ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 69 ถ้าพิการก็จะไปใช้ชีวิตยามเกษียณที่เถาหยาง ให้คุณเฝ้าอยู่ข้างเตียง
- Home
- ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก
- ตอนที่ 69 ถ้าพิการก็จะไปใช้ชีวิตยามเกษียณที่เถาหยาง ให้คุณเฝ้าอยู่ข้างเตียง
ตอนที่ 69 ถ้าพิการก็จะไปใช้ชีวิตยามเกษียณที่เถาหยาง ให้คุณเฝ้าอยู่ข้างเตียง
ตอนที่ 69 ถ้าพิการก็จะไปใช้ชีวิตยามเกษียณที่เถาหยาง ให้คุณเฝ้าอยู่ข้างเตียง
สุดท้ายซูเถาก็ยังถูกเขาบังคับให้ซื้อชิ้นส่วนที่คล้ายกับชุดเกราะ
วัสดุมีความพิเศษมาก วัตถุมีคมธรรมดา ๆ ไม่สามารถขีดข่วนได้เลย ทั้งยังมีความเหนียว นอกจากนี้ยังเป็นเหมือนของไหลแบบนอนนิวโตเนียน ซึ่งจะแข็งขึ้นหลังจากถูกกระแทกอย่างแรง
“ชุดนี้เท่ากับการมีความสามารถ ‘เกราะหิน’ ตราบใดที่มันไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิตจากการระเบิดหรือซอมบี้วิวัฒนาการ มันก็ดีนะ และช่วงนี้เราก็มีโปรโมชัน ชิ้นสุดท้ายจ่ายเพียง 120,000 เหลียนปัง บวกกับ 10,000 คะแนนสมทบ”
ซูเถาต้องการถอดชุดเกราะทันที
สือจื่อจิ้นจับมือเธอไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง อีกมือหนึ่งก็จ่ายเงินด้วยเครื่องสื่อสาร ท้ายที่สุดเขาก็พาเธอออกจากศูนย์กลางการค้าอาวุธ
ซูเถานั่งอยู่ในรถเตรียมที่จะกลับเถาหยาง รู้สึกว่าเธอยอมรับการล้างบาปและการเสื่อมสภาพจากเงินด้วยใจจริง
เธอเอ่ยถามสือจื่อจิ้น “คุณยังมีเงินอยู่ไหม”
สือจื่อจิ้นไม่ได้หันมองอีกฝ่ายพลางตอบว่า “ยังไม่ถึงกับต้องให้คุณมาเลี้ยงดู ไม่ต้องกังวล หรอก”
ซูเถาบิด ‘เสื้อผ้าชุดใหม่’ ของตัวเองด้วยความกังวล
“ใช้คะแนนสมทบไปมากขนาดนี้ ถ้าคุณแขนขาขาดอีกครั้งจะทำยังไง ไม่มีคะแนนสมทบมาช่วยรักษา”
สือจื่อจิ้นพูดไม่ออก “คุณช่วยคาดหวังให้ผมสบายดีได้ไหม”
“ฉันแค่พูดเผื่อไว้ ถ้ามันไม่สามารถช่วยคุณได้ คุณจะพิการจริง ๆ ไหม?”
