ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 362 คนมีเงิน
ตอนที่ 362 คนมีเงิน
ตอนที่ 362 คนมีเงิน
แบบร่างที่เซียวเหวินอวี้มอบให้เธอนั้นค่อนข้างซับซ้อน มันเป็นบ้านที่มีทั้งหมด 4 ชั้น แบ่งเป็นบ้าน 3 ชั้นและชั้นใต้ดิน 1 ชั้น นอกจากห้องนั่งเล่น ห้องนอน สนามหญ้า โรงจอดรถ ห้องน้ำ ฯลฯ ที่เธอคุ้นเคยแล้ว แต่ยังมีห้องอีกสองสามห้องที่เธอไม่เข้าใจว่ามันมีไว้เพื่ออะไร
แต่เมื่อมีพิมพ์เขียวแบบนี้แล้ว เธอก็จะอัปโหลดไปยังระบบโดยตรง และเริ่มโหมดการก่อสร้างอัตโนมัติ หลังจากนั้นไม่นาน แรงสั่นสะเทือนก็เกิดขึ้นใต้เท้า และวิลล่าทันสมัยหลังหนึ่งก็ลอยขึ้นมาจากพื้น
แม้จะยังไม่ได้เข้าไปชมภายใน เพียงแค่มองรูปร่างโดยรวมก็สัมผัสได้ถึงความงดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะสระว่ายน้ำแบบลอยโปร่งใสที่อยู่ระหว่างชั้น 2 และ 3 และผนังสระที่ทำจากกระจกนิรภัยใส
ซูเถามีความรู้เพียงเล็กน้อย เธอไม่เคยคิดว่าสระว่ายน้ำสามารถสร้างขึ้นชั้นบนได้ เมื่อมองสระว่ายน้ำนี้จากระยะไกล ดูเหมือนอัญมณีทรงสี่เหลี่ยมที่ส่องประกายระยิบระยับท่ามกลางแสงของดวงอาทิตย์
คนรวยช่างคิดและชอบเล่นสนุกกับมันจริง ๆ
เซียวเหวินอวี้รีบวิ่งไปดู และรู้สึกประหลาดใจที่เห็นสระว่ายน้ำบนชั้นสองของเธอ
“สวยกว่าที่คิดไว้นะ ม่านม่านพรุ่งนี้ตอนเที่ยงไปว่ายน้ำกันเถอะ เราทำซาวเข่ากันที่สนามชั้นล่าง แล้วก็นอนเอนกายบนเก้าอี้เอนหลังแบบเป่าลม กินไปเล่นน้ำไป ชวนเถ้าแก่ซูมาด้วยอีกคน”
เวินม่านอ้าปากค้างและมองไปที่สระว่ายน้ำอย่างไม่สามารถละสายตาได้
“ทำไมคุณไม่สร้างแบบนี้ที่บ้านล่ะ” เธอหันไปมองลั่วเหยียน
ลั่วเหยียนแสดงสีหน้ามึนงง “เหล่าผอ*[1] ผมจะไปหาทีมงานที่สามารถก่อสร้างสระว่ายน้ำลอยฟ้าได้ที่ไหน และถึงแม้ว่าผมจะหาได้ ผมก็ยังต้องหาวัสดุก่อสร้างอีก อีกอย่าง สระว่ายน้ำกลางแจ้ง หากลงว่ายน้ำในวันที่อากาศร้อนจัด ผิวจะลอกเป็นขุยเอานะ”
อีกสิ่งหนึ่งที่เขาไม่ได้พูดคือเชียนอันไม่มีน้ำมากพอที่จะกักเก็บน้ำสำหรับสระว่ายน้ำ
มันมีราคาสูงมาก
มีเพียงเถาหยางเท่านั้นที่ไม่รู้สึกแย่กับค่าน้ำและค่าไฟ เขาพบว่าตอนเขาย้ายเข้ามาในห้องพักแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นเมื่อวานนี้ว่า เขาสามารถใช้น้ำและไฟฟ้าแบบสบาย ๆ ตามที่ผู้เช่ารายอื่น ๆ ระบุว่าค่าใช้จ่ายยังคงต่ำมาก
ดังนั้นสระว่ายน้ำแบบเปิดโล่งจึงทำได้เฉพาะในเถาหยางเท่านั้น
นอกจากนี้ความสามารถในการทำให้อาคารสูงขึ้นจากพื้นดินทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ซูเถาอีกหลายครั้ง และความรู้สึกที่คล้ายคลึงกันเกาะกินหัวใจเขาอีกครั้ง
เวินม่านคิดถึงเรื่องนี้และรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
“ไม่เห็นยากเลย? ถ้าเธออยากมาว่ายน้ำก็มาได้ทุกเมื่อ ยังไงพวกคุณก็มีเครื่องบินส่วนตัวอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าว่างก็มาอยู่กับฉันสักพักก็ได้” เซียวเหวินอวี้โบกมือ
ลั่วเหยียนจ้องมองไปที่อีกฝ่าย ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ยุยงภรรยาของเขาให้อยู่ไม่ติดบ้านใช่ไหม?
