ชีวิตชิวๆกับกองทัพของท่านราชาผู้พิชิต - ตอนที่ 16
Ch.16 – ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์ กำราบศัตรูด้วยคำพูด
Translator : ปลาดุกอเมซอน / Author
──มุมมองริเซ็ต──
“ตัวที่3!”
ฉับ
ดาบยาวของริเซ็ตถูกเหวี่ยงเป็นวง
[ก็อบลินดำ]ที่ถูกฟันที่อกกระอักเลือดออกมาแล้วล้มลงไป
[กุก๊าาาาาาาาาาา!!]
“ต่อไป ตัวที่4!”
ที่โผล่ออกมาจากข้างหลังของอสูรที่ล้มลงไปก็คือ[ทหารดำ]ที่สวมชุดเกราะ
จิตความมืดชวนขยะแขยงทำให้ริเซ็ตขมวดคิ้ว
[ก็อบลินดำ]เป็นอสูรที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ แต่[ทหารดำ]คือสิ่งที่เหลือรอดจากอสูรต่างโลกที่[จักรพรรดิเพลิงทมิฬ]เคยใช้งาน
ทำให้จิตอันชั่วร้ายของมันเหม็นเป็นอย่างมาก
[เป็นแค่อมนุษย์! คิดว่าจะเอาชนะพวกเราที่บูชา“จักรพรรดิเพลิงทมิฬ”ได้งั้นหรือ!]
[ทหารดำ]พูดออกมาพร้อมกับเสียงเสียดสีของชุดเกราะ
[แผ่นดินของ–พวกอมนุษย์–มันไม่มีเหลืออีกแล้ว!]
“นั่นไม่ใช่เรื่องที่พวกคุณจะมาตัดสินค่ะ?”
ดาบสีดำที่ทหารเหวี่ยงลงมาถูกหยุดไว้ด้วยดาบยาวของริเซ็ต
จากนั้นริเซ็ตก็พลิกข้อมือไหลไปตามดาบของศัตรู แล้วก็ใช้คมดาบตัดข้อมืออีกฝ่าย
[ดาบยาวโคตรแข็ง]ที่โชมะเสริมแกร่งให้ตัดผ่านเกราะมือของ[ทหารดำ]จนขาด
ริเซ็ตโจมตีต่อเนื่องไม่หยุดราวกับกำลังเต้นรำ
ใช้การโจมตีครั้งที่2ตัดแขน ทหารที่เสียอาวุธไปแล้วตั้งโล่มาไว้ตรงหน้า แต่คราวนี้โดนเล็งที่เท้า
จากนั้นก็ใช้[ดาบยาวโคตรแข็ง]แทงไปที่หน้าอกของทหารที่ล้มลงไปเพราะเสียสมดุล
[…มันอะไรกัน ดาบนั่น…?]
[ทหารดำ]กระอักหมอกพิษออกมาแล้วก็สลายไป
“ดาบมีชื่อที่ได้มาจากท่านพี่ของริเซ็ตค่ะ การที่ต้องมาใช้กับคุณนี่มันน่าเสียดายจริงๆค่ะ”
ริเซ็ตมองไปที่ดาบแล้วพยักหน้า
ทั้งๆที่เป็นของเหลือๆที่ซื้อมาจากพ่อค้า แต่ตอนนี้ก็กลายเป็นดาบมีชื่อที่สามารถตัดชุดเกราะได้แล้ว
“เพราะท่านพี่โชมะทำให้การโจมตีสำเร็จอย่างงดงามได้ค่ะ”
ศัตรูที่มีกว่า40ตัวล้มลงไปเกินครึ่งแล้ว ที่เหลือก็มีแค่ที่กำลังต่อสู้อยู่กับพวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน
จำนวนมีพอๆกันแล้ว ถ้าเพิ่มริเซ็ตกับฮารุกะเข้าไปก็ไม่แพ้แน่
แต่ไม่รู้ทำไม–ริเซ็ตถึงรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
“…รู้สึกติดใจค่ะ”
แปลก…รู้สึกเหมือนมองข้ามอะไรไป
ริเซ็ตมองลึกเข้าไปในป่า
สุดนั่นมี[ปราสาทร้าง]อยู่ ที่นั่นเป็นฐานหลักของ[ก็อบลินดำ][ทหารดำ] แล้วก็บอสของพวกอสูร[อัศวินดำเมเซรัท]
ถ้าด้วยกำลังในตอนนี้อาจจะสามารถบุกไปถึงนั่นได้ก็ได้
“พี่ริส! ไม่เป็นไรใช่ไหม!?”
