ชีวิตชิวๆกับกองทัพของท่านราชาผู้พิชิต - ตอนที่ 64
Ch.64 – ราชาผู้พิชิต พูดคุยเรื่องรางวัล (จบบทที่4)
Translator : ปลาดุกอเมซอน / Author
หลายวันหลังจากหน่วยทหารม้าของกองทัพ[สิบปราชญ์]ถูกจัดการ
ผมก็ได้คุยกับองค์หญิงซิลเวียร์ที่มายังปราสาท
“ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ [ราชาแห่งชายแดน]”
ซิลเวียร์ที่เข้ามาในห้องก็ก้มหัวลงต่ำให้พวกผม
“แล้วก็ต้องขอโทษที่ดิฉันมาเป็นท่านพี่เรเนสที่เป็นตัวแทนท่านพ่อในปัจจุบันนะคะ ท่านพี่บอกมาว่า[จะไปเสียมารยาทกับราชาแห่งชายแดนไม่ได้]…”
“เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก แต่องค์หญิงเรเนสสุขภาพไม่ดีงั้นเหรอ?”
“เรื่องร่างกายไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่ ดูเหมือนท่านพี่กลัวรั้วล้อมรอบ–ไม่สิ ห้องที่มีกำแพงล้อมรอบค่ะ”
“งั้นเหรอ”
“ค่ะ”
“…”
“…”
โทษทีละกัน
ที่นี่คือใจกลางของปราสาท ห้องของเจ้าปราสาท
ปกติแล้วเป็นสถานที่ที่คุณขุนศึกฮิลก้าใช้งาน
ที่อยู่ในห้องมี ผม ริเซ็ต แล้วก็พริม
องค์หญิงซิลเวียร์ คุณขุนศึกฮิลก้า 5คน
พวกเราคุยกันถึงเรื่องหลังจากนี้
“ต้องขอขอบคุณคุณจริงๆค่ะ [ราชาแห่งชายแดน]”
องค์หญิงซิลเวียร์จับชายกระโปรงแล้วแสดงความขอบคุณ
คุณขุนศึกฮิลก้าเอง(ถอดหมวกเกราะคาบูโตะแล้ว)ก็ทำแบบเดียวกัน
“เพราะได้พวกคุณแจ้งอันตรายให้ล่วงหน้านี่ล่ะค่ะ ทหารของทางนี้ก็เลยไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่คนเดียว และสามารถจัดการศัตรูลงได้ค่ะ”
“ถ้าเกิดไม่มี[ราชาแห่งชายแดน]คงจะมีหมู่บ้านแถมชายแดนได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก จะฟื้นฟูได้ก็คงจะใช้เวลาหลายปี ถ้าหยุดการบุกของพวกทหารราบกองทัพ[สิบปราชญ์]ไม่ได้ อาณาเขตเจ้าเมืองคิโทลแห่งนี้คงจะตกอยู่ในความโกลาหลไม่ผิดแน่”
“ความรู้สึกขอบคุณในคราวนี้ ตราบเท่าที่ซิลเวียร์ คิโทลผู้นี้มีชีวิตอยู่ จะไม่มีวันลืมค่ะ ต้องขอขอบคุณจริงๆค่ะ”
การโค้งคำนับและขอบคุณของทั้ง2คน ก็ผ่านไปราวๆ5นาที
“…สำหรับผมแล้ว ก็แค่อยากจะให้บริเวณรอบๆสงบสุขเท่านั้นเอง”
ผมก็ทำได้แค่พูดแค่นั้น
แน่นอนว่าเป็นใจจริง เรื่องในคราวนี้ พวกผมเองก็ได้ประโยชน์อยู่
การที่ได้เจอ[วงเวท]ในอาณาเขตเจ้าเมืองคิโทล
กับพวกองค์หญิงซิลเวียร์ในตอนนี้ก็มีความสัมพันธ์ที่ดี แต่ว่า พวกเธอเป็นเจ้าหญิงไม่ได้เป็นเจ้าของเขต
