ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 306 ทารุณ
ตอนที่ 306 ทารุณ
ตอนที่ 306 ทารุณ
ซูเถารู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงรีบเปิดซิปกระเป๋าและขอให้สือจื่อจิ้นนำแม่แมวที่กำลังหวาดกลัวใส่ลงไปในกระเป๋า
แม่แมวขาวยิ่งตื่นตระหนก ขนที่หางของมันปลิวว่อน พยายามตะเกียกตะกายและกัดกินข้างในอย่างบ้าคลั่ง
เฮยจือหม่าร้องใส่มันเป็นเวลานาน โดยที่แมวขาวดูเหมือนจะเข้าใจมัน และพยายามสงบลงเล็กน้อย แต่มันก็ยังคงข่วนและส่งเสียงร้องต่อไป
สือจื่อจิ้นใส่ลูกแมวสองตัวที่แข็งทื่อในลังกระดาษแข็งเปล่าและมอบให้กับซูเถา
ซูเถาทนดูไม่ได้ “หรือว่าจะฝังมันตรงนั้นดี อากาศก็ร้อน เราจะรอช้าไม่ได้”
ซ่งเยว่ปินหยิบลังกระดาษมา “เอามาให้ผม”
เขาขุดหลุมเล็ก ๆ ข้าง ๆ ท่อระบายน้ำ พร้อมกับห่อลูกแมวทั้งสองด้วยผ้าขนหนู แล้วใส่มันลงไป
หัวใจของเขาเจ็บปวดอย่างมาก สภาพของลูกแมวทั้งสองยังดูดีมาก ตัวหนึ่งยังเป็นสีทองอ่อน และทั้งคู่เป็นแมวขนยาว
เสียงของแม่แมวขาวแหบแห้ง ได้ยินแต่เสียงสะอื้นของมันอยู่ในกระเป๋า
เฮยจือหม่ากระโดดขึ้น ๆ ลง ๆ รอบ ๆ กระเป๋าราวกับอยากจะเข้าไปด้วย
กว่าจะกลับถึงอพาร์ตเมนต์ก็เกือบห้าทุ่มแล้ว ทันทีที่ซูเถาเปิดกระเป๋า แมวขาวก็กระโดดออกมาและวิ่งเข้าไปซ่อนตัวอยู่ใต้เตียง มันทั้งหวาดกลัวและวิตกกังวล
เฮยจือหม่าตามมันเข้าไปติด ๆ
ซูเถาหยิบอาหารกระป๋องออกมาจากพื้นที่ของฟางจือ ผสมน้ำลงไปครึ่งหนึ่ง จากนั้นวางลงบนพื้นแล้วเคาะชาม พยายามล่อเจ้าแมวขาวออกมา
เฮยจือหม่าออกมาเลียสองสามคำแล้วส่งเสียงร้องกลับเข้าไปใต้เตียง
แมวขาวตัวสั่นระริกและเอาแต่ร้องเงี้ยวง่าวใส่ผู้คน มันไม่กล้าออกมาจากใต้เตียง
ซูเถาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากออกจากห้องอย่างเงียบ ๆ และไปที่ห้องข้าง ๆ เพื่อหาเฉียนหลิน
เฉียนหลินห่อหั่วเยี่ยนตัวน้อยแล้วส่งให้ซูเถา
“หลังจากวันนี้หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นนะ มันเริ่มใช้ขวดนมได้คล่องแล้ว แต่ถ้าอยากให้โตไวไม่ป่วยง่าย ให้อาหารจากแม่แมวจะดีที่สุด”
ซูเถาอุ้มมันไว้ในอ้อมแขน หั่วเยี่ยนก็อ้าปากหาว เผยให้เห็นเหงือกและลิ้นสีชมพูของมันซึ่งน่ารักน่าชัง
เธอนึกถึงลูกแมวตัวน้อยที่น่าสงสารสองตัวที่กลับโลกของแมวไปแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะลูบท้องของมันด้วยนิ้วของเธอและถอนหายใจเบา ๆ
“ตอนนี้แกเป็นเพียงต้นกล้าต้นเดียว แกต้องเติบโตอย่างดีรู้ไหม รอแม่ของแกสงบลงก่อนนะ ฉันจะพาแกไปหาแม่”
ซูเถาจงใจอยู่ข้างนอกเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงก่อนที่จะกลับเข้าไปในห้องพร้อมกับหั่วเยี่ยน
อาหารกระป๋องที่วางอยู่ข้างนอกถูกกินจนสะอาดหมดจดจริง ๆ
เพื่อยืนยันว่าเป็นแม่แมวที่กินมันเข้าไปไม่ใช่เฮยจือหม่า ซูเถาจึงคว้าตัวเฮยจือหม่ามาและเปิดปากเพื่อตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเศษเนื้อหลงเหลืออยู่