พร้อมกับเสียงของฮารุกะ ทหารที่สภาพเละตุ้มเป๊ะก็พุ่งเข้าใส่ขาของริเซ็ต
ทุกครั้งที่ฮารุกะเหวี่ยงกระบองก็จะมี[ก็อบลินดำ]กับ[ทหารดำ]ปลิวออกไป พริบตาที่ปลิวร่างกายของมันก็จะมีชิ้นส่วนที่แตกออก แล้วพวกมันที่เสียพลังต่อสู้ไปก็จะถูกพวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านจัดการปิดท้าย
[เจ้าพวกอมนุษษษษษษษย์!!]
“จะว่าไปนายเป็นสัตว์ประหลาดที่[จักรพรรดิเพลิงทมิฬ]เรียกมาสินะ?”
ขวานที่[ทหารดำ]ฟาดลงมาถูกหยุดเอาไว้ด้วยกระบอง แล้วฮารุกะก็ยิ้มอย่างไร้เทียมทานออกมา
“เจ้าพวกนี้ แค่วิธีธรรมดาน่ะฆ่าไม่ได้หรอกค่ะ!!”
ฮารุกะเอาปลายกระบองจิ้มไปที่หน้าอกของ[ทหารดำ]
ใส่พลังเวทเข้าไป แล้วแทงรวดเดียว
ตูม
[ทหารดำ]ถูกซัดจนปลิวจากไปข้างๆ
ไปกระแทกกับต้นไม้ใหญ่จนหยุดนิ่งไม่ไหวติง
“[ทะลวงไร้สิ้นสุด]จากระยะศูนย์ ถ้าเป็นอาวุธที่เสริมแกร่งนี่ทนได้แน่ สมกับเป็นท่านพี่”
[ทะลวงไร้สิ้นสุด]คือหนึ่งในท่าทะลวงที่ฮารุกะใช้
ขณะที่เอาอาวุธแตะไปที่เป้าหมายก็จะใช้พลังเวทภายในร่างปล่อยออกมาเป็นกระทะลวงแบบเป็นระเบิด
พลังที่ถูกรวมเข้าเป็นจุดเดียวกันนั้นต่อให้เป็นเกราะก็แหลก แต่ก็ยังส่งภาระมาให้ตัวอาวุธด้วย ถ้าเป็นกระบองปกติ ใช้[ทะลวงไร้สิ้นสุด]แค่1ครั้งก็พังแล้ว ที่ผ่านมาก็เลยเป็นท่าไม้ตายที่ฮารุกะใช้เพียงแค่1ครั้งใน1การต่อสู้
“ถ้าเป็นแบบนี้อาจจะยึด[ปราสาทร้าง]ได้จริงๆก็ได้นะ พี่ริส”
“…นั่นสินะ”
“…? พี่ริส…ทำไมเหรอ?”
ฮารุกะเห็นหน้าของริเซ็ตจึงถามออกไป
ริเซ็ตที่กำดาบแน่นก็หันไปมองฮารุกะ
“ฮารุกะ…เห็น[อัศวินดำเมเซรัท]บ้างไหม?”
“ไม่นิ เจ้านั่นก็อยู่ที่[ปราสาทร้าง]ล่ะมั้ง?”
“ริเซ็ตก็เคยคิดแบบนั้นค่ะ แต่ว่า มันแปลกค่ะ ทำไมพวกอสูรถึงไม่หนีกันเลยคะ?”
