ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 314 ความมั่งคั่งของเถาหยาง
ตอนที่ 314 ความมั่งคั่งของเถาหยาง
ตอนที่ 314 ความมั่งคั่งของเถาหยาง
ซูเถากำลังจัดแสดงสินค้ากับทุกคนในร้านขายสินค้าชั่วคราว จึงไม่ได้สนใจเสียงดังเอะอะโวยวายในระยะไกล และยังคงจัดระเบียบของต่อไป
อันที่จริงแล้ว จุดซื้อขายแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่เปิดโล่งชั้นล่างของศูนย์ประชุม ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร และร้านค้ากว่า 70 ร้านในขนาดต่าง ๆ ซึ่งมันถูกสร้างขึ้นในชั่วข้ามคืน
ร้านค้าส่วนใหญ่ถูกจัดสรรให้กับฐานขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดพันธมิตร และส่วนที่เหลือจะถูกปล่อยให้เช่า
ร้านที่หม่าต้าเพ่าเช่ามาไม่ใช่แค่ทำเลดีใกล้ประตู แต่ยังอยู่ตรงหัวมุมด้วย คนสัญจรไปมาเยอะกว่าร้านอื่นในทำเลธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด และที่สำคัญคือไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เป็นผลมาจากความหน้าหนาของเขาเมื่อสองวันก่อน
ไม่เพียงแค่นั้น ไม่รู้ว่าเขาไปหาเครื่องปั่นไฟเคลื่อนที่มาจากที่ไหน เพราะตู้เย็นและตู้แช่แข็งมีบทบาทสำคัญกับเถาหยางมากในตอนนี้
ติงเหออวี้ได้ยินว่าเถาหยางเองก็มีร้านค้าด้วย จึงรีบวิ่งเข้าไปทักทายทันที และต้องการดูว่าเถาหยางต้องการความช่วยเหลือหรือไม่
ทันทีที่เห็นคนจำนวนมากยืนดูรอบ ๆ ร้านของเถาหยาง ตอนแรกเขาคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เมื่อวิ่งเข้าไปในฝูงชนก็ต้องตกใจเช่นกัน เถาหยางวางตู้แช่เย็นหนึ่ง สอง สาม สี่…ห้าตู้ชิดกับผนังด้านซ้ายของทางเข้าร้าน!
ซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องดื่มเย็นหลากสีสันหลากรสชาติ
ในขณะที่ซูเถานำร่มกันแดดขนาดใหญ่ออกมากาง เธอก็หันไปเห็นติงเหออวี้พอดี เลยส่งยิ้มพร้อมพยักหน้าให้อีกฝ่าย
“รองติงกำลังมองหาฉันอยู่หรือเปล่า”
“ผมมาหาคุณ ผมอยากมาถามว่าคุณมีอะไรให้ผมช่วยไหม แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ดีทีเดียว ถือซะว่าผมมาเยี่ยมชมละกันนะครับ”
ติงเหออวี้ช่วยเธอจัดร่มกันแดด พลางมองไปที่ตู้แช่ทั้งห้าตู้พร้อมพูดด้วยความอิจฉา “หลังจากงานแสดงสินค้าเปิดขึ้น ผมแนะนำให้คุณหาชายฉกรรจ์ร่างใหญ่สองสามคนมายืนหน้าร้านเพื่อรักษาความเรียบร้อย ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดปัญหาได้”
“ขอบคุณรองติงที่เตือน เข้ามานั่งในร้านก่อนสิคะ อากาศข้างนอกนั้นร้อนเกินไป”
ทันทีที่ติงเหออวี้เข้ามา พวกเขาก็ต้องตกใจกับเครื่องปรับอากาศที่เป่าลมเย็นมาทางใบหน้าของพวกเขา หลังจากกวาดสายตาไป พวกเขาพบเครื่องปรับอากาศแนวตั้งสองเครื่องตั้งอยู่สองมุมของร้าน
สมกับเป็นเถาหยาง… ติงเหออวี้รู้สึกอิจฉาจนพูดไม่ออก
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่สามารถซื้อเครื่องปรับอากาศแนวตั้งสองเครื่องในอู๋ไถได้ พวกเขาซื้อได้ และพวกเขาก็มี แต่พวกเขาจะไม่ขนเครื่องปรับอากาศมาตลอดทางเพื่อเข้าร่วมงานแสดงสินค้าด้วยหรอกนะ ทุกคนคิดว่ามันร้อน ใช่มันร้อน แต่ก็ไม่มีใครเคยคิดว่าต้องขนเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือทรัพยากรที่ดีมาเพื่ออำนวยความสะดวก
เถาหยางไม่เคยกังวลกับสิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าจะไปที่ไหนทุกคนก็ได้กินอิ่มนอนหลับและมีชีวิตที่ดี แบบนี้เรียกว่าอะไร มั่งคั่ง? ทั้งยังมีเสบียง มีกำลังสามารถทำทุกอย่างได้ตามอำเภอใจ!