ดูเหมือนว่าแม่แมวสีขาวจะอิ่มท้องแล้ว
ซูเถาหยิบที่นอนแมวนุ่ม ๆ ออกมาอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับวางเสียวหั่วเยี่ยนที่กำลังหลับอยู่ไว้ตรงนั้น แล้วค่อย ๆ ดันมันไปใต้เตียง
มีเสียงกรอบแกรบอยู่ใต้เตียง แล้วก็มีเสียงของแมวร้องขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นเสียงความสุขอย่างอธิบายไม่ถูกเหมือนได้สิ่งที่หายไปกลับคืนมา ซึ่งทำให้ดวงตาของซูเถาอุ่นขึ้น
ซูเถานอนหลับไม่สนิททั้งคืน เพราะความไม่สบายใจ จึงลุกขึ้นจากเตียงนอนเพื่อดูทุก ๆ หนึ่งหรือสองชั่วโมง เพราะกลัวแม่แมวจะไม่ไหวที่ต้องดูแลลูกของมันเพียงลำพังโดยไม่มีประสบการณ์
แต่โชคดีที่แมวขาวหวงแหนลูกของมันมากและคอยเลียลูกของมันตลอดเวลา
เช้าวันต่อมา ทันทีที่ซูเถาลืมตา เธอเห็นแม่แมวสีขาวกระโดดขึ้นเตียงพร้อมคาบลูกของมันไว้ในปาก
ซูเถาตื่นขึ้นอย่างกะทันหัน เด้งตัวขึ้นและย่อตัวลง “มีอะไรเหรอ?”
พูดตามตรง เธอกลัวนิดหน่อยว่าแมวจะข่วนตนเองเข้า เพราะเธอเคยเห็นมาก่อนว่ามันมีความดุร้ายบราวนี่ออนไลน์
แต่อัศจรรย์มากเพราะแม่แมวกลับร้องเรียกด้วยความเชื่อง
เฮยจือหม่าที่อยู่ข้าง ๆ กระโดดขึ้นลงอย่างตื่นเต้น
ซูเถากลืนน้ำลายราวกับว่าเธอเข้าใจสิ่งที่มันจะสื่อ จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อเปิดอาหารกระป๋อง จากนั้นก็เทน้ำลงในชามเพื่อผสมเล็กน้อยแล้วผลักมันไปด้านหน้า
เมื่อแมวขาวกินอิ่มแล้ว มันจึงใช้เตียงของซูเถาเป็นรังโดยตรงและนอนลงเพื่อให้นมลูกของมัน
ขณะที่เลียลูกด้วยความรัก มันก็ร้องเรียกซูเถาเพื่อเอาใจ
ซูเถาใจละลายเมื่อได้ยินเช่นนั้น มันขี้อ้อนยิ่งกว่าไป๋จือหม่าของเธออีก
แมวตัวนี้มีสองหน้า มันทั้งดุร้ายและขี้อ้อนมาก
เธอเอื้อมมือออกไปเพื่อจะสัมผัสมัน แมวขาวเกลือกกลิ้งให้ความร่วมมือเล็กน้อย เผยให้เห็นส่วนท้องของมัน
การกระทำนี้ทำให้ซูเถาตกตะลึง มันมีแผลเป็นจุดเล็ก ๆ จำนวนมากที่ท้องของมัน กระจุกตัวอยู่ที่ครึ่งล่าง
ซูเถาขนหัวลุก นี่คืออะไร?! มันไม่ใช่โรคผิวหนังหรืออะไรแน่ ๆ มันเหมือนโดนอะไรร้อน ๆ มา
เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น?!
ซูเถาถ่ายรูป และหลังจากคิดเกี่ยวกับมันแล้ว ก็ตัดสินใจส่งไปให้ซ่งเยว่ปิน ซึ่งมีประสบการณ์มากที่สุด
ซ่งเยว่ปินตอบทันที
“มันเป็นก้นบุหรี่! มีคนทารุณมัน ไม่แปลกใจเลยที่มันจะดุร้ายขนาดนี้”
การคาดเดาของซูเถาเป็นจริง เธอโกรธจนทำอะไรไม่ถูก
ระหว่างทางไปประชุม ซ่งเยว่ปินก็วิเคราะห์
“แมวตัวนี้อาจถูกขายให้กับภรรยาเศรษฐี แต่หลังจากถูกทำร้าย นิสัยของมันก็เปลี่ยนไปอย่างมาก และมันก็ถูกขายต่อหลายครั้ง และสุดท้ายก็หนีไปด้วยเหตุผลบางอย่าง ผมเพิ่งเห็นรูปที่คุณส่งมา แมวตัวนี้น่าจะอายุน้อยกว่าหนึ่งปี และมันมีลูกเร็วมาก ไม่แปลกใจเลยที่มันมีโอกาสสูญเสียลูกน้อยในครรภ์สูง”
ช่างน่าเสียดาย!
