอื่น ๆ
ในขณะเดียวกัน ทีมวิจัยของเสิ่นเวิ่นเฉิงรวมถึงวัสดุและอุปกรณ์จำนวนมากได้รับการขนย้ายเป็นที่เรียบร้อย
ฉางจิงให้ทางเลือกแก่พวกเขาว่าจะอยู่ต่อหรือตามพวกเขากลับไปที่ฉางจิง
ใบหน้าของจี้ไฉเจ๋อเต็มไปด้วยความเครียด เขาอยากจะกอดต้นขาของผู้มาเยือนและขอให้พวกเขาพาเขาไปที่ฉางจิงด้วย
ถ้าเขารู้ว่าผู้คนจากฉางจิงกลับมาเพื่อช่วยพวกเขา เขาคงไม่ส่งข้อความแสดงความเสียใจให้ซูเถา!
เถาหยางไม่เก่งเท่าฉางจิง!
เสิ่นเวิ่นเฉิงซึ่งผู้ซึ่งมีอุดมการณ์และมองการณ์ไกลหยุดคำพูดของเขาและพูดกับคนที่มาจากฉางจิง
“พวกเราอยากอยู่”
จี้ไฉเจ๋อไม่สนใจความเจ็บปวดด้วยซ้ำ เขารีบลุกขึ้นและแสดงความไม่เห็นด้วย “พ่อของฉันเป็นหัวหน้าของฐาน ตอนนี้เขาได้จากไปแล้ว ฉันจะเป็นคนตัดสินใจเองว่าพวกคุณควรทำอะไร คุณเป็นใครเหรอคนแซ่เสิ่น?”
เสิ่นเวิ่นเฉิงไม่สนใจสิ่งที่จี้ไฉเจ๋อพูด เขาหันกลับมาและถามนักวิจัยที่อยู่ข้างหลังเขาว่า “ใครที่สมัครใจที่จะไปฉางจิงให้ยืนขึ้น และตามคุณเสี่ยวจี้ไป ผมจะไม่ห้ามใครทั้งนั้น”
แต่ก็ไม่มีใครลุกขึ้น
พวกเขาคือคนของเสิ่นเวิ่นเฉิง และผลการวิจัยส่วนใหญ่ก็มาจากเสิ่นเวิ่นเฉิง
เขาเป็นอัจฉริยะในการวิจัยซอมบี้ และทุกคนต่างก็ชื่นชมเขา ถ้าพวกเขาไปที่ฉางจิงโดยไม่มีเขา งั้นพวกเขาก็ขออยู่ที่นี่แล้วตามเขาไปที่เถาหยางดีกว่า เพราะนี่เป็นความต้องการของคุณจี้ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต
นอกจากนี้ถ้าตามจี้ไฉเจ๋อคนงี่เงาไป พวกเขาก็คงไม่ได้มีจุดยืนอะไร
จี้ไฉเจ๋อโมโหจนเลือดขึ้นหน้า เขากัดฟันและพูดว่า
“แล้วพวกคุณจะเสียใจ! ซูเถานั่นไม่ใช่คนดีอะไรเลย ถึงเวลานั้นถ้าพวกคุณได้ค้นคว้าอะไรบางอย่างได้สำเร็จ เธอก็คงถีบหัวส่ง!”