พวกอสูรนั้นเสียเปรียบในเรื่องจำนวนแล้ว
ไม่สามารถต่อการกับอาวุธที่โชมะให้มาได้ ถ้าปล่อยไว้ก็คงจะถูกจัดการหมด
เรื่องแค่นั้น พวกอสูรก็น่าจะรู้อยู่แล้วแท้ๆ–
“…แต่ก็ยังไม่หนี หมายความว่ามันยังคิดว่าพลิกสถานการณ์ได้ หรือมีเหตุผลที่หนีไม่ได้ สินะคะ”
“[อัศวินดำเมเซรัท]คงจะสั่งการจากสักที่? แต่ว่า ก็ไม่ได้มาตรงนี้”
“เจ้านั่นเป็นเผ่าชั้นสูงที่มีนิสัยโหดร้ายมากแม้แต่ในอสูรด้วยกันเอง เมื่อกี้ก็เกือบจะได้ฆ่าพวกชาวบ้านแล้ว…ไม่มีทางที่จะไม่มาโผล่ในสนามรบแน่ค่ะ แล้ว ต้องทำการโจมตีด้วยวิธีที่น่ารังเกียจที่สุดแน่”
ริเซ็ตเอามือแตะหัวแล้วก็คิด
สังหรณ์ใจไม่ดี–ถ้าตัวเองเป็นอัศวินดำจะทำอะไรล่ะ
ตอนที่พวกริเซ็ตมาถึง ชาวบ้านถูกล้อมอยู่
ที่เปิดก็มีแค่ทางไปหมู่บ้านเท่านั้น ถ้าพวกริเซ็ตมาช้าไปกว่านี้พวกชาวบ้านอาจจะวิ่งกลับไปหมู่บ้านก็ได้ แล้วต้องทำยังไงถึงจะจัดการได้ดีที่สุดล่ะ?
โจมตีชาวบ้านที่กำลังหนีจากด้านข้างสินะ–
หรือก็คือร่วมมือกับทหารและก็อบลินดำล้อมไว้หมดเรียบร้อยแล้ว
“ทะลวงศัตรูไปเร็วค่ะ ฮารุกะ ตามมาค่ะ!”
“พี่ริส?”
“ถ้าเดาผิดก็ดีอยู่หรอก–”
ริเซ็ตกำดาบวิ่งออกไป
“เหมือนกับที่พวกริเซ็ตบุกจากข้างหลังของศัตรู–บางที[อัศวินดำ]ก็ อาจจะอ้อมไปอยู่ที่ข้างหลังพวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านก็ได้ค่ะ โจมตีจากทางไปหมู่บ้าน ถ้าเป็นแบบนี้ ตอนนี้ ที่นั่นก็คง–”
“[อัศวินดำเมเซรัท]อยู่กับท่านพี่เหรอ!?”
ฮารุกะเหวี่ยงกระบองตามหลังริเซ็ตมา
“…ท่านพี่ ไม่เป็นอะไรนะ…ท่านพี่…ท่านพี่โชมะ!!”
หัวของริเซ็ตว่างเปล่าไปหมด
“รอก่อนนะคะ ท่านพี่โชมะ!”
จะปล่อยให้ตายไม่ได้เด็ดขาด
คนคนนั้นเป็น[คนที่ถูกเลือกโดยจักรพรรดิมังกร]–เป็นครอบครัวของริเซ็ตนี่นา
──มุมมองโชมะ──
“–ชิ!”
แกร๊งงง!!
กระบองที่ผมฟาดลงไป กระแทกเข้ากับดาบสีดำ
ศัตรูแรงเยอะมาก–จนถูกดันเข้ามา แย่แล้วสิ–
“ใช้งาน! [Orge Force(พลังยักษ์)]!”
