ช่วงเวลาแห่งราชา (เกมออนไลน์) - ตอนที่ 22
Ch.22 – สมาชิกชั่วคราว
Translator : Asiran / Author
ตอนที่ 22 – สมาชิกชั่วคราว
ถึงแม้ว่าทุกคนจะยังไม่คุ้นเคยกัน แต่ถ้าตอนนี้ไม่ออกมาโห่ใส่คนที่เด่นกว่าชาวบ้านเขาอย่างนี้ก็ไม่ใช่วิสัยของวัยรุ่นแล้ว ท่ามกลางเสียงโห่ฮา เหออวี้รู้สึกว่าตัวเองไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่ลุกขึ้นอย่างปวดหัวแล้วเดินไปทางประตูเหมือนกับกำลังเผ่นหนี
กลับเป็นเกาเกอที่แม้จะได้รับเสียงโห่ด้วยเหมือน ๆ กันแต่ก็ยังไม่หลบหนีไป แต่มองเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยนักศึกษาชายแล้วพูดว่า “จะโห่อะไรกันนักหนา ก็แค่สมาชิกทีมเดียวกันเอง อยากจะหาทีมเล่น The Kings of Glory กันไหม มาลองเข้าร่วมกับคลื่น7 ของพวกเราได้นะ”
อธิบายอย่างชัดเจนในหนึ่งประโยคจากนั้นก็ไม่ลืมที่จะโฆษณาทีมของตัวเองอีกด้วย เหล่านักศึกษาใหม่ทั้งห้องที่หดหู่เพราะไม่มีนักศึกษาหญิงร่วมชั้นแม้แต่คนเดียวอยู่ ๆ ก็มีโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกับนักศึกษาหญิงสาวสวยคนหนึ่งขึ้นมา ใบหน้าของทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยสีหน้าที่กระตือรือร้นอยากจะลองดู ส่วนเจ้า The Kings of Glory อะไรนั่นไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญเลยแม้แต่นิดเดียว
“นักศึกษาครับ นักศึกษา ใจเย็น ๆ กันก่อน” อาจารย์ที่อยู่บนโพเดี้ยมมีสีหน้าแตกตื่นเล็กน้อย รีบพูดอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มองไปทางเกาเกอที่อยู่ตรงประตู พูดด้วยน้ำเสียงอธิบายว่า “เดียวผมช่วยกรองคนให้ก่อน”
“งั้นก็ขอบคุณนะคะอาจารย์” เกาเกอพูด
“เธอเรียกผมว่ารุ่นพี่เหมือนเดิมก็ได้” อาจารย์เริ่นดูเหมือนจะแอบปาดเหงื่อ เขาเลือกที่จะอยู่ในมหาวิทยาลัยต่อหลังจากจบการศึกษา เมื่อสองปีที่แล้วเขายังเป็นนักศึกษาชั้นปีสี่ ส่วนเกาเกอเป็นนักศึกษาใหม่ที่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัย ตอนนั้นเขาถูกเรียกว่ารุ่นพี่
เกาเกอยิ้มแย้มและไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่พาเหออวี้ออกไป อาจารย์เริ่นพูดเรื่องที่อยากพูดจบแล้วก็ไม่มีเรื่องอะไรจะพูดต่ออีก เพียงแต่มีสีหน้ากังวล เหล่านักศึกษาที่อยู่ด้านล่างต่างก็มึนงง มองดูอาจารย์เริ่นและรอคำอธิบายจากเขา
