ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 406 ฉู่หมิงผู้โชคร้าย
ตอนที่ 406 ฉู่หมิงผู้โชคร้าย
ตอนที่ 406 ฉู่หมิงผู้โชคร้าย
ฉู่หมิง?
ถ้าเวินม่านไม่ได้พูดถึง ซูเถาก็เกือบจะลืมผู้หญิงคนนี้ไปแล้ว
บุตรสาวคนโตของตระกูลฉู่ที่ไล่ตามเหลยสิงอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อนึกถึงฉู่หมิงในตอนนี้ ซูเถาก็นึกถึงความพยายามของเธอ ที่สั่งให้ชายชรามาสร้างมลทินให้ตัวเธอในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ซินตู
เนื่องจากเหตุการณ์นี้ เลยเป็นที่มาให้ซูเถาฆ่าเจียวชิ่ง สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของติ้งหนาน และเป็นเหตุให้สามีของเจียวชิ่งเข้ามาโจมตีเถาหยาง แต่สุดท้ายก็ถูกพืชกินคนที่อู๋เจิ้นวิจัยขึ้นจัดการเข้า ทำให้กองกำลังทั้งหมดหนีหัวซุกหัวซุน ซึ่งสุดท้ายแล้วพวกเขาก็โดนกู้หมิงฉือเผาทิ้งในที่สุด
เรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด มันเป็นความตั้งใจชั่วร้ายของฉู่หมิงซึ่งทำร้ายคนจำนวนมากทางอ้อม และสุดท้าย แทนที่เธอจะได้แต่งงานกับเหลยสิงชายที่เธอหลงใหลอย่างสุดซึ้ง กลับกลายเป็นได้ใช้ชีวิตที่เหลือกับคุณชายใหญ่แห่งตระกูลเซียว ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเพลย์บอยตัวฉกาจ
เพราะอะไรเธอถึงตกลง และทำไมตระกูลฉู่ถึงเต็มใจที่จะให้ลูกสาวคนเดียวแต่งงานกับคนอย่างคุณชายใหญ่เซียว
ความเหมาะสมเหรอ เธอไม่เข้าใจเลยสักนิด
ในไม่ช้าคำพูดของเวินม่านก็ให้คำตอบแก่เธอ
“ก่อนหน้านี้ฉู่หมิงคอยไล่ตามเหลยสิงกัปตันกลุ่มเป้าถูใช่ไหม? แต่ว่าอยู่มาวันหนึ่งจู่ ๆ เสือดาวตัวร้ายนั้นก็บุกไปที่ตระกูลฉู่ พร้อมอาละวาดทำลายข้าวของตระกูลฉู่ เขาไม่เพียงทุบสิ่งของเท่านั้น แต่ยังทำให้ฉู่หมิงอับอาย เธอก็เลยคิดที่จะยอมแพ้ ตกกลางคืนเธอก็เอาแต่เมามาย แต่หากมันจบอยู่แค่นั้นก็คงไม่เป็นอะไร น่าเสียดายที่เธอเมาและอาละวาดทุบตีผู้คนที่ดูแลเธอจนพวกเขาหลบหนีไป จากนั้นเธอก็นอนอยู่ในรถ”
“แต่ใครจะไปรู้ว่าเมื่อเธอตื่นขึ้น เธอก็ค้นพบว่ารถของเธอถูกล้อมรอบไปด้วยบรรดาคนไร้บ้าน เมื่อเห็นว่าเธอแต่งตัวดี พวกเขาจึงขวางเธอเอาไว้เพื่อขอน้ำและอาหาร ทว่าฉู่หมิงไม่มี คนเหล่านั้นก็เลยต้องการรื้อรถของเธอและเอาไปขายเป็นเศษเหล็ก แต่แล้วกระจกรถก็ถูกทุบจนแตก เศษกระจกกระเด็นเข้าลูกตาซ้ายของเธอ จนทำให้เธอตาบอด”
“แล้วยังไงต่อคะ?” ซูเถาตกใจ
เวินม่านขมวดคิ้วและพูดว่า “หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากตระกูลฉู่ เธอก็กลับไปแก้แค้นพวกคนไร้บ้านและสังหารผู้คนมากมาย รวมถึงคนแก่ คนอ่อนแอ คนป่วยและคนพิการ ทั้ง ๆ ที่บางคนไม่เคยทำลายเธอด้วยซ้ำ ไม่ว่ายังไงก็ตามไม่มีใครหยุดความบ้าคลั่งของเธอได้”
“ชื่อเสียงการทรมานและฆ่าเพื่อนร่วมชาตินั้นเลวร้ายเกินไป แม้แต่ตระกูลฉู่ก็ยังถูกประณามจากฉางจิง อาฉู่ได้เดินทางไปที่ฉางจิงเป็นกรณีพิเศษเพื่อขอโทษและยอมรับความผิดพลาด พ่อของฉันบอกว่าศีรษะของอาฉู่แทบจะก้มติดพื้น มันน่าอายเกินไป เมื่อเขาตามเช็ดตามล้างสิ่งที่ฉู่หมิงทำเสร็จก็ยังต้องช่วยจัดการหางานและที่พักสำหรับครอบครัวของคนไร้บ้าน…”
ซูเถาขมวดคิ้วแน่น
การฆ่าเพื่อนมนุษย์ถือว่ามากเกินไปจริง ๆ
คุณไม่จำเป็นต้องช่วยพวกเขา เพิกเฉยต่อพวกเขาได้ แต่คุณไม่สามารถฆ่าพวกเขาอย่างไม่เลือกหน้าได้ แบบนี้มันจะต่างอะไรกับซอมบี้ล่ะ?