สือจื่อจิ้นพูดอย่างฉุนเฉียว “ถ้าพิการก็จะไปใช้ชีวิตยามเกษียณที่เถาหยาง ให้คุณเฝ้าอยู่ข้างเตียง”
ซูเถาคิดอย่างจริงจังครู่หนึ่ง “ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ วางใจเถอะ ฉันจะไม่ไล่คุณไปเพียงเพราะคุณทั้งแก่ทั้งพิการ”
สือจื่อจิ้นเหยียบคันเร่งจนสุด
ในวันที่สองซูเถารับการฝึกปีศาจจากครูสือ
โดนลากไปที่สนามยิงปืนตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง เริ่มฝึกตั้งแต่ท่าถือปืนขั้นพื้นฐานที่สุด
ช่วงเช้าจบลงซูเถาก็แทบจะคลานกลับมา กินมื้อเที่ยงอย่างลวก ๆ และทำงานกับจวงหว่านอีกหนึ่งชั่วโมง พาผู้เช่าห้องชุดหมายเลข 002 แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นไปยืนยันห้อง
จวงหว่านพอใจผู้เช่ารายใหม่เป็นพิเศษ “สองสามีภรรยาเป็นคนทางวัฒนธรรมจัดการกับรหัสข้อมูล โดยเฉพาะผู้ชายที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเมื่อช่วงก่อนสิ้นโลก”
ซูเถาเงยหน้าขึ้น “ดีจริง ๆ รีบย้ายเข้าเร็ว ๆ เถอะ”
จ่ายค่าเช่าก่อนกําหนด เธอจะได้มีเงินอีกหลายพัน และบัญชีของเธอก็จะไม่แห้งเหี่ยวอีก หลังจากจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซูเถาก็รีบกลับไปที่ห้องเพื่อให้อาหารเจ้าขนปุกปุย
แต่ไม่รู้ทำไมเฮยจือหม่าถึงนำนิวเคลียสซอมบี้ที่วิวัฒนาการแล้วทั้งสี่ของเธอออกมาแล้วกลิ้งมันบนพื้นเป็นของเล่น
ซูเถารีบหยิบมันกลับไป แล้วอุ้มเขาไปสั่งสอน
“นี่มันแพงมากเลยนะ มันไม่ใช่ของเล่น ครั้งหน้าจะเอาออกมาเล่นสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ เข้าใจไหม”
เฮยจือหม่าเอียงศีรษะส่งเสียงร้องเหมียว นัยน์ตาสองข้างฉายประกายประหลาด
ซูเถาไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เธอหากล่องออกมาบรรจุนิวเคลียสทั้งสี่ ใช้ของหนักทับไว้ และซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง
หลังจากพักผ่อนไปประมาณครึ่งชั่วโมง ครูสือก็โทรตามเธอและเรียกให้เธอไปที่สนามซ้อม
ซูเถาลุกขึ้นอย่างไร้ชีวิตชีวา และขอให้กวานจือหนิงไปส่งเธออีกครั้ง ระหว่างทางกวานจือหนิงลอบมองใบหน้าเล็ก ๆ ที่ทุกข์ทรมานของเธอ ก็รู้สึกเป็นทุกข์เล็กน้อย และอดที่จะพูดไม่ได้
“เป็นแบบนี้แล้วคุณยังอยากจะตามไปทำภารกิจอีกเหรอ เถาหยางดูแลเธออย่างดี มีอะไรไม่ดีเหรอ อย่าทำให้ตัวเองต้องลำบากเลยนะ”
ในเมื่อพูดมาขนาดนี้แล้ว กวานจือหนิงก็ยังโยนของบางอย่างให้เธอ
ซูเถาเปิดมันอย่างอ่อนแรง และพบว่าที่แท้ก็เป็นครีม
