ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 299 ฐานโส่วอันล่มสลาย
ตอนที่ 299 ฐานโส่วอันล่มสลาย
ตอนที่ 299 ฐานโส่วอันล่มสลาย
ซูเถาหยิบเครื่องดื่มที่แพงที่สุดสองขวดจากตู้แช่แล้วส่งให้ทั้งสอง
“หยิบเครื่องดื่มได้ตามสบายเลยนะคะ ถ้าหมดค่อยให้ฟางจือเติมของค่ะ”
สิงซูอวี่ไม่เกรงใจ เธอคลายเกลียวฝาและดื่มมันลงไป จากนั้นร่างกายก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที
ของเถาหยางดีจริงๆ
หยางอิ๋งเบือนหน้าหนีเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นความกระตือรือร้นของซูเถาเธอจึงรับมันไว้
เธอจิบไปเล็กน้อย เป็นเครื่องดื่มรสหวานอมเปรี้ยว เมื่อเธอกลืนลงสู่ลำคอซึ่งทำให้เธอรู้สึกว่าศูนย์ประชุมแห่งนี้ไม่ร้อนอบอ้าวอีกต่อไป
เธอเคยไม่สบายใจหลังจากที่อดีตผู้นำกองทัพเปิดเผยว่าตงหยางจะถูกส่งมอบให้กับเถาหยางเป็นผู้บริหารจัดการ และมีคนหลายคนยอมรับในเงื่อนไขไม่ได้และต่อต้านอย่างรุนแรง
ก่อนหน้านี้เธอไม่เห็นด้วยอย่างมาก เพราะเถาหยางเพิ่งมีชื่อเสียงขึ้นมาได้ไม่นาน แม้ว่าเธอจะมีศักยภาพมากมาย แต่ความเสี่ยงก็ยังถือว่ามีมาก
อีกประการหนึ่งคือเถ้าแก่ของเถาหยางยังเด็กเกินไป
แต่เครื่องดื่มขวดนี้ดับไฟเล็ก ๆ ในความไม่พอใจของเธอ
ไม่สำคัญว่าเธอจะอายุน้อยกว่า เพราะมีคนมากมายจากอดีตผู้นำกองทัพและตงหยางที่จะช่วยเธอ มันไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่อะไร
เมื่อได้เธอเข้ามาบริหารจัดการ คนตงหยางสามารถอยู่อย่างมั่นคงและสงบสุขได้เช่นเดียวกับเถาหยาง มีน้ำเปล่าและเครื่องดื่มดังกล่าว ทำให้สามารถใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างสงบสุข โดยไม่ต้องกังวลการกินอยู่
หลังจากจัดตู้แช่แล้ว ซูเถาก็ปล่อยให้ทุกคนได้ไปพักผ่อนอย่างอิสระ
วันนี้หม่าต้าเพ่าแต่งตัวมาดีเป็นพิเศษ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาน้ำหนักของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ก็ยังเพียงพอที่จะรองรับเสื้อผ้าที่เป็นทางการของเขา
เขาโกนหนวดโกนเคราอย่างเกลี้ยงเกลา และผมก็ถูกหวีขึ้นอย่างเรียบร้อย ตอนนี้รูปลักษณ์ของเขาเหมือนเจ้านายคนหนึ่ง
ซูเถาพูดกับเขาว่า “สองสามวันนี้ฝากคุณด้วยนะคะ”
หม่าต้าเพ่ามั่นใจมาก “เถ้าแก่ไม่ต้องกังวล ภายในสามวัน ผมจะทำความรู้จักกับผู้ที่เข้าร่วมการประชุม และเชิดชูเถาหยางให้เป็นที่รู้จัก”
ซูเถายังคงเชื่อมั่นในทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ของเขา
ในตอนแรกเขาเป็นเพียงชายหนุ่มที่เป็นคนต้อนรับลูกค้าจากสถานีเก่า เขาได้พบกับเหลยสิงและคนอื่น ๆ โดยบังเอิญ และเขาสามารถพูดคุยกับเหลยสิงได้ ต่อมาด้วยความสัมพันธ์อันน้อยนิดนี้ เขาจึงแนะนำกลุ่มเป้าถูให้เธอ
อย่างไรก็ตาม ซูเถาไม่ได้ต้องการให้เขาทำความรู้จักกับคนมากเกินไป วันนี้ขอแค่ให้เขาทำให้สถานะของเถาหยางในทางใต้แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยเพื่อที่จะได้รวบรวมคอนเนคชั่นของฐานเหล่านี้ในภายหลัง
เฉียนหลินและเฉียนหรงหรงวางแผนที่จะเข้าร่วมการบรรยายหลังจากเริ่มการประชุม
บนชั้น 3 มีห้องประชุมส่วนตัวหลายห้อง ซึ่งซินตูทุ่มไม่อั้นในการจ้างวิทยากรที่มีชื่อเสียงจากทั่วสารทิศ เนื้อหาของปาฐกถามีหลากหลาย เช่น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ วิธีการจัดการปัญหาดินเค็มอย่างมีประสิทธิภาพ หลักการของอาวุธพลังงานนิวเคลียส การวิเคราะห์แหล่งที่มาของพลังงานในผลึกนิวเคลียส…
นอกจากนี้ยังมีการจัดการหรือการแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัว เช่น วิธีสร้างฐานอย่างรวดเร็ว วิธีการจัดการ ที่ผู้มีพลังวิเศษควรนำมาใช้ คู่มือการเอาชีวิตรอดสำหรับการใช้ชีวิตเพียงลำพัง และอื่น ๆ อีกมากมาย
ซูเถารู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อยเมื่อเห็นกำหนดการประชุม และวางแผนที่จะเลือกคนที่ใจถึงพอสักสองสามคนแล้วเข้าไปฟังบรรยาย
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจียงอวี่และหลินฟางจือจะไปที่ไหน เพราะไม่ว่าซูเถาจะไปที่ไหน พวกเขาจะอยู่ที่นั่น
อ้อ แล้วก็พลตรีสือผู้แข็งแกร่งคนนั้นด้วย
ไม่ถึงสิบนาทีก่อนเริ่มการประชุม บูธของฐานโส่วอันที่อยู่ถัดจากตงหยางที่ว่างเปล่ามาเป็นเวลานาน จู่ ๆ ก็มีคนสี่คนรีบเข้ามา
หนึ่งในนั้นคือเจียงชิงเซียง!
