ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 348 ถอดวิญญาณ
ตอนที่ 348 ถอดวิญญาณ
ตอนที่ 348 ถอดวิญญาณ
ซูเถาใช้ประโยชน์จากเวลาที่เมิ่งเชียนลงไปชั้นล่างเปิดระบบเพื่อสร้างห้องพักใหม่ในเดือนสิบ
จำนวนประชากรของเถาหยาง ไม่รวมภูเขาผานหลิว ศูนย์แม่และเด็ก เถาฉือ และสถานที่อื่น ๆ มีจำนวนเกินเกณฑ์ห้าร้อยคนแล้ว
หากไม่ขยายพื้นที่อยู่อาศัย จำนวนประชากรจะหนาแน่นมาก
ซูเถาพยายามค้นหาผลึกนิวเคลียสสามอัน และขยายพื้นที่สามร้อยตารางเมตรทั้งน้ำตา เธอสร้างอาคารที่อยู่อาศัยขึ้นใหม่เพื่อลดความแออัดของประชากร
เมื่อตัดผลึกนิวเคลียสสองร้อยอันที่ใช้สำหรับพื้นที่เขตซีซานแล้ว ตอนนี้เธอเหลือผลึกนิวเคลียสในมือเพียงสิบเก้าอันเท่านั้น
ไม่จีรังเลยจริง ๆ
เมื่อไหร่เธอจะมีผลึกนิวเคลียสไว้ใช้งานได้อย่างอิสระกัน
หากมีผลึกนิวเคลียสเพียงพอ เธอก็จะสามารถควบรวมตงหยางทั้งหมดได้ในคราวเดียว พร้อมกับขยายเถาหยางไปอีกสองเท่า จากนั้นก็ใช้ฟังก์ชันการก่อสร้างอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างเขตเมืองใหม่ภายในระยะเวลาอันสั้น
……
เมิ่งเชียนเดินตัวสั่นกลับไป และรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าซูเถาอารมณ์ดีขึ้น
“เถ้าแก่ คุณพร้อมหรือยัง”
ซูเถาคิดว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงห้องชุดใหม่ เธอจึงพยักหน้า
“พร้อมแล้ว ดูสิ ห้องเหล่านี้เป็นห้องแบบสามห้องนอน สองห้องนั่งเล่นจำนวนยี่สิบห้อง เธอสามารถลงประกาศขายบนเว็บไซต์ได้โดยเร็วที่สุด”
เมิ่งเชียนงุนงง “?”
ซูเถาไม่ได้สนใจท่าทางงุนงงของเธอ และกล่าวต่ออย่างรวดเร็ว
“ตอนนี้มีพื้นที่ไม่เพียงพอ เราเลยขายได้แค่ยี่สิบห้องก่อน หลังจากลงประกาศขายต้องมีผู้คนมากมายมาแย่งชิงกันแน่นอน เหนื่อยหน่อยนะ”
เมิ่งเชียนกลับมามีสติ “ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ แต่เถ้าแก่… เราจะทำสงครามกันเหรอ”
คราวนี้เป็นตาของซูเถาที่ต้องตกตะลึง “ทำไมฉันไม่รู้ว่ากำลังจะมีสงคราม”
เมิ่งเชียนตกตะลึงตามไปด้วย “อวี๋ผอผ่อฝากฉันมาบอกคุณว่า ให้ซื้ออาวุธเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงครามที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อไว้ กัปตันต้วนยังบอกด้วยว่าเขาจะช่วยเราต่อสู้กับศัตรู”
ทันทีที่ซูเถาได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เหล่าอวี๋ผอพูดก็เข้าใจได้ทันที
หญิงชราคนนี้ใช้ชีวิตเร่ร่อนมานานเกินไป หากเธอจะรู้สึกไม่ปลอดภัยตลอดเวลาก็เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้
ทว่าสิ่งที่เหล่าอวี๋ผอพูดนั้นล้วนถูกต้อง เถาหยางจำเป็นต้องซื้ออาวุธจำนวนหนึ่งเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับอันตรายต่าง ๆ จริง ๆ
“ในเวลาอันใกล้นี้จะยังไม่มีการทำสงครามใด ๆ แต่ในอนาคตมันอาจจะเกิดขึ้น ถ้าอาวุธไม่แพง ก็เอาเถอะ…” ซูเถากล่าว