อะไรที่อำนวยความสะดวกสบายได้ก็ทำมันทุกอย่าง
เมื่อหลินฟางจือเห็นเขาก็วางงานลงและพยักหน้าทักทายเขา “รองติง ดื่มอะไรไหม ผมเลี้ยง” เขาชี้ไปที่เมนูด้านหลังเขา
ตามการออกแบบของเจิ้งซิง ถัดจากเครื่องคิดเงินเป็นโซนทำชานม และหลินฟางจือทำหน้าที่เป็นพนักงานขายชานมชั่วคราว
ติงเหออวี้มองไปที่ชื่อของเครื่องดื่มเย็นเล่านั้นบนแถบเมนูอย่างตื่นตาเล็กน้อย “ผมได้เข้าร่วมในงานแสดงสินค้ามามากมาย ร้านค้าอื่น ๆ โดยพื้นฐานแล้วเพียงแค่แสดงผลิตภัณฑ์พิเศษของฐานพวกเขาเอง มีเพียงคุณเท่านั้นที่มีลูกเล่นมากมาย คุณเกือบจะตามทันร้านที่มีมาตรฐานความสะดวกสบายก่อนจะถึงวันสิ้นโลกซะอีก” เขาหัวเราะออกมาเล็กน้อย
เฉียนหรงหรงผู้ซึ่งกำลังเช็ดเครื่องคิดเงินได้ยินสิ่งนี้ก็หัวเราะขึ้นทันที “เราพยายามทำการตกแต่งร้านให้เหมือนกับร้านสะดวกซื้อก่อนวันสิ้นโลก และไอเดียนี้ก็มาจากนักออกแบบตัวน้อยจากเถาหยาง”
หลังจากพูดจบ เธอก็ชี้ไปที่เจิ้งซิงที่กำลังจัดเรียงสินค้า
เจิ้งซิงหน้าแดงเล็กน้อย “ผมนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับอาจารย์มาก่อน เลยเป็นผลให้ตอนนี้เราจัดออกมาได้คล้ายคลึงบรรยากาศก่อนวันสิ้นโลกถึง 85% ต้องยกความดีความชอบให้อาจารย์”
ติงเหออวี้ยกย่องเขาอย่างจริงใจ “คนเถาหยางมีความสามารถมากมายจริง ๆ”
หลินฟางจือเห็นว่าเขาไม่ตอบเป็นเวลานาน ดังนั้นจึงตัดสินใจทันที “ถ้าอย่างนั้นก็ดื่มน้ำส้มจี๊ดโซดาสักแก้วเพื่อเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าแล้วกัน”
ส้มจี๊ดเป็นหนึ่งในผลไม้ที่อู๋เจิ้นปลูกเมื่อเร็ว ๆ นี้ นอกจากนี้ยังมีบลูเบอร์รี่ มะเขือเทศเชอร์รี่ มัลเบอร์รี่และอื่น ๆ
ผลไม้เหล่านี้บางส่วนจะใช้ทำเครื่องดื่มและบางส่วนจะแช่ไว้ในตู้แช่เย็นเพื่อขายสด ๆ
หลินฟางจือหยิบส้มจี๊ดออกมาอย่างงุ่มง่ามแล้วใส่ลงในแก้ว พร้อมกับเปิดขวดสไปรท์แล้วเทตามลงไป จากนั้นเติมน้ำแข็งก้อน
ติงเหออวี้อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เครื่องจักรนั่นคือ…”
หลินฟางจือพูดง่าย ๆ ว่า “เครื่องทำน้ำแข็ง”
“…ขายเหรอ?”