เสิ่นเวิ่นเฉิงมองเขาอย่างดูถูกและไม่ตอบโต้อะไรเขา
จี้ไฉเจ๋อ ยืนอยู่ในแถวของฉางจิงทันทีพร้อมกับสิ่งของของเขา
สุดท้ายคนจากฉางจิงก็มองไปที่เสิ่นเวิ่นเฉิง ก่อนที่จะพยักหน้าและโบกมือ หลังจากนั้นพวกเขาก็เข้าไปในรถแล้วออกไป
เขาได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาของเขาให้ช่วยชีวิตคนของเหอคังให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะนักวิจัยอาวุโสที่ชื่อเสิ่นเวิ่นเฉิงคนนี้
เพราะเขาเป็นนักวิจัยกลุ่มแรกที่สามารถระบุประเภทของผลึกนิวเคลียและหน้าที่เฉพาะของพวกมันได้อย่างละเอียด
ผลงานของเขายังคงเป็นที่ยอดเยี่ยม
แต่ผู้บังคับบัญชาของพวกเขาก็กล่าวด้วยว่าเรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเสิ่นเวิ่นเฉิง ไม่อยากให้บังคับพาพวกเขามาที่ฉางจิงโดยที่เขาไม่เต็มใจ
เพราะว่าที่ฉางจิงมีนักวิจัยที่เก่งกาจอย่างเสิ่นเวิ่นเฉิงไม่น้อย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องบีบบังคับเพื่อนำตัวเขามา
หลังจากที่พวกเขาออกไป เสิ่นเวิ่นเฉิงมองไปที่ฐานเหอคังที่อยู่ข้างหลังเขา
หากไม่มีคุณจี้ แม้ว่าเหอคังจะถูกควบคุมโดยใครบางคนและถูกก่อตั้งขึ้นมาใหม่ แต่ก็จะไม่ใช่เหอคังเหมือนก่อนอีกต่อไป
เขากำโน้ตไว้ในมือ ซึ่งเป็นข้อมูลติดต่อของเถาหยางที่คุณจี้ทิ้งไว้ให้เขา
ซูเถารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้รับโทรศัพท์จากเสิ่นเวิ่นเฉิง
เสิ่นเวิ่นเฉิงกล่าวอย่างจริงใจ
“คุณจี้บอกว่าเมื่อเราไปที่ฉางจิง เราต้องฟังคนอื่นและจะต้องถูกลดคุณค่า แต่ถ้าเราไปที่เถาหยาง คุณจะเป็นคนที่เชิดชูความสามารถ ให้คุณค่าและให้อิสระแก่เรามากพอ และ…มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี”
ซูเถาอยู่ในอารมณ์ที่สับสน “ฉันเสียใจต่อคุณจี้จริง ๆ”
เขาเป็นคนมีเหตุผลและมองการณ์ไกล แต่เขาให้กำเนิดลูกชายที่ไม่ได้เรื่อง
เสิ่นเวิ่นเฉิงยังคงจดจำเหตุการณ์ที่เขาเห็นคุณจี้จากไปต่อหน้าต่อตาเขา
จี้ไฉเจ๋อเป็นคนขี้ขลาดที่เอาแต่หลบอยู่ข้างหลัง และยังผลักคุณจี้ออกจากรถในยามคับขัน
เขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เถ้าแก่ซู ผมมีคำขอจากใจจริง”
“คุณว่ามาเลยค่ะ”
“จี้ไฉเจ๋อออกไปกับคนของฉางจิง แต่ผมรู้สึกว่าด้วยความสามารถของเขา เขาคงไม่สามารถอยู่รอดในฉางจิงได้อย่างแน่นอน และเขาคงจะขอให้คุณรับเขาในภายหลัง ผม…ผมหวังว่าคุณจะปฏิเสธเขา!”
ซูเถารู้สึกลำบากใจ
“คุณน่าจะรู้ว่าคุณจี้มอบความไว้วางใจให้ฉันดูแลเขา รวมถึงพวกคุณ”
เสิ่นเวิ่นเฉิงเม้มปาก “ผมก็ไม่ได้ต้องการให้คุณเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ แต่หากคุณจี้รู้ก่อนหน้านี้ว่าลูกชายของเขาจะผลักเขาออกจากรถเพื่อเป็นเหยื่อให้ซอมบี้ที่อยู่ข้างหลัง เขาจะไม่ได้รับการฝากฝังเขากับคุณแน่นอน”
ซูเถาขมวดคิ้ว “จริงเหรอ?”
