ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 278 กระต่าย
ตอนที่ 278 กระต่าย
ตอนที่ 278 กระต่าย
เซวียเยวี่ยนเจี๋ยจับสัตว์เลี้ยงแสนรักของตนเอง อีกากระพือปีกและเกาะแขนของเขา
“มาแล้ว มาแล้ว”
เหยื่อมาแล้ว!
ดวงตาของทุกคนเป็นประกายราวกับผู้หิวโหยมองเห็นโอเอซิส
“สหาย! จำสิ่งที่ฉันพูดไว้ให้ดี อย่าทำให้ศัตรูตกใจ แสร้งทำเป็นว่าคือขบวนผ่านมาขอความช่วยเหลือ รอให้พวกเขาผ่อนคลายความระมัดระวัง เยว่เหนียง ขึ้นอยู่กับเธอแล้วนะ”
เยว่เหนียงเป็นผู้หญิงคนเดียวที่มีพลังวิเศษในหมู่โจร และเธออยู่ในไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์อีกด้วย
ความสามารถของเธอเรียกว่า ‘กระต่าย’ แม้ว่าฟังดูแล้วจะเป็นความสามารถที่อ่อนแอ
แต่เมื่อใดก็ตามที่ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงและหลั่งน้ำตาออกมา มันจะกระตุ้นความเห็นอกเห็นใจจากอีกฝ่าย ทำให้จิตใต้สำนึกของคนรู้สึกว่าเธอไม่มีพิษมีภัยและน่าสงสาร ทำให้เกิดความรู้สึกอยากช่วยเหลือเธอ
เธอได้พบกับเซวียเยวี่ยนเจี๋ยเมื่อครึ่งปีก่อนตอนที่เธอหนีจากภัยพิบัติ เพราะเธอไม่สามารถมีชีวิตรอดได้เพียงลำพัง จึงสมัครใจเข้าร่วมกับพวกเขา และใช้ตัวตนของเธอในฐานะหญิงตั้งครรภ์เพื่อหลอกลวงให้ผู้คนไว้วางใจ
ผู้ที่ช่วยเหลือเธอทั้งหมดตกหลุมพรางของเซวียเยวี่ยนเจี๋ยและโจรคนอื่น ๆ และจบลงด้วยการถูกตัดศีรษะ
เยว่เหนียงอายุเพียง 30 ปี รูปร่างหน้าตาของเธอไม่เลวทีเดียว และผมที่ไม่เรียบร้อยก็ขลับให้เธอดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น
เมื่อได้ยินคำพูดของเซวียเยวี่ยนเจี๋ย เยว่เหนียงก็คลี่ยิ้มไร้เดียงสา “พี่เจี๋ย ไม่ต้องกังวลไป”
เซวียเยวี่ยนเจี๋ยพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เขาสัมผัสใบหน้าของหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม แล้วเรียกคนมาอีกหนึ่งคน
“หลังจากที่เหยื่อติดกับแล้ว จากนั้นก็ให้เป็นหน้าที่ของหมาลิ่ว”
ชายที่ชื่อหมาลิ่วเป็นชายที่มีแขนเดียว เขามีท่าทีแข็งกร้าว ผิวขาวซีด ทั่วใบหน้ามีรอยไหม้เกรียม รูปร่างผอมแห้งเหลือแต่กระดูก ราวกับว่าเมื่อถูกลมพัดเขาสามารถปลิวได้ทุกเมื่อ
ความสามารถของเขาเรียกว่า ‘ล้มเหลว’ ตามชื่อของมัน เขาสามารถทำให้คนที่มีพลังความสามารถสูญเสียความสามารถในช่วงเวลาสั้น ๆ และถ้าใช้พลังกับคนธรรมดา ก็จะสามารถควบคุมบุคคลนั้นได้
นับตั้งแต่ที่เขาปลุกพลังของเขาขึ้นมา ก็ไม่มีใครที่มีพลังอำนาจที่สามารถต่อสู้กับพลังของเขาได้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความสามารถของเขาจะเทียบชั้นฟ้าแต่ก็มีจุดอ่อน เนื่องจากสมรรถภาพทางกายของเขาแย่มาก แย่กว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำ
และแขนนี้ก็ถูกตัดโดยคนธรรมดาทั่วไป
หมาลิ่วหลุบเปลือกตาลงและพยักหน้าอย่างอ่อนแรง มือของเขาสั่นเล็กน้อยเพราะความรู้สึกตื่นเต้น
นานแล้วที่เขาไม่ได้ลงมือ
ในที่สุดเซวียเยวี่ยนเจี๋ยมองไปที่คนอื่น ๆ ในทีมแล้วพูดว่า
“เหอซ่าง หลังจากความสามารถเหยื่อหมดลง นายต้องดำเนินการโดยเร็วที่สุด ทำให้พวกเขา ‘ไร้แรงถ่วง’ แม้กระทั่งคนและรถ ให้ลอยอยู่กลางอากาศและสูญเสียการโต้กลับและความคล่องตัว สุดท้ายก็ให้หลิงเตี่ยนจัดการพวกเขาทีละคน โดยการแช่แข็งพวกเขาเอาไว้ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ให้คอยช่วยเหลืออยู่ห่าง ๆ”
ทุกคนที่ได้รับการเสนอชื่อตอบรับด้วยพลังอันแรงกล้าเต็มเปี่ยมในแววตา
พวกเขาได้ลองผิดลองถูกกับแผนการชุดนี้ และประสบความสำเร็จเกือบทุกครั้ง
การจัดการเหยื่อในครั้งนี้จัดเต็มอย่างแน่นอน!