คนที่มีอำนาจเด็ดขาดในเขตแดนก็คือคนที่ชื่อว่าอัลโกส คิโทลที่เป็นเจ้าอาณาเขต ไม่รู้สักนิดว่าคนคนนั้นคิดยังไงกับชายแดนและอมนุษย์
แต่ว่าถ้ามีวงเวท ในกรณีฉุกเฉิน พวกผมก็สามารถใช้พลังเวทของแผ่นดินรับมือได้
สำหรับทางนี้ การที่เรามีอาวุธที่ใช้จัดการเขตเจ้าเมืองคิโทล ก็รู้สึกผิดอยู่นิดหน่อย
…ถึงพริมที่ตั้งตนเป็นกุนซือจะพูดเรื่องที่ไม่ควรออกมาก็เถอะ
[ถ้าองค์ราชาปรารถนาจะปกครองใต้หล้า การยึดเขตเจ้าเมืองคิโทลจะไวกว่านะคะ
ยังไงก็สร้างปราสาทด้วย“รั้ว”ขึ้นมาแล้ว ถ้าปล่อยเอาไว้แบบนั้นล่ะคะ?]
ว่างั้นน่ะ
แต่มันยุ่งยากก็เลยไม่ทำ
พวกรั้วพวกนั้นก็แค่ของที่ยืมมา เอาคืนในพวกชาวเมืองไปหมดแล้ว
ลูกชายคนโตของร้านขายเนื้อหลังที่3ตรงหัวมุมของเมืองข้างปราสาทที่เสียรั้วไปในสงคราม ก็ได้รับเงินค่าสร้างรั้วใหม่กับค่าทำขวัญจากองค์หญิงซิลเวียร์ไป รวมทั้งได้รับศพของรั้วคืนไปด้วย
จากที่ไปดูเมื่อกี้ หน้าร้านก็มีหลุมศพของ[รั้วผู้ต่อสู้แลกชีวิตอย่างทรงเกียรติ]ตั้งอยู่
แล้วก็มีกลุ่มผู้คนที่ต่อแถวยาวเพื่อวางดอกไม้ให้หลุมศพ ร้านขายเนื้อเองก็เริ่มจัดโปรโมชั่นพิเศษ จากการที่ได้พูดคุยดู ดูเหมือนว่าจะขายดีที่สุดตั้งแต่ตั้งร้านที่เมืองปราสาทนี้เลย
แน่นอน พวกรั้วที่มีชีวิตกลับไปก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวเมือง
ดูเหมือนจากนี้ไปเพื่อให้รู้ว่ารั้วของบ้านไหนทำผลงานอะไรลงไป จะมีการแขวนป้ายที่เขียนชื่อของคนในบ้านไว้ที่รั้ว มีการเริ่มใช้ป้ายชื่อวัฒนธรรมของต่างโลก เริ่มต้นขึ้นแบบนี้เองสินะ
…ช่างเรื่องนั้นไปเถอะ
ยังไงก็ตาม ผมได้ของที่ต้องได้จากการต่อสู้นี้มาแล้ว
ต่อจากนี้ตระกูลเจ้าเมืองคิโทลจะไม่มาเป็นศัตรูกับชายแดน แต่ถึงจะมาเป็นศัตรูก็ได้วิธีที่จะโต้กลับมาแล้ว ข้อมูลของคนที่มาเกิดใหม่ก็ได้มาแล้ว
ข้อมูลของ[สิบปราชญ์]เอง ตอนที่ได้มาก็จะมาบอกให้ด้วย เท่านี้ก็เพียงพอ
ดังนั้นสำหรับผม มาถูกขอบคุณขนาดนั้น…มันก็รู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ
อยากจะรีบกลับไปจริงๆ
ถูกบอกว่า[ราชาแห่งชายแดน][ราชาผู้พิชิต]ขนาดนี้ ทำเอารู้สึกว่าจะมีอะไรบางอย่างในส่วนลึกของตัวเองปลุกขึ้นมาเลย…
“ยังไงก็ตาม เข้าใจแล้วว่าพวกองค์หญิงรู้สึกขอบคุณจริงๆ”
“ค ค่ะ แล้ว ก็อยากจะให้รางวัลในฐานะตัวแทนของอาณาเขตค่ะ”
“รางวัล?”