“มันเป็นเรื่องจริง ในเวลานั้น คุณจี้กำลังพาเราขึ้นรถเพื่อรีบไปที่หลบภัยใต้ดิน ระหว่างทาง เราถูกเคียวโลหิตสี่ตัวไล่ล่า จี้ไฉเจ๋อผู้โหดเหี้ยมกลัวการถูกไล่ล่า ดังนั้นเขาจึงผลักคุณจี้ที่ไม่ทันได้ระวังตัวลงไป”
จี้ไฉเจ๋อเฝ้าดูพ่อของเขาสิ้นใจภายใต้แขนขายักษ์ของเคียวโลหิต เขาไม่แม้แต่จะแยแส และรู้สึกขอบคุณตัวเองที่ทำเรื่องนี้สำเร็จอย่างรวดเร็ว
ในฐานะคนนอก ซูเถารู้สึกใจสลายเมื่อได้ยินสิ่งนี้ และน้ำเสียงของเธอก็พูดออกมาอย่างแน่วแน่
“ฉันสัญญาค่ะ”
ถ้าจี้ไฉเจ๋อขอร้องเธอว่าให้รับเขาเข้าไปในเถาหยาง เธอจะยิงเขาให้ตายแล้วส่งเขาลงใต้ดินเพื่อสารภาพผิดกับคุณจี้
เสิ่นเวิ่นเฉิงโล่งใจขึ้นระดับหนึ่ง จากนั้นเขาก็พูดกับซูเถาต่อ
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมและนักวิจัยอีก 12 คน ยินดีที่จะทำงานให้กับเถาหยางและขอให้เถ้าแก่ซูพาพวกเรา… กลับบ้านด้วย”
เดิมทีซูเถาต้องการไปที่เหอคังเพื่อตามหาพวกเขาหลังจากกลับมาจากซินตู
แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เธอก็ต้องถอนหายใจ
“คุณรออีกสองสามวันนะคะ ฉันจะให้ทีมทหารรับจ้างไปพาพวกคุณมาที่เถาหยาง”
เสิ่นเวิ่นเฉิงกล่าวขอบคุณเธอทันที
นักวิจัยที่อยู่ใกล้เคียงที่ได้ยินคำพูดของซูเถาต่างรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
จริง ๆ แล้วการที่เธอให้ทีมทหารรับจ้างมารับพวกเขา ถือว่าเถ้าแก่ซูให้ความสำคัญกับพวกเขามากจริง ๆ!
คุณจี้พูดถูกแล้ว ว่าการอยู่ในเถาหยางจะดีกว่าในฉางจิง!
“เถ้าแก่ซู พวกเราอาจจะต้องรบกวนขอเป็นรถคันใหญ่หน่อย เพราะว่าเรามีอุปกรณ์ราคาแพงมากมาย”
ซูเถาตอบตกลง โดยที่เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าที่จี้ป๋อต๋าบอกว่ามีงานวิจัยให้เธอ สุดท้ายแล้วพวกเขามีมากขนาดไหน
หลังจากวางสาย เธอก็โทรหาหม่าต้าเพ่า เพื่อให้เขาติดต่อทีมทหารรับจ้างแทนเธอ
ถ้าพวกของเหลยสิงอยู่ที่นี่ การจ้างพวกเขาน่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า
เพราะหลังจากทำงานกับกลุ่มเป้าถูมา ก็ดูเหมือนว่าทีมทหารรับจ้างอื่น ๆ จะสู้ทีมของเป้าถูไม่ได้
หม่าต้าเพ่าเกาหัวของเขา “เถ้าแก่ ไม่ใช่ว่าทีมทหารรับจ้างทุกทีมที่จะเป็นเหมือนกลุ่มเป้าถู เพราะพวกเขาทั้งหมดเป็นผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติและมีความสามารถมากมาย มีพละกำลัง และความกล้าหาญที่ดี ทีมที่ผมเลือกให้คุณนั้นดีมากที่สุดแล้ว เพื่อข่วยคุ้มกันคุณเสิ่นและทีม อีกอย่างตอนนี้เหตุการณ์ที่เหอคังได้สงบลงแล้ว การที่จะใช้ทีมของเหลยสิงก็ดูความสามารถของพวกเขาเกินเกณฑ์ไปหน่อย”
ซูเถาเห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่
“ก็ได้ค่ะ เอาตามที่คุณว่าแล้วกัน ฉันหวังว่าพวกเขาจะทำงานที่มอบหมายให้อย่างดีที่สุด”