ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 399 เก็บไว้เป็นความลับ
ตอนที่ 399 เก็บไว้เป็นความลับ
ซูเถาตื่นขึ้นจากแรงสั่นสะเทือนอันรุนแรง เธอคิดว่าเกิดแผ่นดินไหวจึงรีบลุกจากเตียงและมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วเธอก็เห็นผู้เช่าจำนวนมากออกมารวมตัวกันมองไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
เธอรีบโทรหาชีอวิ๋นหลันเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“เถ้าแก่ เถาหยางไม่เป็นอะไร ตงหยางเองก็เช่นกัน แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเสียงคำรามที่รุนแรงนั้นมาจากไหน ฉันไม่แน่ใจว่ามันเป็นระเบิดหรืออย่างอื่น แต่ฉันได้ควบคุมทางออกแล้ว ฉันห้ามให้ผู้เช่าของเราออกไปข้างนอกชั่วคราว”
ซูเถาถอนหายใจด้วยความโล่งอก และหลังจากวางสายก็มีเสียงของวิญญาณตนหนึ่งดังขึ้นข้างหู
“เป็นฮว่าผีและเจียงถงต่อสู้กัน”
ซูเถาถอนหายใจอีกครั้งด้วยความโล่งอก แล้วก็รีบถามสือจื่อจิ้นอย่างรวดเร็ว
“มันเกิดอะไรขึ้น? แล้วเจียงถงเป็นยังไงบ้าง”
“ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไร เป็นเพราะเสียงอึกทึกนั้นผมก็เลยหาพวกเธอเจอ ผมแอบรู้สึกว่าเจียงถงไม่ต้องการมีชีวิตอยู่อีกต่อไป เพราะเธอทำการต่อสู้จนยิบตา เมื่อฮว่าผีเห็นสถานการณ์ไม่ดี มันจึงรีบหนีไปก่อน” สือจื่อจิ้นส่ายหัว
“ทั้งคู่น่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส และตอนนี้เจียงถงอยู่ในอาการโคม่า ผมแนะนำให้คุณพาตัวเธอกลับมาที่เถาหยาง และควบคุมตัวเธอเอาไว้”
ซูเถาเงียบไปสักพักไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็ติดต่อเสี่ยวป๋อ มี๋อู้ สวีฉีและคนอื่น ๆ
ในขณะที่กำลังจะขึ้นรถ ซูเถาก็มองไปที่เจียงอวี่ที่อยู่ในเงามืด เธออึกอักเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่ได้พูดมันออกมา
เธอต้องพูดว่ายังไงเหรอ
บอกเขาว่าเธอจะออกไปจับน้องสาวของเขาในขณะที่เธอไม่มีเรี่ยวแรงต่อสู้? เพื่อไม่ให้คุณรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นสภาพที่น่าสังเวชนั้น ฉันแนะนำให้คุณอย่าไป?
ซูเถาไม่สามารถพูดเรื่องไร้สาระเหล่านี้ได้
แต่เจียงอวี่ดูเหมือนจะรู้สึกบางอย่างและถามเสียงแข็งว่า “ใช่เธอหรือเปล่า”
ซูเถาตอบน้ำเสียงราบเรียบ “ใช่ค่ะ”
เจียงอวี่หยุดอยู่ในเงามืดชั่วคราวเป็นเวลาสองวินาที จากนั้นเขาก็ออกจากรถอย่างเงียบ ๆ
ในขณะที่เขาเดินไปที่อาคารที่พักอย่างโดดเดี่ยว เขาก็รู้สึกหนาวเย็นอย่างสุดแสนจะพรรณนา
“ออกรถได้ รีบขับไปเลยค่ะ” ซูเถากัดฟัน
ในการเดินทางครั้งนี้มีสือจื่อจิ้นเป็นผู้นำทาง ทำให้ทุกคนไปถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว และโศกนาฏกรรมที่อยู่ตรงหน้านั้นมันช่างอยู่เหนือจินตนาการของซูเถา
บริเวณโดยรอบตัวเต็มไปด้วยคราบเลือดและหลุมขนาดใหญ่ รวมถึงร่องรอยการต่อสู้ต่าง ๆ
ในหลุมที่ใหญ่ที่สุดเธอเห็นเจียงถงนอนแน่นิ่งอยู่ในนั้น ร่างกายของเธอแทบจะไม่มีผิวหนังที่ดีสักจุด แผลสดเหวอะหวะที่เปิดจนเห็นเนื้อมีเลือดไหลทะลัก และผิวหนังของเธอก็มีผื่นสีแดงแปลก ๆ
เสื้อผ้าของเธอขาดวิ่นจนแทบจะคลุมร่างกายไม่ได้ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่งสำหรับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง
เมื่อเมิ่งเสี่ยวป๋อเห็นคนด้านหน้าเต็มไปด้วยเลือด ก็ตกใจจนถอยหลังไปสองก้าว
ซูเถาไปเกาะอยู่ตรงขอบหลุมและอดไม่ได้ที่จะหลับตาด้วยความสะเทือนใจ
ซอมบี้ยังคงมีเลือดออก สามารถตาย และบาดเจ็บได้
เลือดของพวกมันมีสีแดงสดเหมือนมนุษย์
สภาพที่กำลังจะตายของพวกเขาก็เหมือนกับมนุษย์ มีความอ่อนแอทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกสงสาร
นอกจากการกินอาหารแล้ว พวกมันก็ดูไม่ต่างจากมนุษย์มากนัก
ซูเถารู้สึกว่าตาของเธอแห้งเล็กน้อย และคอของเธอก็แห้งเช่นกัน
“สยงไท่ คุณลงไปแล้วใช้ ‘กรง’ พาเธอขึ้นมา เร็วเข้า”
สยงไท่เป็นคนติดเหล้าที่ในตอนนั้นเขาจับเฮยจือหม่าเพื่อหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง ตอนนี้เขาได้รับการฝึกฝนจากชีอวิ๋นหลันมาเป็นเวลาครึ่งปีแล้ว ปัจจุบันเขาไม่มีปัญหาอะไรมากนอกจากขี้ขลาดตาขาว ดังนั้นซูเถาจะเรียกใช้งานเขาบ้างครั้งคราวเมื่อจำเป็น
เพราะสุดท้ายแล้วความสามารถของผู้ชายคนนี้มีประโยชน์มากจริง ๆ
สยงไท่รับคำสั่งและปีนลงจากขอบหลุมอย่างตัวสั่น
เขาไม่กล้าแม้แต่จะมองดูสภาพที่น่าสังเวชของเจียงถง ดังนั้นเขาจึงได้แต่หลับตาและนำเธอขึ้นใส่ ‘กรง’ ล่องหน
ซูเถาถอดเสื้อโค้ทของเธอออกแล้วพันไว้รอบ ๆ ตัวเจียงถง การกระทำนี้ทำให้เจียงถงที่หมดหมดสติรู้ว่ามีใครบางคนอยู่รอบตัวเธอ
เจียงถงพยายามที่จะลืมตา เมื่อเธอเห็นใบหน้าของซูเถาเธอก็มึนงงเล็กน้อย จากนั้นก็อ้าปากถาม “พี่ชาย…”
พี่ชายของเธอเป็นยังไงบ้าง
ซูเถาเข้าใจทันที
ในวินาทีนี้ อารมณ์ต่าง ๆ อาทิเช่น ความอับอาย ความไม่สบายใจ ความหดหู่ใจ ฯลฯ หลั่งไหลเข้ามาในเบ้าตาของซูเถา ทำให้มันกลายเป็นของเหลวอุ่นชื้นขึ้นที่ดวงตาของเธอ
“เขาไม่เป็นอะไร ขอโทษนะ”
เจียงถงไม่เข้าใจความหมายของคำพูดของซูเถา เธอแค่คิดว่าพี่ชายของเธอพ้นขีดอันตรายแล้ว ดังนั้นเธอที่กำลังตกอยู่ในอาการบาดเจ็บสาหัสก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก
ซูเถากอดเธอเอาไว้ พยายามอดทนต่ออารมณ์ที่พลุ่งพล่านเป็นเวลานาน ทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้นแล้วพูดกับอากาศ
“ไปตามตัวฮว่าผีมา! เธอเองก็น่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส!”
เมื่อสือจื่อจิ้นที่อยู่ในความมืดได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ลอยตัวออกไปและเริ่มค้นหาในสถานที่ที่เปลี่ยว
เมิ่งเสี่ยวป๋อ สยงไท่และคนอื่น ๆ มองไปที่ความมืดที่ดำสนิทและไม่มีใครอยู่ตรงนั้น มันทำให้พวกเขาหวาดกลัว และพวกเขาเกือบจะคิดว่าเถ้าแก่เสียสติและคลุ้มคลั่งไปแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรจนกระทั่งขึ้นรถ
เมื่อกลับไปถึงเถาหยาง ซูเถาผู้ซึ่งควรจะส่งเจียงถงไปที่ฐานทดลองทันทีก็หยุดทุกคนเอาไว้
เธอหันไปหาจวงหว่านและเมิ่งเชียนแล้วพูดว่า
“นี่ก็ดึกมากแล้ว อย่าเพิ่งไปรบกวนคุณเสิ่นและทีมเลยค่ะ ให้สยงไท่ขังเจียงถงไว้ที่ชั้นใต้ดินของอาคารเถาหลี่ก่อน”
เมิ่งเชียนรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน คุณเสิ่นก็ต้องลุกขึ้นจากเตียงอย่างกระฉับกระเฉงแน่นอน เพราะว่าตัวอย่างซอมบี้ตัวที่สองนี้สำคัญกว่าชีวิตของเขา
แต่ว่าเถ้าแก่….