“ค่ะ ถ้ามีอะไรที่ดิฉันทำให้ได้…”
องค์หญิงซิลเวียร์เอามือกุมตรงส่วนหน้าอกของชุดเดรสแล้วพูดออกมา
“เกี่ยวกับงานอดิเรกและรสนิยมของ[ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์]ผู้เป็น[ราชาแห่งชายแดน]ผู้ยิ่งใหญ่ ดิฉันเองก็รู้แค่ส่วนเดียวค่ะ…แต่ว่า ในฐานะผู้ที่ปกป้องเขตแดนไว้ ก็ต้องเตรียมใจและเป็นหน้าที่ที่จะต้องตอบแทนบุญคุณค่ะ ไม่ว่าอะไรก็เชิญบอกมาได้เลยค่ะ [ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์ ศัตรูคู่อาฆาตของเทพธิดาบนสรวงสวรรค์]”
งานอดิเรกกับรสนิยม?
ของแบบนั้น เคยให้องค์หญิงซิลเวยร์ดูด้วยเหรอ
…อย่าบอกนะว่า เรื่องจูนิเบียวน่ะ? โลกนี้คงไม่มีแนวคิดแบบนั้นหรอกนะ
รสนิยมที่ใช้ชื่อ[ราชาผู้พิชิตแห่งต่างพันธุ์]กับ[ศัตรูคู่อาฆาตของเทพธิดาบนสรวงสวรรค์]…คงไม่ใช่สินะ อยากจะเชื่อว่าไม่ใช่ เรื่องรางวัลน่ะช่างเถอะขอกลับแล้วได้ไหม
“ถ้าพูดถึงรางวัลก็อยากจะให้มอบให้กับริเซ็ต ยูกิโนะ แล้วก็พริมน่ะ”
ผมพูดแบบนั้นออกไปโดยไม่ได้คิดอะไร
“ริเซ็ต ยูกิโนะ–แล้วก็ฮารุกะที่เป็นน้องสาวบุญธรรม ปกตืแล้วก็ใช้ชีวิตกันอยู่ที่ชายแดน ถ้าเทียบกับใกล้ๆเขตเมืองแล้วของใช้กับเครื่องนุ่งห่ม…มันไม่พอน่ะ พริมเอง…ก็พึ่งเดินทางมาจากที่ห่างไกล ก็เลยยังไม่ค่อยมีของอะไร ดังนั้นข้า ก็เลยอยากจะมอบของที่พวกเธอต้องการให่”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
องค์หญิงซิลเวียร์พยักหน้า
“ปราสาทของท่านพ่อที่เป็นเมืองหลวงของเขตนี้ เมืองรอบๆมีตลาดใหญ่อยู่ค่ะ เนื่องจากมีร้านที่ดิฉันกับท่านพี่เรเนสชอบไปอยู่ด้วย ดังนั้นจะนำทางไปให้นะคะ”
“ช่วยได้มากเลย”
“ฮิลก้า หลังจากนี้ช่วยไปนำทางครอบครัวของ[ราชาแห่งชายแดน]ที่เมืองใต้ปราสาทด้วยนะคะ”
ค ค้าาาา?
