ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 405 ขั้นแรกของการจีบผู้หญิง เริ่มจากการกินข้าว
- Home
- ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก
- ตอนที่ 405 ขั้นแรกของการจีบผู้หญิง เริ่มจากการกินข้าว
ตอนที่ 405 ขั้นแรกของการจีบผู้หญิง เริ่มจากการกินข้าว
ตอนที่ 405 ขั้นแรกของการจีบผู้หญิง เริ่มจากการกินข้าว
กว่าที่เสิ่นเวิ่นเฉิงจะฟื้นขึ้นก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว
แต่เมื่อตื่นขึ้นเขาก็เริ่มร้องไห้ฟูมฟายเสียงดัง เสียงร้องไห้อันน่าสลดใจดังกึกก้องจนสามารถได้ยินไปทั่วทั้งฐานการวิจัย คนที่ไม่รู้คงคิดว่าเป็นน้องสาวของเขาเสียเองที่เสียชีวิต
ในทางกลับกันเจียงอวี่ยังคงนอนแน่นิ่งให้น้ำเกลืออยู่ในห้องพักที่คลินิก เขาไม่ตอบสนองต่อใครก็ตามที่เข้ามา และเอาแต่จ้องมองไปที่แสงบนเพดานอย่างเหม่อลอย
นักวิชาการเฉียวและทีมวิจัยแช่แข็งร่างของเจียงถงไว้ชั่วคราว พวกเขากำลังเร่งรีบเพื่อแข่งกับเวลาเพื่อทำการทดลองวิจัย ส่วนซูเถาไปจัดการทุกอย่าง แล้วเข้าไปปลอบขวัญลูกบ้านทีละห้อง ๆ จนเวลาล่วงมาตีหนึ่งกว่าถึงจะได้พักผ่อน
ทุกคนพังได้ แต่เธอห้ามพังเด็ดขาด
ในเวลาเดียวกันสือจื่อจิ้นก็ลอยผ่านกำแพงห้องเธอเข้ามาเพื่อรายงานผล
“ฮว่าผีเก็บกระเป๋าขึ้นมาแล้ว ดูเหมือนเธอจะสังเกตเห็นหลิงอวี่ด้วย แต่ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่อะไร”
ซูเถามองไปที่หลิงอวี่ที่ซุกหัวของมันไว้ใต้ท้องของเสวี่ยเตา ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงตัวสั่นระริกขนาดนั้นหลังจากกลับมา
“คุณไม่เหนื่อยเหรอ” เมื่อสือจื่อจิ้นเห็นรอยคล้ำใต้ตาของซูเถา ก็รู้สึกเป็นทุกข์เล็กน้อย
จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าการเป็นผีไม่มีประโยชน์อะไร เพราะเขาได้แต่เฝ้าดูเธอทนทุกข์ทรมานโดยไม่สามารถช่วยเหลือเธอได้ ในเวลานั้นเองเขาก็รู้สึกว่าพวกละครหรือรายการทีวีทั้งหลาย เขาไม่จำเป็นต้องตามดูก็ได้
“ถ้าจะบอกว่าไม่เหนื่อยก็คงโกหก สิ่งเดียวที่จะช่วยฉันได้ตอนนี้คือจบวันสิ้นโลกนี้ให้เร็วที่สุด” ซูเถานวดขมับตนเอง
เธอวางมือทาบไว้ที่หน้าอกและมองเขาอย่างมีความหวัง
“มีเสียงในใจบอกฉันว่าสิ่งที่ฉันเฝ้ารอนั้นอยู่ไม่ไกล ขอแค่อดทนไว้”
สือจื่อจิ้นถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ของเธอ และความเศร้าโศกกว่าครึ่งของวันนี้ก็ถูกพัดพาไป
ซูเถามีพลังวิเศษเสมอ ใครก็ตามที่อยู่ใกล้เธอจะรู้สึกว่าอนาคตเต็มไปด้วยแสงแห่งรุ่งอรุณ ราวกับดวงอาทิตย์อันอบอุ่น
ถ้าในใจมีความเชื่อมั่นและจิตใจที่แน่วแน่ ทุกสิ่งก็จะสามารถขับเคลื่อนไปได้
สือจื่อจิ้นมองหน้าเธอ และทันใดนั้นก็พูดว่า “เมื่อทุกอย่างจบลง ผมขอเลี้ยงอาหารคุณอย่างจริงจังได้ไหม ผมจะทำอาหารให้คุณกินเอง”
“ทำไมจู่ ๆ คุณถึงพูดถึงเรื่องนี้” ซูเถาสงสัย
“เวลาดูละคร ขั้นแรกของการจีบผู้หญิง คือเริ่มจากการกินข้าว”
