ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 442 ตอนพิเศษ 8
ตอนที่ 442 ตอนพิเศษ 8
ตอนที่ 442 ตอนพิเศษ 8
ซูเถาไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ
เธอใช้เวลาสองสัปดาห์ในซินตู เพื่อใช้เงินอย่างตามใจและซื้อของทุกอย่างตามต้องการ
โชคดีที่มีพื้นที่ในรถคันเล็ก ทำให้เธอสามารถยัดของใส่ ‘กระเป๋าใบเล็ก’ ของหลินฟางจือได้ตามต้องการ ไม่เช่นนั้นมันคงไม่สามารถระงับความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะซื้อของเธอได้
หลังจากเที่ยวเล่นมามากพอแล้ว จั๋วเอ่อร์เฉิงรู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องบอกข่าวบางอย่างกับเธอก่อนที่เธอจะเดินทางกลับ
“เอ่อ ที่วันก่อนได้เจอกับเจียงจิ่นฮุยอะไรนั่น เธอชื่ออะไรนะ?”
“เจียงจิ่นเวย” เลขากระซิบข้างหูเขา
“อ๋อ เธอนั่นเอง ผมไปตรวจสอบเรื่องของเธอมาแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพ่อของเธอดื่มมากเกินไป ทำให้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน… แม่ของเธอก็มีแผลเรื้อรังมาหลายปี จนล่าสุดติดเชื้อและเสียชีวิตลง…คุณอยากไปดูไหม?”
สุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็เป็นพ่อแม่ของเธอ ไม่ว่าซูเถาจะเลือกอย่างไร เขาก็ยังแจ้งข่าวนี้ให้เธอทราบอยู่ดี
สำหรับเจียงจิ่นเวยก็ใช้ชีวิตแต่งงานอย่างน่าเวทนาและทุกข์ทรมานจากภาวะซึมเศร้า
เด็กสองคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับซูเถา
“ไม่จำเป็น” ซูเถาเงียบไปสักพักจากนั้นก็ส่ายหัว
จั๋วเอ่อร์เฉิงพยักหน้ายอมรับการตัดสินใจของเธอ
เขาเพิ่งรู้เรื่องนี้ในระหว่างการสืบหาข้อมูล แต่เขาไม่คาดคิดว่าซูเถาจะต้องทนทุกข์ทรมานจากสายตาที่เย็นชา และการถูกทารุณกรรมมากมายเมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็ก
สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างผลกระทบทางใจให้เธอ และเป็นสิ่งที่ครอบครัวปฏิบัติต่อเธอมาโดยตลอด
เธอได้รับการปฏิบัติอย่างเย็นชาและถูกละเลยมาตั้งแต่เด็ก และครอบครัวก็ไม่เคยให้ความอบอุ่นกับเธอ มองว่าเธอเป็นภาระและเป็นตัวปัญหา
ทัศนคติของพ่อแม่เป็นตัวกำหนดทัศนคติของพี่น้องที่มีต่อเธอ ซูเถาจึงต้องถูกพี่น้องคนอื่น ๆ รังแกและขโมยทุกสิ่งที่เธอหามาได้ ไม่ใช่แค่วัตถุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอารมณ์ทางจิตใจด้วย
พวกเขาไม่อยากเห็นเธอกินและสวมเสื้อผ้า ไม่อยากเห็นเธอได้ครอบครองสิ่งใด ไม่อยากเห็นเธอมีความสุข
ซูเถาเข้าไปในรถสีชมพูคันเล็กอีกครั้ง มองไปที่ซินตูซึ่งกำลังห่างออกไปเรื่อย ๆ พร้อมกับถอนหายใจยาว และพูดกับสือจื่อจิ้นที่อยู่ข้าง ๆ
“จริง ๆ แล้ว ถ้าพวกเขาดีกับฉันสักนิด ฉันอาจจะยื่นมือเข้าไปช่วย”