เซียวเหวินอวี้ไม่สนใจเขาและพูดเชิญชวนทุกคน “ไปกันเถอะ เข้าไปดูข้างในกัน”
ทันทีที่พูดจบ รถบรรทุกขนาดใหญ่สี่หรือห้าคันก็หยุดที่ประตูวิลล่าทันที คนงานยี่สิบคนลงจากรถบรรทุก พร้อมสิ่งของขนาดใหญ่ที่ห่อด้วยกระดาษโฟมก็เคลื่อนลงมาทีละชิ้น
เซียวเหวินอวี้รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง “เร็วเข้า รีบย้ายเข้าไป และจัดวางตามแบบที่ฉันแพลนเอาไว้ได้เลย”
“มันคืออะไรเหรอ” ซูเถาและเวินม่านถามพร้อมกัน
วันนี้เซียวเหวินอวี้มีความสุขมาก ทุกประโยคที่เธอเปล่งออกมานั้นเต็มไปด้วยความสุขราวกับจะโบยบิน
“ฉันย้ายของส่วนตัวของฉันออกมาจากบ้านตระกูลเซียวทั้งหมด อีกอย่างฉันได้ไหว้วานให้คนซื้อของดี ๆ มาด้วย เดี๋ยวพวกคุณก็จะได้เห็น มาค่ะ ไปดูที่โรงรถของฉันก่อน”
เธอเดินไปที่ประตูเหล็กม้วนซึ่งอยู่ติดกับประตูของวิลล่า ก่อนกดสวิตช์ด้านข้าง ไม่นานประตูม้วนก็เลื่อนขึ้น เผยให้เห็นโรงรถที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับจอดรถสองคัน
“ไม่เลวเลยนะ แต่ฉันจำได้ว่าเธอมีรถหลายคัน เฮลิคอปเตอร์หนึ่งลำ ไหนจะเรือยอร์ชอีกสองลำ แค่นี้ไม่พอหรอก” เวินม่านพยักหน้า
เซียวเหวินอวี้โบกมืออย่างไม่เป็นกังวล “ฉันเก็บไว้แค่รถคันโปรดของฉันสองคัน ที่เหลือฉันก็ยกให้คนอื่นไปหมดแล้ว เพราะหากว่ามีมากเกินจะลำบากเอาได้ หาที่จัดเก็บไม่ค่อยสะดวก”
“…” ในขณะที่ซูเถาเหลือเพียงรถบ้านแค่คันเดียว กับรถจี๊ปที่พังแล้ว
หลังจากนั้นเหวินอวี้ก็ขึ้นบันไดไปเปิดประตูบ้าน พอเข้าไปก็จะเจอห้องนั่งเล่นที่กว้างขวางและเรียบง่าย เมื่อเดินเข้าไปด้านในอีก ก็จะเจอกับห้องครัวและห้องทานอาหาร แสงดีมากอีกด้วย ดูแล้วสบายตา สดใสและบรรยากาศดีมาก
มีประตูอยู่ขวามือ พอเปิดออกไปก็จะเจอลานกว้างกว่า 80 ตารางเมตร มีหลังคากระจกโปร่งแสงด้านบน ซึ่งบริเวณภายนอกไม่ได้มีแค่เก้าอี้นั่งทานอาหารเท่านั้น แต่ยังมีเตาอบที่สะดุดตาอีกด้วย
เห็นได้ชัดว่าเตานี้ไม่ได้มาจากร้านระบบซูเถา แต่คนงานเพิ่งนำออกมาจากรถ
เซียวเหวินอวี้ตบเตา เสียงดังปัง ปัง ปัง “นี่คือเตาอเนกประสงค์ สูงจากพื้นจรดเพดาน ไม่เพียงแต่ย่างบนตะแกรงได้เท่านั้น แต่ยังสามารถทำกระทะร้อนหรือนาบบนแผ่นเหล็กได้อีกด้วย ซึ่งในตอนกลางคืนเราสามารถปิ้งย่างตรงนี้และนำขึ้นไปกินบนชั้น หรือกินไปย่างไปในสวนนี้ก็ได้ มีปลั๊กอยู่ตรงนี้เพื่อต่อกับหม้อไฟฟ้า พร้อมนึ่งผักและเนื้อร้อน ๆ เป็นเหมือนแผงขายอาหารก่อนวันสิ้นโลก”
ทั้งเวินม่านและซูเถาต่างก็ตกตะลึง
