ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 408 หายใจหายคอสะดวก
ตอนที่ 408 หายใจหายคอสะดวก
ตอนที่ 408 หายใจหายคอสะดวก
สามชั่วโมงต่อมา ซูเถาได้ยินเสียงใบพัดขนาดใหญ่ที่บินโฉบมาบนท้องฟ้า เธอร่าเริงขึ้นและตะโกนทักทายคนด้านบนด้วยความต้อนรับ เมื่อเห็นฮว่าผีที่สะลึมสะลือ ในที่สุดหัวใจของเธอก็เหมือนจะปลดล็อกไปได้ครึ่งหนึ่ง
เมื่อมาถึงเถาหยาง ชะตากรรมของฮว่าผีก็ถูกเขียนใหม่
สิ่งที่ทำนายไว้จะไม่เกิดขึ้น เธอจะไม่สมรู้ร่วมคิดกับไซเรน จะไม่พบเหลยสิง และจะไม่ทรมานและฆ่าเพื่อนร่วมชาติคนอื่น ๆ
เสิ่นเวิ่นเฉิงซึ่งเพิ่งเจ็บปวดหัวใจกับเรื่องของเจียงถง ตอนที่เขาได้ยินข่าวก็รีบวิ่งหน้าตั้งออกไปโดยไม่ทันได้ใส่รองเท้า เมื่อเขาเห็นฮว่าผีที่สติไม่ครบถ้วน ก็เริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า
เขาปาดน้ำตาอย่างแรงและโบกมือ “พาตัวไป! ไปที่ฐานการทดลอง!”
ส่วนทางตงหยางก็ส่งเจ้าหน้าที่และกองกำลังที่มีพลังวิเศษจำนวนมากมาที่เถาหยาง เพื่อจะได้ช่วยกันพาตัวฮว่าผีไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของฐานการทดลอง
ยาจำนวนมากถูกฉีดเข้าไปในร่างกายของเธอ เครื่องมือเย็นเฉียบถูกเจาะเข้าที่ลำตัวของเธอช้า ๆ ในขณะที่เธอลอยตัวแข็งทื่ออยู่ในของเหลว ถูกจำกัดการเคลื่อนไหว ไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว
เธอไม่เข้าใจ สถานที่แห่งนั้นเป็นสถานที่ปลอดภัยที่เธอได้เตรียมการเอาไว้สักพักแล้ว มันเป็นพื้นที่ห่างไกล เป็นสถานที่ที่ทั้งมนุษย์และซอมบี้ไม่เคยย่างกรายเข้าไป
เธอคิดว่าตนเองอำพรางตัวได้อย่างมิดชิด แต่ไม่คาดคิดว่าเมื่อไปถึงที่นั่นจะเห็นกลุ่มผู้มีพลังวิเศษพุ่งออกมาและทำร้ายเธอหลายครั้งโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เจียงถงก็เกิดวิกลจริตขึ้นมา พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะฆ่าเธอ ทำร้ายรากเหง้าของเธอ จากนั้นก็ถูกคนกลุ่มนี้ปิดล้อมอีก เธอแทบจะไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อสู้กลับ และทำได้แค่เฝ้าดูตัวเองถูกจับทั้งเป็นและถูกยัดลงในขวดโหลที่น่าขยะแขยงใบนี้
จนกระทั่งมาถึงจุดนี้เองที่เธอพอจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา ว่าเธอได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นตัวทดลองและมีส่วนช่วยเหลือมนุษยชาติ!
น่าตลกสิ้นดี นี่เป็นสิ่งที่เธอเตือนเจียงถงในตอนนั้น!
