ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 304 ฆ่าให้หมด
ตอนที่ 304 ฆ่าให้หมด
ตอนที่ 304 ฆ่าให้หมด
ซูเถาไม่สนใจอาหารกลางวันที่ซินตูจัดไว้ให้มากนัก ดังนั้นเธอจึงเดินไปรอบ ๆ และเจอเข้ากับเฉินเทียนเจียว
“เหล่าต้าของพวกคุณอยู่ไหน” เฉินเทียนเจียวชี้ขึ้นไปข้างบน
“อยู่ชั้นสาม กินข้าวอยู่กับผู้ใหญ่ คุณไม่เห็นเหรอว่าหัวหน้าสวี่หายไป ผมไม่อยากจะพูดเลยนะ แต่ซินตูกำลังหลอกผู้คนจริง ๆ อาหารเหล่านี้เป็นของเถาหยางไม่ใช่เหรอ พวกเขาแกะบรรจุภัณฑ์ออกและเปลี่ยนเป็นชื่อของซินตูเนี่ยนะ รสชาติไม่ได้เรื่องเลยสักนิด ไม่ว่าจะเป็นขนมปังหรือไส้กรอก เคี้ยวยากมาก”
ซูเถาชี้ไปที่ฉู่หมิงและเพื่อนของเธออีกสองคนที่กำลังพึมพำกันอยู่ไม่ไกล และถามอย่างเฉียบขาด
“พวกเธอเป็นใคร เหมือนว่าฉันจะไปทำบางอย่างให้พวกเธอไม่พอใจ พวกเธอจะหาเรื่องวุ่นวายให้ฉันไหม ฉันเห็นพวกเธอกระซิบกระซาบกัน รู้สึกเหมือนกำลังวางแผนว่าจะจัดการฉันยังไงก็ไม่รู้”
เฉินเทียนเจียวมองไปตามที่ซูเถาชี้ “ผู้หญิงรูปร่างสูงโปร่งคนนั้นเป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลฉู่ แต่ตอนนี้เธอมีทีมทหารรับจ้างประมาณ 200 ชีวิตในกำมือ เถ้าแก่ซูคุณนี่ตาถึงจริง ๆ ผู้หญิงแบบนั้นไม่ควรไปยุ่งด้วย เธอถูกที่บ้านตามใจจนนิสัยเสียตั้งแต่ยังเด็ก คุณต้องระวังตัวไว้ให้มาก”
ดูแลผู้ที่มีพลังวิเศษไว้ถึง 200 ชีวิต…
แบบนี้ไม่ง่ายเลยจริง ๆ ทีมทหารรับจ้างขนาดทั่วไปที่มี 20-30 ชีวิตก็ถือว่าดีมากแล้ว
“ส่วนผู้หญิงอีกคนเธอคือเจียวชิ่ง สตรีหมายเลขหนึ่งแห่งติ้งหนาน แม้ว่าเธอจะดูอ่อนกว่าวัย แต่จริง ๆ เธออายุเกือบ 50 ปีแล้ว ความสามารถของเธอมีผลทำให้คงความอ่อนเยาว์” เฉินเทียนเจียวรู้สึกหนาวเย็นเล็กน้อย
ในฐานะชายแท้ เขารับไม่ได้จริง ๆ กับผู้หญิงที่ดูเหมือนอายุยี่สิบ แต่จริง ๆ แล้วอายุห้าสิบปี โดยเฉพาะผู้หญิงคนนี้ที่มีเสน่ห์ในสายตาทุกคน
ซูเถาประหลาดใจ “เธอมีพลังเหนือวิเศษแบบไหน?”
ดูไม่เหมือนว่าอีกฝ่ายอายุห้าสิบปีเลยจริง ๆ เธอดูเด็กกว่าฉู่หมิงเสียอีก
เฉินเทียนเจียวกระแอมสองครั้ง “ผมได้ยินมาว่าเธอสามารถทำให้ผู้คนหลงใหล”
ซูเถารู้สึกถึงวิกฤตทันที และถามเขาว่า “เป็นพลังทางจิตชนิดหนึ่ง?”