เซียวเหวินอวี้ชี้ไปที่ประตูข้างกำแพงในลานและแอบกระซิบว่า “ส่วนประตูนี้นำไปสู่ชั้นใต้ดิน ไว้ฉันจะพาไปดูในตอนท้าย เดี๋ยวฉันจะพาไปดูรอบ ๆ ก่อน เริ่มที่ชั้นสองล่ะกัน”
วิลล่านี้ยังมีลิฟต์ซึ่งอยู่ตรงทางแยกระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร
ทุกคนทยอยขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนอย่างช้า ๆ เซียวเหวินอวี้ออกมาจากลิฟท์เป็นคนแรก เธอผลักประตูห้องออกอย่างมีความสุข “นี่คือห้องของฉันเอง ฉันหารือเรื่องการออกแบบกับผู้อาวุโสเหม่ยอยู่นาน และในที่สุดก็ตัดสินใจทำห้องแต่งตัว ห้องทำงาน พื้นที่พักผ่อน และห้องนอน เพื่อสร้างเป็นห้องขนาดใหญ่แล้วรวมทุกอย่างไว้ด้วยกัน ดูสิมันกว้างมาก”
ซูเถาเข้าไปดูข้างในและพบว่ามันกว้างขวางและดูสบายมากจริง ๆ เมื่อเข้าประตูไป จะมีตู้เล็ก ๆ สองแถวเป็นฉากกั้น ซึ่งมีเครื่องชงกาแฟ ตู้กดน้ำ แก้วน้ำ และขวดน้ำดื่มจำนวนหนึ่ง
ด้านหลังมีโต๊ะกลมเล็ก ๆ วางตระหง่านอยู่ และเก้าอี้ปรับเอนได้ ซึ่งเก้าอี้ปรับเอนอยู่ติดกับหน้าต่างซึ่งสูงจากพื้นจรดเพดาน
เซียวเหวินอวี้นอนอยู่บนนั้นเหยียดมือและเท้าออก “ในพื้นที่พักผ่อน ฉันต้องการมุมอ่านหนังสือ มุมดื่มกาแฟและชาเพื่อใช้สำหรับการพักผ่อน แล้วเวลาฉันง่วงก็จะมีเตียงอยู่ข้างหลังฉัน”
เธอลุกขึ้นไปสองก้าวแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงใหญ่ด้านหลัง จากนั้นก็ลุกขึ้นนั่งอีกครั้งหลังจากกลิ้งไปสองครั้ง พร้อมกับเดินไปตบตู้ที่อยู่ถัดจากเตียงนอน
“อ้อ แล้วด้านนี้ก็คือตู้เก็บของ ไว้เก็บของใช้ต่าง ๆ ในห้อง จะได้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย”
จังหวะนี้คนงานเข้ามาพร้อมกล่องเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และเหล่าป้าคนงานหลายคนเริ่มแกะกล่องจัดระเบียบทีละใบใส่ตู้
ซูเถาจ้องมองอย่างว่างเปล่า มีคนหลายคนช่วยกันทำความสะอาด… นี่คงเป็นชีวิตที่มีความสุขของคนรวยสินะ
เวินม่านอิจฉาเลย์เอาต์ของห้องส่วนตัวเหวินอวี้ มันกว้างขวางและสวยงามจริง ๆ
นอกจากนี้ยังมีห้องทำงานแบบเปิดข้าง ๆ ซึ่งมีโต๊ะและเก้าอี้สีโทนอุ่นและชั้นหนังสือสูงจากพื้นจรดเพดานซึ่งเธอเป็นคนออกแบบเอง
เธอเคยคิดว่าตนเองนั้นอาศัยอยู่ในที่ที่ดีแล้ว แต่เมื่อเทียบกับเซียวเหวินอวี้ มันคงเป็นความรู้สึกที่ดีที่สามารถออกแบบบ้านและตกแต่งทุกมุมของห้องได้ด้วยตัวเอง
