ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 334 แม่ แบบนี้แม่ก็จะทิ้งผมไม่ได้อีกแล้ว
ตอนที่ 334 แม่ แบบนี้แม่ก็จะทิ้งผมไม่ได้อีกแล้ว
ตอนที่ 334 แม่ แบบนี้แม่ก็จะทิ้งผมไม่ได้อีกแล้ว
สองชั่วโมงต่อมา รถพวกเขาก็ไล่ตามกลุ่มที่เดินทางมาล่วงหน้าทันในที่สุด
หม่าต้าเพ่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่เขาไม่ถามถึงสถานการณ์ของเสี่ยวอวี๋และเหล่าอวี๋ผอ ทั้งยังจัดให้พวกเขานั่งรถไปกับเฉียนหลินและลูก
สองวันที่ผ่านมาเสี่ยวอวี๋ไม่ค่อยได้พักผ่อน ทันทีที่เขาขึ้นรถก็เริ่มรู้ง่วงขึ้นมา บวกกับความรู้สึกปลอดภัยรอบตัวทำให้ไม่นานเขาก็ผล็อยหลับไป เหล่าอวี๋ผอถอนหายใจ ฝ่ามือเหี่ยวย่นยื่นออกไปลูบหลานชายสุดที่รักอย่างเอ็นดู พร้อมลูบมือของเขาเบา ๆ
เด็กโง่ เด็กคนนี้คิดว่ามากับผู้หญิงคนนี้แล้วตัวเองจะปลอดภัย เธอได้แต่หวังว่าหลังจากนี้เขาจะเจอแต่ความโชคดี หญิงชรามองดูค่ำคืนอันมืดมิดนอกหน้าต่างรถ ก่อนหน้านี้เธอมองเห็นอนาคตได้ริบหรี่เหลือเกิน แต่ตอนนี้แววตาแห่งความมุ่นมั่นของเธอฉายชัดขึ้นมาอีกครั้ง
เธอจะสู้อีกครั้ง ไม่ว่าตนเองจะเป็นคนอ่อนแอเพียงใด แต่เธอตัดสินใจแล้ว ครั้งนี้เธอจะเดินหน้าต่อไป
ขบวนเดินทางมุ่งหน้าไปยังตงหยาง
แต่ในเวลาเดียวกันสถานการณ์ในตงหยางยังไม่สงบ สือจื่อจิ้นกำลังนำผู้คนไปเผชิญในความมืด ทุกคนมีอาวุธครบมือ และจ้องไปยังห้องที่มีแสงสว่างโร่ตรงข้ามโดยไม่เคลื่อนไหว
ภายในห้อง หลิวพ่านพ่านนั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยความงุนงง ถือรูปถ่ายของเยี่ยนเยี่ยนไว้ในมือและลูบมันโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวเหลือบมองดวงจันทร์ที่ลอยเด่นอยู่นอกหน้าต่าง และหลั่งน้ำตาออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ทำให้การมองเห็นตรงหน้าของเธอเริ่มพร่ามัว อย่างไรก็ตามภายใต้การมองเห็นอันพร่ามั่วจู่ ๆ เธอก็มองเห็นร่างเพรียวบางก้าวเข้ามาหาเธอช้า ๆ
หลิวพ่านพ่านตกตะลึง น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้มอีกครั้ง
เธอเช็ดดวงตาอย่างตั้งใจ และการมองเห็นของเธอค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นทำให้เห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มตรงหน้าได้อย่างชัดเจน แม้ว่าใบหน้านั้นจะคมชัด และมีกรอบหน้าที่ชัดเจนขึ้น แต่เขาก็ยังเป็นเด็กชายที่เธอคุ้นเคย
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
หยาดน้ำตาอุ่นร้อนพรั่งพรูออกมา ริมฝีปากนั้นพึมพำเบา ๆ “เยี่ยนเยี่ยน นั่นเยี่ยนเยี่ยนเหรอ”
จากนั้นเธอก็ลุกขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทรงตัวได้และล้มลงกับพื้นเพราะตื่นเต้นเกินไป หญิงสาวรีบประคองตัวเองลุกขึ้นอีกครั้ง และเดินโซเซไปทิ้งตัวหน้าเด็กหนุ่ม “เยี่ยนเยี่ยน!”