ผมใช้พลังในสภาพ[ปลุกเผ่ายักษ์]เหวี่ยงกระบองกลับไป
เจ้าคนที่ฟันเข้ามาถอยดาบกลับพร้อมกระโดดถอยไปด้านหลัง พร้อมกับม้า
“…ขี่ม้ากลางป่าเนี่ยนะ”
สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมก็คือ อัศวินที่มีสีดำเต็มตัว
ขี่ม้าสีดำเมี่ยม สวมเกราะสีดำ
แล้วก็มีแขน4ข้าง ที่แขนมีหอก2เล่มกับโล่อีก2อัน
ถึงจะไปว่าคนอื่นเขาไม่ได้ก็เถอะ–แต่นี่มันพิศดาร
ผมปกป้องหลังของพวกชาวบ้านเอาไว้อยู่
นี่คือทางไปหมู่บ้าน คิดว่าคงไม่มีศัตรูมาหรอก–แต่ก็อาจจะมีแอบหลบสายตาเข้ามาก็ได้
ก็เลยดูเผื่อไว้ แล้วก็ดันถูก
[คิดว่าชนะแล้วหรือไง?]
เจ้าสิ่งมีชีวิตนั่นพูดออกมา
[ก็ไม่รู้หรอกว่าทำได้ยังไง แต่เก่งนี่ที่อ้อมมาข้างหลังได้]
“…เหรอ”
[แต่ว่า ทางนี้เองก็เหมือนกัน “อสูรดำ”นั้นถือกำเนิดมาจากความบิดเบี้ยวของโลกใบนี้ ทั้งสงคราม ทั้งเวทมนต์ดำ ทุกสิ่งนั้นจะกลายเป็นพลังให้กับพวกเรา แถม…ถึงจะจัดการไปก็มีอสูรมาเพิ่ม จนสุดท้ายพวกเจ้า–]
“อา พอเข้าใจแล้วล่ะ”
ผมพูดออกมา
“พวกแกอาศัยความบิดเบี้ยวของโลกเป็นแหล่งพลังงานในการถือกำเนิดขึ้นมา แล้วด้วยเวทมนตร์ดำที่เจ้า[จักรพรรดิเพลิงทมิฬ]ใช้ทำให้เกิดอสูรอย่างก็อบลินดำขึ้นมา แกเองก็เป็นพวกที่เกิดมาจากสิ่งนั้น ไม่ก็เป็นพวกที่กลายพันธุ์เป็นอสูรสินะ
แล้วพวกแกก็คิดจะใช้[ปราสาทร้าง]เป็นฐานหลัก ถ้าปล่อยให้ทางนี้บุกต่อไปล่ะก็อาจจะไปถึง[ปราสาทร้าง]ก็ได้ ดังนั้นก็เลยออกมาแบบนี้สินะ”
[…อะ? อา?]
“อยู่ไม่สุขเลยนะ พูดถูกล่ะสิ”
[อะไรกันน่ะแก ยักษ์เหรอ…หรือมนุษย์? แกรู้อะไรกันแน่?]
ก็แทบไม่รู้อะไรสักนิดล่ะนะ
ให้พูดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็คงสัก10เปอร์เซ็นต์ได้
เจ้านี่ดูน่าจะเป็นบอส พลังก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง ไม่อยากสู้ด้วยเลย แล้วก็ไม่อยากให้พวกชาวบ้านมาสู้ด้วย ดังนั้น รอให้อสูรทั้งหมดถูกจัดการแล้วให้ริเซ็ตกับฮารุกะรุมจัดการมันคงจะดีที่สุด
แล้วจะให้ผ่านตรงนี้ไปตอนนี้ไม่ได้
พวกชาวบ้านกำลังสู้กับพวกอสูรอยู่ข้างหลังผม กำลังใช้สมาธิกันอยู่ ถ้าปล่อยให้ผ่านตรงนี้ไปได้ ได้ถูกทะลวงหลังกันพอดี ผมเองก็เป็นหน่วยป้องกันหมู่บ้านนะ แค่ถ่วงเวลาน่ะทำได้อยู่แล้ว ต่อให้ต้องใช้วิธีแบบไหนก็ตาม
…ถึงจะไม่อยากจะใช้วิธีนี้ก็เถอะ
“ลงมาซะเจ้าโง่!”
ผมกระแทกกระบองลงพื้น
“เป็นแค่อสูรแท้ๆแต่บังอาจมองลงมาจากบนม้างั้นหรือ! นั่นคือท่าทางที่แกปฏิบัติต่อราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์งั้นหรือ!?”
[ราชาผู้พิชิต…แห่งต่างพันธุ์งั้นเหรอ!?]