“ไม่ขาย” โดยทั่วไปเครื่องมือของเถาจื่อจะไม่มีขายข้างนอก และขายเฉพาะอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น
ติงเหออวี้รู้สึกอิจฉาเถาหยางขึ้นมาเสียแล้วสิ
เจ้านายของเขาเป็นนายกเทศมนตรี ดังนั้นจึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงอยากกินรวบเถาหยาง เพราะในเถาหยางมีของดีมากมาย
ติงเหออวี้ดื่มส้มจี๊ดหนึ่งแก้วจนหมด เขารู้สึกสดชื่นขึ้นมากและอดไม่ได้ที่ปรบมือ
เขาซื้อไอศกรีมไปครึ่งตู้และผลไม้มากกว่า 60 จินในคราวเดียว และไม่กลัวว่ามันจะละลายหรือเน่าเสียเพราะเขามีพลัง ‘ยับยั้ง’
ก่อนออกเดินทางเขาก็ได้ให้รีวิวชาผลไม้ของหลินฟางจือว่ารสชาติดีมาก
เมื่อได้รับคำชมความมั่นใจของหลินฟางจือก็พุ่งสูงขึ้น และเขาก็เพิ่มราคาเครื่องดื่มทั้งหมดบนแถบเมนูเป็น 2 เท่าทันที เครื่องดื่มเย็นที่ต้องชงมือมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 800 เหลียนปัง
ในความเป็นจริงต้นทุนของวัตถุดิบนั้นต่ำมาก เพราะใช้แค่น้ำแร่ที่มีอยู่หรือเครื่องดื่มต่าง ๆ เพิ่มน้ำแข็งและผลไม้เท่านั้น
หลังจากจัดเรียงสินค้าทั้งหมดในร้านแล้ว ซูเถาก็ตรวจสอบทั้งภายในและภายนอก เธอรู้สึกพอใจกับมันมาก และรอที่จะได้เปิดร้านให้ผู้คนเข้ามาเยี่ยมชมแทบไม่ไหวแล้ว
เมื่อเทียบกับร้านค้าที่เป็นระเบียบของเถาหยาง ร้านค้าของติ้งหนานนั้นถือว่าวุ่นวายกว่ามาก
หลังจากที่เห็นหลิงเทียนจี้พาใครบางคนมาที่นี่ ผู้อาวุโสข่งที่สร้างปัญหาก็รีบวิ่งหนีหายไปทันที
คนจากติ้งหนานต่างขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสามีของเจียวชิ่ง ภรรยาของเขาหายตัวไปไม่พอ แต่อันธพาลเก่าอย่างคนแซ่ข่งมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนี่สิ
มันทำให้ชื่อเสียงของติ้งหนานเหม็นคาวฉาวโฉ่ขึ้นมาทันที เขาต้องการพูดคุยกับหลิงเทียนจี้ผู้เป็นหัวหน้าฐาน หลังจากที่ภรรยาของเขาหายไปจากอาณาเขตของซินตู
หลิงเทียนจี้ยังอยู่ในอารมณ์เดือดดาล แม้ว่าหัวหน้าสวี่จะไม่ได้พูดอะไรเลย แต่มันทำให้เขาอับอายมาก และต้องหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีเสียงดังและผู้คนพลุกพล่านไปหลบซ่อนที่อื่น
แต่ตอนนี้ทางติ้งหนานกลับถามหาหัวหน้า!
“เหล่าหู คนที่เพิ่งจากไปคือหัวหน้าสวี่จากฉางจิง วันนี้ที่ติ้งหนานวุ่นวายขนาดนี้เพราะมีข่าวลือว่าภรรยาของคุณข่มเหงสาวน้อย คุณคิดว่าทางฉางจิงจะคิดยังไงกับติ้งหนาน” เขาพูดด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
“เรื่องนี้มันไร้สาระเกินไปแล้ว! สาวน้อยคนนั้นคือใคร? ตามหาตัวเธอให้เจอแล้วให้เธอออกมาพูด”
ผู้คนในติ้งหนานโห่ร้องขึ้นทันที “ใช่แล้ว คำพูดของผู้อาวุโสข่งนั้นเหลือเชื่อที่สุด เขาบอกว่าคุณนายของเรามอบเด็กสาวให้แก่เขา แต่เธอทำสิ่งนั้นจริงไหมก็ไม่มีใครรู้ ไม่มีหลักฐาน!”
หลิงเทียนจี้ระงับความโกรธของเขาและหันกลับไปหาจั๋วเอ่อร์เฉิง “หญิงสาวคนนั้นเป็นใครมาจากฐานไหน”
จั๋วเอ่อร์เฉิงมองไปที่คน ๆ หนึ่งที่ตกเป็นจำเลย และตอบออกมา “ถ้าผมจำไม่ผิด น่าจะเป็นคุณซูจากเถาหยาง ในเวลานั้นเจียวชิ่งอาจต้องการใช้ข้ออ้างในการเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อล่อให้เธอไปที่ห้องของคุณข่ง แต่มีบางอย่างเกิดขึ้นในภายหลัง คุณนายเจียวได้หายตัวไป และคุณซูก็รอดมาได้โดยไม่เป็นอันตราย”
เมื่อเหล่าหูได้ยินดังนั้นเขาก็หันหลังกลับและไปที่มองที่ร้านของเถาหยางทันที เขามีลางสังหรณ์ว่าการหายตัวไปของภรรยาของเขาจะต้องเกี่ยวข้องกับคุณซูคนนี้