ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 430 คำเตือนจากซอมบี้กลายพันธุ์
ตอนที่ 430 คำเตือนจากซอมบี้กลายพันธุ์
ตอนที่ 430 คำเตือนจากซอมบี้กลายพันธุ์
เมื่อไม่มีสิ่งรบกวนหรืออุปสรรคใด ๆ เสิ่นเวิ่นเฉิงก็ปักหลักและอุทิศตนให้กับงานวิจัยอีกครั้ง
ฐานการทดลองเปิดไฟสว่างตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ผู้คนหลายร้อยคนนอนอยู่ในห้องปฏิบัติการ สิ่งแรกที่พวกเขาทำเมื่อตื่นนอนคือดูข้อมูลและสัมผัสเครื่องมือ
เมื่อเทียบกับความเงียบสงบและความพลุกพล่านภายในฐานทดลองแล้ว ภายนอกนั้นกำลังกลายเป็นสมรภูมิเลือด
จำนวนซอมบี้กลายพันธุ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และซอมบี้ที่เพิ่งติดเชื้อการกลายพันธุ์นี้ถูกพบในตงหยาง และมันยังเป็นพ่อของครอบครัวที่มีสมาชิกห้าคนด้วย
โชคดีที่ตอนนี้ฐานตงหยางได้ถูกเถาหยางเข้าควบรวมอย่างสมบูรณ์แล้ว เมื่อซูเถารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอก็รีบเข้าควบคุมพ่อที่กลายพันธุ์ทันที
ไม่อย่างนั้นต่อมาพ่ออาจเสียสติกินภรรยา ลูก และคนชราในครอบครัวจนหมด
เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดเงาความหวาดกลัวมากมายแก่ชาวตงหยาง ผู้พิการและผู้ป่วยในครอบครัวเริ่มรู้สึกไม่มั่นคงและเกิดความตื่นตระหนก
คนขี้อายบางคนถึงกับเริ่มเกลียดและกลัวคนพิการและคนป่วย โดยคิดว่าไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะกลายพันธุ์
ทุกพื้นที่ต่างก็รวมตัวขับไล่พวกเขาออกไป
ฐานบางแห่งถึงกับสั่งห้ามผู้พิการและผู้ป่วยเข้าเมือง และขับไล่ผู้ที่อยู่ในเมืองอยู่แล้วออกไป
กลุ่มเปราะบางมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และถูกปล่อยให้ต้องต่อสู้เพื่อตนเอง
สิ่งนี้ยังสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยมากขึ้นสำหรับการขยายตัวของกลุ่มซอมบี้กลายพันธุ์
สถานการณ์ในตงหยางและเถาหยางนั้นดีที่สุด อย่างน้อยก็ไม่มีผู้เสียชีวิต ซูเถาและอดีตผู้นำกองทัพยังห้ามไม่ให้ละทิ้งสมาชิกที่มีความอ่อนแอในครอบครัวโดยเด็ดขาด
และด้วยการสนับสนุนอันแข็งแกร่งของเถาหยาง ผู้คนของทั้งสองแห่งจึงไม่กลัวมากนัก แม้ว่าเถาหยางจะพบเจอซอมบี้กลายพันธุ์ ก็จะถูกนำตัวออกไปทันที
ไม่ต้องตื่นตกใจ
สถานการณ์ความปลอดภัยรอบข้างแย่มาก พวกเขาเพิ่งรอดพ้นจากหายนะ และตอนนี้ซอมบี้กลายพันธุ์หลายตัวก็ปรากฏตัวขึ้น ทำให้มีผู้คนจำนวนมากเสียชีวิต ขนาดพันตรีสองนายของฐานโส่วอันก็ต้องถูกสังเวย พวกเขาออกอาละวาดที่บริเวณเมืองที่ถูกทำลาย
ประชาชนทั่วไปในโส่วอัน มีความคับแค้นใจอย่างมาก และมีการประท้วงต่อต้านเหล่ากองกำลังแบ่งแยกดินแดนหลายครั้งบนท้องถนน หรือแม้กระทั่งประชากรที่จบชีวิตตัวเองเพื่อเป็นการเรียกร้อง
ฐานโส่วอันที่วุ่นวายจากการต้องปราบปรามขบวนประท้วง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเดาสุ่มสี่สุ่มห้าว่าใครในหมู่เพื่อนร่วมงานคือซอมบี้กลายพันธุ์ ซึ่งทำให้ผู้บริหารระดับสูงทุกคนกลัวที่จะมาทำงานเพราะกลัวว่าพวกเขาจะถูกเพื่อนร่วมงานกลืนทั้งเป็นขณะนั่งอยู่ในออฟฟิศ
หลายคนเสียใจที่ไม่ยอมรับความช่วยเหลือของเถาหยางตั้งแต่แรก จริง ๆ แล้วอย่างน้อยพวกเขาควรยอมรับยาเพื่อระบุตัวตนซอมบี้ที่พวกเขาส่งมา!