“คุณกลับไปต้องมีแผลพุพองแน่ ของที่ได้ผลแบบนี้ ฉันตัดใจใช้ไม่ลง เลยให้คุณแล้วกัน”
ซูเถารับไว้อย่างไม่เกรงใจ และพูดกับอีกฝ่ายเคล้ารอยยิ้ม
“จือหนิงที่แสนดี ครั้งหน้าถ้าคุณย่าเฉินส่งของอร่อยมาให้ฉัน ฉันจะแบ่งให้คุณครึ่งหนึ่งนะ”
กวานจือหนิงส่งเสียงฟืดฟาด แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด
ซูเถาฝึกจนถึงตอนเย็นการฝึกก็ได้สิ้นสุดลง
วินาทีนั้นที่สือจื่อจิ้นตะโกนให้หยุด เธอก็ทิ้งตัวนอนเหยียดยาวบนสนามฝึกซ้อมโดยไม่รักษาภาพลักษณ์ใด ๆ ขนาดสือจื่อจิ้นไปดึงขึ้นมาเธอยังไม่ลุกขึ้น
“ฉันขอนอนสักหน่อยเถอะ รู้สึกเหมือนว่าไหล่จะไม่ใช่ไหล่ของตัวเองแล้ว ข้อมือฉันก็หักไปแล้วใช่ไหม ฉันพิการแล้ว”
“ลุกขึ้นเถอะ ผมจะแบกคุณกลับเอง”
อาการชาที่เท้าของเธอหายไป และอาการเจ็บที่ขาก็ไม่มีอีกแล้ว เธอกระโดดขึ้นและปีนขึ้นไปบนหลังของเขาทันควัน “ไปกันเถอะ”
ฉากนี้ทําให้ทุกคนในสนามซ้อมตกใจจนอ้าปากค้าง
สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือพลตรีสือของพวกเขา ไม่ได้ปล่อยอีกฝ่ายลงมา ซ้ำยังแบกกลับไปที่รถ
ซูเถากลับไปที่ห้องของตัวเอง ก็พบว่าพวกเด็ก ๆ หลับไปก่อนที่เธอจะได้ป้อนอาหาร
ตอนเช้าเมื่อตื่นขึ้นมาร่างกายของเธอปวดเมื่อยไปทั้งตัว เสวี่ยเตาดูเหมือนจะรู้ว่าเธอเหนื่อย จึงพาลูกแมวไปอยู่ที่ห้องสัตว์เลี้ยงข้าง ๆ โดยไม่ส่งเสียงรบกวน
ซูเถาเห็นแล้วก็รู้สึกเอ็นดู รีบเตรียมอาหารให้แล้วยังหั่นเนื้อคลุกข้าวให้เด็ก ๆ
หลังจากนั้นก็ฝึกซ้อมอย่างหนักอีกสองวันและในที่สุดก็ถึงวันพักผ่อน
ผู้เช่ารายใหม่ของห้องชุด 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นของห้องหมายเลข 002 ก็เข้าพักได้สำเร็จ ค่าเช่า 80,000 เหลียนปังที่เข้าบัญชีก็ทำให้ซูเถามีชีวิตชีวากลับมาเกินครึ่ง
เย็นวันนั้นซูเถาได้ขยายและปรับปรุงห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นไป และสร้างอาคาร 3 ด้วย
อาคาร 3 เชื่อมต่อกับอาคาร 2 และยังมีระเบียงเล็ก ๆ อยู่ตรงกลาง มีโต๊ะเก้าอี้และม้านั่งสําหรับจิบน้ำชายามบ่ายที่ชั้นล่างเพื่อไว้นั่งเล่นพูดคุย
อาคาร 3 ไม่มีห้องโถงขนาดใหญ่ ชั้นแรกเมื่อเข้ามาคือห้องหมายเลข 001 หนึ่งชั้นมีห้องชุดเพียง 2 ห้อง ตอนนี้จึงทำได้เพียงสร้างห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 4 ห้องได้แค่สองชั้นเท่านั้น
หลังจากเสร็จสิ้นการก่อสร้าง ซูเถามีเหลืออยู่ในกระเป๋าเพียง 10,000 เหลียนปังเท่านั้น
ในวันรุ่งขึ้นก่อนที่จะไปฝึก เธอก็เร่งให้จวงหว่านหาผู้เช่ามาเช่าห้องชุดสองห้องนั้นให้ได้