“เอ่อ คืองี้นะ” อาจารย์เริ่นเริ่มเปิดปากพูดในที่สุด “ผมก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรในการใช้เวลาว่างเล่นเกมของทุกคนหรอกนะ แล้วก็ไม่ได้ขัดข้องในการเข้าร่วมกิจกรรมนอกเวลาที่เกี่ยวกับเกมด้วย จะยังไงเรื่องพวกนี้ทางมหาวิทยาลัยก็รับรองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า ถ้าคิดที่จะเข้าร่วม ก็ต้องครุ่นคิดใคร่ครวญกันให้ดี ๆ ด้วย เมื่อกี้พวกคุณมีความคิดในใจกันยังไงนึกหรือว่าอาจารย์จะไม่รู้น่ะ”
นักศึกษาที่อยู่ด้านล่างฟังแล้วก็มีคนยืดตัวขึ้นมา มีคนเลิกคิ้วขึ้น อาจารย์เริ่นพูดอย่างกับว่าการเล่นเกมต้องจริงจังตั้งใจ อย่าได้มีความคิดแอบแฝงอื่น ๆ ด้วยเลย ปัญหาก็คือนี่มันไม่ใช่แค่การเข้าร่วมกิจกรรมนอกเวลาหรอกเหรอ จะต้องจริงจังแค่ไหนกันเชียว แต่อาจารย์เริ่นก็พูดเสริมขึ้นมาอีกประโยคในทันที “อย่างน้อยถ้าพวกคุณอยากจะเข้าร่วมทีมคลื่น7 นี่ก็ต้องมีท่าทีแบบนั้น”
“ทำไมล่ะครับ” มีนักศึกษาถามอย่างไม่เข้าใจ
“เพราะว่ารุ่นพี่สาวสวยที่พวกคุณเพิ่งจะเห็นกันไปจะเรียกร้องให้พวกคุณมีท่าทีแบบนั้นน่ะสิ ถ้าทำไมได้เธอก็จะเตะออกจากทีมอย่างไม่ปรานีเลยล่ะ” อาจารย์เริ่นกล่าว
“อาจารย์ครับ ผมคิดว่าผมทำได้นะ” มีนักศึกษาลุกขึ้นมาประกาศอย่างจริงจัง
“ถ้าพูดแล้วไม่เชื่อจะลองดูก็ได้นะ ฟังให้ดีล่ะ ที่เธอพูดอยู่เมื่อกี้ก็แค่บอกว่า ‘ลอง’ เท่านั้น” อาจารย์เริ่นไหนเลยจะดูไม่ออกว่านักศึกษาคนนี้คิดว่าเขาแกล้งแสดงละครไปเท่านั้นเอง แต่เขาก็ไม่อยากที่จะพูดอะไรให้มากความอีกแล้ว
“เจ้าเหออวี้นั่นมันไปยังไงมายังไงล่ะเนี่ย” มีคนถามขึ้นมาอีกครั้ง
“ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกัน หัวหน้าห้องชั่วคราว คุณไปสืบมาหน่อยได้ไหม” อาจารย์เริ่นมองแล้วถามม่อเซี่ยน
“จำเป็นด้วยเหรอครับ” ม่อเซี่ยนถาม ไม่ว่าตอนนี้ทุกคนจะสงสัยเรื่องนักศึกษาสาวสวยกันแค่ไหนเขาก็ยังคงไม่ใส่ใจ รวมทั้งความห่วงกังวลของอาจารย์เริ่นเขาก็ยังรู้สึกว่าเกินจำเป็น
“สรุปว่าคุณก็สนใจสังเกตดูอารมณ์ความรู้สึกของเขาหน่อยแล้วกัน” อาจารย์เริ่นกล่าว
สีหน้ากังวลของอาจารย์เริ่นดูไม่เหมือนเรื่องโกหก นักศึกษาหนุ่มที่ลุกขึ้นมาประกาศตัวก่อนหน้านี้ก็นั่งลงอย่างเงียบ ๆ หันไปแลกเปลี่ยนสายตากับเพื่อนนักศึกษาที่อยู่รอบ ๆ อย่างท้อใจ สุดท้ายก็เริ่มรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาบ้างแล้ว
“อาจารย์ ไปได้รึยังครับ” ม่อเซี่ยนอ้าปากถาม เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่ต้นจนจบเขาก็แค่เดินไปตามจังหวะของตัวเอง
“นักศึกษาคนอื่นไปได้ หัวหน้าห้องชั่วคราวมากับผมไปเอาตารางเรียน ห้องนอนหนึ่งได้หนึ่งแผ่น จากนั้นก็ไปที่หอสมุด ไปดูว่าเมื่อไหร่จะไปเอาตำราเรียนของภาควิชาเราได้แล้วเอาไปบอกเพื่อนนักศึกษา”
