ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 365 คำสั่งซื้อครั้งใหญ่
ตอนที่ 365 คำสั่งซื้อครั้งใหญ่
ตอนที่ 365 คำสั่งซื้อครั้งใหญ่
เมื่อซูเถาได้รับผลึกนิวเคลียสห้าถุง เธอก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย
เธอคำนวณอย่างรวดเร็วในใจว่าผลึกนิวเคลียส 1,050 อันบวกกับผลึกนิวเคลียส 200 อันที่ถูกใช้ไปก่อนหน้านี้นั้นเพียงพอสำหรับครอบคลุมเขตซีซานทั้งหมด
แผนเดิมจะใช้เวลาครึ่งปีถึงจะหาได้เพียงพอกับความต้องการ แต่นี่ผ่านไปไม่ถึงครึ่งเดือน…
คนชายฝั่งและหมู่เกาะรวยขนาดนั้นเลยเหรอ?
ก่อนที่ซูเถาจะได้ถามอะไร ตัวแทนชายฝั่งก็สารภาพว่าการเดินทางตามหาเถาหยางเหมือนการหาเมล็ดถั่ว
มันหวานอมขมกลืนจริง ๆ
ตามคำอธิบาย ชายฝั่งและหมู่เกาะเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างน่าประหลาดใจ ฐานต่าง ๆ ต่างก็เป็นอิสระ แต่มีมิตรภาพที่แน่นแฟ้นตามแนวชายฝั่ง
หากฐานของใครก็ตามถูกซอมบี้โจมตี ฐานทัพ 5-6 ฐานที่อยู่รอบ ๆ จะเข้าไปสนับสนุนจนกว่าการโจมตีของซอมบี้จะหยุดลง
เนื่องจากความขัดแย้งภายในน้อย และมีการสนับสนุนซึ่งกันและกันที่เหนียวแน่น ฐานมากกว่า 30 แห่งตามแนวชายฝั่งจึงค่อย ๆ พัฒนาผลประโยชน์ร่วมกัน และเมื่อมีจำนวนซอมบี้ที่ถูกฆ่าตายมากขึ้นเรื่อย ๆ ความมั่งคั่งที่สะสมก็เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ชายฝั่งอยู่ค่อนข้างห่างไกล ที่ดินไม่เหมาะสำหรับการเพาะปลูก และทรัพยากรอาหารและน้ำจืดก็ค่อนข้างหายาก
ทีมขนส่งและกองคาราวานจากทางเหนือและใต้เอาเปรียบพวกเขาราวกับเป็นเหยื่อ และต้องการแลกผลึกนิวเคลียสกับทุกสิ่งที่พวกเขาซื้อ
มีแม้กระทั่งช่วงหนึ่งที่ขอผลึกนิวเคลียสหนึ่งอันเพื่อแลกกับน้ำห้าขวดเท่านั้น
ผู้คนตามชายฝั่งไม่สามารถอยู่เฉยได้ และหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ว่าครอบครัวของพวกเขาจะร่ำรวยเพียงใด พวกเขาก็จ่ายไม่ไหว และทรัพย์สินจะต้องหมดลงสักวัน
ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจก่อตั้งขบวนรถด้วยตัวเองโดยวางแผนที่จะเดินทางลึกเข้าไปยังพื้นที่ชั้นในเพื่อค้นหาซัพพลายเออร์ที่ขายเสบียงให้ในราคาที่เหมาะสม
จนกระทั่งทีมค้นหาได้มาค้นพบเกี่ยวกับการมีอยู่ของเถาหยาง
เมื่อต้นเดือนตุลา ตัวแทนจากชายฝั่งได้ตรงไปที่เถาหยางเพื่อตรวจสอบสถานการณ์
และเพื่อที่จะซื้อเสบียงให้เร็วที่สุด ขั้นแรกได้เตรียมค่าธรรมเนียมการเป็นสมาชิกเอาไว้ และเมื่อสิ่งที่ได้รับรู้มาเป็นเรื่องจริง ก็จะทำการสั่งซื้อทันที ณ จุดนั้น และส่งกลับไปที่ชายฝั่งโดยเร็วที่สุด
ตัวแทนหวังผู้ซึ่งแบกรับความหวังของทั้งหมู่บ้านเป็นผู้บอกเล่าเรื่องนี้ เขาถามซูเถาและหลินฟางจืออย่างเป็นห่วง “ฐานของคุณขายเสบียงอยู่ตลอดหรือเปล่า”
ถ้าไม่ขาย น้ำตาคนชายฝั่งจะท่วมทะเล
ซูเถาเพิกเฉยต่อสิ่งที่เขาเรียกเถาหยางว่า ‘ฐาน’
มันไม่ใช่พื้นที่ชุมชนด้วยซ้ำ เธออายเกินกว่าจะชี้แจงความเข้าใจผิดนี้ เธอจึงต้องแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน
วันหนึ่งเถาหยางจะสมัครเพื่อรับคุณสมบัติพื้นฐานให้ได้!
