ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 380 อย่าทำเหมือนคนไม่เคยเห็นโลก
ตอนที่ 380 อย่าทำเหมือนคนไม่เคยเห็นโลก
ตอนที่ 380 อย่าทำเหมือนคนไม่เคยเห็นโลก
“เถ้าแก่ซู นี่เท่ากับการได้พันธมิตรที่แข็งแกร่งเพิ่มโดยไม่ต้องทำอะไรเลยนะ สิ่งนี้มีแต่ได้กับได้”
จงเกาอี้ได้ยินคำพูดของเขาก็รู้สึกมีความหวัง
แต่เมื่อซูเถาได้ยินคำว่า ‘รีดไถ’ หัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้น
คงไม่มีใครคิดว่าการเรียกเก็บเงินและผลึกนิวเคลียสจำนวนมากมันจะมากเกินไปหรอกใช่ไหม? เนื่องจากเธอทำการควบรวมเขตซีซาน จำนวนผลึกนิวเคลียสทั้งหมดของเธอจึงมีเหลือ 370 อันเท่านั้น ไม่รู้ว่าชีวิตของหลิงเทียนจี้จะทำให้เธอมีผลึกนิวเคลียสถึง 500 อันหรือเปล่า
ซูเถาพยักหน้า
จงเกาอี้จ้องที่เธออย่างตกตะลึง เธอสามารถแก้ปัญหาเรื่องน้ำเกลือได้จริงเหรอ?
จั๋วเอ่อร์เฉิงก็ผงะเช่นกัน แม้ว่าเขาจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อเห็นเธอพยักหน้า หัวใจของเขาก็ยังสั่นไหว
เขาต่อต้านความคิดที่จะตรวจสอบเป็นการขอบคุณเธอแทน หลังจากที่หลิงเทียนจี้กำลังจะได้รับการให้น้ำเกลือ ทันใดนั้นเฉินซีก็วิ่งเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบและพูดอย่างมีความสุข
“พี่เถาจื่อ พวกของพี่เจียงอวี่กลับมาถึงแล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ประตูทางเข้า”
ซูเถาพับเรื่องของหลิงเทียนจี้เอาไว้ข้างหลัง
“เดี๋ยวฉันจะไปหาพวกเขาเดี๋ยวนี้ เฉินซีช่วยไปบอกพ่อครัวฉินที่ภูเขาผานหลิวหน่อยนะว่าคืนนี้ให้เขาทำอาหารเพิ่มสักสองสามอย่าง วันนี้เราต้องเลี้ยงต้อนรับแขกเสียหน่อย”
เฉินซีรีบตอบรับอย่างมีความสุข
จากนั้นซูเถาก็รีบมุ่งหน้าไปที่ประตู สิ่งแรกที่เธอเห็นคือเจียงอวี่ที่ร่างกายซูบผอมลงมาก
เขาดูผอมกว่าฟางจือในตอนแรกเสียอีก เสื้อผ้าที่เข้าสวมใส่ดูหลวมโพรกขึ้นมาทันตา
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะสดใสขึ้นมาก เมื่อเห็นซูเถากำลังเดินมา เขาก็คว้ามือน้องสาวที่อยู่ข้าง ๆ ให้เดินไปหาซูเถาเพื่อทักทาย
“เถ้าแก่ซู! ถงถง รีบทักทายเถ้าแก่ซูสิ”
แต่เมื่อซูเถาเห็นเขาซูบผอมแบบนี้ เธอก็ยังคงเป็นกังวล และเอื้อมมือไปจับข้อศอกเพื่อสัมผัสถึงกระดูกที่นูนออกมาของเขา
“ทำไมคุณถึงผอมขนาดนี้ ไม่ได้เจอกันแค่ครึ่งเดือนเอง เสบียงที่ฉันเตรียมเอาไว้ให้คุณไม่ได้กินเหรอ?”