สือจื่อจิ้นกอดเธอจากด้านหลังและวางคางบนไหล่ของเธอ “ผมรู้”
จู่ ๆ ซูเถาก็รู้สึกผิดและเศร้าขึ้นมา
“แต่พวกเขาไม่มีแม้แต่นิดเดียว ฉันออกจากบ้านมานานแล้ว พวกเขาก็ไม่สนใจหรือเป็นห่วงฉันเลย พอพวกเขาเห็นฉัน พวกเขาก็อ้าปากด่า บอกว่าฉันไม่รู้จักช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว ฉันเป็นส่วนเกินของที่นั่น เพราะทุกคนคิดว่าฉันคือตัวปัญหา”
“ฉันเคยคิดนะว่าฉันเป็นลูกของพวกเขาจริง ๆ หรือเปล่า ฉันเป็นเด็กที่พวกเขาเก็บมาเลี้ยงหรือขโมยมาหรือเปล่า ฉันได้แอบตรวจสอบแล้วแหละ แต่น่าเสียดายที่ฉันเป็นลูกของพวกเขาจริง ๆ ฉันไม่เข้าใจถ้าไม่รักฉัน ทำไมถึงให้กำเนิดฉันมา เห็นได้ชัดทั้ง ๆ ที่ในครอบครัวนี้ฉันมีพ่อมีแม่ที่เป็นพ่อแม่ของฉันจริง ๆ ก็ยังถูกปฏบัติเหมือนลูกนอกคอก”
สือจื่อจิ้นเจ็บปวดแทนเธอ
เขาอยากจะปลอบใจ แต่เขาก็พูดอะไรไม่ออก
คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้ คงไม่มีวันเข้าใจ
คำที่บอกว่าไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกเป็นคำลวงโลก
ในโลกนี้มีผู้คนมากมายที่ไม่มี ‘พื้นที่ปลอดภัย’ ที่เมื่อต้องไปเผชิญกับสิ่งเลวร้ายข้างนอกแล้วจะพูดได้ว่า “ช่างเหอะ ก็แค่กลับบ้าน”
พวกเขาไม่สามารถใช้บ้านเป็นสถานที่พักผ่อนได้ และพวกเขาก็ไม่กล้าล้มเพราะไม่มีใครอยู่ข้างหลังพวกเขา
ผู้คนจำนวนมากไม่เพียงแต่ไม่มีแสงไฟอยู่ข้างหลังพวกเขาเท่านั้น แต่ยังมีหมอกขาวอยู่ข้างหน้าพวกเขาด้วย
……
ถ้าให้ซูเถาเลือกคนที่เธอชื่นชมมากที่สุด และเปลี่ยนชีวิตกับคนคนนั้นได้ในเวลาสามวัน เธอก็คงจะเลือกอลิซอย่างแน่นอน
ฤดูหนาวที่ฉางจิงจะค่อนข้างหนาว หลังเลิกงาน หัวหน้าสวี่รีบไปที่เรือนสี่ประสานบนศีรษะของเขาเต็มไปด้วยเกล็ดหิมะ จากนั้นเขาก็เปิดประตูแล้วตะโกนอย่างมีความสุข
“เสี่ยวเหอเหอ ดาด๊าเอาของอร่อยมาให้ลูกด้วยนะ”
ขณะที่เขาพูด เขาก็หยิบกล่องเกี๊ยวกุ้งนึ่งออกมาจากกระเป๋า มันยังคงอุ่น ๆ อยู่ ตอนนั้นเข้าได้ชิมแล้วคิดว่ามันอร่อยมากจนต้องเก็บไว้ให้ลูกสาวกิน
ไม่ว่าของจะดีไม่ดียังไง เขาก็อดไม่ได้ที่จะเก็บไว้ให้ลูกสาวเสมอ
อลิซที่กำลังเล่นเกมกับซูเถาก็รีบวิ่งไปทันทีเมื่อเห็นสิ่งนี้
แต่ถึงแม้ว่าเธอจะโลภอยากกินเกี๊ยวเหล่านั้น แต่เธอก็ไม่ลืมกอดดาด๊าก่อนเป็นอันดับแรก และส่งรอยยิ้มหวานให้ผู้เป็นพ่อได้ชื่นใจ แล้วเอ่ยเหมือนทุกทีที่ผ่านมา
“ดาด๊าเลิกงานแล้ว”
แล้วเธอก็รับกล่องนั้นเอาไว้ในมือ
“แบ่งให้น้องสาวกินด้วยนะ!” หัวหน้าสวี่ตะโกนตามหลัง
ซูเถาตกตะลึง
เมื่อเธอฟื้นคืนสติ อลิซก็ยัดเกี๊ยวเต็มคำใส่ปากเธอ
จากนั้นเธอก็ได้ยินหัวหน้าสวี่พูดว่า