โบนวิงส์ไม่ปล่อยให้เธอแตะต้องตัวมัน มันมองเธอสายตาว่างเปล่าและค่อย ๆ เอียงศีรษะราวกับว่ากำลังใช้ความคิด ความทรงจำในฐานะมนุษย์ของมันคลุมเครือมากอยู่แล้ว แต่ก็ยังจำหน้าตาของผู้หญิงคนนี้ได้ และจำได้ว่าตอนนั้นเธอนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง ปล่อยให้มันต้องถูกนำตัวไป
มันร้องเสียงแหบพร่าในโรงรถที่มืดมิด ซุกตัวอยู่ในซอกมุมที่เต็มไปด้วยแมลง ทั่วทั้งร่างปวดร้าวไปหมด มันรู้ว่ามันป่วย…
ผู้หญิงคนนี้ไม่ต้องการมันเพราะมันเจ็บป่วย
มันหมดสติไม่รู้เพราะว่าร้องไห้จนเหนื่อยหรือเพราะอาการปวดที่รุมเร้า มันไม่แน่ใจและก็มันหลับไปนาน เมื่อมันตื่นมาอีกครั้งก็รู้สึกว่าตนเองหิวมาก ทว่าร่างกายของมันไม่เจ็บปวดอีกต่อไป…
มันยืนขึ้นและกระโดดอย่างมีความสุข แต่ได้ยินใครบางคนชี้มาที่มันและตะโกนว่า ‘ซอมบี้’ จากนั้นผู้คนก็เริ่มขับไล่มันออกมา บางคนถึงกับต้องการฆ่ามันให้ตาย…
มันไม่เข้าใจ ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงทิ้งมันไป คนคนนี้ต้องการไล่เขาออกไป
เวลานั้นมันหิวมากจนจับชายคนหนึ่งไว้ และเริ่มกัดกินตามสัญชาตญาณกว่าจะรู้ตัว รอบกายก็ถูกล้อมรอบด้วยซากศพและเลือดที่ไหลนอง
มันรู้สึกถึงพลังที่เพิ่งเกิดใหม่และร่างกายที่แข็งแรงปราศจากความเจ็บปวด แม้แต่ในที่ ๆ มันเจ็บปวดที่สุดก็ยังมีปีกกระดูกที่แหลมคมเหมือนผีเสื้อที่กลายเป็นอาวุธสังหาร เป็นการเปิดเส้นทางแห่งวันสิ้นโลกที่เต็มไปด้วยเลือด
หลิวพ่านพ่านต้องการสัมผัสมันมาก เธอยื่นมือออกไปอย่างสั่นเทาแต่ไม่อาจแตะต้องมันได้
“เยี่ยนเยี่ยน…แม่ผิดไปแล้ว แม่ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แม่…”
สิ่งที่ตอบแทนเธอคือเดือยกระดูกแหลมคมแทงหน้าอกของเธอ
โบนวิงส์มองดูเธออย่างไม่เข้าใจนัก จากนั้นก็ดึงเดือยออกมาโดยไม่ลังเล เลือดสีแดงสดพุ่งออกมาจากหน้าอกของหลิวพ่านพ่านไม่หยุดหลิวพ่านพ่านเปิดปากของเธอ พยายามที่จะเปล่งประโยคที่เหลืออย่างสิ้นหวัง “แม่รัก รักลูกมาตลอด รีบ…หนีไป…”
โบนวิงส์ตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่ง มันเฝ้าดูเธอจนลมหายใจเฮือกสุดท้ายหมดลง และพูดออกมาอย่างไร้ความรู้สึก “แม่ แบบนี้แม่ก็จะทิ้งผมไม่ได้อีกแล้ว”
ในวินาทีถัดมา ทันใดนั้นก็มีแสงจำนวนมากล้อมรอบมัน และกระสุนจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหามันราวกับกำลังทอตาข่าย มันกำลังจะสยายปีก แต่จู่ ๆ ก็ถูกคนคนหนึ่งฟันมาที่ปีกของมัน
สือจื่อจิ้นกดมันไว้ และตัดปีกกระดูกครึ่งหนึ่งของมันในทันที จากนั้นขนสีแดงเลือดก็ปลิวว่อนไปทั่วท้องฟ้า ราวกับเครื่องสังเวยวันโลกาวินาศ…
……
ซูเถาได้รับข่าวจากตงหยางตอนตีห้า เป็นเฉินเทียนเจียวที่โทรหาเธอ เอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “เถ้าแก่ซู มีข่าวดีหนึ่งข่าวและข่าวร้ายสองข่าว คุณอยากฟังข่าวไหนก่อน”
