ช่วงเวลาแห่งราชา (เกมออนไลน์) - ตอนที่ 91
ชื่นชมกันและกัน
เกาเกอกับโจวม่อเป็น conqueror มือเก่า ม่อเซี่ยนก็ยิ่งเป็นผู้แข็งแกร่งในหมู่ผู้แข็งแกร่ง เหออวี้มีประสบการณ์ต่อสู้จริงกับสกิลเพลย์ค่อนข้างไม่ถึงขั้น แต่ว่า แต่ว่าความตระหนักรู้ดี มองเห็นสถานการณ์โดยรวมอย่างชัดเจน จ้าวจิ้นหรานเก่งน้อยกว่าหน่อย แต่ว่าเพื่อชัยชนะก็ทำให้เชื่อฟังมาก อีกทั้งคนที่สั่งการเขาส่วนใหญ่ก็คือโจวม่อที่มีสไตล์รัดกุม ไม่ค่อยจะได้ทำความผิดใหญ่หลวงอะไรนัก ตั้งแต่เปิดเกมก็ได้เปรียบถึงขนาดนี้ จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงจังหวะการเล่นที่ใช้การเงินถล่มเข้าใส่อย่างราบรื่น ทีมต้าลี่จินกังไม่พบโอกาสใด ๆ เลย สิบนาทีต่อมาทั้งห้าคนก็หน้ามืดคล้ำออกมาจากห้องด้านใน
ประธานใหญ่ซุนในฐานะที่เป็นหัวหน้าของต้าลี่จินกังต้องมีส่วนรับผิดชอบ ตอนที่ชวนสู้กันก็มีเสียงดังที่สุด ตอนนี้ถึงเวลาเสียหน้าก็ต้องเดินอยู่หน้าสุดเหมือนกัน
คลื่น7 ทั้งห้าคนลุกขึ้นมาต้อนรับ แต่พวกเขาไม่ได้พูดอะไร แค่หันไปมองประธานใหญ่ซุนเป็นตาเดียว
“แค่ก!” ฝ่ายที่ทนความเงียบแบบนี้ไม่ได้ย่อมต้องเป็นทีมต้าลี่จินกัง ประธานใหญ่ซุนกระแอมไอครั้งหนึ่ง สายตาที่กวาดมองทั้งห้าคนสุดท้ายก็ตกอยู่บนร่างของเหออวี้กับม่อเซี่ยน
“นายสองคนเป็นเด็กภาควิชาฟิสิกส์ใช่ไหม” ประธานใหญ่ซุนเปิดปากออกมาในที่สุดด้วยน้ำเสียงเหมือนรุ่นพี่ห่วงใยรุ่นน้อง
“ครับ” เหออวี้พยักหน้า แต่ม่อเซี่ยนที่อยู่ด้านข้างกลับแสดงสีหน้าสงสัยขึ้นมา ตอนที่เขาเดินเข้าประตูมาประธานใหญ่ซุนยังเรียกชื่อเขาได้อยู่เลย แต่ตอนนี้กลับมาถามยืนยันว่าเขาเป็นเด็กภาควิชาฟิสิกส์รึเปล่าเนี่ยนะ
“เล่นได้ไม่เลวจริง ๆ” ประธานใหญ่ซุนดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าของม่อเซี่ยน ยังคงพูดชมทั้งสองคนต่อ
“ฉันก็เด็กภาควิชาฟิสิกส์นะ ประธานใหญ่ซุนไม่ชมฉันสักคำสองคำบ้างเหรอ” เกาเกออยู่ดี ๆ ก็พูดลอย ๆ ออกมาประโยคหนึ่ง
กล้ามเนื้อบนใบหน้าของประธานใหญ่ซุนกระตุกขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด พยายามควบคุมตัวเองอย่างหนักไม่ให้หันไปมองเกาเกอ พูดอย่างเฉยชาว่า “ห้องนี้ให้พวกเธอใช้แล้วกัน”
“สมควรอยู่แล้ว” เกาเกอพูด
ประธานใหญ่ซุนที่เตรียมจะเดินออกไปพร้อมกับทีมอยู่แล้วแทบจะหัวทิ่ม แต่คำพูดนี้ของเกาเกอก็ไม่มีส่วนไหนให้ค่อนแคะได้ ทำได้เพียงกัดฟันแน่นเดินต่อไป
