ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 444 ตอนพิเศษ 10
ตอนที่ 444 ตอนพิเศษ 10
ตอนที่ 444 ตอนพิเศษ 10
ความสุขที่ได้รับจากข่าวดีของเวินม่านนั้นอยู่ได้ไม่นาน ก่อนจะพบว่าชายชรากู้หลงทาง!
เมื่อนางพยาบาลพบซูเถา เธอก็กังวลจนร้องไห้ออกมา
“ฉันเอาขยะลงไปทิ้งชั้นล่าง พอฉันกลับมาเขาก็หายไปแล้ว ฉันถามเพื่อนบ้านแล้วพวกเขาก็บอกว่าไม่เห็น ฉันพยายามค้นหาเขาทุกที่ที่เขาไปในเถาหยางแล้ว แต่ก็ไม่พบ เถ้าแก่ซู คุณช่วยบอกคุณชีเร่งดูกล้องให้หน่อยได้ไหม ชายชราที่มีปัญหาเรื่องความจำ หากออกไปนอกเถาหยางจะแย่เอา”
ซูเถารีบให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกที่ และแน่นอนว่าเมื่อเวลาประมาณบ่ายสองโมง เธอก็เห็นชายชรากู้ออกจากเถาหยาง
แต่ว่าชายชรากู้ในภาพกล้องวงจรปิดนั้นดูต่างออกไป
ก่อนที่เขาจะออกไป เขาเดินไปที่สวนสาธารณะเถาหยางเป็นเวลานาน ราวกับกำลังคิดว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ที่ไหน จากนั้นเขาก็ถามคำถามกับผู้เช่าที่ผ่านไปมา และมุ่งหน้าตรงไปที่ประตูเถาหยาง
……
ในเวลาเดียวกัน ชายชรากู้ก็ขมวดคิ้วและมองไปที่จุดขายตั๋วที่สถานีขนส่งตงหยาง
เขารู้ทุกคำในนั้น แต่ทำไมชื่อสถานที่ถึงแตกต่างจากที่เขาจำได้?
“ฉางจิง? ฉางจิงอยู่ที่ไหน? เมืองหลวงของประเทศเราไม่ได้ชื่อนี้นี่?”
ผู้คนที่รออยู่ข้าง ๆ ได้ยินเขาพึมพำ ทุกคนต่างก็มองเขาอย่างสงสัยแล้วพูดว่า
“คุณปู่ คุณมาจากไหนเหรอ?”
ชายชรากู้บอกชื่อบ้านเกิดของเขา ถามว่าจะไปที่นั่นอย่างไรและต้องรอรถอะไรไป
ผู้คนที่เดินผ่านไปมาอ้าปากค้างและมองดูเขา “คุณไม่ได้หมายถึงตงหยางใช่ไหม เหมือนชื่อที่คุณพูดมามันจะเป็นชื่อเก่า ตั้งแต่อดีตผู้นำกองทัพรวบรวมประชากรของเมืองโดยรอบได้ เขาก็สร้างเมืองใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็นตงหยาง คุณปู่หรือว่าตรงนี้ของคุณไม่ดีแล้ว”
ผู้สัญจรไปมาชี้ไปที่ศีรษะของเขา
“คุณพูดว่าอะไรนะ ยี่สิบปีที่แล้ว?” ชายชรากู้เหมือนถูกฟ้าผ่า
เมื่อผู้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นว่าเขาสับสนมาก จึงพาเขาตรงไปยังจุดพักของกองกำลังปกป้องเมือง
บังเอิญว่าลูกน้องคนหนึ่งของเผยตงได้เห็นชายชราแล้วเขาก็พูดว่า
“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ? ผมจะพาคุณกลับไปที่เถาหยาง”
ชายชรากู้มองเขาอย่างระมัดระวัง “คุณเป็นใคร”
ลูกน้องของเผยตงตัวแข็งทื่อ
ชายชราคนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ตอนนี้เขาดูฉลาดและจริงจัง มีสติสัมปชัญญะมาก
ผู้ใต้บังคับบัญชาจึงรีบโทรหาเผยตง
แม้ว่าเผยตงจะมีความบาดหมางกับกู้หมิงฉือ แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปู่ของเขา ดังนั้นจึงติดต่อไปหาซูเถา
ซูเถารีบพาคนมาอย่างเร่งรีบ ชายชรากู้เห็นเธอและคุ้นหน้าคุ้นตาแต่ว่านึกไม่ออก
“เอ่อ…คุณเป็นใคร?”
ซูเถาและคนอื่น ๆ รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าพูดอะไร
พยาบาลโทรหากู้หมิงฉืออย่างเงียบ ๆ
กู้หมิงฉือปรากฏตัวต่อหน้าชายชรากู้ในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที
ชายชรากู้มองไปที่ชายหนุ่มตรงหน้า และความทรงจำที่เต็มไปด้วยฝุ่นของเขาก็ค่อย ๆ ฟื้นตัว
“นาย…นาย…”
กู้หมิงฉือเม้มริมฝีปาก และจ้องมองปู่ของเขาอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ได้พูดอะไร
“ไอ้เด็กคนนี้ แกโตจนป่านนี้แล้วเพิ่งกลับมาหาฉันเหรอ!”