เธอพยายามยกมือขึ้นแล้วทุบกระจกอย่างแรง แต่ไม่ว่าจะออกแรงยังไงก็ยกแขนไม่ขึ้น
ทันใดนั้นเธอก็เห็นชายคนนั้นถือเข็มขนาดใหญ่อยู่ข้างอุปกรณ์ควบคุม เดินเข้ามาหาเธอทีละก้าวอย่างช้า ๆ
ใบหน้าของชายคนนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
เมื่อเขาทำการฉีดของเหลวที่อยู่ในหลอดเข้ามา ฮว่าผีก็ส่งเสียงกรีดร้อง ซึ่งเสียงนี้ดูเหมือนจะตัดผ่านท้องฟ้าที่มืดมิด แสงแห่งความหวังค่อย ๆ ทะลุผ่านเมฆ และภายใต้แสงสว่างนั้น ก็ได้ปรากฏดอกไม้บานขึ้นบนพื้นดิน
ในคืนเดียวกัน ซูเถาที่ยืนอยู่ข้างเตียงคอยเฝ้าดูเถาหยางที่ค่อย ๆ สงบลง หลังจากเกิดความวุ่นวายมาพักใหญ่
การจับกุมฮว่าผี ทำให้เธอคลายความกังวลที่ตึงเครียดมาหลายวัน แต่ความแตกต่างทางอารมณ์นั้นมากเกินไป ดังนั้นจึงหลับไม่ลง
เธอยื่นมือออกไปสัมผัสแสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาในห้อง และพูดกับสือจื่อจิ้นที่อยู่ข้าง ๆ
“ในที่สุดฉันก็หายใจคล่องคอสักที ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณไม่ต้องมาตอกบัตรเข้างานกับฉันแล้วนะ เราแค่ต้องรอข่าวดีจากคุณเสิ่นเวิ่นเฉิงและทีมนักวิจัย”
สือจื่อจิ้นพยักหน้าพร้อมเผยรอยยิ้มออกมา แล้วเขาก็คิดได้ว่า ถึงเวลาฝึกฝนการทำอาหารอย่างหนักแล้ว แม้ตอนนี้ในทางปฏิบัติเขายังไม่สามารถทำได้ แต่ในทางทฤษฎีเขาต้องปูพื้นฐานให้แน่นเสียก่อน
ซูเถายืนอยู่ครู่หนึ่งและมองเถาหยางที่เงียบสงบ หลังจากนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ คืนนั้นเธอเข้านอนและหลับไป เป็นคืนที่ไร้ซึ่งความฝัน
ข่าวการจับกุมฮว่าผีสำเร็จได้กระจายไปถึงฉางจิง จนท่านผู้นำสูงสุดอดไม่ได้ที่จะโทรหาซูเถาเพื่อยกย่องเธอ
ปกติแล้วซูเถาไม่กล้าคิดที่จะเป็นผู้นำ ดังนั้นเขาจึงนำเรื่องนี้ยกขึ้นมาเพื่อตบหน้าพันธมิตรทั้งหมด
ท่านผู้นำสูงสุดชื่นชมเธอไม่หยุด และสัญญาว่าจะจัดส่งอาวุธและอุปกรณ์การวิจัยชุดแรกเพื่อสนับสนุนเถาหยางภายในสามวัน
ซูเถามีความสุขมากกับคำชมต่าง ๆ ที่ได้รับ และหลังจากวางสายเธอก็ไปแจ้งเสิ่นเวิ่นเฉิงให้เตรียมรับอุปกรณ์ที่กำลังจะมาถึง เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนที่อาจจะเกิดขึ้น หรือความเสียหายหากอุปกรณ์เกิดการชนกัน หรือปัญหาอื่น ๆ ที่ต้องเตรียมรับมือ
เมื่อรู้ข่าวนี้ เสิ่นเวิ่นเฉิงก็ไม่ได้นอนทั้งคืน เขาตื่นเต้นไปกับทุกสิ่ง
“ได้ได้ได้ ผมเตรียมพร้อมแล้ว เถ้าแก่ พวกเราได้ทำการถอดรหัสเบื้องต้นแล้ว ครั้งถัด ๆ ไปจะใช้เวลาอย่างมากในการวิเคราะห์ข้อมูลและทดสอบตัวอย่าง ที่ฉางจิงสัญญาว่าจะสนับสนุนเรา จะมาถึงตรงเวลาใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพวกเราที่เหลือคงไม่สามารถรับมือได้และร่างกายคงจะไม่ไหวเอา”