เพิ่งจะออกจากประตูมาได้ในหมู่เพื่อนร่วมทีมก็มีคนที่ไม่ยอมแพ้ขึ้นมาแล้ว กระทืบเท้าอย่างขัดเคืองเปิดปากพูดว่า “เกาเกอก็บ้าเกินไปแล้ว”
ประธานใหญ่ซุนเหล่มองเขาแวบหนึ่ง “ตอนอยู่ในห้องทำไมนายไม่พูดล่ะ”
คนกระทืบเท้าละอายจนก้มหน้าลง “ฉันกลัวพูดสู้เขาไม่ได้” โดนคนอื่น ๆ หันไปกลอกตาใส่โดยพร้อมเพรียงกัน
“เกาเกอก็ยังเป็นเกาเกอ แต่ว่าคนใหม่คลื่น7 สองคนนั้นก็ไม่แย่เลย” ประธานใหญ่ซุนทอดถอนใจขึ้นมา
“นายหมายถึงเลนล่างสองคนนั้นของพวกเขาเหรอ” หวงจงเกมเมื่อครู่ถาม
“ไม่ใช่ ฉันคงหมายถึงอาเคอนั่นล่ะมั้ง” ประธานใหญ่ซุนหันไปเหลือกตาใส่คนพูด สำหรับคนที่เล่นเป็นแล้ว ระดับของจ้าวจิ้นหรานล้วนเป็นเกาเกอกับโจวม่อที่เป็น conqueror แบกไปเป็นเรื่องที่มองแวบเดียวก็เห็นแล้ว
“สองคนนั้นก็โหดจริง ๆ โดยเฉพาะฮัวมู่หลานนั่น” ในหมู่เพื่อนร่วมทีมมีคนที่พูดอย่างยังไม่หายกลัว
ตอนเปิดเกมคนแรกที่พ่ายแพ้ในเงื้อมมือของเหออวี้กับม่อเซี่ยนก็คือประธานใหญ่ซุน ตามมาด้วยตัวป่าของพวกเขาหานซิ่น จากนั้นก็เป็นเลนกลางม่อจื่อที่พยายามจะไปสนับสนุนที่แมปครึ่งนี้ รวมทั่งซัพพอร์ตไป๋ฉีที่เดินโรมไปทั่ว หวงจงเนื่องจากอยู่กันคนละเลนซึ่งไกลจากด้านนี้มาก ดังนั้นก็เลยไม่ได้มาเข้าร่วมการต่อสู้ทางด้านนี้ ไม่ได้รับทราบด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้ก็ถามไปประโยคหนึ่ง คนอื่น ๆ ต่างก็บอกว่าไปป่าครึ่งนี้แล้วต้องแจกคิล
เล่นมาถึงตอนจบ ป่าบัฟฟ้าของบ้านตัวเองรวมทั้งทางแม่น้ำที่อยู่ติดกันดูเหมือนจะกลายเป็นเขตหวงห้ามไปแล้ว ก้าวเท้าเข้าไปไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต ไม่ต้องไปพูดถึงป่าบัฟแดงของฝ่ายคลื่น7 นั่นเลย แม้แต่จะเหลือบมองสักแวบก็ยังไม่กล้า
สองคนนั้นที่เป็นเลนล่างของคลื่น7 ดูเหมือนว่าจะนั่งเฝ้าพื้นที่ไปครึ่งสนาม ฮัวมู่หลานนั่นสุดท้ายก็ดูออกจนได้ว่าเล่นเป็นตัวซัพพอร์ตจริง ๆ นี่น่าจะเป็นการเล่นที่ไม่สามารถทำได้ แต่กลับกลายเป็นว่าฮัวมู่หลานที่เป็นซัพพอร์ตนี้ร่วมมือเล่นกับแครี่เจงกิสข่านจนมีการเงินเป็นอันดับหนึ่งอันดับสอง
นี่ต้องอาศัยการที่ทีมต้าลี่จินกังไม่สามารถดึงการเงินมาจากป่าบัฟฟ้าได้เลยด้วย ฮีโร่ทั้งสองตัวเลี้ยงจนเกิดได้ดีขนาดนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากแต้มคิลและแอสซิสด้วย — ทีมต้าลี่จินกังนอกจากตัวแครี่หวงจงแล้ว คนที่เหลือต่างก็มีส่วนลงขันช่วยเหลือ
“ฮัวมู่หลานนั่นเล่นได้สวยมากจริง ๆ” เลนกลางม่อจื่อทอดถอนใจ