“ตอนแรกผมหาถงถงไม่เจอก็เลยไม่มีกะจิตกะใจจะกินอะไร แต่ตอนนี้มันจะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว ผมจะพยายามฟื้นฟูตัวเองกลับมา” เจียงอวี่เผยรอยยิ้มที่สดใส
ขณะเดียวกัน ถงถงที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นเพื่อทักทายซูเถา “สวัสดีค่ะ…พี่”
จากนั้นความสนใจของเธอก็ตกอยู่ที่เด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า
แต่ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน เมื่อเธอสบเข้ากับม่านตาของเด็กสาวผ่านแว่นที่หนาเตอะของเธอก็ทำให้รู้สึกแปลก ๆ เธอเองก็อธิบายไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร แต่เหมือนว่ารู้สึกไม่ค่อยดีนัก น่าจะเป็นเพราะสัญชาตญาณ ทว่าท่าทีของซูเถาที่มีต่อเธอก็ผ่อนคลายลง และพยักหน้าตอบรับ “สวัสดีถงถง”
หลังจากพูดจบ เธอก็หันไปหาเจียงอวี่และพูดว่า
“ฉันเตรียมห้องใหม่เอาไว้ให้แล้ว คุณกลับไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวเราจะไปที่ภูเขาผานหลิวเพื่อรับประทานอาหารกัน เราจะเฉลิมฉลองการกลับมาพบกันอีกครั้งของระหว่างคุณกับน้องสาว”
เจียงอวี่รีบตกลงอย่างมีความสุข เขาจับมือน้องสาวและพาเธอไปแนะนำทุกอย่างที่เกี่ยวกับเถาหยาง แม้แต่น้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความสุข
ซูเถามองดูความร่าเริงและเต็มไปด้วยความพึงพอใจของเขา จากนั้นความรู้สึกแปลก ๆ ที่เธอมีต่อเจียงถงก็หายไปทันที
ในวันสิ้นโลก ไม่ใช่เรื่องง่ายระหว่างญาติที่แยกจากกันไปจะกลับมารวมกันอีกครั้ง
ไม่เพียงแต่พี่น้องครอบครัวเจียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหัวหน้าสวี่ในเวลานี้ด้วยบราวนี่ออนไลน์
ก่อนอาหารเย็น สวี่ฉางมาจากฟาร์มปศุสัตว์เล็ก ๆ เพื่อไปพบกับซูเถา และกล่าวคำอำลาอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้เขาไม่ได้ตั้งใจจะพาอลิซกลับไปด้วยกัน และเขาจะกลับไปที่ฉางจิงคนเดียว
ซึ่งซูเถาก็แอบกังวล “ตอนนี้อุณหภูมิข้างนอกลดลงอย่างรวดเร็ว และอากาศก็หนาวขึ้นทุกวัน ดูเหมือนว่าซอมบี้จะออกอาละวาดบ่อยขึ้นด้วย ทำไมคุณไม่รอให้ทุกอย่างมันสงบลงแล้วค่อยไปล่ะคะ”
“ทางฉางจิงโทรมาอย่างเร่งด่วน ผมเองก็ไม่มีทางเลือก” สวี่ฉางยิ้มและพูด
เขาอยู่ในเถาหยางนานเกินไป แม้ว่าผู้นำสูงสุดจะพยายามปกป้องเขา ทว่าทุกฝ่ายก็เหมือนจะแสดงความไม่พอใจ และบอกว่าเขาเล่นพรรคเล่นพวก ทั้งในที่ลับและที่แจ้ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ที่อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่มีไข้หวัดใหญ่ระบาดไปในสถานที่ต่าง ๆ เท่านั้น แต่การผลิตพืชและอาหารในฐานต่าง ๆ ก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเช่นกัน และจำนวนผู้ลี้ภัยก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในสถานการณ์ที่ปั่นป่วนเช่นนี้ เขาต้องกลับไปที่นั่นเพื่อยืนหยัดเคียงข้างท่านผู้นำสูงสุด
ซูเถาจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยิบถุงใบใหญ่ออกมาจากมิติของฟางจือแล้วยื่นให้หัวหน้าสวี่
“อาสวี่ อย่าหาว่าฉันปากเสียเลยนะคะ ตอนนี้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ถ้าคุณโชคดีก็แค่เป็นหวัด ถ้าคุณโชคร้าย คุณอาจมีไข้สูง ในนี้มียาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น มีเข็มฉีดยาแบบใช้แล้วทิ้ง แอลกอฮอล์และไอโอดีนในกระเป๋าด้านข้างนี้ พกติดตัวไปด้วยระหว่างเดินทางนะคะ เตรียมพร้อมไว้ ฉันจะได้สบายใจ”