เฉินเทียนเจียวพยักหน้า “ใช่ มันอยู่ในหมวดหมู่นี้ แต่ผมไม่รู้ถึงผลกระทบที่เฉพาะเจาะจง เพราะผมก็ได้ยินมาอีกทีเหมือนกัน”
ซูเถาครุ่นคิด เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องเอาผลึกนิวเคลียสของถานหย่งที่เรียกว่า ‘ฉนวน’ ออกมาใช้มัน
น่าเสียดายที่ผลึกนิวเคลียสนี้ใช้ได้เพียงแค่สามวันเท่านั้น
‘มี๋อิน’ ที่ใช้หมดไปเมื่อไม่กี่วันก่อนคือผลึกนิวเคลียสเลเวลสอง ซึ่งสามารถอยู่ได้หกวัน แต่มันถูกใช้จนหมดเมื่อวันก่อนซึ่งซูเถารู้สึกว่าน่าเสียดาย
เพราะผลึกนิวเคลียสของผู้ที่มีพลังวิเศษนั้นมีค่ามาก
ตอนนี้เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นสร้างปัญหา เธอจึงต้องใช้ ‘ฉนวน’ อย่างไม่เต็มใจ ไม่เช่นนั้นหากมีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ เธอจะได้ไม่เสียใจภายหลัง
เธอไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป ใช้เลย!
ซูเถาหาข้ออ้างไปห้องน้ำเพื่อหยิบ ‘ฉนวน’ ออกมาจากพื้นที่ในมิติ
ผลึกนิวเคลียสลอยอยู่ในฝ่ามือของเธอมีลำแสงสีฟ้าพุ่งออกมา และมันแทรกซึมเข้าไปในร่างกายทันที ภายในเวลาไม่ถึงสามวินาที แสงสีฟ้าของผลึกนิวเคลียสก็หมดลง และแตกเป็นเสี่ยง ๆ ในอากาศและหายไปในที่สุด
จากนั้นซูเถารู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมของผลึกนิวเคลียส ‘ฉนวน’ ที่อยู่ในตัวเธอ ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นก่อตัวขึ้นรอบตัวเพื่อปิดกั้นความอาฆาตพยาบาททั้งหมด
ในเวลานี้ ที่ห้องรับรองบนชั้นสาม สือจื่อจิ้น หลิงเทียนจี้ จั๋วเอ่อร์เฉิง สวี่ฉางและคนอื่น ๆ กำลังมีสงครามกันทางวาจา
หลิงเทียนจี้เริ่มที่จะรินเหล้าให้สือจื่อจิ้น และกล่าวขอโทษเกี่ยวกับพนักงานต้อนรับ
สือจื่อจิ้นมองไปที่ขวดเหล้าบนโต๊ะ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้รู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน หลังจากคิดอยู่สักพักปรากฏว่าเขาเคยเห็นมันในตู้ขายของอัตโนมัติในเถาหยาง
เขาคว้าแก้วเหล้าเอาไว้แล้วยื่นมือไปชนแก้วกับหลิงเทียนจี้อย่างใจเย็น “กัปตันหลิง ขอบคุณสำหรับการต้อนรับ”
ทุกคนพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในเรื่องต่าง ๆ และในขณะที่หัวหน้าสวี่กำลังจะไปเข้าห้องน้ำ หลิงเทียนจี้ก็รีบเข้าประเด็นอย่างรวดเร็ว
“พลตรีสือ ผมได้ยินมาว่าเถาหยางมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตงหยาง ไม่ทราบว่าคุณพอจะช่วยติดต่อทางนั้นให้ซินตูของเราได้ไหม”บราวนี่ออนไลน์
สือจื่อจิ้นวางแก้วในมือลง “กัปตันหลิง คุณต้องการให้ผมไปช่วยคุยกับทางเถาหยางให้เหรอ? ทางซินตูก็น่าจะพอรู้ถึงคุณภาพเสบียงของเถาหยางอยู่แล้วใช่ไหม ถ้าอยากทำการสั่งซื้ออีกผมคิดว่าทางเถาหยางยินดี”
เขายิ้มและมองไปที่เหล้าที่อยู่บนโต๊ะโดยไม่พูดอะไรสักคำ
หลิงเทียนจี้รู้สึกอายที่ถูกจับได้และพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา
“พลตรีสือ น่าจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด เสบียงของเถาหยางนั้นดีมาก นี่ถือว่าเป็นขุมทรัพย์ที่ดีเลย ทำไมเราทั้งสองไม่ร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์ในครั้งนี้ล่ะ”
รอยยิ้มของสือจื่อจิ้นอ่อนลงเรื่อย ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“กัปตันหลิง แม้ว่าเถาหยางจะยังไม่ใช่ฐานทัพหรือองค์กร แต่ว่าสถานที่แห่งนั้นมีเจ้าของ และเจ้าของสามารถขายเสบียงให้กับใครก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมหรือคุณไม่สามารถควบคุมมันได้”
หลิงเทียนจี้คิดว่าเขาบ้าไปแล้ว
เปรียบเสมือนการนั่งอยู่ข้างภูเขาทองและบอกคนที่มาขุดทองว่าภูเขาทองนี้มีเจ้าของแล้ว ถ้าฉันไม่ขุด คุณก็ขุดไม่ได้เช่นกัน
ทำไม! ไม่ใช่ฐานทัพ หมายความว่าพื้นที่นี้ไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ
เจ้าของสถานที่แห่งนี้ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการเหรอ?!
