ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 421 ได้รับการอัปเกรดระบบกะทันหัน
ตอนที่ 421 ได้รับการอัปเกรดระบบกะทันหัน
ตอนที่ 421 ได้รับการอัปเกรดระบบกะทันหัน
ก่อนที่ซูเถาจะออกเดินทาง ก็ได้ไปต้อนรับคนดูแลคลังสมบัติจากขบวนรถที่กลับมาจากชายฝั่ง กัปตันทีมเป็นคนของกู้หมิงฉือ เป็นผู้มีพลังวิเศษด้านมิติ ซึ่งซูเถาได้เรียกเขาให้ไปพบกับหลินฟางจือ
หลังจากที่ทั้งสองขนย้ายกองผลึกนิวเคลียสเข้าไปในมิติของหลินฟางจือเสร็จสรรพแล้ว
กัปตันทีมก็นำบิลค่าใช้จ่ายมาให้ซูเถาตรวจสอบ
ซูเถาไม่สนใจรายการเสบียงที่ยาวเหยียดและราคาขายที่ขายออกไป เธอข้ามรายการด้านบนทั้งหมด หยุดสายตาลงบนบรรทัดสุดท้าย เป็นตัวเลขของผลึกนิวเคลียสจำนวน 8,560 อัน
เธอพยายามเก็บอารมณ์ตื่นเต้นของเธอไว้ และพยักหน้าให้กัปตันทีมด้วยใบหน้าสงบนิ่ง แล้วเรียกเฉียนหรงหรงให้มาตรวจสอบรายละเอียดบัญชี
จากนั้นเธอก็ปลีกตัวออกไปเพื่อกรีดร้องกับตัวเองอยู่สักพัก
ผลึกนิวเคลียส 8,000 กว่าอัน
แม้ว่าจะรวมเขตตะวันออกทั้งหมดแล้ว ก็ยังมีเหลืออยู่มากกว่าครึ่ง
ผลึกนิวเคลียสที่เหลืออยู่ไม่เพียงแต่สามารถควบรวมตงหยางทั้งหมดให้อยู่ภายใต้การดูแลของเธอได้อย่างสมบูรณ์ แต่ยังเหลืออีกเล็กน้อยเพื่อขยายเถาหยาง! สิ่งสำคัญที่สุดคือ ขบวนนี้เพียงเที่ยวเดียวยังได้ขนาดนี้ หากขบวนเดินทางต่อไปอีก 2-3 เที่ยวก็อาจจะขยายอาณาเขตไปถึงต่างประเทศ
แพลนที่กู้หมิงฉือวางให้เธอนั้นได้ผลเกินคาด
เธอไม่จำเป็นต้องกังวลว่าในอนาคตจะมีผลึกนิวเคลียสไม่เพียงพอ หลังจากที่ดีใจกับตัวเองเสร็จ เสียงตะโกนที่ควบคุมไม่ได้ของเฉียนหรงหรงก็ดังขึ้นไม่ไกล
“อ๊ะ…ขอฉันดูก่อนนะคะ กัปตันกรุณารอสักครู่!”
หลังจากตรวจสอบแล้ว ซูเถาก็ปล่อยให้ทุกคนในทีมรับประทานอาหารในเถาหยางอย่างเต็มที่ และเสิร์ฟของดีทั้งหมดที่มีในเถาหยาง
ผู้คนเหล่านี้ล้วนเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ต้องได้รับการปฏิบัติอย่างดี
คนในขบวนทำงานหนักมาก พวกเขาไป ๆ มา ๆ ทั้งวันทั้งคืน ทั้งต้องฆ่าซอมบี้ ปราบโจร จับโจรระหว่างทางไปขายของ ต้องเผชิญกับอากาศหนาวจัด รถยนต์หลายคันก็ได้รับความเสียหายจากการถูกแช่แข็ง ทำให้พวกเขาต้องเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร
มีบางคนเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติภารกิจ แต่กัปตันทีมไม่ต้องการบอกเธอ เพราะว่ามันเป็นคำสั่งจากหัวหน้าของเขา เถ้าแก่ซูมีหน้าที่รับรู้ว่าได้รับผลึกนิวเคลียสมากี่อันเท่านั้น
ซูเถายังเห็นว่าพวกเขาบางคนยังมีร่องรอยบาดแผลของการได้รับบาดเจ็บ และยังมีพลาสเตอร์ติดอยู่ประปราย
แต่สิ่งนี้ไม่ส่งผลต่อการกินของพวกเขา และผู้ที่มีไม้ค้ำก็ยังคงปรุงอาหารและตักอาหารด้วยตัวเอง
ซูเถาคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจแจกจ่ายผลึกนิวเคลียสส่วนหนึ่งให้กับกู้หมิงฉือ
เมื่อกู้หมิงฉือเห็นว่าสายโทรเข้ามาจากใครก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เธอริเริ่มที่จะโทรหาเขาก่อนแล้ว
เขาจงใจเล่นตัวอยู่สักพัก จากนั้นจึงกดเชื่อมต่อก่อนที่สายจะถูกตัดอัตโนมัติ