แต่เธอดูโทรมมากและเป็นการยากที่จะปกปิดความเหนื่อยล้าและความชรา แม้เธอจะมีการแต่งหน้ามาแล้ว แต่ผ่านไปเพียงครึ่งปี เธอเหมือนแก่ขึ้นสิบปีบราวนี่ออนไลน์
ซูเถานึกถึงภาพตอนที่เธอตามพวกของสือจื่อจิ้นไปที่บ้านของคุณนายเจียง ในฐานะแขกของเจียงชิงเซียงได้ ในเวลานั้นใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยออร่าของความร่ำรวยมั่งคั่ง
ซูเถาถามสือจื่อจิ้นเบา ๆ “ตอนนี้โส่วอันเป็นยังไงบ้าง”
ก่อนหน้านี้เธอได้ยินว่าโส่วอันแทบจะกลายเป็นนรก กลายเป็นนรกบนดินที่ต้องเผชิญกับความอดอยากและซอมบี้ที่มีอยู่ทุกที่ และแม้แต่ครอบครัวเจียงก็ยังถูกขังอยู่ในฐานและไม่สามารถออกไปไหนได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้เธอได้ให้อู๋เจิ้นไปสืบหาข่าวคราว
แต่อู๋เจิ้นไม่อยากจะสนใจเธออีกต่อไปแล้ว
สือจื่อจิ้นตอบว่า “โส่วอันมอบกระสุนให้กับฉางจิงเป็นจำนวนถึงสองในสามส่วน และฉางจิงได้ส่งเฮลิคอปเตอร์สิบลำไปช่วยเหลือผู้คนและขนอาวุธออกมา แต่เดิมฐานโส่วอันกำลังจะล่มสลาย แต่ดูเหมือนว่าช่วงนี้พวกเขากำลังมองหาที่ดินใหม่เพื่อกลับมาอีกครั้ง”
เมื่อซูเถานึกถึงคฤหาสน์ของบ้านเจียง เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจกับเจียงชิงเซียง
“ความมีชีวิตชีวาของครอบครัวเจียง ได้รับผลกระทบอย่างแสนสาหัสในครั้งนี้”
สือจื่อจิ้นพยักหน้า จากนั้นก็หัวเราะทันที “เฉินเหล่าเอ้อร์คงต้องเริ่มกลัวอีกครั้งแล้ว”
ก่อนที่ซูเถาจะทันได้ตอบสนอง เธอก็เห็นเฉินเทียนเจียวซึ่งเดิมที่นั่งอยู่ข้าง ๆ วิ่งหนีไปราวกับบินได้
แต่น่าเสียดายที่เจียงชิงเซียงได้ค้นพบเขาแล้ว
เมื่อเห็นเขา ทันใดนั้นเจียงชิงเซียงซึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ก็เปล่งประกายและพูดด้วยความประหลาดใจ “น้องเฉิน?”
เฉินเทียนเจียว ซึ่งกำลังวิ่งหนีได้ยินเสียง เขาก็ตกใจและวิ่งหนีออกไปอีก
ซูเถาจำได้ว่าเฉินเทียนเจียวเสียสละตัวตนของเขาไปมาก เพราะต้องใช้เขาเป็นข้ออ้างในการไปที่บ้านของคุณนายเจียงในฐานะแขก!
เจียงชิงเซียงตกหลุมรักเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อหน้าท้องของเฉินเทียนเจียว เธอคิดว่าหลังจากห่างหายไปนาน เธอจะหลงลืมความรู้สึกนี้ไปเสียแล้ว
ซูเถาเห็นอกเห็นใจมากจนอดไม่ได้ที่จะยืนห่างออกไปเล็กน้อย
ด้วยการเคลื่อนไหวนี้คิดไม่ถึงว่าดวงตาของเจียงชิงเซียงก็กวาดมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นเธอก็เห็นอู๋เจิ้นยืนอยู่ไม่ไกลจากเธอ
ความประหลาดใจในดวงตาของเจียงชิงเซียงกลายเป็นความโกรธ คนสวนเนรคุณ!