คุณขุนศึกฮิลก้าส่งเสียงออกมา
“ฉะ ฉันเหรอคะ? องค์หญิง”
“ลูกน้องของ[ราชาแห่งชายแดน]ต่างก็เป็นสาวงามใช่ไหมล่ะคะ? ถ้าอย่างนั้นแล้ว ถ้าเกิดไม่ให้คนที่รูปงามที่สุดนำทาง ก็คงเลือกของเหมาๆกับท่านทั้งหลายไม่ได้หรอกค่ะ ไม่ใช่เรื่องจะมาตกใจตอนนี้ซะหน่อยนี่คะ [ขุนศึกรูปงาม]”
“นั่นมันก็แค่ชื่อเล่นที่องค์หญิงเรเนสตอนเด็กเอาไปเผยแพร่ไม่ใช่เหรอค่าา! ฉันไม่เคยพูดออกมาเองเลยแท้ๆ… ฉัน ก็แค่สวมหมวกคาบูโตะเพราะไม่ถูกกับการมองตาคนอื่นเท่านั้นเองค่ะ…”
“ท่านพี่เรเนสเองก็บอกว่า[ฮิลก้าควรจะแสดงความงามของตัวเองให้คนอื่นได้เห็น]ค่ะ เป็นการฝึกที่ดีออกไม่ใช่เหรอคะ ช่วยนำทางสหายของ[ราชาแห่งชายแดน]ผู้มีพระคุณด้วยค่ะ”
“……อู๊”
เป็นช่วงเวลาที่ได้ล่วงรู้ความลับของ[ขุนศึกรูปงาม]
คุณฮิลก้า น้ำตาไหลออกมา
“ขะ เข้าใจแล้วค่ะ ฉัน จะขอทำการคุ้มกันพรรคพวกของ[ราชาแห่งชายแดน]ค่ะ”
“ขอฝากตัวด้วยนะคะ ท่านฮิลก้า” “ขอฝากตัวด้วยค่ะ”
ริเซ็ตกับพริมก้มหัวลง
สำหรับยูกิโนะที่เหนื่อยจนพักอยู่ ไว้ค่อยไปคุยกันทีหลัง
หลังตกลงกำหนดการณ์กันได้แล้ว ผมก็จะพาฮารุกะมาด้วย
“แล้ว [ราชาแห่งชายแดน]ปรารถนาสิ่งใดเหรอคะ?”
“ข้าเหรอ?”
“ทั้งๆที่มอบรางวัลให้กับพวกลูกน้องแท้ๆ แต่คุณที่เป็นราชายังไม่ได้รางวัลอะไรเลย มันเป็นเรื่องเสียทารยาทออกค่ะ”
ผมงั้นเหรอออ
ไม่ได้คิดไว้เลยแฮะ
เอาตรงๆ ตั้งแต่มาต่างโลกแค่พยายามทำอะไรก็เต็มกลืนแล้วเลยไม่ได้คิดเรื่อง[ของที่ต้องการ]เลยสักนิด เพราะว่ามี[Naming Bless(มอบอัตลักษณ์ชื่อ)]อยู่แล้ว อาวุธก็เลยไม่จำเป็น ไอเทมเองก็พอหาเองได้
“ก่อนอื่นก็ ที่พักล่ะมั้ง”
“ที่พัก เหรอคะ?”
“อา เร็วๆนี้อาจจะได้ไปที่เมืองหลวงหรือจุดเชื่อมเมืองอีกก็ได้ ถ้าตอนนั้นมีที่พักที่นี่ให้พักก่อนก็จะช่วยได้มาก แบบกว้างๆแล้วก็มีที่อาบน้ำ”
“ค่ะ เรื่องนั้นถ้าบอกฮิลก้าก็จะเตรียมให้ทันทีค่ะ…”
“ขอบคุณ”
“แล้ว อย่างอื่นล่ะคะ?”
“อย่างอื่นเหรอ?”