ขณะที่กำลังคิดว่าจะซื้ออาวุธ จู่ ๆ เธอก็นึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นมา… มู่อั้นอั้น
ครั้งหนึ่งเธอเคยใช้มี๋อินเพื่อช่วยมู่อั้นอั้นควบคุมร่างกายของชวีจิ้งอวิ๋น และมู่อั้นอั้นก็บอกว่าอาวุธของถานหย่งถูกซ่อนอยู่ใต้เนินเขานอกชานเมืองเถาฉือเพื่อเป็นการตอบแทน
ที่นั่นไม่ได้มีเพียงแค่อาวุธเท่านั้น แต่ยังมีทองคำแท่งรวมถึงอัญมณีหายากอีกด้วย
“ฉันไม่ต้องการซื้ออาวุธใด ๆ สองทุ่มคืนนี้เรียกสวีฉี พ่อของเธอ เนี่ยซือป๋อ มู่อั้นอั้น และเมิ่งเสี่ยวป๋อให้มาประชุมที่อาคารเถาหลี่”
ถ้ามีของฟรีอยู่ แล้วจะไปเสียเงินซื้อทำไม!บราวนี่ออนไลน์
อะไรคว้าได้ก็คว้าเอาไว้ก่อน
เมิ่งเชียนพยักหน้าด้วยความสับสน หลังจากแจ้งทุกคนแล้ว เธอก็โพสต์ว่ามีห้องว่างยี่สิบห้องบนเว็บไซต์ทางการทันที
เนื่องจากห้องว่างมีจำนวนน้อยเกินไป ดังนั้นจึงถูกจองหมดทันทีที่เปิดตัวบนเว็บไซต์ โดยใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีด้วยซ้ำ
ทันทีหลังจากนั้น กล่องจดหมายของเมิ่งเชียนก็เต็มไปด้วยคำร้องเรียนทุกรูปแบบเนื่องจากผู้เช่าจองห้องพักไม่สำเร็จ
เมิ่งเชียนเปลี่ยนจากอารมณ์โกรธและตกใจในตอนแรกมาเป็นท่าทางนิ่งเฉยไม่แยแส และลบทุกอย่างลงถังขยะ
เธออดไม่ได้ที่จะคิดถึงพระราชวังแวร์ซายส์ บางทีการได้รับความนิยมจากผู้คนก็เป็นเรื่องที่น่าวิตกเช่นกัน
“มีอาวุธซ่อนอยู่ใต้เนินเขาของสถานีเก่าเหรอ?!” สวีฉีตกใจมาก
เขาเป็นคนเก่าคนแก่ที่อยู่ข้างถานหย่งมาโดยตลอด แต่เขาไม่เคยได้ยินว่าอีกฝ่ายซ่อนอาวุธเอาไว้
มี๋อู้และเนี่ยซือป๋อมองหน้ากัน ทั้งคู่รู้สึกประหลาดใจ เรื่องดังกล่าวยากที่จะเชื่อ
มู่อั้นอั้นเกือบจะสาบานกับท้องฟ้า “ฉัน ไม่สิ ในเวลานั้นชวีจิ้งอวิ๋นเป็นคนสนิทของถานหย่ง พวกคุณน่าจะรู้ว่าเขาหลงใหลในตัวชวีจิ้งอวิ๋นมากขนาดไหน ดังนั้นฉันก็เลยรู้ที่ซ่อนอาวุธ อย่างไรก็ตาม ฉันไม่รู้ว่าถานหย่งปล้นอาวุธเหล่านั้นมาจากไหน และด้วยเหตุผลบางอย่างเขาไม่เคยกล้าใช้มันและทำได้แค่ซ่อนเอาไว้”
“ทำไมเขาถึงไม่กล้าใช้มัน” สวีฉีถามเธอ
“แม้ว่าฉันจะซุ่มอยู่ในร่างของเธอ แต่ฉันไม่ได้ตื่นตลอดเวลา ตอนนี้ฉันไม่มีความจำเป็นต้องซ่อนมันอีกต่อไป ฉันสาบานว่าได้บอกทุกอย่างที่รู้ไปหมดแล้ว” มู่อั้นอั้นส่ายหัว
“เอาล่ะ พรุ่งนี้ไปดูแล้วหาคำตอบกัน” ซูเถาโบกมือ
ทุกคนเห็นด้วย
ตกกลางคืน เฉินเทียนเจียวยังอยู่ในศูนย์พยาบาลตงหยาง ในขณะที่เขาดื่มเหล้า เขาก็พร่ำพูดกับร่างที่อยู่ในตู้กระจก
“เหล่าต้า ผมว่าเถ้าแก่ซูจะสามารถยึดครองตงหยางได้อย่างสมบูรณ์ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีแน่นอน เมื่อคุณตื่นขึ้น เราทุกคนจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอ”
“แต่ว่าไม่ได้นะ การที่เถ้าแก่ซูทำงานใหญ่ครั้งนี้มีประโยชน์มากมาย พวกเรากองทัพบุกเบิกที่มีภรรยาและลูก ก็สามารถส่งเข้าไปในศูนย์ส่งเสริมแม่และเด็กได้ ตอนนี้พวกเรากำลังพยายามกันอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะไม่มีคุณอยู่ในฐานะกัปตันที่ออกล่าซอมบี้เพื่อให้ได้ผลึกนิวเคลียส แต่ประสิทธิภาพของเถาหยางก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเมื่อก่อน ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล”