ซูเถาตัวแข็งไปชั่วครู่ จากนั้นก็หัวเราะออกมา “ได้สิ แต่ถ้าไม่อร่อยฉันไม่จ่ายนะ”
สือจื่อจิ้นตัดสินใจอย่างเงียบ ๆ ว่าเขาจะเลิกดูละครทีวี แต่จะดูพวกรายการทำอาหารแทน
……
วันต่อมาซูเถาได้รับข่าวดีว่าคนที่ส่งไปจับกุมฮว่าผี ได้พบที่อยู่ของเธอเรียบร้อยแล้ว และกำลังเตรียมการทุกอย่างเพื่อรอจับกุม สวีฉีซึ่งเป็นผู้นำในครั้งนี้ทุบหน้าอกตนเองและรับรองกับเธอว่าตราบใดที่ข้อมูลถูกต้อง เขาจะจับฮว่าผีให้ได้ พร้อมกับจับฮว่าผีกลับไปทั้งเป็น
ซูเถาโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
หลังจากวางสายจากเขา เธอก็พยายามโทรหาเหลยสิงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ก็ยังไม่มีการตอบรับ และจวงหว่านก็พูดอย่างเศร้าใจ
“ฉันเดาว่าน่าจะใช้เวลาสองหรือสามวันในการเดินทางสู่ฐานโส่วอัน แล้วฉันก็หวังว่าเด็กอย่างเฉินหยางจะไม่สร้างปัญหาให้กับผู้อื่น”
ซูเถาไม่มีทางเลือกนอกจากพักเรื่องนี้ไว้ชั่วคราว และเริ่มจัดการกับงานประจำวันของเถาหยาง
เนื่องจากเกิดเรื่องของเจียงถงขึ้น จึงทำให้ทุกอย่างล่าช้าไปสองสามวัน มีเรื่องอีกมากมายที่เป็นประโยชน์และรอให้เธอจัดการ เธอเป็นถึงผู้ดูแลของที่นี่ เธอจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อแข่งกับเวลา
ในช่วงเวลาสิบโมงเช้า จู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นข้างนอกเถาหยาง เฉียนหรงหรงเปิดหน้าต่างมองออกไปข้างนอกด้วยความอยากรู้อยากเห็นและพูดออกมาอย่างตื่นเต้น
“พี่เถาจื่อ! ดูเร็วเข้า! ฐานทัพเคลื่อนที่ของพี่หรือเปล่า? มันสวยมากเลย!”
เมื่อซูเถาเดินไป เธอก็เห็นรถทรงกลมสีขาวอมชมพู ขนาดของมันเล็กกว่ารถบัสธรรมดาเล็กน้อย กำลังเคลื่อนเข้ามาทางประตูเถาหยาง
ในใจของเธอก็ชื่นชมว่ามันน่ารักมาก
ผู้ชมต่างก็มองดูและพูดคุยกันอย่างอยากรู้อยากเห็น
เมื่อซูเถาลงไปข้างล่าง ก็เห็นเวินม่านวิ่งมาหาเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข พร้อมกับจับมือเธอแล้วพูดว่า
“ตอนแรกฉันคิดว่ามันน่าจะมาถึงในวันพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ซะอีก แต่แน่นอน! ผู้ชายยังคงต้องการการกระตุ้น ยิ่งกระตุ้นมากเท่าไหร่ ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น”
ฐานทัพเคลื่อนนี้ถูกทำขึ้นชั่วข้ามคืน ลั่วเหยียนผู้ที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืนก็ถอยกลับอย่างชาญฉลาด และปล่อยให้ทั้งสองคนได้ใช้เวลาพูดคุยกัน
จากประสบการณ์ของเขา เวลานี้ผู้ชายอย่างเขาคงกลายเป็นส่วนเกิน
เวินม่านมองไปที่ซูเถาด้วยดวงตาสดใสและถามอย่างมีความหวัง
“คุณชอบไหม สีชมพูสวยมากเลย อีกอย่างฉันขอให้ลั่วเหยียนแก้ไขบางจุดด้วยเพื่อให้สามารถใช้ร่วมกับ ‘ดวงอาทิตย์ดวงน้อย’ ของคุณได้ ถ้าคุณเดินทาง คุณไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ เพราะสิ่งนี้จะทำให้อุ่นขึ้นภายในระยะสามเมตรรอบตัวรถ ซึ่งสะดวกมาก”
ซูเถาชอบมันมากและประทับใจที่สุด เธอจับมือเวินม่านกลับและพูดอย่างจริงใจ