“แค่นี้คิดว่าคงไม่เพียงพอสำหรับคำรางวัลหรอกค่ะ”
องค์หญิงซิลเวียร์พูดแบบนั้น คุณขุนศึกฮิลก้าเองก็พยักหน้าเห็นด้วย
อย่างอื่นเหรอ ที่เหลือก็…
“ถ้าอย่างนั้นก็ ชุด”
“ชุด”
“ชุดไว้เปลี่ยนกับชุดใน”
เผ่ายักษ์ที่[หมู่บ้านฮาซามะ]หุ่นดีกันทั้งนั้น เสื้อกับชุดในขนาดมนุษย์ก็เลยไม่ค่อยมี
ของที่เอามาจากโลกเดิม ก็เอามาซักแล้วใช้วนก่อนอยู่หรอก แต่อีกไม่นานก็คงจะเปื่อยเอาแล้ว
ตรงนี้ก็ขอพึ่งองค์หญิงซิลเวียร์เอาของใหม่มาหน่อยละกัน
“อยากจะได้ของชั้นดีแบบที่เจ้าเมืองคิโทลใช้–ชุดในผู้ชายที่ผิวสัมผัสดี แล้วก็ ชุดสำหรับผู้ชายที่ไว้ออกไปเดินข้างนอกตามปกติด้วย”
“เสื้อกับชุดใน เหรอคะ”
…เอ๊ะ?
ไม่รู้ทำไมองค์หญิงซิลเวียร์ถึงทำหน้าผิดหวัง
อา จะยังไง[ราชาแห่งชายแดน]ขอแค่“เสื้อกับเสื้อใน”มันคงไม่ดีสินะ ดูไม่สมกับเป็นราชาเลยนี่นา คงต้องขออะไรที่ดูเป็นประโยชน์กับอาณาเขตหน่อย
“แล้วอยากจะขออย่างอื่นร่วมด้วย”
“ของอย่างอื่น คะ ของแบบไหนเหรอคะ?”
“นุ่มนิ่ม อุ่นๆ ของที่จะทำให้ผู้คนมีความสุขน่ะ”
“นุ่นนิ่ม…อุ่นๆ…”
“อา สำหรับผู้ที่เป็นราชา ก็มีของแบบนั้นอยู่รอบๆเป็นปกติไม่ใช่หรือไง”
“หรือว่า…จะเป็นของที่มีเลือดเนื้อกันคะ?”
“ตามนั้น”
“…เกี่ยวกับความต้องการนั่น…ฉันเองก็เตรียมใจไว้แล้วค่ะ”
องค์หญิงซิลเวียร์เอามือแตะหน้าอก แล้วโค้งคำนับ
“ก่อนหน้านี้ ตอนที่ไปที่เขตของราชากับท่านพี่เรเนส ก็ได้เห็นอะไรต่างๆมาแล้วค่ะ เรื่องที่ราชาเป็นคนแบบนั้น ดิฉันก็เตรียมใจไว้แล้วค่ะ เรื่องที่ราชาทำในคราวนี้ ก็มีค่าเพียงพอกับการทำเช่นนั้น”
“เข้าใจเหรอ”
“ค่ะ เข้าใจค่ะ…”
องค์หญิงซิลเวียร์จับชายกระโปรงแน่นเหมือนกับจะเตรียมใจให้พร้อม
การเตรียมใจ–ใช่แล้วล่ะ
สำหรับตอนที่เจ้าเมืองคิโทลไม่อยู่อย่างตอนนี้เป็นคำขอที่ออกจะเกินคาดไปหน่อย
“ด ดิฉันจะไปที่ชายแดนในฐานะสนมของ–”
“ถ้ามีปศุสัตว์ที่ตัวนุ่มนิ่มอุ่นๆอย่าง[แกะ] ก็อยากจะขอสักหลายสิบตัวหน่อย แล้วก็คนงานที่มีฝีมือการทอผ้า–”
ผมกับองค์หญิงซิลเวียร์พูดทับกัน
…เอ๊ะ?
เมื่อกี้ องค์หญิงซิลเวียร์ พูดอะไรออกมาน่ะ?
หน้าแดงเอามือปิดปาก…อะไรล่ะนั่น?
“ป ป ปศุสัตว์กับคนงานสินะคะ!? เข้าใจแล้วค่ะ เข้าใจอย่างดีเลยค่ะ[ราชาแห่งชายแดน]!”