หากในตอนนั้นยอมรับความช่วยเหลือ ตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องคาดเดาแบบมืดบอดจนน่ากลัว!
น่าเสียดายที่ต้องทนรักษาหน้าและทนทุกข์ทรมานต่อไป!
หัวหน้าฐานแซ่เก๋อ ไม่สามารถนั่งนิ่งได้อีกต่อไป เขาจึงกัดฟันและเริ่มแสวงหาความช่วยเหลือกับเถาหยาง โดยขอให้สนับสนุนโส่วอันด้วยยาระบุตัวตน
เมื่อจวงหว่านได้รับโทรศัพท์จากพวกเขา เธอก็แอบรู้สึกขุ่นเคือง และก็พ่นลมหายใจออกมา ทำให้เก๋อไห่ปินรู้สึกละอายใจจนไม่กล้าพูดออกมา
ซูเถาพูดไม่ออก “ให้พวกเขาไปสองขวด แต่ต้องแลกมันด้วยอาวุธ โดยให้เหล่าอวี๋ผอเป็นผู้เลือก หากเธอไม่โอเคก็ไม่เอา”
ถ้าวางทิฐิลงตั้งแต่ตอนนั้น ก็จะได้ไม่ต้องมาหลั่งน้ำตอนเห็นโลงศพแบบนี้ เพิ่งจะมายอมก้มหัวเมื่อสองวันที่ผ่านมา ไม่รู้ว่ามีคนตายไปเท่าไหร่แล้ว
แม้กระทั่งในเวลานี้ฐานโส่วอันก็ยังคงไม่ยอมลดความเย่อหยิ่งและพยายามรักษาหน้าเอาไว้
แม้ว่าเก๋อไห่ปินจะรู้สึกเจ็บปวดมาก แต่เขาทำได้เพียงตัดใจส่งมอบอาวุธให้เธอเท่านั้น
ให้ตายเถอะ และทางเถาหยางก็ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธมาคัดสรร หญิงชราจากเถาหยางคนนี้มีสายตาที่ร้ายกาจจริง ๆ เธอเลือกแต่ของดี ๆ ไปหมดเลย!
หลังจากนั้น หน่วยรักษาความปลอดภัยฐานอวิ๋นชางที่อยู่ติดกันและฐานอู๋ไถที่อยู่ไกลออกไปก็มาขอยา
ถึงแม้พวกเขาจะไม่มีโดมป้องกันเหมือนเถาหยาง แต่พวกเขาแตกต่างออกไป เมื่อมีซอมบี้ที่กลายพันธุ์ก็ไม่เกิดการเสียชีวิตของผู้คน เพราะพวกเขาจะฆ่าตายทันทีทีละตัว ๆ จนพวกเขาต้องรวบรวมศพของแต่ละวันเอาไว้จนทนไม่ได้อีกต่อไป
ซูเถาไม่ตระหนี่ แต่จำนวนยาระบุตัวตนมีไม่มากจริง ๆ ดังนั้นเธอจึงให้ไม่ได้
ฐานการทดลองล้วนพยายามไขรหัสพันธุกรรม และพัฒนายาเพื่อกำจัดซอมบี้กลายพันธุ์ และยาระบุตัวตน
แต่เธอทำไม่ได้หากจะปล่อยให้คนตายไปแบบนั้น ดังนั้นเธอจึงคิดหาทางออก เธอต้องการฐานผลิตยา และจัดหาผู้มีความสามารถด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาทำงานในเถาหยาง
เถาหยางสามารถสอนเทคโนโลยีการผลิตยาได้ และเมื่อผลิตออกมาได้จำนวนมาก แต่ละฐานก็สามารถนำยาออกไปได้
และไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นฐานระดับ 1 หรือ 2 หรือ 3 หรือสถานที่ชุมชน หรือแม้แต่ผู้ที่เคยมีความแค้นกับเถาหยางมาก่อนก็สามารถมาได้ เถาหยางจะโอบกอดเพื่อนร่วมชาติทุกคน โดยไม่คำนึงถึงความสงสัยในอดีต
และนักวิจัยที่มาเถาหยางสามารถเพลิดเพลินกับราคาค่าครองชีพแสนถูกของเถาหยางได้ และยังสามารถเช่าบ้านในบริเวณใกล้เคียงได้อีกด้วย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมหัวหน้าฐานต่าง ๆ จึงได้เกิดข้อสงสัย
พวกเขาคิดว่าเถาหยางจะเพิกเฉยต่อพวกเขา…
โดยเฉพาะอย่างยิ่งฐานต่าง ๆ ที่เคยรวมตัวกันไม่ขายอาวุธให้เถาหยางมาก่อน พวกเขาแต่ละคนรู้สึกละอายใจมากจนอยากจะชกตัวเองสองครั้ง
แม้แต่หลิงเทียนจี้อดีตหัวหน้าฐานของซินตู ก็ยังตกตะลึงเมื่อได้ยินข่าว เขาก็ต้องสะอึก
ทำไมตอนนั้นพวกเขาเอาแต่คิดถึงวิธีตรวจสอบและขัดแข้งขัดขาเถาหยาง เอาแต่คิดหาวิธีป้องกันไม่ให้เถาหยางเติบโต