“เจงกิสข่านนั่นก็ทุเรศมาก ฟันมันไม่ถึงสักที” ตัวป่าหานซิ่นที่อยากจะไปสับเจงกิสข่านมาโดยตลอดกล่าว
“ฉันว่าเป็นเพราะวิชั่นของเขาที่เปิดได้ค่อนข้างดี ทุกครั้งก็จับเจตนาของพวกเราออกก่อนได้ตลอดเลย” ซัพพอร์ตไป๋ฉีกล่าว
“งั้นเรื่องทีมของเรานั่น…” แครี่หวงจงดึงพวกเขาออกมาจากความเสียใจกลับสู่โลกความเป็นจริง ทั้งสี่คนหันไปมองประธานใหญ่ซุนเป็นตาเดียว
“นี่…ดูเหมือนจะต้องปรึกษากันอีกเยอะ” ประธานใหญ่ซุนกล่าว
ประธานใหญ่ซุนมีชื่อเรียกว่าซุนเฉิงจ้ง ประธานใหญ่ซุนเป็นเพียงชื่อเล่น ประธานของสหภาพนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ที่แท้จริงเป็นอีกคน ส่วนซุนเฉิงจ้งความจริงแล้วเป็นรองประธาน แต่เนื่องจากเขาทำตัวเด่นกว่า มีตัวตนที่แข็งแกร่งกว่า บางคนจึงเริ่มเรียกเขาเป็นประธานใหญ่ซุนกันเล่น ๆ
การเลือกทีมต้าลี่จินกังเป็นทีมคณะไปตรง ๆ เลย ถ้าถามว่ามีความเห็นแก่ตัวไหม ซุนเฉิงจ้งก็ย่อมต้องมีอยู่บ้าง แต่เรื่องของเรื่องก็คือ ห้าคนของต้าลี่จินกังก็เป็นผู้นำในแวดวง The Kings of Glory คณะวิทยาศาสตร์จริง ๆ รวมกับการที่ทั้งห้าคนฟอร์มทีมกันมานานแล้ว ความรู้ใจและร่วมมือกันที่มีอยู่ก็แข็งแกร่งกว่ายอดฝีมือห้าคนที่มารวมตัวกันมั่ว ๆ จริง ๆ
แต่ว่าตอนนี้แพ้คลื่น7 แพ้ให้กับคู่หูเลนล่างที่เป็นคณะวิทยาศาสตร์เหมือนกับพวกเขา ความคิดของซุนเฉิงจ้งจึงไม่อาจไม่สั่นคลอนขึ้นมา จะหน้าด้านยืนยันต่อไปว่าต้าลี่จินกังแข็งแกร่งที่สุดในคณะวิทยาศาสตร์งั้นเหรอ ไร้ยางอายขนาดนั้นเขาทนไม่ได้หรอก
“งั้นจะเอายังไง” พวกเพื่อนร่วมทีมยังถามต่อ
“นี่ให้ฉันกลับไปหาประธานกับพวกฝ่ายกีฬาปรึกษากันอีกรอบก่อนเถอะ คนของพวกเรานี่ยังไงก็ยังมีโอกาสอยู่” ซุนเฉิงจ้งกล่าว เพียงแต่ว่าคำพูดนี้ก็เท่ากับแสดงออกมาแล้วว่าเรื่องที่จะให้ทีมต้าลี่จินกังกลายมาเป็นทีมคณะไปตรง ๆ เลยกลายเป็นฟองสบู่ไปเสียแล้ว เมื่อคิดถึงความแข็งแกร่งของสามคนนั้นในทีมคลื่น7 พวกเขาสามคนที่มีตำแหน่งชนกันก็รู้สึกหนักอกหนักใจอย่างห้ามไม่ได้ โดยเฉพาะซัพพอร์ตไป๋ฉีที่มีตำแหน่งขนกับม่อเซี่ยน สมองน้อย ๆ วิ่งเร็วจี๋ “ฮัวมู่หลานนั่นสกิลเพลย์โคตรดี เล่นซัพพอร์ตรู้สึกว่าน่าเสียดายนะ!”
พูดจบแล้วตัวเองก็ตระหนักได้ทันทีว่าไม่ค่อยถูก หันหน้าไปดูก็เห็นว่ามีปฏิกิริยาตอบกลับมาแล้ว ฮัวมู่หลานไม่เล่นซัพพอร์ตก็ต้องไปเล่นตำแหน่งอื่น นั่นก็คือไปแย่งตำแหน่งของเพื่อนร่วมทีมคนอื่นแล้ว การเล่นรอบนี้ของตัวเองมันเป็นการขายเพื่อนร่วมทีมชัด ๆ เลยนี่นา!