แสงสีแดงกระพริบจากภายในหมวกเกราะคาบุโตะของอัศวินสีดำ
[จักรพรรดิของโลกใบนี้มีแค่จักรพรรดิมังกรกับลูกหลานของมันเท่านั้น ถ้าอย่างนั้น แกก็เป็นหนึ่งในราชาปลอมสินะ?]
“หึ พูดได้แค่นั้นเองเหรอ แกรู้แค่นั้นเองสินะ!?”
[อะไรนะ!?]
“แล้วยังจะคิดมายืนต่อหน้าราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์ คิริวโอ โชมะอีก ช่างน่าขำ!!”
ผมยืดอกพูดออกไป
อัศวินดำหยุดเคลื่อนไหว
มันกำหอกด้วยสองมือแน่นจ้องมาที่ผม
“โลกแคบๆของแก คงจะมองห้วงลึกของโลกใบนี้ไม่เห็นล่ะสิ!”
ถ้าอย่างนั้น ก็ขอดันกลับไปทั้งอย่างนี้ล่ะ!
[บ้าน่า!]
อัศวินเหวี่ยงหอกลงมา
[แกจะมารู้ดีอะไร! จะมนุษย์หรืออมนุษย์ไอ้พวกที่ทำเป็นแค่บูชาจักรพรรดิมังกรน่ะ มันตายไปหมดแล้ว! พวกเราผู้ถือกำเนิดจาก“ความบิดเบี้ยว”นี่ล่ะ คือชนชั้นสูงแห่งโลกใบใหม่!]
“เรื่องของเจ้า!”
–มาแล้ว!
อัศวินดำเหวี่ยงหอกลงมา ผมก็กำกระบองไว้แล้วกะเวลา
ระยะห่างก็ได้พอคารแล้ว
จะโดนก็ช่าง ไว้ค่อยใช้[Orge Force(พลังยักษ์)]ดันกลับไปก็พอ!
แกร๊ง!
[บ้าน่า!? กระบองไม้ทำไมถึงผลักหอกของข้าได้!?]
ศัตรูผงะบนลงม้า
“…หึ ได้แค่นี้เองเหรอ”
ผมทำเสียงหัวเราะด้วยจมูกอีกครั้ง
[…อึก]
อัศวินดำกำลังระแวงทางนี้อยู่ เลยไม่คิดจะเข้ามาใกล้
ผมมองขึ้นไปด้านบนเล็กน้อย ฮาร์ปี้บนฟ้ากำลังใช้สองมือสร้าง[คมดาบ]ขึ้นมา ริเซ็ตกับฮารุกะ แล้วก็พวกชาวบ้านก็ดูเหมือนจะจัดการอสูรใกล้จะหมดแล้ว
งานของผมก็มีแค่ถ่วงเวลาอยู่อย่างนี้สินะ
[พวกเราอสูรชั้นสูงจะสร้างประเทศใหม่ขึ้นมาแทนเจ้าพวกมนุษย์และอมนุษย์ ที่นี่คือฐานที่มั่นที่ถูกเลือกไว้แล้ว อมนุษย์อย่างพวกแก–]
“พูดซะให้พอ”
แต่ว่า จะถ่วงเวลายังไงดี?
อัศวินดำกำหอกมองมาทางนี้
ความได้เปรียบของทางนี้คือ อีกฝ่ายไม่รู้ข้อมูลของผม
ผมใช้วิธีที่มันไม่รู้จักมาที่นี่แล้วนำอาวุธจำนวนที่ไม่น่าจะขนมาได้มาส่ง มันไม่รู้อะไรเลย ดังนั้นจึงระแวงจนไม่กล้าเข้าใกล้
ถ้าอย่างนั้นก็ลองเพิ่มไปอีกสักนิดหน่อย…
“ถ้าอยากตาย ก็เข้ามา”
ที่โลกเดิมก็เป็นได้แค่–ฝันกลางวัน
แต่ว่า ถ้าเป็นโลกนี้ที่มีอสูรและเวทมนตร์ จะเป็นยังไงกันนะ?