เพราะเมื่อพวกเถาหยางแข็งแกร่งแล้ว สิ่งแรกที่ทำคือการปกป้องพวกเขา
น่าตลกสิ้นดี มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง…
……
ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ เถาหยางได้รับนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 4,000 คนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
คนเหล่านี้รู้ด้วยว่าพวกเขากำลังแบกรับภารกิจประเภทใด พวกเขามาที่เถาหยางต้องซื่อสัตย์เป็นอย่างมากและทุ่มเทให้กับการวิจัยโดยไม่สร้างปัญหา
อย่างไรก็ตาม มีการส่งยาระบุตัวตนไปยังฐานต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดจำนวนซอมบี้กลายพันธุ์ที่เพิ่มขึ้นได้
แต่ยังดีที่ได้หัวหน้าสวี่เป็นผู้ให้ข้อมูล และรวมถึงเครื่องตรวจจับอย่างร่างวิญญาณสือจื่อจิ้น ทำให้ซูเถาจับซอมบี้กลายพันธุ์ได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และยังสร้างห้องใต้ดินใหม่เพื่อยัดพวกมันเข้าไป ซึ่งฐานทดลองทั้งหมดถูกใช้เพื่อการวิจัยซอมบี้หมดแล้ว
เนื่องจากจับได้มากเกินไป แผนการของไซเรนในการรวบรวมพันธมิตรจึงถูกทำลายลงครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ความอดทนของมันที่มีต่อเถาหยางน้อยลงเรื่อย ๆ
หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป มันจะไม่มีกำลังเพียงพอที่จะทำการโจมตีขนาดใหญ่ด้วยซ้ำ!
เถาหยางจะต้องได้รับการตักเตือนเสียก่อน
ซูเถาเดาได้ว่าเธออาจตกเป็นที่ต้องการของซอมบี้กลายพันธุ์
ตัวเธอน่ะไม่เท่าไหร่ เธอสามารถรับประกันชีวิตตัวเองได้ แต่เพื่อนและผู้เช่าในเถาหยาง เธอไม่สามารถรับประกันได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงเริ่มจำกัดการออกนอกฐานเถาหยาง และปฏิเสธความต้องการของผู้คนที่จะออกไปข้างนอกหากไม่มีเหตุผลอันสมควร
ชาวบ้านและผู้เช่าก็เข้าใจแต่เมื่อได้ยินว่าคนในครอบครัวที่ห่างไกลได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พวกเขาก็ยังขอออกจากเถาหยางไปพบญาติเป็นครั้งสุดท้าย
และเมื่อปล่อยพวกเขาออกไป พวกเขาก็ไม่ได้กลับมาอีก…
เมื่อซูเถาเห็นพวกเขา หน้าท้องของพวกเขาว่างเปล่า พวกเขาก็กลายเป็นศพที่เปื้อนเลือดล้มลงบนต้นไม้ที่ตายแล้วซึ่งอยู่ห่างจากเถาหยางเพียงสามไมล์
มีครอบครัวหนึ่งมีลูกสาววัย 13 ปี ถูกควักจมูกออกจากใบหน้า เผยให้เห็นหลุมเลือดสีดำแดง และร่างกายของเธอถูกแทะจนเละเทะ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ซึ่งเธอไม่ได้ตายดี
จวงหว่านปิดปากและร้องไห้ออกมา “ใช่แล้ว เธอเป็นสมาชิกครอบครัวฉี จากอาคารหมายเลข 3 เขา พวกเขา…”
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ในครอบครัวของพวกเขาก็เรียนกับเฉินซี เธอเป็นเด็กหญิงที่สุภาพและสดใส
สวีฉีสาปแช่ง และระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “บัดซบ!”
สัตว์ร้ายกลุ่มนี้กำลังส่งสัญญาณให้เถาหยางเห็นว่านี่คือคำเตือน!
เตือนพวกเขาด้วยสามชีวิตที่นองเลือด!
ริมฝีปากของซูเถาสั่นเทา เธอกำหมัดแน่น ซอมบี้เตือนเธอว่าอย่าจับซอมบี้เพิ่มเหรอ?!
แต่หากเธอไม่จับ! วันนี้ก็คงไม่มีใครมีชีวิตรอดไปได้!