ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 361 เถาหยางต้องการคนหนุ่มสาวแบบคุณ
ตอนที่ 361 เถาหยางต้องการคนหนุ่มสาวแบบคุณ
ตอนที่ 361 เถาหยางต้องการคนหนุ่มสาวแบบคุณ
หลังจากที่อู๋เจิ้นไปจัดการสิ่งที่เขาก่อขึ้นเรียบร้อยแล้ว
ตามที่เขาสัญญาไว้ พืชกินคนทั้งสองก็ค่อย ๆ ย่อตัวลง และกลายเป็นพืชกินแมลงธรรมดาทันทีที่ออกจาก ‘กรง’
อู๋เจิ้นถอนรากถอนโคนพวกมันและเขย่าให้ซูเถาดู “ไม่มีอะไรแล้วเถ้าแก่ซู เรียบร้อยแล้ว”
“ค่ะค่ะค่ะ เอาไปไกล ๆ ฉันหน่อย ไม่จำเป็นต้องใกล้ขนาดนั้นหรอก…ฉันขอให้ชีอวิ๋นหลันสร้างวงล้อมรอบเถาหยางให้คุณ คุณสามารถวางต้นไม้ในแนวนี้ได้” ซูเถาเอ่ย
เส้นเตือนที่ชีอวิ๋นหลันวาดไว้เป็นจุดสิ้นสุดของการตรวจสอบ และไม่ให้ใกล้เกินไปเพราะกลัวว่าจะทำร้ายผู้เช่าและผู้คนรอบ ๆ เถาหยางโดยไม่ตั้งใจ
ลั่วเหยียนยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียง และจู่ ๆ ก็ต้องหยุดสูบและเพ่งตาของเขามองไปในระยะไกล
ตัวอะไรใหญ่ ๆ เขียว ๆ แล้วยังส่ายไปมาได้อีก
ซอมบี้รูปแบบใหม่?
เขารู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย และรีบหยิบเครื่องสื่อสารออกมาเพื่อค้นหาสิ่งที่เกี่ยวข้อง แต่หลังจากค้นหาเป็นเวลานาน แม้แต่เครือข่ายของฉางจิงก็ไม่เห็นข่าวใด ๆ ที่เกี่ยวกับซอมบี้ชนิดใหม่
เขาเป็นคนแรกที่ค้นพบซอมบี้ชนิดใหม่โดยบังเอิญเหรอ?
ลั่วเหยียนรีบถ่ายรูปหลายสิบรูป และกำลังจะส่งไปให้ซูเถา เพื่อบอกให้เธอรีบเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ แต่เขาก็แอบได้ยินผู้เช่าสองคนที่ระเบียงข้าง ๆ แลกเปลี่ยนความคิดกันด้วยความประหลาดใจ
“มันคือพืชกินคน ฉันเห็นประกาศบนเครือข่ายของเรา เห็นบอกว่ามันคือ ‘พืชคุ้มกันเถาหยาง’ ที่ปลูกโดยหัวหน้าอู๋ มันกินทุกอย่าง อย่างเช่น หิน ไม้ โลหะ หรือแม้แต่ซอมบี้ หากมีศัตรูขนาดใหญ่เข้ามา พวกมันก็คือด่านแรกของการป้องกัน”
ผู้เช่าอีกรายได้เปิดเผยต่อสาธารณะหลังจากได้ยินสิ่งนี้ และพูดออกมาว่า “มีโดมป้องกันและ ‘พืชคุ้มกันเถาหยาง’ ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้สึกไม่ปลอดภัยอีกต่อไป แต่ประกาศยังบอกอีกว่า อย่าวิ่งไปที่วงล้อมถ้าไม่จำเป็น เพราะถ้าถูกพืชนี้กลืนกินเข้าไป ต้องไปขอให้หัวหน้าอู๋ช่วยชีวิต ซึ่งค่อนข้างน่าอาย”
……
ลั่วเหยียนวางเครื่องสื่อสารลงอย่างเงียบ ๆ
เขาไม่อยากจะเชื่อ จากนั้นก็ชะเง้อมองมันอีกครั้ง และพยายามมองเข้าไปในระยะไกล แต่พบว่ามันค่อย ๆ หายไปหลังจากนั้นไม่นาน
และเขาอดไม่ได้ที่จะชะโงกหน้าไปถามห้องข้าง ๆ “น้องชาย ๆ ทำไมพืชกินคนพวกนั้นถึงหายไปแล้ว?”