“มีเรื่องอะไรเหรอ? ผมเพิ่งได้ยินว่ามีสายเข้า”
ซูเถาไม่ได้เก็บเรื่องที่เขารับสายช้ามาใส่ใจ และพูดอย่างจริงใจ
“บอสกู้ ขอบคุณมากนะ หากไม่มีทีมมาช่วยเถาหยางขายเสบียงชุดนี้ เราก็ไม่มีทางได้รับผลึกนิวเคลียสมากมายขนาดนี้ในเวลาสั้น ๆ”
ในตอนนั้นเถาหยางต้องการกำลังคนแต่กลับไม่มีคน ต้องการรถก็ไม่มีรถ ถึงมีเงินมีทองกองเป็นภูเขาก็ไม่สามารถขนออกไปได้ หากไม่ใช่เพราะกู้หมิงฉือ เถาหยางคงต้องรอจนกว่าฉางจิงจะสนับสนุนผู้มีความสามารถมาก่อน แล้วค่อยสร้างขบวนรถของตนเองเพื่อส่งไปที่ชายฝั่ง
“ดังนั้นฉันก็เลยคิดว่า เถาหยางไม่ควรรบกวนคุณโดยไม่ตอบแทนไม่ได้ ฉะนั้นแล้วผลึกนิวเคลียสเหล่านี้…”
“ไม่จำเป็น คุณสามารถเข้าควบรวมเขตตะวันออกและสร้างโดมป้องกันภายในหนึ่งชั่วโมงไหม?” กู้หมิงฉือขัดจังหวะเธอ
ซูเถาสำลักน้ำลาย ตอนนี้เธออยู่บนรถและเตรียมพร้อมที่จะมุ่งหน้าสู่โส่วอัน
“ไม่พอเหรอ ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?”
ซูเถาตอบว่าวันมะรืนนี้ เพราะกว่าเธอจะเดินทางถึงโส่วอันก็เช้าวันพรุ่งนี้
กู้หมิงฉือหรี่ตาลงเล็กน้อย
“ต้องใช้เวลานานขนาดนั้นเลยเหรอ ผมจำได้ว่าตอนที่คุณเข้าควบรวมเขตซีซาน คุณใช้เวลาแค่ในช่วงบ่ายของวันนั้น ตอนนี้คุณมีเรื่องอื่นที่ต้องจัดการเหรอ?”
ซูเถาผู้ต้องการแก้ตัวอึกอักอีกครั้ง
อดีตหัวขโมยคนนี้ให้ความสนใจกับเธอและเถาหยางมากขนาดนี้เลยเหรอ เขารู้กระทั่งรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาที่ต้องใช้ในการควบรวมพื้นที่ของเธอ
เธอกลัวว่าเขาจะซักไซ้ต่อ ดังนั้นซูเถาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากเลื่อนการออกเดินทางออกไป และไปเบิกของจากหลินฟางจือแล้วทำการเข้าควบรวมเขตตะวันออกก่อน จากนั้นจึงใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างโดมป้องกัน
ในพริบตาเดียว พื้นที่ของเขตตะวันออกก็ปรากฏบนแผนที่หลักของเถาหยาง
ซูเถาคิดว่าในที่สุดก็ใกล้จะเสร็จงานแล้ว และกำลังจะปิดหน้าจอระบบ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงระบบที่ไม่ได้ยินมานานดังขึ้นในหัว
[ระบบเจ้าของอสังหาฯ เป็นไปตามเงื่อนไขที่ซ่อนอยู่ของการอัปเกรดระดับสูงสุดเป็นเลเวล 8 เมื่อควบรวมพื้นที่ถึง 1 ตารางกิโลเมตร โฮสต์ต้องการใช้เงิน 50 ล้านเหลียนปังเพื่ออัปเกรดระบบหรือไม่]
ซูเถาตกตะลึง
เธอพึ่งรู้ถึงเงื่อนไขของการอัปเกรดที่ซ่อนอยู่แล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยเมื่อเธออัปเกรดเป็นเลเวล 7 ระบบไม่ได้เตือนเธอว่าต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้างในการอัปเกรดเป็นเลเวลถัดไป แต่ในความเป็นจริง เธอสามารถเดาได้อย่างคลุมเครือว่าเลเวล 8 คืออุปสรรคที่ยากจะฝ่าไปได้ แต่เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะฝ่ามันไปได้โดยไม่ได้ตั้งใจ…
เธอต้องขอบคุณกู้หมิงฉือที่บังคับให้เธอเข้าควบรวมในวันนี้
ซูเถาคลิก ‘ใช่’ อย่างไม่ลังเล
สินทรัพย์ทั้งหมด – 50,000,000 เหลียนปัง