หัวใจของซูเถาเต้นเร็วมากและมีลางสังหรณ์ประหลาดเกิดขึ้นในใจของเธอ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกกลัวที่จะได้ยินข่าวร้าย “ข่าวดี”
“เราจับโบนวิงส์ได้แล้ว และตอนนี้มันถูกขังเอาไว้ยังไม่สามารถฆ่ามันได้ มันสำคัญสำหรับการวิจัยและมีมูลค่ามาก ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้มันหนีไปอีก เราอาจต้องขอความช่วยเหลือจากเถ้าแก่ซู”
ซูเถาพยักหน้า “ว่ามาเลยค่ะ”
“ถ้าสะดวกคุณช่วยวาดที่ดินตรงขอบเถาหยางเพื่อขังมันไว้ได้ไหม แล้วสร้างโดมครอบเพื่อป้องกันมันเอาไว้ นี่เป็นวิธีเดียวที่เรานึกออกในตอนนี้ และคิดว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด”
“ไม่มีปัญหาค่ะ แล้วข่าวร้าย…”
เฉินเทียนเจียวเงียบไปสองสามวินาที “ผมขอโทษ แต่คุณหลิวเสียชีวิตแล้ว”
ซูเถาหลับตาลงแม้ว่าจะเตรียมใจมาแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำใจได้อยู่ดี
หลิวพ่านพ่านอาจทำสิ่งผิดเพียงสิ่งเดียวนั่นคือการปฏิบัติต่อหยางหยางอย่างดีโดยไม่ได้เจตนา เป็นผลให้หยางหยางเสียชีวิตทางอ้อม แต่สิ่งที่ผิดที่สุดคือจุดจบของโลกที่เสื่อมโทรมและมืดมน และเธอก็เป็นเพียงแม่ผู้น่าสงสารที่เสียสติไปจากการสูญเสียลูกชาย
เฉินเทียนเจียวกล่าวโทษตัวเองอย่างหนัก “พวกเราขอโทษ เราคิดว่าแม้มันจะกลายเป็นซอมบี้ อย่างน้อยมันก็มีความรู้สึกบางอย่างกับแม่ของมัน เราไม่คิดว่ามันจะฆ่าคุณหลิวภายในไม่กี่วินาทีที่เข้าไป พวกเราเข้าไปช่วยเหลือไม่ทัน เราขอโทษที่เราละเลยตรงนี้ไป!”
ซูเถาสูดลมหายใจเข้า “ฉันเข้าใจ แต่พวกคุณควรขอโทษผู้อาวุโสเหม่ยมากกว่า เขาปฏิบัติต่อพี่พ่านเหมือนลูกสาวของเขาคนหนึ่ง แต่เขาต้องมาเห็นคนหัวดำต้องจากไปก่อนคนหัวหงอกอย่างเขา…”
“เราจะไปขอโทษด้วยตัวเอง” เฉินเทียนเจียวตอบกลับอย่างหนักแน่น
“แล้วข่าวร้ายอีกข่าวเกี่ยวกับเหล่าต้าของคุณหรือเปล่า” ซูเถาถามเขา
เฉินเทียนเจียวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ความคิดของซูเถาเตลิดไปไกล “ถ้าเขาสบายดี เขาจะโทรหาฉันด้วยตัวเองและบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน แต่การที่คุณเป็นคนติดต่อฉันมาแสดงว่าเขาหายไป หรือได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือ…”
เสียชีวิต
เฉินเทียนเจียวเกาหัวตัวเอง และตะกุกตะกักเป็นเวลานานก่อนที่จะพูดว่า “ไม่ใช่! อย่า…อย่าเดา! สถานการณ์เมื่อคืนนี้อันตรายมาก หลังจากโบนวิงส์เติบโต ระดับของมันเทียบเท่ากับผู้มีพลังวิเศษเลเวลสาม มันถือว่าอยู่ในจุดที่เป็นยอดพีระมิด แม้ว่าเหล่าต้าของเราจะตัดปีกของมันออกไปครึ่งหนึ่งในตอนนั้น แต่ปีกของมันก็ยังมีพลังในการต่อสู้ที่น่าทึ่ง”
“อีกอย่างตอนนั้นเราได้แต่ยืนดูการสู้รบ พวกเราเข้าแทรกแซงไม่ได้ เหล่าต้าของเราเข้าเผชิญหน้ากับมันเพียงลำพัง สุดท้ายเหล่าต้าของเราก็ต้องได้รับบาดเจ็บ…สาหัส”