“เมื่อรู้ว่าหนูกำลังจะมาฉางจิงเพื่อพักผ่อนระยะสั้น ฉันเลยให้คนเตรียมของใช้ประจำวันใหม่ ๆ ไว้ให้ เดี๋ยวจะเอามาให้หนูทีหลัง ยังไงก็ตาม ฉันเองก็ขอลางานไปหนึ่งอาทิตย์และใช้วันหยุดประจำปีจนหมด เมื่อถึงเวลาฉันจะพาหนูไปเดินเล่นที่ฉางจิงอยากไปที่ไหนอยากกินอะไรบอกอาได้เลยนะ”
ซูเถากลืนเกี๊ยว และพยักหน้าอย่างแรง “หนูไม่เกรงใจนะคะ”
ในสัปดาห์ถัดมาหัวหน้าสวี่ทำตามที่เขาพูดจริง ๆ เขาพาเธอไปเยี่ยมชมจุดชมวิวและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ในฉางจิงเป็นการส่วนตัว และไม่ว่าเขาจะซื้อของอะไร ไม่ว่าจะของกินของใช้หรือเสื้อผ้า เขาจะซื้อสองชิ้นเสมอ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ซูเถาก็มีเสื้อสเวตเตอร์ เสื้อโค้ท ถุงมือ และหมวกแบบเดียวกับอลิซมากมาย
เธอสวมหมวกบนศีรษะ สวมถุงมือ แล้วยิ้มให้หัวหน้าสวี่
อลิซที่สวมหมวกให้ตัวเองได้ไม่ดีนัก ก็ส่งยิ้มให้พ่อของเธอเช่นกัน
ซูเถาเอื้อมมือออกไปสวมหมวกให้เธออย่างเรียบร้อย
หัวหน้าสวี่พูดว่า “มามา ขอถ่ายรูปหน่อยสิ สองพี่น้องน่ารักมาก ได้เวลาเปลี่ยนวอลเปเปอร์ใหม่แล้ว”
แชะ!
หัวหน้าสวี่เปลี่ยนวอลเปเปอร์ทันที และเมื่อกลับไปทำงานและเพื่อนร่วมงานเห็น ก็เอ่ยถามเขา เขาจึงยิ้มและตอบออกมาด้วยความสุข
“ลูกสาวทั้งสองของผม!”
……
ซูเถาอาศัยอยู่ที่ฉางจิงจนถึงวันตรุษจีน
ปีนี้พิเศษมาก มีเพียงเธอ สือจื่อจิ้น อาสวี่ และลูกสาวของเขา
หลังจากรับประทานอาหารและไวน์รสเลิศบนโต๊ะแล้ว หัวหน้าสวี่ก็เริ่มพูดคุยกันมากขึ้น โดยลากสือจื่อจิ้นออกมาคุยส่วนตัว
“เถาเถาเป็นเด็กดี ผมถือว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวผมแล้ว คุณต้องสัญญากับผมว่าคุณจะไม่รังแกเธอและรักเธอ ไม่อย่างนั้นผมจะไม่สนใจว่าคุณจะอยู่ตงหยาง เถาหยางหรือที่ห่างออกไปแค่ไหน ผมจะทิ้งงานจากฉางจิงและไปเอาเรื่องคุณให้ถึงที่สุด”
สือจื่อจิ้นยกแก้วไวน์ขึ้นด้วยความเคารพและรับปาก
หัวหน้าสวี่มีความสุขมากและดื่มเข้าไปไม่น้อย เมื่อเขาเมามากจนไม่ได้สติ สือจื่อจิ้นก็ต้องมาช่วยลากเขาไป
เมื่อปีใหม่ผ่านไป รถสีชมพูคันเล็ก ๆ ก็จะออกเดินทางอีกครั้ง และมุ่งไปบ้านเกิดของเจียงอวี่และน้องสาว
ฤดูใบไม้ผลิอุณหภูมิก็สูงขึ้นตลอดทาง และสามารถเห็นดอกไม้ป่าบานสะพรั่งได้ทุกที่
เจียงอวี่จงใจขับรถช้า ๆ ราวกับจะแสดงให้เจียงถงเห็นว่าโลกที่ทรุดโทรมนั้นค่อย ๆ สวยงามมากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อถึงที่หมายก็เข้าสู่เดือนสี่แล้ว
ในวันฤดูใบไม้ผลิอันอบอุ่นนี้ เจียงอวี่ได้ฝังแว่นตาและเศษเสื้อผ้าบางส่วนไว้ใต้ต้นไม้ที่สูงตระหง่าน
เจียงอวี่คุกเข่าใต้ต้นไม้เป็นเวลานานและพูดพล่ามมากมาย
ชาติหน้ากลับมาเป็นพี่น้องกันอีกครั้งนะ
ชาติหน้าแม้ว่าพี่จะยืนอยู่อีกฟากของโลก พี่ก็จะปกป้องน้องให้ได้…