สำหรับการขายเสบียงตลอดเวลานั้น…เธอไม่กล้ารับประกัน แต่เธอยังคงคิดถึงวันที่เธอจะหาเงินและผลึกนิวเคลียสได้เพียงพอ เพราะเธออยากจะปิดกิจการไประยะหนึ่ง
นอกจากนี้ เธอวางแผนที่จะให้ฟางจือและกลุ่มพนักงานของเธอได้พักผ่อนช่วงสั้น ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้
หลังจากทำตัวชี้วัดหรือ KPI เสร็จแล้ว พวกเขาต้องผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ
ซูเถากล่าวอย่างจริงจัง “ตอนนี้มันจะขายได้ตลอดเวลา แต่ฉันไม่สามารถรับประกันได้ว่าใน 2-3 ปีข้างหน้า สิบปีข้างหน้า หรือแม้แต่ร้อยปีข้างหน้านี้จะเกิดอะไรขึ้น เพราะในวันสิ้นโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน”
เมื่อตัวแทนหวังได้ยินสิ่งนี้ ก็เกิดความรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที
ผู้จัดหาเสบียงที่ดีแบบนี้หาได้ยาก ดูเหมือนว่าเขาต้องส่งข้อความกลับไปเพื่อเรียกร้องให้ทุกฐานซื้อเพิ่มในคราวเดียว บางทีสักวันหนึ่งสิ่งเหล่านี้จะหายไป
ดังนั้น ในวันถัดไปหลังจากการสนทนาจบลง ตัวแทนหวังและผู้ช่วยของเขาก็มาพร้อมกับรายการสั่งซื้อที่ยาวเหยียด
เมื่อหลินฟางจือเห็นปริมาณเสบียงในนั้น เขาก็หน้ามืด
โดยปกติแล้วการแจกจ่ายจะยุ่งมาก และเขาต้องตื่นนอนตอนตี 5 เพื่อเริ่มเตรียมการให้ทุกคน
ด้วยคำสั่งที่มากมายขนาดนี้ เขาจะหลับลงได้ยังไง?
เขายังไม่มีเวลาได้ฟังคำอธิบายของพลตรีสือด้วยซ้ำ
หลินฟางจือมองไปที่ตัวแทนหวัง และผู้ช่วยของเขาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร
ทั้งสองพูดทันที “เรารู้ว่าการซื้อมีจำนวนจำกัด ไม่เป็นไร เราจะชำระส่วนที่เกินด้วยผลึกนิวเคลียสหรือเพิ่มเงินเป็นสองเท่า ขอแค่ทางคุณคิดมาว่าต้องการเท่าไหร่”
หลินฟางจือเงียบไปสักพัก จากนั้นก็หันหลังและจากไป
ธุรกิจเถาฉือนั้นยุ่งมาก ซึ่งซูเถาเองก็แทบจะไม่ได้นอนเหมือนกัน
หลังจากที่เข้าจัดการเขตซีซานได้แล้ว ก็จะต้องเข้าสู่ขั้นตอนของการก่อสร้างครั้งใหญ่
นอกจากนี้ยังเป็นมูลค่าที่ต้องถูกกล่าวขวัญ เธอจำเป็นต้องสร้างฝาครอบป้องกันขนาด 125,000 ตารางเมตรและต้องใช้เงินจำนวนมาก โดยอดีตผู้นำกองทัพได้จัดสรรเงินก่อสร้าง 200 ล้านเหลียนปังให้เธอในคราวเดียว!