“นี่เป็นของขวัญที่น่ารักที่สุดที่ฉันเคยได้รับมา ขอบคุณมากนะม่านม่าน ฉันชอบมันมาก”
เวินม่านได้รับคำตอบที่ดีกลับมา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มราวกับดอกทานตะวัน
รถสีชมพูหวานแหววถูกจอดอยู่ข้างอาคารเถาหลี่ชั่วคราว สร้างความอิจฉาให้กับคนที่พบเห็น
การตกแต่งภายในของรถคล้ายกับรถบ้าน มีเฟอร์นิเจอร์ทำจากไม้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสีชมพูและสีขาวแสดงให้เห็นความเป็นผู้หญิงซึ่งสอดคล้องกับตัวตนของเวินม่าน
นอกจากนี้ยังเป็นการเติมเต็มความปรารถนาอันยาวนานของซูเถา ที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งไม่เคยมี
แม้ว่ารถคันนี้จะดูน่ารัก แต่จริง ๆ แล้วมีอาวุธที่สามารถโจมตีและป้องกันอันตรายได้ นอกจากนี้ท้ายรถยังเป็นที่เก็บของซึ่งตอบสนองความต้องการด้านการจัดเก็บของการเดินทางระยะไกลได้อย่างเต็มที่
สิ่งที่ทำให้ซูเถาประหลาดใจมากที่สุดก็คือยังมีฟังก์ชันที่ซ่อนอยู่ รูปร่างและสีของรถสามารถเปลี่ยนแปลงได้ และกลืนเข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบได้หากจำเป็น
หลังจากมองไปรอบ ๆ ซูเถารู้สึกว่าจำเป็นต้องปลดระวางรถของกู้หมิงฉือ
กู้หมิงฉือซึ่งอยู่ห่างไกลในเขตตะวันออกจามออกมา และรู้สึกหวิวในหัวใจอย่างไม่มีเหตุผล
“เถาจื่อเดี๋ยวฉันคงต้องบอกลาคุณชั่วคราวก่อนนะ”
ซูเถารู้สึกว่าอาหารในมือของเธอไร้รสชาติขึ้นมาทันใด “พวกคุณจะกลับไปที่เชียนอันเหรอ?”
เวินม่านส่ายหัว
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเหวินอวี้ด้วย พี่ชายคนโตของเธอกำลังจะแต่งงาน ตระกูลเซียวจัดงานเลี้ยงแต่งงานและเชิญคนมากมายรวมถึงครอบครัวของฉันด้วย ฉันไม่อยากไป แต่ลั่วเหยียนกับพ่อของฉันบอกว่านี่คือการเข้าสังคม อย่าให้คนอื่นคิดว่าฉันเย่อหยิ่งวางท่า”
ซูเถาตกใจมาก
พี่ชายคนโตของเซียวเหวินอวี้? เพลย์บอยเจ้าชู้ที่เคยพบกันในงานประมูลซินตูครั้งก่อน
คนแบบนี้จะแต่งงานเหรอ
“แล้วเหวินอวี้จะไปกับพวกคุณใช่ไหม?”
เวินม่านพยักหน้า
“ใช่ เธอเองก็ไม่อยากไปเหมือนกัน แต่พี่สาวคนรองของเธอมากดดันเธอถึงที่บ้าน และปักหลักอยู่ในวิลล่าของเธอนานกว่าหนึ่งสัปดาห์”
มุมปากของซูเถากระตุก จำได้ราง ๆ ว่าตอนนั้นคุณหนูรองตระกูลเซียวดูเหมือนจะดูถูกที่ดินของเซียวเหวินอวี้ แต่ตอนนี้เธอหน้าหนามากที่อยากจะมาอาศัยที่นี่ ตระกูลเซียวนั้นไม่ธรรมดาจริง ๆ
ซูเถาถามอีกครั้ง “เขาแต่งงานกับใครเหรอ?”
แม้ว่าเธอจะยุ่ง แต่เนื่องจากคำแนะนำของผู้อาวุโสเหม่ยและชายชรากู้ เธอต้องให้ความสนใจกับข่าวของครอบครัวชนชั้นสูงของฐาน และให้รู้เกี่ยวกับบุคคลที่มีชื่อเสียงเอาไว้บ้าง
แต่แค่ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนไหนโชคร้ายนักที่ได้แต่งงานกับไอ้สารเลวอย่างคุณชายใหญ่เซียว
เวินม่านหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ และตอบว่า
“ฉู่หมิง บุตรสาวคนโตของตระกูลฉู่ เหมือนว่าช่วงนี้เธอจะโชคร้ายมาก”