องค์หญิงซิลเวียร์หันคอกลับไปอย่างแรง
“ค ค่ะ! ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ถ้าแค่นั้นก็ได้อยู่ค่ะ [เมโย(แกะ)]–ค่ะ เขตเจ้าเมืองคิโทลเป็นแหล่ง[เมโยเขางอ]ชนิดที่มีขนยาวค่ะ ที่เขตของซิลเวียร์ผู้นี้ก็มีค่ะ ถึงท่านพ่อ อัลโกส คิโทลจะไม่อยู่ แต่แค่นั้นก็ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ จะนำมามอบให้กับ[ราชาแห่งชายแดน]ให้ค่ะ! 50ตัวพอไหมคะ!? ได้ไหมคะ!?”
“องค์หญิง” “…องค์หญิงซิลเวียร์” “…องค์หญิง”
คุณฮิวก้า ริเซ็ต แล้วก็พริมต่างก็ทำท่าทางพูดอะไรไม่ออก
ผมก็เหมือนกัน
เรื่องที่องค์หญิงซิลเวียร์พูดออกมา มันเกินความคาดหมายไปหน่อย
สนม…หรือก็คือ เมียน้อย
“คือว่า องค์หญิงซิลเวียร์”
“………ฮะฟู๊”
องค์หญิงซิลเวียร์เข่าทรุดลงบนเก้าอี้อย่างไม่มีแรง
“ขออภัยค่ะ ค่ะ ต้องขออภัยจริงๆด้วยค่ะ ขออภัยค่ะ! พูดออกไปจริงๆค่ะ!! ว่าดิฉันจะไปเป็นเมียน้อยของ[ราชาแห่งชายแดน]ที่ชายแดน! พูดออกไปจริงๆค่ะ!!”
ไม่ต้องลนขนาดนั้นก็ได้
องค์หญิงซิลเวียร์หน้าแดงแป๊ดเอามือสองข้างปิดหน้า
“…ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ…?”
“ก่อนหน้านี้ตอนที่ไปรบกวนที่ชายแดนกับท่านพี่เรเนส คนของชายแดนบอกมาค่ะ ว่า[ราชาแห่งชายแดน]มีสตรีหมายเลขหนึ่ง ภรรยาหมายเลขหนึ่ง เมียหมายเลขหนึ่ง–ภรรยา3คนค่ะ”
มีเรื่องแบบนั้นด้วยสินะ!!
ยังจำได้อีกเหรอองค์หญิงซิลเวียร์!!
เรื่องนั้นมันเกิดขึ้นหลังจากทหารมาบุกหมู่บ้าน ก็เลยระแวงเขตเจ้าเมืองคิโทลหนักมาก
เพื่อทำให้คิดว่า“ชายแดนไม่คิดจะทำอะไร”แล้วไม่ทำเรื่องแบบนั้นอีก ผมก็เลยแสดงเป็นผู้นำบ้ากาม
งั้นเหรอ องค์หญิงซิลเวียร์เลยคิดว่านั่นคือ[งานอดิเรกและรสนิยม]ของผมสินะ…
“วีรบุรุษนั้นชื่นชอบในสตรี นั่นเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วค่ะ แถม[ราชาแห่งชายแดน]ที่มาปกป้องดินแดนให้ ก็มีบุญคุณขนาดที่ตอบแทนไม่หมดอยู่ค่ะ”
องค์หญิงซิลเวียร์ทรุดเข่าลงกับพื้น
“ถ้าท่านพ่อรู้เรื่องในคราวนี้ ก็คงคิดเรื่องการแต่งงานการเมืองระหว่างตระกูลเจ้าเมืองคิโทลกับ[ราชาแห่งชายแดน]ไม่ผิดแน่ค่ะ จะเป็นศัตรูกับราชาที่มีพลังขนาดคุณไม่ได้เด็ดขาดค่ะ ถ้าอย่างนั้น ก็มอบลูกให้สักคนสานสัมพันธ์ เพื่อความสงบของเขตแดนจะได้ดำเนินต่อไปค่ะ”
“…เร็วผิดคาดเลยนะคะ องค์ราชา”
พริมมากระซิบที่หูผม
“…เรื่องที่ตระกูลเจ้าเมืองจะเสนอแบบนั้นก็คาดไว้แล้ว แต่ว่า เร็วเกินไปแล้วค่ะ ยังไงตระกูลเจ้าเมืองก็ต้องเสนอมาอยู่แล้ว แต่ก็ต้องหลังจัดการเรื่องของ[สิบปราชญ์] ถ้าเสนอมาในตอนนี้ ก็มีแต่เป็นการแสดงจุดอ่อนของตัวเองให้เห็น ดังนั้น นี่คือองค์หญิง…?”