เซียวเหวินอวี้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “มันอาจดูงี่เง่าหน่อยนะ แต่ยังมีประตูอีกบานที่พวกคุณอาจไม่ทันสังเกตเห็น ฮ่าฮ่าฮ่า”
ขณะที่เธอพูด เธอเปิดม่านที่ทางแยกของห้องแต่งตัวและห้องทำงาน เผยให้เห็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่
เวินม่านประหลาดใจ “ฉันคิดว่ามันเป็นแค่หน้าต่าง ขอดูหน่อยนะ”
ระเบียงมีขนาดประมาณ 40 ตารางเมตร และแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ทางด้านซ้ายมีโซฟา โต๊ะกาแฟ และร่มบังแดด
เซียวเหวินอวี้หยิบกล่องสองสามกล่องออกมาจากใต้โต๊ะกาแฟ “มานั่งเล่นบอร์ดเกมที่นี่ก็ไม่เลวจริงไหม”
เวินม่านเดินไปดูอย่างมีความสุข “ดีมากเลย เธอเตรียมไว้หลายเกมเลยเหรอ นักฆ่าสามก๊ก นักฆ่ามนุษย์หมาป่า และเกมเศรษฐี…”
“?” ซูเถาผู้มีความรู้น้อยไม่เข้าใจ
ฆ่าอะไร? ฆ่าใคร? มันน่าตื่นเต้นที่จะเล่นขนาดนั้นเลยเหรอ?
“เสี่ยวเถาจื่อ คืนนี้มาเล่นด้วยกันสิ” เซียวเหวินอวี้เรียกเธอ
ซูเถาพูดอย่างตรงไปตรงมา “ฉันไม่รู้วิธีเล่น ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน”
ในที่สุดลั่วเหยียนก็พบจังหวะที่จะแทรก “เป็นบอร์ดเกมแบบผู้เล่นหลายคนก่อนวันสิ้นโลก”
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนวันสิ้นโลก เพราะส่วนใหญ่แล้วข้อมูลที่เธอรู้ เธอก็ฟังมาจากผู้อาวุโสเหม่ยและชายชรากู้
เซียวเหวินอวี้และเวินม่านดึงเธอขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น “มามามา คืนนี้อยู่เล่นด้วยกันนะ เราจะสอนคุณเอง มันง่ายมาก คุณเป็นคนฉลาด และคุณจะเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็วแน่นอน”
ชีวิตในคืนนั้นของซูเถาได้รับการจัดการโดยพวกเธอ “มันดึกแล้ว เถาจื่อ คุณกับม่านม่านสามารถพักอยู่ห้องรับรองข้าง ๆ ได้ จะได้ไม่ต้องกลับไปตอนกลางคืน”
“…แล้วผมล่ะ?” ลั่วเหยียน
“คุณกลับไปเถาหยางก่อน ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง” เวินม่านพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้น
ทางด้านขวาของระเบียงเป็นห้องซักรีดที่มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าครบครัน แม่บ้านของเธอเอาเครื่องดูดฝุ่นทุกชนิด และเครื่องกำจัดไรฝุ่นเข้ามาแขวนไว้แล้ว
เซียวเหวินอวี้กล่าวว่า “วิลล่านี้ต้องการแม่บ้านอย่างน้อยสามคน ฉันเลยไปที่ตงหยางเพื่อหาคนที่เหมาะสมมาทำงานด้วยกัน”
ซูเถา “….” เธอไม่กล้าคิดจะหาป้าแม่บ้านสามคนมารับใช้เธอ
และชั้นสามของวิลล่าเป็นห้องออกกำลังกาย!
