ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 407 ประสบความสำเร็จ
ตอนที่ 407 ประสบความสำเร็จ
ตอนที่ 407 ประสบความสำเร็จ
ในที่สุด เด็กฝึกงานของผู้อาวุโสเหม่ยก็ได้ทำการออกแบบการขยายพื้นที่ในเถาหยางสำหรับรองรับคน 3,000 ชีวิตในช่วงปลายเดือนสิบเสร็จ
ผู้อาวุโสเหม่ยถอดแว่นสายตาและดูซ้ำแล้วซ้ำอีก ก่อนจะส่งเสียงพึมพำในลำคอราวกับชื่นชมหลายครั้ง แต่ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น
ลูกศิษย์ที่ดีก็เอาแต่นิ่งเงียบ ไม่กล้าปริปากส่งเสียง
แม้แต่การหายใจของซูเถาก็ติดขัด
ทำไมชายชราคนนี้ถึงมีความลับมากขึ้นเรื่อย ๆ
“อืม…ใช้ได้ นายฝึกงานเสร็จแล้ว” ผู้อาวุโสเหม่ยชราวางพิมพ์เขียวลงแล้วพูดขึ้นในที่สุด
ซูเถากับเจิ้งซิงต่างก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
“อย่างไรก็ตาม ในอนาคตนายก็ต้องเรียนรู้งานจากฉันอยู่นะ อย่าคิดว่าปีกของนายจะแข็งแล้ว หลังจากฝึกงานเสร็จ มันยังมีอะไรอีกมากให้เราได้เรียนรู้นะ”
“ครับอาจารย์” เจิ้งซิงยิ้ม
ผู้อาวุโสเหม่ยเดินออกจากสำนักงานอย่างสบาย ๆ แล้วหันไปคุยกับซูเถาอย่างภาคภูมิใจ
“เด็กฝึกงานตัวน้อยของฉันมีพรสวรรค์ คนส่วนใหญ่ยังเรียนรู้ได้ไม่เร็วเท่าเขาเลย!”
ซูเถายินดีไปกับผู้อาวุโสเหม่ย เขามีความสุขและรอยยิ้มให้กับเด็กฝึกงานคนนี้
หลังจากได้พิมพ์เขียวแล้ว ซูเถาก็เริ่มสร้างมันทีละนิด
ตามแผนแรกจะมีคนอย่างน้อย 3,000 ชีวิตย้ายเข้ามาอยู่ จำเป็นเป็นต้องขยายพื้นที่อย่างน้อย 10,000 ตารางเมตร ไม่เพียงแต่ต้องเตรียมอาหารและที่พักสำหรับคนเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังต้องมีพื้นที่สำนักงานแห่งใหม่ สนามฝึกซ้อม และอื่น ๆ อีกมากมาย
ด้วยการขยายตัวนี้ ผลึกนิวเคลียสที่สะสมไว้ก่อนหน้าจะกลับมาเป็นศูนย์อีกครั้ง
แต่เมื่อเธอคิดถึงโอกาสของพื้นที่ชายฝั่ง เลือดของซูเถาก็เริ่มกลับมาสูบฉีด ตามแพลนที่กู้หมิงฉือวางให้เธอ การเดินทางครั้งนี้จะได้รับผลึกนิวเคลียสอย่างน้อย 3,000 ถึง 5,000 อัน
หากเดินทางไปทำการซื้อขายที่นั่นสองสามครั้ง ก็จะได้รับผลึกนิวเคลียสมาอย่างมากมายไม่จำกัด จะว่าไปผลประโยชน์น้อยใหญ่เหล่านี้ ยิ่งคิดยิ่งเติมเต็มหัวใจ
ดังนั้น เมื่อสือจื่อจิ้นมาตอกบัตรในตอนกลางคืน เขาก็เห็นเธอทำการก่อสร้างอย่างทุ่มเทอีกครั้ง
หลังจากปลุกความสามารถแล้ว ซูเถารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าสมรรถภาพทางกายของเธอดีขึ้นมาก ในอดีตเธอเคยนอนดึกเพื่อทำการก่อสร้าง เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อตื่นมาเธอก็รู้สึกราวกับร่างกายกำลังถูกทรมาน แต่ตอนนี้เธอสามารถอยู่โต้รุ่งได้เกือบตลอดคืน และเธอยังสามารถทำต่อไปได้อีกสองชั่วโมงเมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้า
หลังจากที่เธอทำการก่อสร้างเสร็จ เธอก็ไปประชุมที่ตงหยาง และจัดการประชุมออนไลน์กับผู้นำหลายคนในฉางจิงเพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดของการมาถึงเถาหยางของคน 3,000 ชีวิต