ฉู่หมิงถูกครอบครัวเลี้ยงมาอย่างเสียคนจริง ๆ เธอไร้ซึ่งความเคารพเมตตาต่อชีวิตมนุษย์
เวินม่านถอนหายใจและส่ายหัว “พ่อของฉันห้ามไม่ให้ฉันเล่นกับเธอตั้งแต่เด็ก ก่อนหน้านี้เธอต้องการที่จะสัมผัสลูกสุนัขของฉัน แต่ฉันวิ่งหนีพร้อมกับกอดมันเอาไว้ เธอเลยไม่พอใจและหันไปบอกผู้ติดตามของเธอว่าฉันขี้เหนียว”
ซูเถามองไปที่เวินม่านและนึกถึงฉู่หมิง เธอทั้งสองเป็นเด็กผู้หญิงจากครอบครัวที่มีฐานะดี แต่การอบรมสั่งสอนที่ต่างกันแสดงให้เห็นถึงบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
จะเห็นได้ว่าพ่อของเวินม่านเป็นคนที่รักลูกสาวของเขามาก แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่เคยตามใจเธออย่างผิด ๆ
เวินม่านกัดฟันแล้วพูดต่อ
“ฉันยังพูดไม่จบ หลังจากที่เธอสูญเสียดวงตาไปข้างหนึ่ง เธอก็เลยไม่สนใจทีมทหารรับจ้างในมือ แต่ว่าคุณชายใหญ่แห่งตระกูลเซียวเพ่งเล็งคนกลุ่มนี้ไว้ เขาเลยวางแผนที่จะคบกับฉู่หมิง แต่หลังจากที่ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้ว ฉู่หมิงก็เพิ่งมารู้ว่าคุณชายใหญ่เซียวมีลูกนอกสมรสสามคน และมีสาวงามสองคนซ่อนอยู่ที่บ้าน”
“แล้วไงต่อ” ซูเถาอ้าปากค้าง
“แน่นอนว่าฉู่หมิงก็โวยวายน่ะสิ เธอต้องการให้เขาส่งลูกนอกสมรสทั้งหมดออกไป แล้วก็จัดการกับผู้หญิงของเขาทั้งหมด หรือไม่ก็ตัดขาดกันไป แต่คุณชายใหญ่เซียวโหดเหี้ยมพอที่จะกักขังฉู่หมิงให้อยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลเซียวได้ และกว่าที่ตระกูลฉู่จะรู้ เธอก็ตั้งครรภ์เสียแล้ว อาฉู่แทบอาเจียนออกมาเป็นเลือด สุขภาพของเขาเริ่มย่ำแย่ลง จนตระกูลฉู่ตกอยู่ในความโกลาหล และได้อาของฉู่หมิงเข้ามาควบคุมแทน อาของเธอจะดึงเธอออกจากหล่มของตระกูลเซียวทำไมกัน เขาต้องการให้เธอแต่งงานกับตระกูลเซียวเพื่อบรรลุการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง”
ซูเถาถอนหายใจ และความเกลียดชังที่มีต่อฉู่หมิงในใจของเธอก็หายไป
คนอย่างคุณชายใหญ่เซียวจะไม่มีวันกลับใจ และจะยังคงใช้ชีวิตอย่างตามใจอยู่ข้างนอกหลังจากแต่งงาน แล้วเขาก็จะหาภรรยาเพิ่มมาจากข้างนอกทีละคน ๆ ตามรอยพ่อของเขา
ฉู่หมิงถูกกีดกันจากการควบคุมทีมทหารรับจ้าง ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงต่อสู้กับกลุ่มสตรีในบ้านตระกูลเซียว และไม่สามารถหลบหนีจากสถานที่สี่เหลี่ยมนี้ได้
สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือเธอตาบอดข้างหนึ่ง และเธอก็สูญเสียภาพลักษณ์ความสวยงามทั้งหมดที่จะดึงดูดผู้ชายคนนี้ นอกจากนี้ คุณชายใหญ่เซียวยังไม่ได้รักเธอจริง ๆ เขาแค่หลอกใช้และกอบโกยผลประโยชน์จากเธอเท่านั้น
เธอได้แต่หวังว่าลูกในท้องจะเป็นคนดี แก่ตัวไปเธอจะได้มีลูกให้พึ่งพา
ทันใดนั้นเวินม่านก็พูดว่า “สิ่งที่ทำให้ฉันโกรธที่สุดคือเธอทำรุนแรงเกินไป เธอเอาแต่กินอาหารเน่าเสียไร้ประโยชน์เป็นการตอบโต้ ทำให้ยากต่อการเก็บลูกไว้ในท้อง เป็นแบบนี้ต่อไปเธอจะมีความเสี่ยงในการแท้งลูกได้”