จวงหว่านทำตามคำสั่งของซูเถาด้วยความเชื่อฟัง เธอสั่งให้คนมาเก็บกวาดห้องใต้ดินให้เป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมกับวางเตียงนุ่ม ๆ และเตรียมเวชภัณฑ์เอาไว้อย่างครบถ้วน
สุดท้ายห้องใต้ดินแห่งนี้ก็ได้กำหนดผู้มีสิทธิ์เข้าถึงเอาไว้ และเจียงถงซึ่งหมดสติก็ถูกหามเข้าไป
จากนั้นเธอกับเมิ่งเชียนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งบนร่างกายของเจียงถง หลังจากทำความสะอาดเนื้อตัวให้เธอเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็รีบออกไป
เมิ่งเชียนออกมาและถามอย่างระแวดระวังว่า “พี่จวง ทำแบบนี้จะได้ใช่ไหมคะ”
ตอนนี้เจียงถงเป็นเหมือนอาชญากรตามหมายจับ ไม่เพียงแต่เถาหยาง หรือตงหยางเท่านั้นที่กำลังตามหาเธอ แม้แต่ฉางจิงก็ยังมีคำสั่งออกมาเมื่อวานนี้
จวงหว่านพูดเพียงว่า “เถ้าแก่ว่าได้มันก็ได้”
เมิ่งเชียนตระหนักว่าอย่างนั้น
ในเวลาเดียวกัน ตงหยางก็ได้ยินการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ พวกเขาไม่เพียงเพิ่มการแจ้งเตือนระดับแรก แต่ยังส่งกองกำลังชั้นยอด 500 นายไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พวกเขาอยู่ห่างจากพวกของซูเถาไม่ถึงยี่สิบนาที
ดังนั้น พวกเขาจึงไม่พบสิ่งใดนอกจากหลุมขนาดใหญ่และร่องรอยการต่อสู้อันดุเดือด
……
หากไม่ได้รับอนุญาตจากซูเถา เมิ่งเสี่ยวป๋อ สยงไท่ และคนอื่น ๆ ก็ไม่กล้าพูดว่าพวกเขาจับ ‘เหยียนจ่ง’ ได้เมื่อคืน
เมิ่งเชียนและจวงหว่านยิ่งเก็บเงียบขึ้นไปอีก เพราะเมื่อหม่าต้าเพ่าถาม พวกเธอก็ยังเพิกเฉยต่อเขา
เจียงถงถูกซ่อนอยู่อย่างเงียบ ๆ ในห้องใต้ดินของเถาหยาง
ซูเถาพลิกตัวทั้งคืนและรอให้สือจื่อจิ้นกลับมาในตอนรุ่งสาง
“คุณหาเจอไหม?”
สือจื่อจิ้นขมวดคิ้วและส่ายหัว “เธอน่าจะซ่อนตัวอยู่ ผมพบเพียงคราบเลือดของเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะหนีไปที่ฐานโส่วอัน หากคุณต้องการจับเธอมาแทนที่เจียงถงคุณต้องส่งคนไปเพิ่มโดยเร็วที่สุด ไปตามหาเธอและจับเธอก่อนที่เธอจะฟื้นตัวเต็มที่เพื่อลดความสูญเสีย”
หัวใจของซูเถาเต้นแรง “ฉันจะจัดการเดี๋ยวนี้”
พูดจบเธอก็กระโดดลงจากเตียงแล้วออกไป
สือจื่อจิ้นเรียกเธอให้หยุดและเตือนเธอด้วยความเป็นห่วง
“เถาเถา เมื่อคุณเลือกที่จะทำแบบนี้ ผมก็จะสนับสนุนคุณอย่างเต็มที่และปิดบังเรื่องการจับกุมเหยียนจ่งจากตงหยาง แต่ฝั่งคุณก็อย่าให้เรื่องนี้รั่วไหลออกไปเป็นอันขาด คุณต้องไม่ให้ฉางจิงรู้ ไม่อย่างนั้นการที่คุณปกปิดเรื่องซอมบี้เอาไว้ คุณจะได้ชื่อว่าเป็นคนบาปที่ทำร้ายเพื่อนร่วมชาติทางอ้อม”
ซูเถาได้ยินดังนั้นเธอก็ลดศีรษะลง
“ฉันทำอย่างนี้ ฉันก็เป็นคนบาปไปแล้ว ฉันขอโทษนะ ทางเลือกนี้มันเจ็บปวดเกินไปสำหรับฉันที่จะเลือก แต่ฉันสัญญาว่าในสามวัน ถ้าฉันยังจับฮว่าผีไม่ได้ ฉันจะส่งเจียงถงไปที่ฐานทดลองด้วยตัวเอง”