เพราะเธอวางแผนที่จะออมเงินจํานวนหนึ่งไว้สําหรับการเดินทางของเธอ หนึ่งคือการซื้อเสบียงให้เพียงพอต่อการเดินทาง และอีกอย่างคือการเตรียมพร้อมสําหรับเหตุฉุกเฉิน
เพราะไม่รู้ว่าภาระงานที่ซ่อนอยู่จะต้องเสียเงินไหม ดังนั้นจึงต้องออมเงินไว้เพื่อความสบายใจ
ซูเถาฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาสามวันและวันหยุดหนึ่งวันติดต่อกันครึ่งเดือน และในที่สุดก็มีผลแล้ว
เมื่อเธอล้มเป้าหมายสุดท้ายได้อย่างแม่นยํา สือจื่อจิ้นก็โล่งใจและให้การยืนยัน
“การใช้อาวุธปืนโดยพื้นฐาน เป็นไปตามมาตรฐาน และคุณเรียนรู้ได้ไวกว่าที่ผมคิดไว้”
ซูเถารู้สึกอึ้งเล็กน้อย เธอมองมือที่มีรอยแผลเป็นของตัวเองสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ที่แท้เธอก็ทําได้เช่นกัน
จากจุดเริ่มต้นที่ไม่สามารถเล็งเป้าหมายระยะสิบเมตรอย่างแม่นยําได้ จนถึงตอนนี้ที่การเล็งระยะสองร้อยเมตรก็ไม่ใช่ปัญหา
“กลับไปพักผ่อนให้ดี อาวุธพลังงานนิวเคลียสชุดแรกของฉางจิงมาถึงแล้ว พรุ่งนี้บ่ายคุณค่อยไปรับพร้อมกับผม”
ซูเถาไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ จึงถามขึ้น
“เป็นปืนพกด้วยรึเปล่า?”
เพราะยังไงตอนนี้เธอก็ใช้เป็นแค่อาวุธนี้
สือจื่อจิ้นพยักหน้า “ใช่ แต่มันใช้งานง่ายกว่าที่คุณใช้ฝึกอยู่ตอนนี้ ไม่มีกระสุนและแทบไม่มีแรงสะท้อนกลับ ที่สําคัญที่สุดคือมันมีความร้ายแรงอย่างมากต่อซอมบี้วิวัฒนาการ”
ซูเถาตั้งตารออย่างอดไม่ได้
เมื่อกลับไปถึงเถาหยางในตอนค่ำ ซูเถาก็ได้รับค่าเช่ามหาศาลถึง 400,000 เหลียนปัง สวยงามมากจนหัวใจของเขาเต็มไปด้วยดอกไม้ไฟ ความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดทั้งหมดก็หายไป
แต่ผู้แนะนำห้องอย่างจวงหว่านก็เหนื่อยพอตัว
“วันที่สิบเจ็ดของเดือนนี้ปล่อยเช่าห้องชุดไปได้ห้องหนึ่ง พอวันที่สิบแปดเธอก็มีมาอีกสองห้อง กว่าจะปล่อยเช่าได้มันไม่ง่ายเลยนะ ในวันที่ยี่สิบสี่คุณก็โยนมาอีกห้าห้อง ฉันติดงานจริง ๆ เดี๋ยวสิ้นเดือนฉันจะปล่อยให้คนเช่าให้หมด ช่วงนี้คนจากภายนอกก็หลั่งไหลเข้ามา บอกว่าเถาหยางกำลังขยายตัวอย่างยิ่งใหญ่ถึงประกาศรับสมัครผู้เช่า กล่องจดหมายฉันแทบระเบิด ช่วงนี้ฉันยุ่งมากจริง ๆ”
ซูเถาคิดอยู่พักหนึ่ง และพูดว่า “ช่วงนี้พี่ทํางานหนักมากจริง ๆ หรือให้ฉันรับหรงหรงมาช่วยพี่ดีไหมคะ? พอดีกับที่ฉันกำลังจะออกไปข้างนอก และตอนนี้จำนวนผู้เช่าเกือบร้อยคนแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องหาผู้ช่วยให้พี่แล้ว”