……
ซูเถาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฮยจือหม่า มันเอาแต่ร้องและแบ่งปันการมองเห็นกับเธอ และภาพที่เห็นก็แปลกมาก ภาพนั้นแสดงให้เห็นอีกาโฉบไปมาอยู่กลางอากาศซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“อีกา?” สือจื่อจิ้นขมวดคิ้ว
“ในพื้นที่รกร้าง ผู้คนมักจะตายระหว่างทาง ไม่น่าแปลกใจที่อีกาจะปรากฏขึ้นหลังจากที่ศพเน่าเปื่อย เกิดอะไรขึ้น หรือเฮยจือหม่าต้องการจับนกและกินพวกมัน?” เฉินเทียนเจียวไม่รู้ว่าทำไม
เฮยจือหม่าพูดไม่ได้ แน่นอนว่ามันไม่สามารถโต้แย้งเขาได้
สิ่งที่ทำได้คือคอยเตือนเจ้าของของมัน จากนั้นปีนขึ้นไปบนหลังคารถ และสังเกตทุกซอกทุกมุมของท้องฟ้าด้วยขนที่ปลิวไสวของมัน
ซูเถาก็รู้สึกผิดเช่นกัน
เฮยจือหม่าไม่เหมือนน้องสาวของมันที่ชอบกินข้าวอย่างเดียว เฮยจือหม่าไม่ใช่อย่างนั้น
สือจื่อจิ้นมองออกไปนอกหน้าต่างและไม่รู้สึกผิดปกติ แต่เขายังคงระแวดระวังเล็กน้อยและพูดกับซูเถา
“คุณไปนอนหลับพักผ่อนก่อนเถอะ ผมอยู่ตรงนี้ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอก”
เมื่อซูเถาเห็นเขาพูดเช่นนี้ เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร
ในเวลาตีสอง ขบวนหยุดที่จุดแวะพักหรือสถานีให้บริการเพื่อทำการตรวจสภาพรถ
สถานีนี้ถูกทิ้งร้างและทรุดโทรมมาก และไม่มียานพาหนะเข้ามาเติมเชื้อเพลิงมากนัก
ทุกคนขึ้นรถเตรียมผลัดกันเข้าห้องน้ำสาธารณะในปั๊มน้ำมัน
ซูเถาก็ตื่นขึ้นในเวลานี้ เมื่อเห็นว่าเฮยจือหม่ายังคงนั่งยอง ๆ อยู่หน้ากระจกรถ และแหงนหน้ามองท้องฟ้าอย่างระแวดระวัง เธออดไม่ได้ที่จะขานเรียกมัน
เฮยจือหม่ากระดิกหู และหันศีรษะไปมองเธอ จากนั้นมันก็หันกลับไปมองท้องฟ้าอีกครั้ง ท่าทางดูกระวนกระวาย
เมื่อเห็นเธอออกมา สือจื่อจิ้นก็ถามว่า “ผมทำให้คุณตื่นหรือเปล่า”
ซูเถาส่ายหัว “เปล่า ฉันนอนไม่ค่อยหลับน่ะ”
ในเวลานี้เฮยจือหม่าก็พุ่งตัวออกไปทันทีในขณะที่เฉินเทียนเจียวเพิ่งเปิดประตูรถ เขาที่กำลังจะขึ้นรถก็เห็นมันพุ่งตัวออกไปรวดเร็วเหมือนลูกธนู
เฉินเทียนเจียวเรียกเฮยโต้ว
เฮยจือหม่าดูเหมือนจะไม่ได้ยินอะไรเลย และหายไปในความมืด
ซูเถากลัวว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับมัน เธอจึงรีบลงจากรถ แต่สือจื่อจิ้นหยุดเธอเอาไว้ และขยิบตาให้เฉินเทียนเจียว
เฉินเทียนเจียวพูดทันที “ผมจะไปตามมันเอง!”