เมื่อสวี่ฉางได้ยินเช่นนี้ เขาก็เปิดกระเป๋าและเห็นว่าด้านในนี้มันเต็มไปด้วยยา ทั้งยากิน ยาทา และยาฉีด
เขาตกใจและผลักกลับทันที “ไม่เป็นไร ตอนนี้ยาขาดตลาด ผมรับไว้ไม่ได้หรอก”
สวี่ฉางอยู่กับลูกสาวของเขาในฟาร์มปศุสัตว์ขนาดเล็กเพื่อเกลี้ยกล่อมเธอ โดยไม่รู้ว่าเถาหยางมีอิสระทางเรื่องยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์
เมื่อซูเถาได้ยินสิ่งที่สวี่ฉางปฏิเสธด้วยใบหน้าที่มุ่งมั่น ประหนึ่งว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทุจริต ซึ่งสร้างความอับอายให้กับประชาชน
ซูเถาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพาเขาไปที่คลินิกและพาเขาขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปดูร้านขายยา
ซึ่งในขณะนี้ยังคงมีผู้เช่าเถาหยางอยู่ในร้านขายยาจำนวนมากเพื่อเข้าคิวซื้อยา และบางคนที่ไม่เป็นหวัดก็มาซื้อยาเก็บเอาไว้กล่องหรือสองกล่องหลังจากทราบข่าว เพื่อนำไปเก็บไว้ที่บ้านเผื่อฉุกเฉิน
พวกเขามีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก ต่างก็ต่อแถวกันเพื่อซื้อยา ไม่มีใครที่แทรกตัวเข้ามาเพื่อแย่งชิงหรือตัดหน้าคนอื่น
ขณะเดียวกันก็เห็นเหล่าอวี๋ผอที่พาเสี่ยวอวี๋มาซื้อยาเดินออกมาจากร้านขายยาพอดี
เมื่อเธอเห็นหัวหน้าสวี่ที่มีสีหน้าตกใจ เหล่าอวี๋ผอจึงรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่ออบรมเขา
“คุณเป็นถึงระดับหัวหน้า และยังเป็นหัวหน้าฝ่ายระดับสูงในฉางจิง อย่าเป็นคนไม่เคยเห็นโลกนักเลย”
เสี่ยวอวี๋ฉงนจนพูดไม่ออก เมื่ออาสวี่ได้ยินว่ามีร้านขายยาในเถาหยาง ก็รีบร้อนมาดูด้วยตาตัวเองเลยเหรอ
สวี่ฉางปิดปากของเขา หลังจากเขาทบทวนกับตัวเองสักพัก เขาก็ยอมรับความจริงอย่างไม่เต็มใจว่า เถาหยางไม่ขาดแคลนยาจริง ๆ
แต่เมื่อวานนี้ ผู้นำสูงสุดพูดกับเขาอย่างจริงจัง โดยกล่าวว่าแม้ในฉางจิงจะไม่ขาดแคลนยา แต่ก็มีปัญหาเช่นสต็อกยาลดลงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีความยากลำบากในการจัดซื้อ และราคาก็พุ่งสูงขึ้น
ตอนนี้ชาวเมืองฉางจิงกำลังทุกข์ยาก
อย่างไรก็ตาม ผู้อยู่อาศัยในเถาหยางที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาสามารถซื้อยาได้ตลอดเวลา และราคานั้น…
“ยาเหล่านี้ราคาเท่าไหร่เหรอ?”
เสี่ยวอวี๋ตอบเขาทันที “สามร้อยกว่าเหลียนปัง อาสวี่ก็เป็นหวัดเหมือนกันเหรอ ผมแบ่งยาให้”
ขณะที่เขาพูดนั้น เขาก็หยิบป่านหลานเกินเคอลี่*[1] ออกมาอย่างมีน้ำใจเอื้อเฟื้อและยื่นให้กับสวี่ฉาง
เมื่อสวี่ฉางได้ยินราคา เขาก็แสดงสิ่งที่เหล่าอวี๋ผอบอกอีกครั้ง นั่นก็คืออาการเหมือนคนไม่เคยเห็นโลกมาก่อน
เหล่าอวี๋ผอพูดด้วยความเมินเฉย “คุณเป็นผู้ใหญ่นะ เก็บอาการหน่อย”
สวี่ฉางจึงหายใจเข้าลึก ๆ “เหล่าอวี๋ผอ คุณรู้เรื่องนี้ตั้งนานแล้วไม่เห็นจะบอกผมสักคำ เหตุผลที่ทำให้ผมสับสนแบบนี้สาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากคุณนะ”
เหล่าอวี๋ผอ “วันทั้งวันฉันไม่เห็นหน้าคุณเลยนะ จะเอาเวลาไหนไปแจ้งล่ะ เถาเด็กโง่มานี่หน่อย”
ซูเถาเงียบไปสักพักก่อนจะรู้ตัวว่าอวี๋ผอผ่อกำลังเรียกเธอ “คุณเรียกฉันเหรอคะ”
เหล่าอวี๋ผอมองดูเธอด้วยความชื่นชมและความหวังในใจของเธอ ราวกับว่ากำลังมองดูพระอาทิตย์ขึ้นในความมืด
เธอตบไหล่ของซูเถาอย่างแรง “เก่งมาก ก่อนเกิดสงครามต้องเตรียมตัวให้พร้อมแบบนี้แหละ เมื่อคุณมีเสบียงและยาครบแล้ว ก็จะมีความมั่นใจเพิ่มมากยิ่งขึ้น”
ซูเถากำลังลอยไปกับสายลมจากคำชื่นชมของเธอ