อย่างที่คาดเอาไว้ พวกเพื่อนร่วมทีมต่างหันมาเผาเขาทางสายตาถามว่า “งั้นควรไปเล่นตำแหน่งไหน”
“เอ่อ…นี่…ใครจะรู้ล่ะ” สหายซัพพอร์ตไม่คิดเลยว่าการดึงดูดความเกลียดชังนอกเกมของตัวเองยังจะแกร่งกว่าในเกมอีก ทีหนึ่งดึงมาได้ถึงสี่ อึก ๆ อัก ๆ อยู่สักพักก็ยังไม่รู้ว่าควรจะอธิบายยังไงดี
“เอาล่ะ เรื่องทีมคณะนี่ไว้กลับไปค่อยคุยกัน ตอนนี้พวกเรามาหาที่ซ้อมกันก่อนเถอะ การแข่งขันของทีมต้าลี่จินกังของเราก็ยังต้องเล่นกันต่อนะ!” ซุนเฉิงจ้งกล่าว
ทีมต้าลี่จินกังห้าคนจากไป คลื่น7 ห้าคนที่เหลืออยู่ก็กำลังรำลึกถึงเกมที่เพิ่งจะจบลงไปเมื่อครู่นี้เหมือนกัน
นี่สามารถนับเป็นเกมแรกหลังจากที่ม่อเซี่ยนได้เข้ามาเป็นสมาชิกทีมคลื่น7 อย่างเป็นทางการและได้รับมอบหมายตำแหน่งแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ช่างทำให้คนชื่นใจจริง ๆ
ทีมต้าลี่จินกังไม่ได้อ่อนแอ แต่คลื่น7 ไม่เพียงแค่ชนะเท่านั้น แต่ยังชนะอย่างราบรื่นง่ายดายถึงขนาดนี้อีกด้วย การซุ่มตีหานซิ่นของอีกฝ่ายนักว่าเป็นจุดเริ่มต้นจริง ๆ แต่ว่าการเปิดเกมที่ทำให้มีจังหวะการเล่นนำหน้าที่แท้จริงแล้วกลับเป็นเหออวี้กับม่อเซี่ยนที่เลนล่าง
เหออวี้มีความตระหนักรู้โดดเด่นแต่สกิลเพลย์ยังไม่เข้าที่ ตอนนี้ข้างกายเขามีม่อเซี่ยนที่เป็นเพื่อนร่วมทีมแรงค์สูงสกิลเพลย์เก่งรอบด้านอยู่หนึ่งคนมาป้องกันจุดอ่อนของเหออวี้ ส่วนเหออวี้ก็ตอบแทนได้เหมือนกัน เพราะว่าความตระหนักรู้ของเขายังตามจังหวะการเล่นของม่อเซี่ยนที่แรงค์สูงนี้ทันตลอด ถ้าเปลี่ยนเป็นจ้าวจิ้นหราน ถึงความแข็งแกร่งของม่อเซี่ยนจะสามารถชดเชยความอ่อนของเขาได้เหมือนกัน แต่ว่าความตระหนักรู้ของจ้าวจิ้นหรานตอนนี้เกรงว่าคงจะตามไอเดียและจังหวะการเล่นของม่อเซี่ยนไม่ทัน หนึ่งบวกหนึ่งแบบนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่มากกว่าสองออกมา อย่างมากก็ได้ผลลัพธ์แค่ 1.1 เท่านั้น
ส่วนเกาเกอกับโจวม่อ พวกเขามีสไตล์และไอเดียเป็นของตัวเองแล้ว ถ้าให้พวกเขาไปร่วมมือกับม่อเซี่ยนก็จะต้องใช้เวลาสักพักเพื่อหลอมรวมเข้าด้วยกัน จากนั้นจะสามารถไปได้ถึงขั้นไหนก็ยังพูดได้ยาก ยิ่งไปกว่านั้น ในด้านความตระหนักรู้แล้ว พวกเขาทั้งสองก็ยังไม่เห็นว่าจะเหนือกว่าเหออวี้ เหออวี้โตมากับการดู KPL ความตระหนักรู้ของเขามาจากมาตรฐานระดับอาชีพล้วน ๆ ไม่มีการปนเปื้อนจากนิสัยของผู้เล่นใด ๆ ความคิดและการตัดสินใจของเขาล้วนแล้วแต่ชี้ไปที่ชัยชนะในท้ายที่สุดทุกครั้ง จิตใจที่กระจ่างแจ้งเยือกเย็นเช่นนี้ก็คือข้อแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างเขากับผู้เล่นทั่วไป
ดังนั้น…
“เล่นอีกหน่อย” เกาเกอกล่าว “ให้พวกเราดูสิว่าพวกนายสองคนยังมีอะไรจะโชว์อีก”
…………………………………………..
ตอนต่อไปเป็นตอนที่เราอยากจะแปลให้ถึงมาก ๆๆๆๆๆๆ
ใครอยู่มาตั้งแต่เริ่ม ๆ อาจจะจำได้ว่าเราเคยบอกว่าจะลงสองวันตอน แต่ต่อมาก็ลงรัว ๆ ทุกวันเลย สาเหตุมาจากตอนนี้นี่แหละค่ะ
นางเอก!!!
ใช่ไหมไม่รู้แต่ว่าอ่านมาจะร้อยตอนแล้วผู้หญิงในเรื่องเพิ่งมีนางคนเดียว (เกาเกอไม่นับ)