นอกจากนี้ นักวิจัยที่ฉางจิงส่งมาเพื่อศึกษายาและวัคซีนซอมบี้ต้องอำพรางตัวและรักษาความลับอย่างเคร่งครัด จุดประสงค์หลักคือเพื่อป้องกันไม่ให้ซอมบี้กลายพันธุ์เข้ามาปะปนกับมนุษย์ และขโมยข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปเพื่อทำลายความคืบหน้าของการทดลอง
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างมีระเบียบและเป็นไปในทิศทางที่ดี
หลังจากการประชุมเสร็จ เธอก็ไปกินอาหารกลางวันและพักผ่อนในตอนบ่าย แต่แล้วซูเถาก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติกับล่าเจียว
มันอาเจียน
อันที่จริงมีบางอย่างผิดปกติมาสักพักแล้ว ความร่าเริงของมันลดน้อยลง ตราบใดที่มันไม่ต้องไปดูลูก มันจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนอนคว่ำ และไม่ค่อยอยากอาหาร
ที่สำคัญคือมันไม่ไปกวนไป๋จือหม่าอีกต่อไป
บางครั้งไป๋จือหม่ายั่วยุ แต่มันก็ไม่ได้สนใจที่จะเงยหน้ามอง
แต่ช่วงนี้ซูเถาค่อนข้างเหนื่อยล้า จึงไม่ทันได้สนใจมันเท่าไหร่ และเลือกที่จะเพิกเฉยและไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่วันนี้เธอว่าง จึงอุ้มมันขึ้นมาตรวจดูจนทั่ว แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ ดังนั้นเธอจึงต้องค้นหาอาการของมันในอินเทอร์เน็ต
ถ้าไม่เป็นอะไรก็ดีไป แต่เมื่อเธอได้ทำการค้นข้อมูล อย่างน้อยที่สุดก็เป็นโรคก้อนขน และร้ายแรงที่สุดก็อาจจะเป็นกระเพาะหรือลำไส้อักเสบ
ซูเถากลัวว่าสิ่งที่พูดบนอินเทอร์เน็ตนั้นไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้นเธอจึงต้องการหาสัตวแพทย์เพื่อให้มาตรวจดูอาการมัน แต่ก่อนหน้านี้หม่าต้าเพ่าและจวงหว่านเคยลองสืบหาผู้เชี่ยวชาญแล้ว แต่สัตวแพทย์หายากเกินไป หลายคนเป็นสัตวแพทย์ของคนรวยและมีอำนาจ ซึ่งการเปลี่ยนนายจ้างไม่ใช่เรื่องง่าย
หลังจากเธอคิดอยู่พักใหญ่ เลยตัดสินใจขอยืมตัวสัตวแพทย์จากเวินม่าน ไม่กี่วันต่อมาเวินม่านก็ส่งสัตวแพทย์มาที่เถาหยางโดยเครื่องบินส่วนตัว
ซูเถารู้สึกเกรงใจอีกฝ่ายมาก แต่ลั่วเหยียนโบกปัดผ่านโทรศัพท์
“ขอแค่ล่าเจียวไม่เป็นไรก็พอ อาการของมันเป็นยังไงเถ้าแก่ซูอย่าลืมอัปเดตกันนะ เวินม่านคงเป็นห่วงมันมาก”
ก่อนที่จะวางสาย ซูเถาก็ถามเขาว่า “เอ่อ…หลังจากที่คุณทำหมัน มันจะกลับมาเหมือนเดิมไหม”
ลั่วเหยียนรู้สึกอายเล็กน้อย “กลับมาเหมือนเดิม ทำไมคุณถามแบบนี้เหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่ถามเฉย ๆ งั้นฉันวางก่อนนะ พวกคุณเดินทางปลอดภัยนะ” ซูเถากล่าว
หลังจากวางสาย ซูเถาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและมองไปที่ร้านขายยาในระบบอย่างครุ่นคิด
ดูเหมือนว่าด้วยการอัปเกรดอย่างต่อเนื่อง สินค้าในร้านค้าระบบต่าง ๆ จะมีเทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ บางทีวันข้างหน้าความปรารถนาของม่านม่านอาจจะเป็นจริงก็ได้
ความคิดนี้ทำให้ซูเถามีความสุข และอารมณ์แห่งความสุขยังคงอยู่จนถึงช่วงดึก เมื่อเธอได้รับข้อความจากสวีฉีว่าจับฮว่าผีได้แล้ว!