“ราชาแห่งต่างพันธุ์ คิริวโอ โชมะผู้นี้ แม้แต่เทพธิดาบนสวรรค์ชั้น8ยังต้องหวาดกลัว จนถูกผนึกอยู่ในร่างมนุษย์ การที่ต้องมาเกลือกกลั้วกับคนอย่างแก ศัตรูคู่อาฆาตบนสรวงสวรรค์คงได้หัวเราะตายกันพอดี จงกลับไปสู่ความว่างเปล่า กลายเป็นเถ้าธุลีเสียเถิด เจ้าอสูรเอ๋ย!”
เพราะว่ามันทำท่าจะบุกเข้ามาจริงๆ ผมเลยรีบพูดออกไป
[เทพธิดาบนสวรรค์ชั้น8!? ศัตรูคู่อาฆาตบนสรวงสวรรค์งั้นเหรอ!?]
อัศวินดำเบิกตาในหมวกเกราะคาบุโตะกว้าง
นี่คือเซ็ตติ้งของ[คิริวโอ โชมะ]ที่คิดไว้ในอดีต
ไหนๆละ ก็เอามาใช้ที่นี่หน่อย
“พวกเขาอาศัยอยู่บนสรวงสวรรค์และรับรู้ได้ถึงทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นจึงไม่ถูกกับข้าผู้ซึ่งเป็นนายแห่งเผ่าพันธุ์อันผิดแผก เพราะความโกลาหลที่เทพสูงสุดจงเกลียดจงชัง คือสิ่งที่ข้ารักยังไงล่ะ แต่ว่าสุดท้ายแล้วนั่นก็เป็นความชอบที่ไม่อาจจะถูกยอมรับได้…”
…จำได้ผิดคาดเลยนะเนี่ย ไอ้เซ็ตติ้งเก่าๆพวกนี้
แถมยังดูน่าเชื่อถืออีก
อัศวินดำหยุดนิ่ง แขนที่ถือหอกสั่นไม่หยุด
“ที่ข้ามาปกครองเหล่าอมนุษย์ก็เพราะรู้สึกได้ถึงความโศกเศร้าจากความโกลาหลที่พวกเขามียังไงล่ะ ถ้าแกเป็น[ความบิดเบี้ยว]ที่ถูกต้องล่ะก็คงจะได้รับความเมตตาจากข้าเป็นแน่ แต่ แกน่ะ? ปล่อยให้ลูกน้องสู้ แล้วตัวเองทำแค่ไปปิดศัตรู…ช่างน่าเบื่อ ราชาของแกชอบผลลัพธ์แบบนั้นหรือไงกัน?”
[กะ แก ทั้งๆที่มาลอบโจมตีข้างหลังลูกน้องของข้าแท้ๆ!]
“อา ก็อย่างที่แกพูดนั่นล่ะ มือของข้านั้นได้เปื้อนเลือดไปเสียแล้ว ทั้งหมดก็เพื่อเผ่าพันธุ์ที่ทวยเทพไม่รัก…”
[แก…เป็นใคร แกเป็นใครกันแน่!?]
ก็แค่คนวัยเกือบสามสิบที่ถูกอัญเชิญมาผิดเอง
ถึงจะมีสกิล แต่ไม่มีประสบการณ์การต่อสู้และความมั่นใจเลย
อีกแปปเดียวเท่านั้น จนกว่าริเซ็ตกับฮารุกะจะมา…ก็ขู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ–
“–อัศวินดำ!?”
ตอนที่คิดแบบนั้นก็มีเสียงดังมาจากข้างหลังของผม
“พี่ชายที่ขนอาวุธมาให้กำลังโดนโจมตี!”
“รอก่อนนะ จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ!!”
–อ๊ะ เฮ้ยหยุดก่อน ไม่ต้องเข้ามาก็ได้!!
อุตส่าห์ถ่วงเวลาให้แท้ๆ–
ก่อนที่ผมจะได้ตะโกนออกไป–ชาวบ้านเผ่ายักษ์สองคนก็พุ่งเข้าใส่[อัศวินดำ]พร้อมกัน–