ยิ่งกว่านั้น เขาได้ถามใครบางคนเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ในบรรดาคนของเถาหยางที่มาในวันนี้ไม่มีใครดูเหมือนเถ้าแก่เลย
คนที่ชื่อหม่าต้าเพ่าก็ดูทำตัวเป็นปลาไหล แต่หลิงเทียนจี้รู้สึกว่าเขาเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกให้ออกมารับหน้าแทนเท่านั้น
นอกจากนี้เขายังได้ยินอะไรพิเรน ๆ ด้วย โดยบอกว่าเด็กสาวคนนั้นเป็นเถ้าแก่ตัวจริง
หลิงเทียนจี้เย้ยหยันกับคำพูดนี้ หากเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ เขากล้าที่จะยกทัพไปโจมตีเถาหยางในทันที และใช้กำลังเข้ายึดมันมา
ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าใครเป็นเถ้าแก่ตัวจริงกันแน่ และเขากังวลเกี่ยวกับภูมิหลังที่แข็งแกร่งของเถาหยาง ดังนั้นเลยลองเข้าหาสือจื่อจิ้นเพื่อขอความร่วมมือจากเขา
แต่คิดไม่ถึงว่าสือจื่อจิ้นจะไม่มีความคิดที่จะกอบโกยผลประโยชน์จากเถาหยางเลย
หลิงเทียนจี้พูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่งและแผนการที่ก่อขึ้นก็ถูกยกเลิกในขั้นตอนแรก
จั๋วเอ่อร์เฉิงก็เหลือเชื่อเช่นกัน เขาอดไม่ได้ที่จะมองสือจื่อจิ้นแล้วพูดว่า
“พลตรีสือหมายความว่าถ้ามีคนต้องการเข้าไปหาผลประโยชน์กับเถาหยาง คุณจะ..”
สือจื่อจิ้นไม่ลังเล “ผมจะฆ่าให้หมดทุกคน”
ทุกคนที่อยู่ในนั้นตกตะลึง เตือน! นี่มันคือการเตือนชัด ๆ!
สีหน้าของหลิงเทียนจี้เปลี่ยนไปในทันที
เมื่อสือจื่อจิ้นพูดแบบนี้ เขาต้องชั่งใจ
ความแข็งแกร่งของสือจื่อจิ้นนั้นยอดเยี่ยมมาก และครอบครัวสือก็ได้ช่วยชีวิตเขาไว้ เขายุ่งกับเรื่องนี้ไม่ได้
จั๋วเอ่อร์เฉิงเกือบจะคิดว่าสือจื่อจิ้นเป็นเจ้าของเถาหยางเสียแล้ว
จากนั้นก็เงียบไปนานจนกระทั่งสวี่ฉางกลับมา เขามองไปที่คนสองสามคนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
“เป็นอะไรกันไป กินเลยกินเลย” ทุกคนจึงลงมือขยับตะเกียบ
อาหารมื้อนี้อบอวลไปด้วยความอึดอัด และก่อนที่สือจื่อจิ้นจะออกไปเขาก็ไม่บอกลาสักคำ
หลิงเทียนจี้โกรธมากแต่ก็ไม่สามาถแสดงอาการออกมาได้ เขายังคงแสดงรอยยิ้มบนใบหน้าเพื่อส่งเขาและสวี่ฉางลงไปชั้นล่าง
สือจื่อจิ้นถามสวี่ฉางหลังจากที่ห่างออกมาจากสายตาผู้คน
“หัวหน้าสวี่ ผมขอเสียมารยาทถามหน่อย ว่าฐานฉางจิงยื่นก่อตั้งฐาน และพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วได้ยังไงเหรอ”
สวี่ฉางรู้สึกประหลาดใจกับคำถามของเขา “ทำไมจู่ ๆ คุณถามสิ่งนี้ล่ะ สิ่งสำคัญก็คือต้องมีพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร มีประชากรมากกว่า 2,000 ชีวิต ต้องมีกองกำลังติดอาวุธ สำคัญที่สุดสถานที่นั้น ๆ ต้องมีการก่อตั้งขึ้นมาเป็นเวลา 3 ปีขึ้นไป สี่สิ่งนี้คือสิ่งที่ขาดไม่ได้”