“ไม่ต้องกังวลนะคะ มาถึงตรงเวลาแน่นอนค่ะ” ซูเถารีบพูด
“นอกจากนี้สามารถเตรียมเครื่องบินล่วงหน้าไว้ได้เลย เช่นเดียวกับเครื่องบินที่ใช้ในทางการเกษตรโดยการฉีดพ่นของเหลวในพื้นที่ขนาดใหญ่ หากการทดลองประสบความสำเร็จ เครื่องบินเหล่านี้จะต้องฉีดพ่นยาทั่วโลก มันจะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์แต่เป็นอันตรายต่อซอมบี้ และนับว่าเป็นพิษร้ายแรง”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหัวใจของซูเถาก็รู้สึกไฟลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง และเธอก็ได้ตอบเขาอย่างหนักแน่นว่า “ฉันจะเตรียมทุกอย่างที่คุณบอกนะคะ คุณแค่ต้องศึกษาอย่างรอบคอบและไม่ต้องกังวลอะไร อย่าลืมว่าพวกคุณมีฉันและเถาหยาง”
เสิ่นเวิ่นเฉิงจับมือของซูเถาด้วยมือทั้งสองข้าง
“เถ้าแก่ซู ผมให้คำมั่นสัญญากับคุณ เราจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ผมรอคอยวันนี้มานานแล้ว ในที่สุดผมก็รู้สึกว่าผมสามารถทำทุกอย่างได้ด้วยมือของผมจริง ๆ ผม ผม…”
มีคนไม่กี่คนในโลกที่สามารถอุทิศทั้งชีวิตให้กับสิ่ง ๆ เดียวได้ และเสิ่นเวิ่นเฉิงก็เป็นหนึ่งในนั้น
ซูเถาสามารถเห็นอกเห็นใจกับความตื้นตันของเขา เธอเอามือลูบหลังเขาเบา ๆ เพื่อเป็นการให้กำลังใจและขอบคุณที่เขาคอยทุ่มเทกับมันโดยไม่ต้องพูดออกมาเป็นคำพูดสักคำ
ทุกอย่างในเถาหยางดำเนินไปตามปกติ อู๋เจิ้นที่เพิ่งเพาะปลูกผักชนิดใหม่ คุณย่าเฉินก็เป็นคนแรกที่รีบต่อแถวซื้อ ในขณะที่ชายชรากู้ก็กำลังเร่งให้พยาบาลลงไปชั้นล่างเพื่อซื้อผักเพิ่ม เพราะเขาอยากที่เก็บไว้ให้หลานชายของเขา
เมื่อผู้เช่าเห็นซูเถาบนถนน พวกเขาทั้งหมดทักทายเธออย่างอบอุ่น และเรียกเถ้าแก่ซูอย่างกระตือรือร้น
เธอได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเธอตลอดทางที่เดินผ่าน จนกระทั่งซูเถามาถึงพื้นที่ที่ถูกขยายใหม่ เธอลอบถอนหายใจ แม้ว่าอันตรายจะบรรเทาลงชั่วคราว แต่เธอก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อทำการก่อสร้างอีกครั้ง
ในสัปดาห์หน้า จะมีคน 3,000 ชีวิตย้ายเข้ามา
โชคดีที่มีโหมดการก่อสร้างที่รวดเร็ว ที่ดินกว่า 10,000 ตารางเมตรจึงถูกสร้างขึ้นเป็นชุด ๆ และใช้เวลาในการก่อสร้างน้อยกว่าสามวัน
พื้นที่นี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ออกกำลังกายทางทหารซึ่งจัดไว้เป็นพิเศษสำหรับการฝึกและการดำรงชีวิตของทหารในกองกำลังป้องกันตนเองเถาหยาง