“ครับ” ม่อเซี่ยนตอบรับ นักศึกษาคนอื่นลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป ม่อเซี่ยนเดินตามอาจารย์เริ่นไปเอาตารางเรียน ส่วนเหออวี้ที่ถูกเกาเกอลากออกไปตอนนี้ก็แค่ย้ายห้องเรียนเท่านั้น
ในห้องเรียนนั้นมีนักศึกษาชายอยู่สามคน คนหนึ่งก็คือโจวม่อที่เหออวี้รู้จักอยู่แล้ว อีกสองคนเงยหน้าขึ้นมามองเขาตอนที่เกาเกอเดินเข้าประตูห้องมา เกาเกอโบกมือกล่าวว่า “รู้จักกันไว้ซะ นี่คือเหออวี้”
เหออวี้รีบพยักหน้าให้อีกสองคน
“หลี่ซือเจี๋ย จ้าวจิ้นหราน” เกาเกอชี้นิ้วไปที่อีกสองคนแล้วแนะนำให้เหออวี้รู้จัก
“สวัสดีครับ” เหออวี้ทักทายคนทั้งสอง
ทั้งสองคนทยอยลุกขึ้นมาพยักหน้าให้เหออวี้ แต่ปากก็พูดออกมาว่า “งั้นก็รู้จักกันหมดแล้วใช่ไหม ดี พวกเราไปก่อนนะ”
โจวม่อรู้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้ แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะทักท้วงออกมา “อย่างน้อยก็มาทำความรู้จักกันก่อนเถอะ”
“คราวหน้าเหอะ วันนี้ไม่มีเวลาจริง ๆ นัดคนไว้” หลี่ซือเจี๋ยกล่าว
“ฉันก็ด้วย แล้วเจอกันนะ!” จ้าวจิ้นหรานกล่าว พยักหน้าเร็ว ๆ ให้เหออวี้แล้วตามหลี่ซือเจี๋ยไป ทั้งสองคนตั้งแต่ต้นจนจบยังไม่ทำอะไรก็รีบเผ่นไปแล้ว
“นี่มันอะไรกันครับ” เหออวี้ถามด้วยสีหน้ามืดแปดด้าน
“สมาชิกชั่วคราวของพวกเรา จะมาร่วมกับพวกเราสมัครลีกภายในมหาวิทยาลัยของเทอมนี้” เกาเกอกล่าว
“สมาชิกชั่วคราวเหรอครับ”
“ชมรม The Kings บอกว่าปีนี้มีสมาชิกใหม่เข้าร่วมเยอะมากแล้วก็สนใจเข้าร่วมลีกภายในมหาวิทยาลัยกันด้วย ดังนั้นก็เลยเริ่มลงทะเบียนกันเร็วกว่าเดิม แล้วก็ระบุเดดไลน์มาแล้วด้วย พวกเราไม่มีเวลามาค่อย ๆ หาเพื่อนร่วมทีมแล้ว ได้แต่ดึงตัวสองคนนี้มาชั่วคราวเอาไปสมัครกันก่อน” โจวม่อถอนหายใจ
“พึ่งได้ไหมครับ” ไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ เหออวี้ก็นึกถึงเพื่อนร่วมทีมระดับ bronze ของตัวเองเมื่อคืนขึ้นมา ถึงสุดท้ายจะคิดว่าผู้เล่นที่เล่นไม่เป็นพวกนี้ก็น่ารักดี แต่ว่าถ้าต้องการชัยชนะแล้วเพื่อนร่วมทีมแบบนี้จะต้องเพิ่มปัญหาขึ้นมาแน่ ๆ
“แหงสิ พึ่งไม่ได้” เกาเกอสงบนิ่งมาก แล้วก็จนใจมากด้วย
“หามาได้สองคนเร็วขนาดนี้ก็ไม่เลวแล้ว จะยังไงก็มีคนบางคนที่ในแวดวง The Kings มีความนิยมค่อนข้างแย่อะนะ” โจวม่อกล่าว
“ค่อนข้างแย่เหรอ เมื่อคืนไม่ใช่ว่าพี่ก็พูดแบบนี้เหรอครับ” เหออวี้กล่าว
“เมื่อคืนฉันไม่ได้พูดอะไรเลยนะ เป็นนายที่เข้าใจไปเองต่างหาก” พอเห็นเกาเกอเหลือบมอง โจวม่อก็รีบพูดขึ้นมา