ซูเถากลับมาที่รถด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ วันนี้ท่าทางของเฮยจือหม่าดูผิดปกติไปมาก
ทั้งคู่ไม่รู้สึกง่วงนอน ไม่มีอารมณ์อยากความบันเทิงหรืออยากทำงาน ระหว่างที่ซูเถาและสือจื่อจิ้นกำลังจ้องหน้ากันก็มีเสียงเคาะประตูรถดังขึ้น
ซูเถาคิดว่าเป็นเฉินเทียนเจียวที่กลับมาพร้อมกับเฮยจือหม่า ดังนั้นเธอจึงยืนขึ้นและเดินไปเปิดประตู
อย่างไรก็ตาม คนที่ยืนอยู่นอกประตูไม่ใช่เฉินเทียนเจียวแต่เป็นหญิงตั้งครรภ์ที่มีใบหน้าซีดเซียว
เยว่เหนียงไม่คาดคิดว่าในรถจะมีเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อยู่ด้วย มองดูแล้วเธอน่าจะยังเด็กมาก
เธอตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกัก
“สะ..สวัสดี”
เพราะเธอดูไม่มีพิษมีภัยและบอบบาง ซูเถาจึงไม่มีมาตรการป้องกันเธอในตอนแรก แต่กลับรู้สึกงุนงง
“สวัสดีค่ะ มีอะไรเหรอ?”
หลังจากพูดจบสายตาของเธอก็จับจ้องไปที่ท้องกลม ๆ ของอีกฝ่าย เธอท้องหรือเปล่า?
กลางดึกในถิ่นทุรกันดารแบบนี้ หญิงตั้งครรภ์คนนี้โผล่มาจากไหนกัน?
เยว่เหนียงตกอยู่ในภวังค์เมื่อได้ยินเสียงสวรรค์ของเธอ
ในเวลานี้สือจื่อจิ้นก็เข้ามายืนอยู่ข้างหลังซูเถา และมองไปที่เยว่เหนียงอย่างระมัดระวัง
เมื่อเยว่เหนียงเห็นสือจื่อจิ้น เธอกลับไปรู้สึกตัวทันที จากนั้นน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาทีละหยด และเริ่มร้องไห้อย่างน่าสงสาร
โดยปกติแล้ว ในขั้นตอนแรกของการจับเหยื่อ จะเริ่มด้วยการขอความเห็นอกเห็นใจ และอีกฝ่ายจะถามว่าทำไมเธอถึงร้องไห้ เกิดอะไรขึ้น และต้องการความช่วยเหลือหรือไม่
แล้วเธอก็นำเหยื่อไปติดกับดักที่วางเอาไว้…
แน่นอนว่าทันทีที่ซูเถาเห็นน้ำตาของอีกฝ่าย ก็รู้สึกเกิดความรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นในใจ โดยคิดว่าผู้หญิงตรงหน้าเธออาจกำลังมีปัญหา และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ซูเถากำลังจะทำตัวเหมือนเหยื่อคนอื่น ๆ และถามเธอว่าเป็นอะไร ทันใดนั้นก็เห็นอีกาตัวหนึ่งอยู่บนกิ่งไม้ข้างหลังผู้หญิงคนนั้น
แม้ว่าแสงจันทร์จะสลัว แต่ซูเถาก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอีกากำลังมองพวกเขาผ่านแสงไฟจากในรถบ้าน ทำตัวเหมือนกล้องวงจรปิดเคลื่อนที่
นี่ไม่ใช่อีกาที่ทำให้เฮยจือหม่าว้าวุ่นเหรอ?
ลางสังหรณ์ของซูเถากลับมาปกติอีกครั้ง และความเห็นอกเห็นใจที่เพิ่งเกิดขึ้นก็พังทลายลงในทันที เธอเกือบจะเชื่อแล้วว่าหญิงตั้งครรภ์คนนี้ไม่เป็นอันตราย แต่สัญชาตญาณกำลังบ่งบอกว่านี่คืออันตราย
อย่างไรก็ตามสือจื่อจิ้นใช้พลังสอดส่องความสามารถของเธอทันที ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็แย่ลง