ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 398 ฉันเป็นมนุษย์ ฉันแค่ป่วย
ตอนที่ 398 ฉันเป็นมนุษย์ ฉันแค่ป่วย
ใบหน้าของฮว่าผีดุร้ายขึ้น “เธอจะไปไม่ได้!”
“นี่เป็นเรื่องของฉัน” เจียงถงขมวดคิ้ว
เธอมาหาฮว่าผีเพียงเพื่อจะถามว่ามีวิธีที่ดีกว่านี้ไหมที่เธอจะได้พบกับพี่ชาย เพราะแท้จริงแล้วในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เธอไม่ได้อยู่ห่างจากตงหยางและเถาหยางมากนัก ราวกับว่ามีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น ทำให้เธอไม่สามารถไปไหนไกลได้
เมื่อเธอได้ยินข่าวว่าพี่ชายของเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสและกำลังจะตาย เธอก็เข้าใจในทันทีว่านั่นคือความกังวลที่ฉุดรั้งเธอไว้
เธอต้องกลับไปหาพี่ชายอีกครั้ง
ทุกวันนี้เธอนึกถึงความทรงจำตอนเป็นมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ
พี่ชายคอยปกป้องเธอ โอบกอดเธอไว้ใต้ร่างของเธอจนทำให้เขาถูกทุบตีจนกระอักเลือด เธอจำความอบอุ่นนั้นได้ราวกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
เธอยังจำได้ว่า ในวันที่เธอหายตัวไป เป็นเธอเองที่โลภและอยากรู้ว่าเสบียงอาหารนั้นรสชาติเป็นยังไง เธอจึงให้เขาไปหามาให้…จนถึงวันนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร และรสชาติเป็นยังไง
ทว่าตอนนี้เธอกลายเป็นซอมบี้ เธอได้แต่กลิ่นคาวของเลือดเท่านั้น
พี่ชายในความทรงจำของเธอซูบผอมเหมือนหมาป่าที่คอยปกป้องลูกของมัน และพร้อมจะแยกเขี้ยวใส่ทุกคน
แต่ในช่วงเวลาที่เธออาศัยอยู่ที่เถาหยาง เธอเห็นว่าพี่ชายของเธออ่อนโยน และดูผ่อนคลาย เขามีความมั่นคง และไม่กังวลเรื่องอาหารการกินหรือที่อยู่อาศัยอีกต่อไป การที่เธอจะไปนำตัวเขามาอาจจะรับประกันชีวิตของเขาได้ แต่เธอไม่สามารถให้ชีวิตที่ดีแก่เขาได้
เมื่อเป็นแบบนี้เธอก็ควรออกไปคนเดียว
แต่ก่อนที่จะจากไป เธอก็ต้องการที่จะเจอหน้าเขาอีกครั้งและกล่าวอำลาเป็นครั้งสุดท้าย
เพราะพี่ชายของเธอไม่ชอบการจากไปโดยไม่มีการกล่าวอำลา
ฮว่าผีโกรธจนไม่สามารถคงสภาพปัจจุบันไว้ได้เลย ผิวหนังบนใบหน้าของเธอมีผื่นแดงขึ้น ผิวหนังเหล่านี้ดูเหมือนจะมีชีวิต เพราะมันสามารถดิ้นไปมาบนใบหน้าและลำคอของเธอได้ มันเคลื่อนไหวไปทั่วผิวหนังของเธอ
นี่คือใบหน้าที่แท้จริงของฮว่าผี
เธอบีบคางของเจียงถงและเค้นคำพูดรอดไรฟัน
“ฟังฉันให้ชัด ๆ นี่มันต้องเป็นกับดัก! ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพวกเขาถึงต้องล่อเธอออกไปที่นั่น แต่มันต้องเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ และไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา มันมีแต่อันตราย!”
“ปล่อยฉัน ฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร” แต่เจียงถงโบกมือปฏิเสธ และพูดด้วยความไม่พอใจ
ฮว่าผีเหวี่ยงเธอลงกับพื้น จนเกิดเสียงดังและฝุ่นที่ฟุ้งขึ้นในอากาศ
“ฉันไม่สนหรอกว่าเธอจะขึ้นเหนือล่องใต้ ออกชายฝั่ง หรือแม้แต่ข้ามมหาสมุทร แต่ห้ามไปที่เถาหยาง ไปไม่ได้เด็ดขาด! พวกเขาสามารถขังโบนวิงส์ไว้ได้ ก็สามารถขังเธอไว้ได้เหมือนกัน!”
เจียงถงลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และตบเข้าที่ใบหน้าของที่ปกคลุมไปด้วยผื่นแดงของอีกฝ่าย มันรุนแรงเสียจนเมื่อลมพัดผ่าน จะรู้สึกเหมือนมีดกรีดเข้าที่ใบหน้า หากเป็นคนธรรมดาหรือผู้ที่มีพลังวิเศษได้รับสิ่งนี้พวกเขาคงจะกลายเป็นขี้เถ้าในไม่กี่วินาที
ฮว่าผีต่อต้านด้วยมือทั้งสอง และถอยกลับไปสองสามก้าวเนื่องจากแรงปะทะ
การแสดงออกของเธอยิ่งน่ากลัวมากขึ้น “ฉันน่าจะรู้ว่าเธอเป็นคนโง่ ที่มีจิตใจอ่อนแอ เป็นเผ่าพันธุ์ผสมที่พัฒนาไม่สมบูรณ์!”
“ฉันไม่ใช่เผ่าพันธุ์ผสม”
ฮว่าผีเยาะเย้ย “ร่างกายเป็นซอมบี้กินคน จิตใจเป็นมนุษย์ ถ้าไม่ใช่เผ่าพันธุ์ผสม แล้วเป็นอะไร ตลกสิ้นดี!”
การแสดงออกของเจียงถงไม่สามารถคาดเดาได้และในที่สุดเธอก็หลุบสายตาลง
“ฉันเป็นมนุษย์ ฉันแค่ป่วย”
ฮว่าผีแค่นเสียงหัวเราะออกมาด้วยความโกรธ พร้อมกับก้าวไปข้างหน้าและคว้าเข้าที่คอของเจียงถง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรังเกียจและเคียดแค้น
“ซอมบี้ที่พัฒนาจากร่างมนุษย์อายุน้อยช่างไร้ค่าเสียจริง เธอกับโบนวิงส์ก็ไม่ต่างกัน เราพัฒนาจนสมบูรณ์แบบ จนมนุษย์เป็นเหมือนมดใต้ฝ่าเท้า เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วบี้เบา ๆ ก็สามารถทำให้พวกเขาตายด้วยความเจ็บปวดได้ ไม่ว่าจะถูกมนุษย์กักขังหรือถูกหลอกโดยมนุษย์ก็ตาม ฉันก็รู้สึกรังเกียจ”
เจียงถงสะบัดมือของเธอออก แล้วจ้องมองไปที่เธออย่างไม่ลดละ
“พี่ชายไม่เคยโกหกฉัน ฉันแค่ไปหาเขา เพื่อพบเขาเป็นครั้งสุดท้าย มันไม่มีทางเป็นกับดักอย่างที่คุณพูด และตอนที่ฉันอยู่ที่เถาหยาง พวกเขาก็พบแล้วว่าฉันผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรฉัน ดังนั้นมันไม่มีทางมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเด็ดขาด คุณไม่ต้องมายุ่งกับฉัน”
“ถ้าเชื่อมั่นและตาสว่างขนาดนั้น อยากที่จะฆ่าฉันแทนไหมล่ะ? เธอไม่แข็งแกร่งเท่าฉัน เรื่องนี้เธอรู้ดีกว่าใคร” ฮว่าผีพูดเสียงเข้ม
“ถึงจะไม่สามารถฆ่าคุณได้ แต่ก็สามารถทำให้คุณบาดเจ็บสาหัสได้เหมือนกัน หลีกไปให้พ้น!” เจียงถงกล่าว
ฮว่าผีหันหลังกลับไปมองด้านหลังของเจียงถงหลังจากเดินไปสองก้าว พร้อมกับพูดว่า
“ฉันจะให้โอกาสเธอครั้งสุดท้าย จากนี้ไปทิ้งพี่ชายที่ชั่วร้ายคนนั้นของเธอไว้เบื้องหลังแล้วกลับมาหาฉัน ฉันติดต่อกับไซเรนแล้ว เรากำลังจะมีสมาชิกเพิ่มอีกคนหนึ่งที่มาจากอีกฟากของมหาสมุทร…รวมถึงเธอและฉันด้วย มีทั้งหมดสี่ตัว มากพอที่จะทะลวงโดมป้องกันของเถาหยางและช่วยโบนวิงส์ออกมาได้ เมื่อเราผนึกกำลังกัน ทุกสิ่งในโลกนี้จะเป็นของเรา และเราจะก่อตั้งระเบียบใหม่ ก่อตั้งรัฐใหม่…”