ซูเถาเงียบไปครู่หนึ่ง
เธอจำ ‘หุ่นเชิดเคราะห์ร้าย’ ที่เธอให้กับเติ้งจื่อฉิงแฟนสาวของจั๋วเอ่อร์เฉิงเอาไปให้เธอได้
เติ้งจื่อฉิงน่าจะส่งมันถึงมือของฉู่หมิงได้สำเร็จ
ซูเถาไม่คิดว่าในเวลาเพียงสามวัน หุ่นเชิดเคราะห์ร้ายนี้จะทำให้ฉู่หมิงตกอยู่ในความโชคร้ายได้ถึงขนาดนี้ ร้ายแรงราวกับว่าจะเอาชีวิตเธอไปด้วยซ้ำ
ความสามารถนี้ค่อนข้างน่ากลัว ฆ่าคนที่มองไม่เห็น
โชคดีที่ผลึกนิวเคลียสมีผลเพียงสามวัน และจะหายไปเมื่อหมดเวลา
เสียงของเวินม่านลดลง “คนที่ท้องคือคนที่ไม่อยากมีลูก ส่วนคนที่อยากมีลูกกลับไม่ท้อง”
หัวใจของซูเถารู้สึกเจ็บปวดเมื่อได้ยินสิ่งนี้ และจับมือของเวินม่านแน่น
……
ในตอนบ่าย ซูเถาโทรหาสวีฉี และบอกให้พวกเขารออย่างอดทน ฮว่าผีอยู่บนถนนมาสองสามวันแล้ว และเธอไม่กล้าหาสถานที่ที่จะรักษาอาการบาดเจ็บขั้นรุนแรงแบบนี้ ดังนั้นเธอจึงลากตัวเองไปหาพื้นที่ปลอดภัย
ในกรณีนี้อาการบาดเจ็บของเธอจะแย่ลงเรื่อย ๆ เพราะเธอไม่สามารถหาที่พักผ่อนได้ กว่าเธอจะไปถึงที่ปลอดภัย ตอนนั้นเธอก็คงอยู่ในช่วงอ่อนแอและไม่มีที่พึ่งมากที่สุด
สวีฉีและคนอื่น ๆ ได้ยินดังนั้นก็มีความมั่นใจมากขึ้นในการจับเธอทั้งเป็น
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ สวีฉีหายใจเข้าลึก ๆ และพยักหน้า เขาตื่นเต้นและกังวลกับการรอคอยจริง ๆ คำพูดของเถ้าแก่ซูทำให้ทุกคนมั่นใจอย่างไม่ต้องสงสัย
ทุกคนหยุดนิ่งและรอต่อไป
ซูเถาไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เหมือนพวกเขา เพราะตอนนี้ขบวนรถที่จะมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งของกู้หมิงฉือพร้อมที่จะออกเดินทางแล้ว และเสบียงของหลินฟางจือก็พร้อมแล้วเช่นเดียวกัน
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการคัดเลือกพนักงานคลังสินค้าให้กับฟางจือสองคน แต่เมื่อพวกเขาเห็นสินค้าจำนวนมากที่ต้องถูกส่งไปชายฝั่ง พวกเขาก็รู้สึกว่างานนี้ตายแน่ ๆ
มันมากเสียจนเมื่อหลินฟางจือเห็นกู้หมิงฉือ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
และเมื่อเห็นจวงหว่าน เขาก็ไม่พอใจอย่างมากเช่นกัน และดูเหมือนเขาจะส่งคำถามผ่านสายตามาว่าทำไมพนักงานอีกสองคนยังมาไม่ถึงที่ทำการของพวกเขา
จวงหว่านแทบหมดแรงและบ่นกับเขา “ฉันก็สิ้นหวังเหมือนกัน คน 3,000 ชีวิตในฉางจิงกำลังจะมาถึงในไม่ช้า เถาหยางจะต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่าจึงจะสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ ฉันก็จำเป็นต้องจัดการกับการค้นหาคนจำนวนมาก ต้องรับสมัครเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และอื่น ๆ อีกมากมาย ไหนจะพนักงานทำความสะอาด ฉันเองก็รับสมัครพนักงานกระจายสินค้าให้นายแล้ว เห็นใจกันบ้างสิ”
หลินฟางจือไม่รู้ว่าจะมองเธอต่อไปยังไง เมื่อเขาหันไปมองซูเถา ก็เลยกลายเป็นคนคิดบวกทันที
ซูเถาถามเขาว่าเหนื่อยไหม
หลินฟางจือ “ไม่เหนื่อย!”
หัวใจของซูเถาเจ็บปวด เด็กน้อยคนนี้ช่างน่าสงสาร
จวงหว่าน “…”