ขณะที่เขาพูด เขาก็ทุบตีกู้หมิงฉือด้วยไม้เท้าของเขา
นางพยาบาลและหุยซู่ที่อยู่ด้านข้างหน้าซีดด้วยความตกใจ และอยากจะรับการทุบตีนั้นไว้แทน แต่กู้หมิงฉือห้ามพวกเขาเอาไว้
ชายชรากู้เริ่มหยุดการกระทำลง
“หมิงฉือ เกิดอะไรขึ้น? ฉันหลับไปครู่เดียว ทำไมโลกถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ แกก็โตขึ้นแล้วเช่นกัน ฉันป่วยหรือเปล่า ฉันป่วยแล้วสร้างปัญหาให้ทุกคนหรือเปล่า”
ชายผู้มีอำนาจที่อยู่ในวงการค้ามานานหลายทศวรรษก่อนวันสิ้นโลกกำลังร้องไห้เหมือนเด็กในขณะนี้
แม้ว่าการแสดงออกของกู้หมิงฉือจะยังสงบนิ่ง แต่ร่างกายของเขาก็เริ่มสั่นไหวอย่างหยุดไม่ได้
เขาคุกเข่าลงต่อหน้าชายชรา พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองปู่ของเขาเหมือนตอนที่เขายังเด็ก และพูดด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา
“ปู่ เรียกผมอีกครั้งได้ไหม”
ชายชรากู้หลั่งน้ำตา “หมิงฉือ ปู่ขอโทษ…”
กู้หมิงฉือเอนกายบนตักของเขา “ไม่เป็นไรครับ”
ตราบใดที่ปู่จำผมได้ แม้ว่าจะจำได้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว แต่มันก็คุ้มค่า
……
น่าเสียดายที่ชายชรากู้กลับมาจำอะไรได้เพียงวันเดียวเท่านั้น เพราะในวันรุ่งขึ้นเขาก็จำกู้หมิงฉือไม่ได้เหมือนเดิม เพื่อนเก่าที่เคยเล่นหมากรุกกับเขามาก่อน เขาก็จำไม่ได้เช่นกัน
ซูเถาไปพบเขา แต่เขาแค่เงยหน้าขึ้นแล้วมองดูเธอโดยไม่แสดงสีหน้าใด จากนั้นก็ก้มลงด้วยความงุนงงอีกครั้ง
เขาจำเนื้อร้องในเพลงที่เขาเคยร้องไม่ได้ด้วยซ้ำ
อาการของเขาดูเหมือนจะแย่ลง
ดูเหมือนว่าช่วงเวลาแห่งความมีสติในวันนั้นเป็นเพียงการบอกลาคนที่เขาเฝ้าคิดถึงมาโดยตลอด
แม้ว่ากู้หมิงฉือจะเตรียมตัวมาเป็นเวลานาน แต่เมื่อวันนี้มาถึง เขาก็ยังยอมรับไม่ได้
เขาไปรับชายชรากู้จากเถาหยาง พาเขาไปที่เขตตะวันออกเพื่อใช้เวลาด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย
ซูเถาเฝ้าดูเขาเข้าไปในรถโดยมีชายชรานั่งอยู่ด้านหลัง เขาคาดเข็มขัดนิรภัยให้ชายชราอย่างระมัดระวัง ในที่สุดก็ขึ้นรถ พิงไหล่ชายชราออกไปพร้อมกับหลับตาลง
เมื่อประตูปิด เครื่องยนต์ก็ขับไปทางทิศตะวันออก
ทันใดนั้น ซูเถาก็รู้สึกว่าดวงตาของเธอพร่ามัว สือจื่อจิ้นก็ได้เข้าไปอดเธอจากด้านหลัง
ภาพนี้ตกอยู่ในสายตาของกู้หมิงฉือที่มองย้อนกลับไป
เขาหันหลังกลับไปพิงไหล่ของญาติคนเดียวของเขาอีกครั้ง และหลั่งน้ำตาอย่างเงียบ ๆ เป็นครั้งแรกในรอบยี่สิบปี
……
ตั้งแต่นั้นมา ซูเถาก็ไม่เคยเห็นกู้หมิงฉืออีกเลย และเสียงโทรศัพท์ที่น่าอึดอัดใจของเธอก็ไม่เคยดังขึ้นอีก
เช่นเดียวกับเหลยสิงที่หายไปจากชีวิตของเธอ
ชีวิตของเธอค่อย ๆ กลับคืนสู่ความสงบสุข
วันเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า ฤดูใบไม้ผลิเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง และอีกปีผ่านไป ในที่สุดสือจื่อจิ้นก็รอจนกระทั่งซูเถาอายุ 23 ปี และมอบแหวนขอเธอแต่งงาน
จู่ ๆ ซูเถาตื่นตระหนกเมื่อมองดูแหวนเพชรแวววาววงใหญ่นี้ และเสียหลักไปเล็กน้อย