“ไม่อย่างนั้น…”
ทว่าเจียงถงกลับไม่สนใจ และเธอก็เลือกที่เดินจากไป
ดวงตาของฮว่าผีกลายเป็นอาฆาตแค้นมากยิ่งขึ้น และผื่นสีแดงบนใบหน้าของเธอก็เริ่มเคลื่อนไหวและกรีดร้องอีกครั้ง
เธอรีบไปพุ่งชนเข้าไปปะทะกับเจียงถง
เจียงถงกระชับร่างกายเข้าเพื่อหลบการโจมตีที่รุนแรงของเธอ
ทว่าแขนของเธอก็โดนปักจนเกิดผื่นสีแดงขึ้น
เมื่อเกิดผื่นแดงขึ้น มันจะกระจายไปยังผิวหนังโดยรอบ และลึกลงไปใต้ผิวหนัง กัดกร่อนเนื้อและกระดูก สุดท้ายก็จะเหลือเพียงผิวหนังมนุษย์
สิ่งนี้จะมีประสิทธิภาพสำหรับมนุษย์ แต่หากว่าเป็นประเภทเดียวกันมันจะไม่ทำให้เสียชีวิต แต่จะเพิ่มความเจ็บปวดและความทรมานของผิวหนังเป็นสองเท่า
เจียงถงกอดอกแล้วมองเธอทันที “คุณต้องการที่จะเปิดศึกกับฉันจริง ๆ ใช่ไหม”
ฮว่าผีหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ต่อสู้? ไม่เอาน่า แทนที่จะปล่อยให้เธอสร้างประโยชน์ให้กับมนุษยชาติ ฆ่าเธอไม่ดีกว่าเหรอ! ฉันให้โอกาสเธอแล้ว แต่น่าเสียดายที่เธอไม่รับไว้!”
ทันใดนั้นพายุที่โหมกระหน่ำก็พัดขึ้นบนท้องฟ้า ฮว่าผีเป็นผู้นำในการโจมตี และการต่อสู้ระหว่างทั้งสองก็สั่นสะเทือน
ฮว่าผีถือว่าได้เปรียบ ร่องรอยของความบ้าคลั่งปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เน่าเปื่อยและเสียหายเธอ
“เมื่อฉันฆ่าเธอสำเร็จ ฉันก็จะฆ่าพี่ชายคนนั้นของเธอ ฉันรำคาญความรักพี่น้องอันน่าสะอิดสะเอียนของพวกเธอเต็มทนแล้ว ขนาดความรักระหว่างแม่ลูก ที่พร่ำบอกว่ารักลูกมากมาย ยังทอดทิ้งเขาได้ลง! นี่มันยังไม่ชัดเจนอีกหรือไง นี่น่ะเหรอที่เรียกว่ารัก ทั้ง ๆ ที่มีเงินทองมากพอที่จะรักษาฉันให้หาย แต่กลับยืนมองฉันเน่าเปื่อยอยู่บนเตียง! ฉันถูกผืนแดงบ้า ๆ นี่เล่นงานและเผชิญกับความทรมาน! พวกมนุษย์สมควรตาย! สมควรตาย!”
“แต่เธอ เธอกลับเลือกที่จะลองดี!”
ทันใดนั้น ลูกสมุนนับหมื่นในลูกตาดำข้างซ้ายของเจียงถงก็แยกออกจากกัน เธอและพวกมันต้องการสู้ตายด้วยความโกรธแค้นนี้
เธอไม่คิดถึงโลกที่แตกสลายและชีวิตที่มืดมนนี้เลย
ตายแบบนี้ก็ได้ พี่ชายคงไม่อยากเห็นเธอเป็นสัตว์ประหลาดอยู่แล้ว
เธอเบื่อหน่ายกับวันเวลาแห่งการเข่นฆ่าและกินเนื้อและเลือดครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงพอแล้วกับการพลัดถิ่นอย่างต่อเนื่อง เพียงพอกับความเหงาอันไร้ที่สิ้นสุด
ถ้าตายไป ก็จะไม่รู้สึกอะไรอีก และอาจจะได้ไปเกิดใหม่
เธอยังปรารถนาที่จะเป็นมนุษย์ในชาติหน้า
รสชาติอาหารเหล่านั้น เธอก็อยากจะชิมเหมือนกันว่าเป็นยังไง
……
ในการดวลครั้งนี้ ต้องตายกันไปข้าง
ควันดินปืนสีเลือดแหวกผ่านม่านแห่งรัตติกาลและไม่มีสิ่งใดมาบดบังได้