สิ่งของส่วนใหญ่ที่นี่ถูกนำเข้ามาโดยเซียวเหวินอวี้เอง
มีลู่วิ่ง เครื่องยกน้ำหนัก ถุงกระสอบทราย ดัมเบล และแม้กระทั่งทีวีติดผนังให้ดูในขณะที่ออกกำลังกาย
เมื่อเดินเข้าประตูแล้วตรงไปสุดทางมีเก้าอี้นวดไฟฟ้าและเก้าอี้ปรับเอนนอนให้มาเพื่อนวดคลายเมื่อยได้
หรือนอนลงบนเตียงข้าง ๆ แล้วให้ป้ามานวดให้ก็ได้ หลังการนวดก็สวมชุดคลุมอาบน้ำ เลี้ยวไปตรงมุมห้อง แล้วเปิดประตูกระจกเพื่อไปยังสระว่ายน้ำกลางแจ้ง
ซูเถายืนอยู่ข้างสระว่ายน้ำ มองดูเก้าอี้เป่าลมเล็ก ๆ ที่ลอยอยู่บนน้ำ และรู้สึกทึ้งเล็กน้อย
เธอคิดว่าเถาหยางค่อนข้างฟุ่มเฟือยอยู่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับหญิงสาวที่ร่ำรวยจริง ๆ อย่างเซียวเหวินอวี้ มันก็สอนบทเรียนให้เธอเช่นเดียวกัน
เวินม่านไม่ได้ดีไปกว่าซูเถามากนัก เธอสัมผัสน้ำอุ่นในสระ ความอิจฉาแทบจะทะลักออกมาจากดวงตา
พ่อของเธอไม่รวยเท่าพ่อของเซียวเหวินอวี้ ถึงเขาจะมีฐานะ แต่เขาไม่เคยสอนให้เธอเป็นคนฟุ่มเฟือย
แต่ตอนนี้เธอใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย และสามีของเธอก็คุ้นเคยกับมันหลังจากที่เราแต่งงานกัน
เหวินอวี้ทำให้เธอรู้สึกอิจฉาชีวิตอันสุขสบายนี้
อย่างไรก็ตาม จุดสำคัญของบทเรียนนี้ยังคงอยู่ที่ชั้นแรก
เมื่อลงไปที่ลานด้านล่าง ฉากที่สะดุดตาคือโรงหนังส่วนตัวที่อยู่ข้างหน้า!
ตอนที่ซูเถาดูแบบวิศวกรรม เธอก็ยังสับสนเล็กน้อยว่าทำไมเซียวเหวินอวี้ต้องวางทีวีขนาดใหญ่แบบนี้ไว้ที่ชั้นหนึ่งด้วย
คิดไม่ถึงว่าหน้าจอขนาดใหญ่นี้ ทำให้คนดูตัวเล็กลงทันที
“เหวินอวี้ ชีวิตเธอน่าอิจฉามาก” เวินม่านก็อ้าปากค้าง
“ฉันเรียนรู้ทั้งหมดจากพ่อของฉัน เขาเป็นคนมีเงิน ร่ำรวยเงินทองมาครึ่งชีวิตก่อนวันสิ้นโลก เขามักจะบอกเราว่าเขาชอบความฟุ่มเฟือยก่อนวันสิ้นโลก สิ่งที่เขาพูดนั้นน่าทึ่ง ดังนั้นพวกเราพี่น้องก็เลยติดนิสัยนั้นมา นอกเหนือจากนั้นฉันก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรมาจากเขามากนักหรอก” เซียวเหวินอวี้ยักไหล่
“ตามมาทางนี้ มีอีกประตูบานหนึ่งอยู่ที่นี่ พวกคุณต้องนึกไม่ถึงแน่ ๆ”
[1] เหล่าผอ (老婆) แปลว่า ภรรยา
————————-