เธออาจจะต้องลองคิดดูอีกที
สือจื่อจิ้นเก็บแหวนกลับไป เขาลุกขึ้นและกอดเธอ “ไม่ว่าคุณจะใช้เวลาคิดนานแค่ไหน ผมก็จะรอคุณ”
คืนนั้นซูเถานอนอยู่บนเตียงและมองย้อนกลับไปตั้งแต่วันที่ได้พบกัน ทำความคุ้นเคยกัน จนสนิทกัน จนมีความรักกับสือจื่อจิ้น แต่เธอรู้สึกว่ามันยังอีกยาวไกล
เธอชอบเขา และเคยชินกับการมีเขา แต่พอมาถึงวันที่จะต้องแต่งงานจริง ๆ เธอกลับกลัวและสับสน
ครอบครัวเดิมของเธอมีอิทธิพลต่อเธอมากเกินไป เธอรู้สึกไปเองว่าการแต่งงานครั้งนี้ก็เหมือนกับการแต่งงานของซูเจี้ยนหมิงและหลี่หรงเหลียน นั่นคือการที่พวกเขาคิดแต่ผลประโยชน์และความคาดหวังจากกันและกัน สุดท้ายก็เกิดการทะเลาะกัน…
เธอรู้ว่าสือจื่อจิ้นไม่ใช่ซูเจี้ยนหมิงและไม่ใช่หลี่หรงเหลียน แต่เธอยังคงควบคุมตัวเองให้เลิกกลัวการแต่งงานไม่ได้
ความคิดนี้มันทำให้เธอกินไม่ได้นอนไม่หลับ และเธอก็เริ่มหลบหน้าเมื่อเห็นสือจื่อจิ้น
จนกระทั่งคืนหนึ่ง ระบบที่เงียบงันมาสองปีก็ส่งเสียงแจ้งเตือนอีกครั้ง
[ตรวจพบว่าโลกนี้ได้เข้าสู่ยุคแห่งการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ขอบคุณโฮสต์สำหรับความพยายามและการมีส่วนร่วม เพื่อเป็นการตอบแทน โฮสต์จะได้รับสิทธิ์ในการอพยพไปยังดาราจักร มิติเวลาระหว่างดวงดาวเปิดออกแล้ว โฮสต์ตกลงที่จะเข้าร่วมหรือไม่?]
ซูเถาลุกขึ้นนั่งทันที
“อธิบายละเอียดหน่อยได้ไหม จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเข้าไป? คือการเดินทาง?”
เธอได้เรียนรู้จากการวิวสินค้าต่าง ๆ ในระบบ ว่าดาราจักรหรือกาแล็กซีคืออนาคต เวลาและสถานที่ที่เต็มไปด้วยจินตนาการและเทคโนโลยีชั้นสูง
[หลังจากเข้าร่วม โฮสต์จะได้รับตัวตนใหม่ โฮสต์สามารถเข้าใจได้ว่านี่เป็นการเกิดใหม่และสามารถเลือกที่จะสร้างครอบครัวใหม่ได้]
เลือกครอบครัว…
ซูเถารู้สึกงุนงงเล็กน้อย หากเธอสามารถเกิดใหม่ในดวงดาว มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบและอบอุ่น และมีพ่อแม่ที่รักเธอ…
ไม่สิ!
“ถ้าเข้าไปแล้วจะกลับมายังโลกนี้ได้ไหม?”
[ไม่สามารถทำได้ โฮสต์จะได้ชีวิตใหม่ โฮสต์ต้องการที่จะเข้าร่วมหรือไม่ โฮสต์มีโอกาสมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น โปรดพิจารณาให้รอบคอบ]
จิตใจของซูเถาจำคำพูดของสือจื่อจิ้นได้ทันที “ไม่ว่าคุณจะใช้เวลาคิดนานแค่ไหน ผมก็จะรอคุณ”
ลองนึกถึงเขาที่ตายครั้งแล้วครั้งเล่า คิดถึงรอยยิ้มของเขา การแสดงออกและคำพูดที่ซุกซนของเขา คิดถึงการไล่ทำคะแนนของเขาในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เธอรวบรวมความภาคภูมิใจในอดีตของเขามาสู่ความรักที่เขามีต่อเธอ
ทันใดนั้นเธอก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ “ไม่”
[มิติเวลาระหว่างดวงดาวปิดลงแล้ว ขอให้โฮสต์มีความสุข]
“ขอบคุณ ฉันจะมีความสุขตลอดไป” ซูเถายิ้ม
เธอวิ่งลงไปชั้นล่างและตะโกนบอกหลิงอวี่ที่กำลังหลับอยู่ที่ขอบหน้าต่าง
“ไปบอกสือจื่อจิ้นว่าวันนี้ฉันสวมชุดสีฟ้าอ่อน!”
“บอกเขาให้นำแหวนมาอีกครั้ง!”