“อ้อ แล้วก็ทุกคนอยู่สุขสบายดี มีแค่คุณนั่นแหละที่ไม่ดี ผมได้ยินมาว่าคู่แข่งของคุณคือชายหนุ่มผมสีเหลืองแซ่เหลย เขาบุกไปที่บ้านตระกูลฉู่และสร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่เลยล่ะ เขาอยากจะจับฉู่หมิงให้มาขอโทษเถ้าแก่ซู ผมจะบอกให้นะไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ประทับใจกับการกระทำเหล่านี้หรอก”
“ไหนจะกู้หมิงฉือในเขตตะวันออกอีก เห็นแก่คุณ ในฐานะที่เป็นหัวหน้า ผมบอกได้เลยว่าเขาคนนี้กำลังวางแผนมัดใจเถ้าแก่ซูอยู่ ผมเดาว่าถ้าเขารู้ว่าเถ้าแก่ซูกลับมาแล้ว เขาต้องโผล่หน้ามาแน่ ๆ เหล่าต้า คุณตายไม่ถูกเวลาเลยจริง ๆ ยังไม่ทันจะจีบพี่สะใภ้ติดก็ตายซะแล้ว แบบนี้ก็เท่ากับเปิดโอกาสให้คู่แข่งทำคะแนนไม่ใช่เหรอ?”
เขาลืมตาขึ้นและเห็นว่าคนพูดคือเฉินเทียนเจียวจึงอดไม่ได้ที่จะเตะอีกฝ่าย
แต่ทันทีที่เขาเหยียดเท้าออก เขาก็ทำได้เพียงมองดูขาตนเองผ่านร่างของเฉินเทียนเจียวไปอย่างช่วยไม่ได้
สือจื่อจิ้นตัวแข็งทื่อและกำลังประมวล ไม่สามารถบอกได้ว่ากำลังฝันหรือความจริง ทว่าเสียงของเฉินเทียนเจียวนั้นชัดเจนมาก และทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็เหมือนจริงสุด ๆ
ทันใดนั้นเอง ดวงตาของสือจื่อจิ้นก็เหลือบไปเห็นร่างในสารคงสภาพ และเห็นได้ชัดว่านั่นเป็นเขา!
เกิดอะไรขึ้น?
วิญญาณเขาออกจากร่างเหรอ?
เขามองไปที่เฉินเทียนเจียวที่ขณะนี้กำลังเมามาย และก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า ดูเหมือนเขาจะสามารถเข้าไปในร่างของเฉินเทียนเจียวและแทนที่วิญญาณของอีกฝ่ายได้!
ชั่วพริบตา เขาก็นึกได้ว่าตัวเองได้รับพลังวิเศษมา การถอดวิญญาณ…
เขาจำได้ว่าหลังจากสืบทอดความสามารถนี้มา ซูเถาก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนที่แตกต่างออกไป
นั่นเพราะวิญญาณนี้สามารถเข้าสิงร่างใครก็ได้ และเมื่อวิญญาณเขาเข้าไปในร่างใครก็ตาม เขาสามารถกลืนกินสติและความทรงจำของคนที่โดนสิงร่างได้ด้วย
แก่นแท้เป็นความสามารถที่ร้ายกาจมาก แต่เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่ามันสามารถทำให้วิญญาณของเขาแยกออกจากร่างได้หลังจากตายไปแล้ว…
ทันใดนั้น เฉินเทียนเจียวซึ่งกำลังดื่มอยู่ก็เหลือบไปเห็นสือจื่อจิ้นที่ยังไม่บุบสลาย เขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก
“เหล่าต้า ผมแค่พูดเล่น อย่าโกรธกันเลย คุณไม่จำเป็นต้องฟื้นคืนชีพเร็วขนาดนี้ก็ได้ พักผ่อนเถอะ”
สือจื่อจิ้นอยากจะตีอีกฝ่าย แต่เมื่อตระหนักได้ว่าตอนนี้เขาเป็นเพียง ‘วิญญาณ’ เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยเฉินเทียนเจียวไปก่อน
“นายได้ยินที่ฉันพูดไหม?”