“ก่อนอื่นก็หาคนให้ครบ ๆ ก่อน พวกเราก็เป็นแค่กิจกรรมในสถาบัน กฎเกณฑ์ไม่ได้เข้มงวดอะไร ถ้าหาเพื่อนร่วมทีมที่พึ่งพาได้ระหว่างการแข่งขันก็เปลี่ยนคนได้ตรง ๆ เลย” เกาเกอดูเหมือนว่าไม่อยากที่จะคิดบัญชีกับโจวม่อ จากนั้นก็พูดธุระต่อ
“งั้นถ้าเกิดว่าอยู่ดี ๆ มีกฎบอกว่าเปลี่ยนตัวคนไม่ได้ขึ้นมาล่ะ” โจวม่อพูด
“งั้นนายก็ไปตายซะเถอะ!” เกาเกอถลึงตาใส่โจวม่อ
“มาว่าฉันทำไมเนี่ย” โจวม่อกระซิบเสียงดัง หันไปส่งสายตาจนใจให้เหออวี้
“นี่เป็นกิจกรรมที่ตั้งใจจะเพิ่มประสบการณ์นอกเวลาเรียนให้บรรดานักศึกษา มีความจำเป็นอะไรที่ต้องตั้งกฎข้อนี้ขึ้นมาล่ะ ถึงคิดที่จะเล็งเป้ามาที่พวกเราก็แค่ส่งพวกเราไปสู้กับทีมที่เก่ง ๆ ให้ถูกกำจัดไปในรอบเดียวก็ได้แล้ว จะต้องมาวุ่นวายเปลี่ยนกฎเพื่ออะไรกัน” เกาเกอพูด
“ฉันสงสัยว่าที่มีตารางการลงทะเบียนเร็ว ๆ ก็เพื่อแกล้งเรานะ ไม่อยากให้พวกเรามีโอกาสหาคนได้ครบห้าคน” โจวม่อวิเคราะห์อย่างจริงจัง
“ฉันไปถามดูแล้ว ปีนี้ชมรม The Kings มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นพรวด ๆ จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่แค่เป็นเด็กใหม่เท่านั้นด้วย” เกาเกอพูด
“ทำไมล่ะ” โจวม่อไม่เข้าใจ
“นายว่าโจวจิ้นกับโหยวย่าจงมีแฟนคลับไหมล่ะ” เกาเกอกล่าว
“อ้อ…” โจวม่อมีปฏิกิริยาบ้างแล้ว นักเล่นเกมอาชีพสำหรับพวกเขาในแวดวง The Kings แล้วก็เหมือนเป็นดาราดังขั้นสูงสุด ในวงการนี้ไม่เคยขาดพวกบ้าดารา โจวจิ้นและโหยวย่าจงมาเยือนรอบนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงไม่กี่นาที แต่ผลลัพธ์ในการประชาสัมพันธ์ก็แข็งแกร่งเกินหน้าเกินตาสำหรับชมรมในมหาวิทยาลัยจริง ๆ ถึงจะพูดว่าเป็นเทอมนี้ แต่ว่าจากตอนที่ทั้งสองคนมาเยือนเมื่อวานนี้มันยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ ผลกระทบจากดารานั้นพูดได้ว่าน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก ในทางตรงกันข้าม คลื่น7 ของพวกเขาที่แปะประกาศรับสมัครคนไปทั่วมหาวิทยาลัยแถมยังขึ้นเป็นท็อปโพสต์ในฟอรั่มของมหาวิทยาลัยอีกกลับอ่อนกว่ากันมาก ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีใครสนใจเลย
“สิ่งที่เราต้องทำก็คือต้องชนะ เพื่อให้เรามีเวลาหาเพื่อนร่วมทีมที่พึ่งพาได้” เกาเกอพูด
โจวม่อเงียบกริบ สีหน้าเขียนเต็มไปด้วยอาการมองโลกในแง่ร้าย
“สองคนนั้นพึ่งพาไม่ได้แค่ไหนกันครับ” เหออวี้อดถามไม่ได้
“คนหนึ่ง platinum คนหนึ่ง diamond” โจวม่อพูด
………………………………………………………