แม้แต่พริมที่ตั้งตนเป็นกุนซือก็ยังคาดไม่ถึง
ผมเองก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้ไว้เลย
ริเซ็ตเอง…ก็หน้าค้าง ตกใจสินะ
“ในตอนนี้ ไม่ควรจะให้องค์หญิงซิลเวียร์ออกห่างจากเขตเจ้าเมืองคิโทลเด็ดขาด”
ผมพูดออกไป
“เรื่องนั้น ไว้คิดกันหลังจากเจ้าเมืองอัลโกส คิโทลกลับมาแล้วเถอะ ถ้ามาเอาตัวองค์หญิงไประหว่างที่เขาไม่อยู่ จะเป็นการสร้างความแค้นให้คุณพ่อเปล่าๆ”
“หะ เห็นด้วยค่ะ เก็บไว้ทีหลังนะคะ ต้องขออภัยจริงๆค่ะ”
พูดแบบนั้นแล้วองค์หญิงซิลเวียร์ก็เช็ดชุดเดรสส่วนตักแล้วก็ลุกขึ้น
“ความปรารถนาของ[ราชาแห่งชายแดน]กับทุกคน จะทำให้ทุกอย่างค่ะ แล้วก็ว่าจะมอบสิทธิผ่านในเขตแดนให้ด้วยค่ะ”
“สิทธิผ่าน?”
“ค่ะ ผู้ที่มีธงของ[ราชาแห่งชายแดน] จะได้รับสิทธิผ่านในการเดินทางอย่างอิสระในเขตเจ้าเมืองคิโทลค่ะ นี่เป็นสิทธิที่ดิฉันกับท่านพี่เรเนสสามารถมอบให้ได้ค่ะ ถ้าท่านพ่อกลับมาแล้ว…ก็ไว้ค่อยปรึกษากันอีกทีค่ะ”
“ธงเหรอ”
จะว่าไปแล้วก่อนจะไปเมืองหลวง พูดเรื่องนั้นกันไว้สินะ…
ริเซ็ตที่อยู่ด้านหลังก็ทำตาเป็นประกาย
“หลังจากนี้ถ้าช่วยบอกธงของ[ราชาแห่งชายแดน]จะช่วยได้มากเลยค่ะ”「
“ขะ เข้าใจแล้ว เรื่องนั้นก็ขอฝากริเซ็ต–”
“ค่ะ! เชื่อใจได้เลยค่ะ!”
ริเซ็ตยกมืออยู่ด้านหลังผม
“ได้ธงกับสีมาจากเมืองหลวงแล้วค่ะ เกี่ยวกับ[ธงคิริวโอ]ของท่านพี่ ริเซ็ต รูจ ครอบครัวผู้ใกล้ชิดท่านพี่โชมะอันดับหนึ่ง จะนำมามอบให้องค์หญิงซิลเวียร์ได้เห็นเองค่ะ!”
ริเซ็ตพูดเรื่องนั้นออกมา–ด้วยสีหน้าพร้อมรบ
———————————————————————
ช่วงนี้ติด vtuber ครับ คงไม่ได้ลงบ่อยแบบเมื่อก่อนแล้ว