แมวขาวตัวนี้รูปร่างหน้าตาก็ไม่เลว หากได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี ตามอายุที่เหมาะสม ลูกของมันจะไม่เพียงมีรูปร่างหน้าตาดีเท่านั้น แต่ยังมีอัตราการรอดชีวิตสูงด้วย แต่การเลี้ยงแมวให้เติบใหญ่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก และแมวที่ตัวใหญ่แบบนี้น่าจะมีคนอยากจะแย่งชิง”
แต่เธออยากที่จะดูแลมันไว้
ซูเถาไม่เคยคิดที่จะขายมันกิน เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้ซ่งเยว่ปินบอกว่ามีคุณนายต้องการซื้อหั่วเยี่ยน ดังนั้นเธอจึงถามอย่างระแวดระวัง “ใครจะซื้อแมวจากคุณ”
ซ่งเยว่ปินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และพูดว่า “คุณนายเวิน ภรรยาของลั่วเหยียน เจ้านายของพวกเราจากฐานเชียนอันทางตอนเหนือ”
ซูเถาถามว่า “เธอจะดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดีหรือเปล่า แม่ของหั่วเยี่ยนต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องราวที่เจ็บปวดแบบนี้แล้ว ถ้าจะให้มันไปอยู่กับคนอื่น ฉันต้องตรวจสอบให้แน่ชัด”
แน่นอนว่าซ่งเยว่ปินยืนยันว่าคุณนายเวินมีจิตใจเมตตา
ซูเถาส่ายหัว “หัวหน้าซ่ง คุณบอกว่าเราเป็นเพื่อนกันใช่ไหม และฉันเห็นว่าคุณชอบสัตว์ตัวเล็ก ๆ นี้มากด้วย ถ้าหั่วเยี่ยนมีชีวิตที่แย่ คุณก็จะเสียใจเช่นกัน”
ซ่งเยว่ปินหยุดพูด
ในที่สุด เขาก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพูดว่า “เถ้าแก่ซู ผมไม่สามารถยืนยันเรื่องนี้กับคุณได้จริง ๆ คนในยุควันสิ้นโลกโดยเฉพาะผู้มีอำนาจ เราไม่มีทางรู้ได้ว่าเบื้องหลังการเลี้ยงสัตว์ของเขาจะเป็นอย่างไร? และเราก็ไม่สามารถเข้าไปอยู่ใต้เตียงของพวกเขาได้”
ซูเถาพยักหน้า “ฉันเข้าใจ ดังนั้นฉันจึงอยากจะมอบหั่วเยี่ยนให้กับคนที่ไว้ใจได้”
นี่คือการปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิงกับซ่งเยว่ปิน
ซ่งเยว่ปินพูดไม่ออก แต่เขาก็ยังไม่อยากยอมแพ้
แม้ว่าเขาจะชอบสัตว์ตัวเล็ก ๆ แต่ในวันสิ้นโลกแบบนี้ ความชอบทั้งหมดก็ไม่เท่ากับผลประโยชน์ที่จะนำมาสู่เขา
ถ้าสามารถใช้แมวเพื่อเอาใจลั่วเหยียน เพื่อให้กองคาราวานของพวกเขาไปทางเหนือเพื่อผลประโยชน์และสนับสนุนพี่น้องของเขา มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่ทำ
ส่วนแมวจะทำยังไงได้ ถ้าเจ้าของจ่ายเงินซื้อตัวมันไปแล้ว มันก็เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของ
ชีวิตมนุษย์นั้นไร้ค่าในวันสิ้นโลก นับประสาอะไรกับแมวตัวเล็ก ๆ
แต่ซ่งเยว่ปินไม่สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ ซูเถาคงทำสีหน้าไม่ดีใส่เขาแน่ถ้าเขาพูดแบบนั้น
เขาเห็นว่าซูเถาเลี้ยงลูกแมวด้วยความรักแบบนี้ เธอก็คงทนไม่ได้ที่จะปล่อยมันไป