200 ล้านเหลียนปัง!
เมื่อเฉียนหรงหรงได้รับเงิน เธอก็คว้ามือเสี่ยวอวี๋ที่อยู่ข้าง ๆ อย่างตื่นเต้น “ช่วยนับหน่อยว่ามีศูนย์กี่ตัว นายงงไหม”
เสี่ยวอวี๋มองดูเธอที่จับมือเล็ก ๆ ของเขาเอาไว้ และไม่สามารถนับได้
เฉียนหรงหรงไม่ต้องการคำตอบจากเขาจริง ๆ ดังนั้นเธอจึงวิ่งไปหาซูเถาเหมือนลมพายุพัด “พี่เถาจื่อ จริงเหรอ? ทั้งหมดเป็นของเราเหรอ?”
ซูเถาผ่านความตื่นเต้นนั้นไปแล้ว
“แม้ว่าจะได้รับเงินจัดสรรไว้ 200 ล้านเหลียนปัง แต่ฉันก็อยากจะสร้างภูมิคุ้มกันไว้ให้เธอล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาสร้างโดมป้องกันสำหรับเขตซีซาน ฉันจะต้องใช้เงิน 125 ล้านเหลียนปังในคราวเดียว”
อดีตผู้นำกองทัพสุดยอดจริง ๆ เธอไม่รู้ว่ารายรับสองร้อยล้านเหลียนปังของตงหยางนั้นเก็บมานานแค่ไหน เธอคงไม่ได้ทำให้ทางนั้นหมดตัวหรอกนะ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอต้องดำเนินการก่อสร้างทันที เพื่อควบรวมเขตซีซานให้เสร็จโดยไม่ให้เสียพื้นที่แม้แต่ตารางเดียว
หัวหน้าเขตเซี่ยกับวิศวกรหลายคนจากเขตซีซานต้องทำงานอย่างหนัก
เนื่องจากเถาหยางรวบรวมผลึกนิวเคลียสเสร็จได้ก่อนกำหนด พวกเขาจึงยังวาดแบบร่างไม่เสร็จ ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่ทำงานล่วงเวลาและวาดต่ออย่างไม่ย่อท้อ
ตั้งแต่นั้นมา ทั้งเถาหยางและตงหยางก็เต็มไปด้วยบรรยากาศของการทำงานอย่างหนักและมุ่งมั่นที่จะก้าวหน้าต่อไป
เหล่าอวี๋ผอบอกว่าเหล็กให้ตีตอนร้อน เธอไม่เพียงแต่ปรับปรุงปืนพลังงานนิวเคลียสทั้งวันทั้งคืน แต่เธอยังบอกทุกคนที่เธอพบไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือผู้เช่าของเถาหยาง และกระตุ้นพวกเขาให้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ
ผู้เช่าในเถาหยางจริงจังมาก ทำให้เมื่อพวกเขาไปทำงานในตงหยางในช่วงกลางวัน ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มร้อย และสิ่งนี้ทำให้สือจื่อจิ้นใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยมากขึ้น
ในระหว่างวันเขาไม่เห็นซูเถาเลย และเมื่อเธอกลับมาในตอนกลางคืนก็หลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความเหนื่อยล้า
ถึงเขาจะได้เห็นเธอทุกวัน แต่เขาไม่สามารถพูดคุยอะไรกับเธอได้ ซึ่งทำให้เขารู้สึกถึงความยากลำบากของการอยู่ในที่ต่าง ๆ อย่างอธิบายไม่ได้
เนื่องจากในระหว่างวันเขาไม่ได้พูดกับใคร มันเลยน่าเบื่อมาก ดังนั้นเขาจึงริเริ่มที่จะไปหาหลินฟางจือ เพื่อที่เขาจะอธิบายสถานการณ์ของเขาให้หลินฟางจือฟัง
หลินฟางจือตอบรับ แต่เขาพูดคุยไปได้ไม่เท่าไหร่ เขาก็ผล็อยหลับไปและละเมอบางอย่างออกมา
“น้ำแร่ 20,000 ลัง ขนมปัง 7,000 ลัง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 12,000 ลัง … พังพินาศ”