ดังนั้น อาคารส่วนใหญ่จึงมีลักษณะเป็นหอพัก ห้องขนาด 4 คนเป็นส่วนใหญ่
ถัดจากบริเวณอาคารที่พัก คือห้องอาหารที่สามารถรองรับได้ 3,000 คนในเวลาเดียวกัน มีสามชั้น ซึ่งชั้นใต้ดินเป็นที่จอดรถ
ทางทิศตะวันออกเป็นพื้นที่สำนักงานสำหรับเจ้าหน้าที่พลเรือนและนายพลระดับสูงในกองทัพ
พื้นที่ที่เหลือ ได้แก่ สนามฝึกซ้อม สนามยิงปืนกลางแจ้ง สนามกรีฑา ลานออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ ฯลฯ มีให้บริการทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีลานฉันทนาการที่สามารถจุผู้ชมรวม 1,000 คนเพื่อความบันเทิงไว้สำหรับเวลาที่ไม่มีการฝึกซ้อมสามารถมาใช้งานพักผ่อนได้
สิ่งอำนวยความสะดวกข้างต้นเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานที่สุด ซูเถากัดฟันและอัปเกรดเฟอร์นิเจอร์ที่พอจะเปลี่ยนเป็นเฟอร์นิเจอร์อัจฉริยะได้
ตัวอย่างเช่น เตียงที่ทหารนอนเป็นแบบมัลติฟังก์ชัน สามารถปรับความสูงได้ นวดได้ มีไฟเซ็นเซอร์ที่หัวเตียง รีโมทคอนโทรลและการควบคุมด้วยเสียง
ในหอพักมีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า ราวตากผ้าไฟฟ้า ม่านไฟฟ้าควบคุมระยะไกลด้วยเสียงเป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีเครื่องใช้ในครัวเรือนขนาดเล็กต่าง ๆ ที่สามารถใช้ได้ตามอัธยาศัยในครัวสาธารณะของแต่ละชั้น
แม้ว่าจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก แต่ความเจ็บปวดของซูเถาก็ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน
ท้ายที่สุดแล้วเธอก็เป็นคนที่ร่ำรวยคนหนึ่ง และยังมีรูมเมทอย่างหลินฟางจือและหม่าต้าเพ่าที่ทำเงินให้เธอได้มากมาย ทำให้เงินสกุลเหลียนปังนั้นอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ไม่จำกัด ในขณะที่ผู้ดูแลทางการเงินอย่างเฉียนหรงหรงก็มีรอยยิ้มในทุกวัน
ในสภาพที่อุดมสมบูรณ์ มั่นคง และสงบ พื้นที่ฝึกทางทหารถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ และหลังจากตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดแล้ว เธอก็เหลือแค่รอพันธมิตรใหม่เข้าร่วม
และในวันนี้ อาวุธชุดแรกที่ฉางจิงส่งมาสนับสนุนก็มาถึงเถาหยางอย่างราบรื่น ดวงตาของสวีฉี มี๋อู้และคนอื่น ๆ เป็นประกาย ฉางจิงใจดีกับพวกเขามาก สิ่งที่พวกเขาส่งมาให้เถาหยางล้วนเป็นอาวุธใหม่ล่าสุด!
ฐานทัพระดับหนึ่งยังไม่มีสิ่งนี้ด้วยซ้ำ แต่ว่าเถาหยางได้ก่อน
“เขามอบปืนพลังงานนิวเคลียสให้เราถึงสามกระบอก!”
คนกลุ่มหนึ่งพากันมุงดู
เหล่าอวี๋ผอหัวหน้าคลังอาวุธ หรี่ตาลงแล้วมองไปด้านข้าง “เด็กพวกนี้คงไม่เคยเห็นของจริงสิท่า”