“คุณไม่ได้อ่านประกาศเหรอ” ผู้เช่าทั้งสองถามอย่างสงสัย
ลั่วเหยียนส่ายศีรษะเบา ๆ เมื่อเห็นว่าดวงตาของพวกเขาแสดงความหวาดระแวง ลั่วเหยียนจึงรีบอธิบายทันที
“…อย่าเข้าใจฉันผิด ฉันเป็นแขกของเถ้าแก่ซู ฉันจะอยู่ที่นี่แค่สองสามวันเท่านั้น แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเครือข่ายเพื่ออ่านประกาศ ฉันไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยนะ”
“อ๋อ แบบนี้เองเหรอ ตามประกาศ พืชกินคนจะโตได้ในทันทีเมื่อมันสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตที่เดินผ่าน ปกติแล้วมันจะคงอยู่ในสภาพของพืชกินแมลง มันมีขนาดเล็กมาก อยู่ไกลขนาดนี้มองไม่เห็นแน่นอน”
ลั่วเหยียนขอบคุณเขาและกลับไปที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะเริ่มเดินวนไปรอบ ๆ ห้องอย่างครุ่นคิด
เชียนอันก็ต้องการพืชชนิดนี้ที่มีพลังโจมตีรุนแรงและการอำพรางที่ดีเยี่ยม ที่สำคัญคือไม่มีค่าแรง
เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เห็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายที่เถาหยาง แต่ไม่รู้ว่าซูเถาจะเต็มใจแบ่งขายให้เขาหรือเปล่า
ซูเถาตกตะลึงเมื่อได้ยินว่าเขาต้องการซื้อพืชกินคน จากนั้นหันไปถามอู๋เจิ้น “พืชกินคนต้องอยู่ไม่ไกลจากคุณใช่ไหม”
อู๋เจิ้นพยักหน้าและพูดกับลั่วเหยียน
“ผมสามารถให้พืชกินคนที่มียีนดัดแปลงแก่คุณได้สองต้น แต่ถ้ามันอยู่ห่างจากผมมากเกินไป พวกมันก็จะแยกไม่ออกจากกัน… ถ้าคุณไม่กังวลว่ามันจะทำร้ายคนของคุณโดยไม่ตั้งใจ ก็สามารถนำกลับไปได้”
“…งั้นไม่เป็นไร” ลั่วเหยียนหดหู่เล็กน้อยบราวนี่ออนไลน์
ถ้าพวกมันกลืนกินซอมบี้อย่างเดียวก็ไม่เป็นไร แต่หากมันกลืนกินผู้ที่มีพลังวิเศษที่เขาทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวล่ะ เขาไม่อยากจะคิดถึงผลที่ตามมาเลย
เขามองไปที่ดวงตาของอู๋เจิ้นด้วยความอิจฉาและโหยหา
พรสวรรค์ที่ดีเช่นนี้… ไม่รู้ว่าเถาหยางไปเอามาจากไหน
อู๋เจิ้นขนลุกเมื่อเห็นสายตาของอีกฝ่าย และหาข้ออ้างที่จะปลีกตัวจากตรงนี้
“คุณต้องการทำอะไร” ซูเถาชำเลืองมองลั่วเหยียน
“ผมแค่รู้สึกว่าความสามารถของเถ้าแก่ซูในการเอาชนะผู้มีพรสวรรค์นั้นน่าอิจฉาจริง ๆ” ลั่วเหยียนโบกมือ
ซูเถาชี้ไปที่เวินม่านซึ่งกำลังคุยกับเซียวเหวินอวี้ในระยะไกล
“ฉันยังชื่นชมความสามารถของคุณลั่วเลยค่ะ ที่มีภรรยาทั้งสวยและจิตใจดีขนาดนี้ น่าอิจฉาจริง ๆ”
“…” ลั่วเหยียน
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าซูเถาเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เขาสงสัยจริง ๆ ว่าซูเถากำลังอยากได้ภรรยาของเขาหรือเปล่า!
ในเวลานี้ เซียวเหวินอวี้ก็เปล่งเสียงขึ้น “เถ้าแก่ซู เริ่มการก่อสร้างได้เลยค่ะ ฉันพร้อมแล้ว!”
……
ขณะที่อู๋เจิ้นเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็ถูกเหล่าอวี๋ผอหยุดเอาไว้
เขาคิดว่าเหล่าอวี๋ผอมาที่นี่เพื่อให้ความรู้แก่เขาเกี่ยวกับปัญหาที่ตนเองเพิ่งก่อขึ้น
เนื่องจากช่วงนี้ พนักงานหลายคนของเถาหยางได้รับความรู้จากเธอ เพื่อที่พวกเขาจะได้ทุ่มเททำงานอย่างหนัก และร่วมกันสร้างเถาหยางให้ดีขึ้น พร้อมกับเตรียมการอย่างเต็มที่ที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูที่ไม่รู้จัก…
เธอพูดอย่างจริงจังจนทุกคนประหม่าเล็กน้อย ราวกับว่าเธอเป็นอาจารย์ใหญ่ในโรงเรียน
“อวี๋ผอผ่อ…ผมผิดไปแล้ว!” อู๋เจิ้นยอมรับความผิดพลาดของตนเองทันที
เหล่าอวี๋ผอมองเขาแปลก ๆ
“ฉันไม่ได้ว่าอะไรคุณ แต่ฉันขอถามคุณหน่อย พืชกินคนที่อยู่ข้างนอกสามารถป้องกันอาณาเขตจากศัตรูจริงเหรอ”
“ใช่ครับ” อู๋เจิ้นตกตะลึงไปครู่หนึ่งและตอบทันที
“แน่ใจนะ?”
“ครับ ผมรับประกันได้ว่าถ้าพวกมันไม่ถูกโจมตี มันก็จะไม่ตายง่าย ๆ แต่แน่นอนว่าหากมันได้รับความเสียหายอย่างหนัก ตราบใดที่มีรากหลงเหลืออยู่ พวกมันก็จะเติบโตขึ้นมาใหม่ได้”
เหล่าอวี๋ผอเงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นก็ตบไหล่เขาอย่างแรง
“เถาหยาง ต้องการคนหนุ่มสาวแบบคุณ ทำงานหนักต่อไปนะ!”
หลังจากพูดคุยเสร็จ เธอก็มองไปในระยะไกล แม้ว่าท้องฟ้าจะมืดแล้ว แต่ดูเหมือนเธอจะเห็นแสงแห่งรุ่งอรุณ
————————-