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ ระบบเจ้าของอสังหาฯ ได้รับการอัปเกรดเป็นระดับสูงสุดหนึ่งระดับ ให้เป็นเลเวล 8 ซึ่งมีการพัฒนารูปแบบการให้เช่า ข้อมูลจำเพาะของบ้าน จำนวนคนในบ้าน ราคาเช่าบ้าน ฯลฯ โดยโฮสต์เป็นผู้มีสิทธิ์ในการกำหนด]
[ฟังก์ชันอิสระในการเลือกพื้นที่ได้ถูกปลดล็อก โฮสต์สามารถคลิกบนแผนที่เพื่อเลือกพื้นที่ที่ต้องการดู]
[ฟังก์ชันการควบคุมพื้นที่อย่างสมบูรณ์ถูกปลดล็อก โฮสต์สามารถคลิกบนแผนที่เพื่อเลือกพื้นที่ที่ต้องการดูได้]
เป็นประโยชน์มากจริง ๆ
ซูเถาเริ่มจากการเปิดโหมดการก่อสร้าง และทดลองสร้างห้องเล็ก ๆ เท่า ‘กล่องไม้ขีดไฟ’ ไม่มีประตู เตียง หรือเฟอร์นิเจอร์ แต่เมื่อเธอคลิกเพื่อเปิดการเช่า ระบบก็ไม่ได้มีข้อจำกัดใด แต่มีหน้าต่างเด้งขึ้นมาเพื่อให้เธอกำหนดราคาค่าเช่าและจำนวนผู้อยู่อาศัยได้อย่างอิสระ
เธอกรอกค่าเช่าหนึ่งล้านต่อเดือน แล้วระบบก็อนุมัติทันที กล่าวอีกนัยหนึ่งการอัปเกรดระบบเป็นเลเวล 8 ทำให้เธอมีอิสระมากขึ้น ไม่เหมือนในตอนแรก ที่ห้องเดี่ยวต้องมีเตียง ห้องอาบน้ำ ห้องสุขา ที่ต้องมีราคาตายตัว
ซูเถาคิดถึงจุดประสงค์ของระบบที่ให้อิสระแก่เธอ และรู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่าไม่ควรหาเงินด้วยการคิดค่าเช่าสูงเสียดฟ้า
แต่เป็นการทำให้เธอเลิกสนใจผลประโยชน์บางอย่าง
สิ่งนี้เหมือนกับที่ชายชรากู้พูดกับเธอในชั้นเรียน ว่าก่อนวันสิ้นโลกประเทศนี้มีสิ่งก่อสร้างที่เป็นสวัสดิการสาธารณะ หรือสิ่งก่อสร้างที่ไม่แสวงหาผลกำไรจำนวนมาก
ตัวอย่างเช่น แม้ว่ารถไฟใต้ดินจะมีการเรียกเก็บเงิน แต่เมื่อเทียบกับค่าก่อสร้างและค่าดำเนินการแล้ว ค่าโดยสารที่ผู้โดยสารต้องจ่ายแทบจะไม่สามารถรักษาสมดุลการเงินได้ ซึ่งในบางแห่งก็จะได้รับการอุดหนุนจากหน่วยงาน
เพราะหากว่ารถไฟใต้ดินนั้นต้องการทำกำไรจำนวนมาก ค่าเดินทางสำหรับผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน และค่าใช้จ่ายด้านการคมนาคมของคนทำงานอาจเท่ากับค่าเช่าหรือค่าครองชีพ
อีกข้อหนึ่งคือถ้าอยากรวย อยากสร้างถนน แต่ถ้าค่าทางด่วนแพง ไม่มีคนเดินก็ไม่สามารถรวยขึ้นได้
ซูเถาต้องการเข้าใจความจริงนี้ และรู้สึกอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ว่า การเกิดขึ้นของระบบอาจเป็นมือที่อยู่เบื้องหลังเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ที่ต้องเอาชนะความยากลำบากในวันสิ้นโลก
และเธอเป็นคนผลักดันให้มันไปข้างหน้า
ซูเถาสูดหายใจเข้าลึก ๆ เหมือนเธอได้รับภาระนี้มาอย่างเงียบ ๆ
เธอตรวจสอบฟังก์ชันปลดล็อกที่สอง และหลังจากคลิกเพื่อเข้าสู่หน้าของแผนที่ แต่แล้วเธอก็ต้องตกตะลึง
พื้นที่ทั้งหมดบนแผนที่สามารถควบคุมได้โดยใช้ผลึกนิวเคลียส!
เธอแทบไม่เชื่อสายตา ดังนั้นจึงซูมเข้าซูมออกในแผนที่ และยังเห็นพื้นที่ส่วนสีเขียวที่เตือนเธอว่าเธอสามารถใช้ผลึกนิวเคลียสเพื่อควบคุมมันได้ รวมถึงฐานโส่วอันเพื่อนบ้านของพวกเขา ฐานอู๋ไถที่อยู่ไกลออกไปเล็กน้อย และซินตูของจั๋วเอ่อร์เฉิง รวมไปถึงชายฝั่งที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย หรือแม้กระทั่งฐานฉางจิง!
ซูเถาแทบหยุดหายใจ