“คุณจับมันได้จริง ๆ เหรอ!” ซูเถากระโดดขึ้นจากเตียง
แม้ว่าเธอจะรู้สึกมั่นใจกับเรื่องนี้มาก แต่เรื่องของเจียงถงทำให้เธอเสียใจ และรู้สึกอยู่เสมอว่าโชคชะตาต่าง ๆ ไม่สามารถหลีกหนีจากคำทำนายได้ เมื่อได้ยินข่าวว่าการจับกุมนั้นประสบความสำเร็จ มันทำให้เธอเห็นแสงสว่างข้างหน้า และรู้สึกโล่งขึ้นมาก
สวีฉีพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสงบสติอารมณ์ แต่น้ำเสียงของเขายังคงเจือด้วยความตื่นเต้น และไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้
“เถ้าแก่ นี่เป็นเรื่องจริง หลังจากเธอมาถึงที่นี่เธอก็อยู่ในอาการร่อแร่แล้ว ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลลึก”
ซูเถาพูดว่า “รับทราบ” หลายครั้ง และขอให้พวกเขากลับมาโดยเร็วที่สุด
ในเวลานี้ สือจื่อจิ้นที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดว่า
“ไม่เป็นไร ผมได้ให้คนเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้แล้ว สามารถมองเห็นได้โดยเดินไปทางทิศตะวันออก 500 เมตร รีบกลับมาให้เร็วที่สุด มันจะต้องไม่มีอุปสรรคใด ๆ อีก”
สวีฉีตกตะลึง
เสียงใคร? ทำไมถึงมีเสียงผู้ชายข้าง ๆ เถ้าแก่ซู แล้วก็ทำไมมันฟังดูคุ้นจัง
“รีบไปค่ะ เจอกันอีกสามชั่วโมง!” ซูเถากลับมารู้สึกตัวและพูดขึ้น
“ถึงจะเป็นผีก็ต้องมีความน่าเชื่อถือนะ!” หลังจากวางสาย ซูเถาก็ตำหนิชายหนุ่มทันที
เหตุผลหลักคือเถาหยางไม่มีเฮลิคอปเตอร์!
ซูเถาที่เคยเป็นคนจนมักคิดว่าการซื้อรถเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเงินมีอย่างจำกัด อิสระทางความคิดความฝันของเธอมันเลยไม่มาก
“ผมซื้อให้คุณหนึ่งลำ สีชมพู” สือจื่อจิ้นกล่าว
ซูเถาตกตะลึงและหลังจากนั้นไม่นานเธอก็หัวเราะออกมา
……
ที่เกิดเหตุ…
สวีฉีสั่งสยงไท่ที่กำลังหวาดกลัวลากฮว่าผีซึ่งติดอยู่ใน ‘กรง’ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไป ตอนเขารู้ว่ามันเป็นซอมบี้ที่ดุร้ายกว่าโบนวิงส์ เขาก็แทบจะฉี่ราดกางเกง
หากสวีฉีไม่ได้ใช้ปืนขู่ไว้ เขาคงคุกเข่าลงและตะโกนขอความเมตตาต่อฮว่าผีที่กำลังจะตาย
หลังจากที่สยงไท่ขึ้นไป เขาก็ยืนพิงกรงที่ขังฮว่าผีเอาไว้ ขนอ่อนทั้งร่างกายลุกชัน ใบหน้าของเขาซีดเซียวไร้สีเลือดจนเหมือนคนใกล้ตาย
จากนั้นสวีฉีและอีกสองคนที่เหลือ ต้องนั่งรถกลับเนื่องจากมีพื้นที่ไม่เพียงพอ
เฮลิคอปเตอร์ค่อย ๆ บินขึ้นและมุ่งไปในทิศทางของเถาหยาง และทุกคนบนพื้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขารู้เพียงเล็กน้อยว่าในส่วนลึกของค่ำคืนอันมืดมิด มีชายร่างเตี้ยผู้หนึ่งกำลังมองภาพนี้ด้วยดวงตาแห่งความโหดเหี้ยม
อยากจับก็จับไป จะจับได้กี่ตัวก็ไม่สำคัญ โลกที่บ้าคลั่งนี้จะกลายเป็นอาณาจักรแห่งซอมบี้ในที่สุด
มนุษย์ที่อ่อนแอและถ่อมตัวไม่มีข้อได้เปรียบอื่นใดนอกจากจำนวนที่มากมาย มันจะทำลายพื้นที่ทั้งหมดด้วยมือมันเอง