ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 401 คุณแน่ใจนะว่านี่คือ... / ตอนที่ 402 เด็กดี ทนหน่อยนะ
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่ 401 คุณแน่ใจนะว่านี่คือ... / ตอนที่ 402 เด็กดี ทนหน่อยนะ
ตอนที่ 401 คุณแน่ใจนะว่านี่คือ…
ตกดึก เนื่องจากป๋อจิ่งชวนมีประชุมทางไกลที่บริษัท เฉินฝานซิงจึงกลับมาก่อนคนเดียว หลังจากที่หาอะไรเข้าท้องอย่างง่ายๆ แล้วก็เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ
เมื่อเธอใส่กระโปรงนอนสีพื้นในสภาพผมเปียกหมาดๆ ออกมาจากห้องน้ำ ป๋อจิ่งชวนก็นั่งดูทีวีช่องรายการภาพยนตร์อยู่บนโซฟาแล้ว
ทั้งสองคนหากไม่อยู่ชั้นล่างของห้องเขา ก็อยู่ชั้นบนของห้องเธอ ที่ไหนมีคนอยู่ก็ไปขลุกอยู่ที่นั่น
เฉินฝานซิงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปในครัวหยิบน้ำออกมาสองขวด แล้วเดินมานั่งลงข้างเขา พร้อมกับส่งน้ำให้เขาหนึ่งขวด
“กินข้าวเย็นหรือยัง”
ป๋อจิ่งชวนรับน้ำมา เปิดฝาแล้วยื่นให้เธอ จากนั้นก็หยิบขวดน้ำในมือของเธอมาเปิดฝาแล้วจิบเล็กน้อย
“อืม”
เขาตอบรับสั้นๆ เพียงพยางค์เดียว พลันยื่นแขนออกไปโอบไหล่เธอเข้ามาในอ้อมกอด
“การแข่งขันเตรียมไปถึงไหนแล้ว”
“ก็ดี ไม่มีปัญหาอะไร”
ป๋อจิ่งชวนถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเอื้อมไปหยิบถุงที่วางอยู่ด้านข้างยื่นไปให้กับเธอ
“นี่อะไร” เฉินฝานซิงรับมาด้วยความงุนงง
“น้องสาวของคุณครั้งที่แล้วในการแข่งขันปรุงน้ำหอมนานาชาติได้คะแนนเป็นอันดับที่ 4 หรือว่าคุณไม่อยากทำความเข้าใจเกี่ยวกับความสามารถของเธอสักนิดเลยเหรอ”
นัยน์ตาของเฉินฝานซิงฉายประกายความประหลาดใจ เธอเปิดถุงออกพร้อมกับพูดขึ้น
“นักปรุงน้ำหอมหลายคน หลังจากได้รับรางวัลจากการแข่งขันแล้วก็จะถือโอกาสในขณะที่การแข่งขันกำลังเป็นกระแสอยู่ทำผลิตภัณฑ์ออกมาขาย ทำแบรนด์น้ำหอมของตัวเอง หรืออาจะไปเป็นนักปรุงน้ำหอมให้กับแบรนด์ดังเลยก็ได้ แต่เฉินเชียนโหรวกลับลำพองตัว ไม่ได้ผลิตน้ำหอมรุ่นนี้ออกมาขาย ไม่ว่าจะช่องทางไหนทั้งนั้น นอกจากน้ำหอมตัวที่ปรุงออกมาตอนแข่งขันแล้วก็ไม่มีตัวอื่นอีก คุณได้มายังไง คุณแน่ใจนะว่านี่คือ…”
เฉินฝานซิงเปิดน้ำหอมตัวอย่างขวดเล็กๆ ขวดหนึ่งออกแล้วเอาขึ้นมาดม สุดท้ายยังไม่ทันพูดจบประโยคเธอก็หยุดชะงักไปกลางคัน
จากนั้น เธอฉีดน้ำหอมกลางอากาศ แล้วดมอย่างตั้งใจอีกครั้ง
เธอเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่ในดวงตาจะฉายประกายความมืดดำออกมา
ป๋อจิ่งชวนดมกลิ่นน้ำหอมที่ยังลอยอยู่ในอากาศ กลิ่นนั้น จัดว่าเป็นกลิ่นที่เขายอมรับได้
“ทำไมเหรอ” เขาเอ่ยปาก น้ำเสียงทุ้มต่ำอ่อนโยน
เฉินฝานซิงปิดฝาขวดน้ำหอมอย่างเงียบๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองป๋อจิ่งชวน ทันใดนั้นเองก็ยิ้มมุมปากออกมา “ฉันแน่ใจว่านี่คือผลงานชิ้นโบว์แดงของเฉินเชียนโหรว”
“หืม?” ป๋อจิ่งชวนเลิกคิ้วมองเธอด้วยความข้องใจ
เฉินฝานซิงไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองเขาด้วยรอยยิ้ม
ป๋อจิ่งชวนก้มหน้าลงมางับลงบนริมฝีปากของเธอเบาๆ “บอกผม จะถือโอกาสนี้จัดการเรื่องลอกเลียนแบบผลงานตอนนั้นให้กระจ่างได้ไหม หืม?”
“ได้” เธอไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย ดวงตาสุกใสเป็นประกายเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง
ประกายแพรวพราวฉายออกมาจากก้นบึ้งของดวงตาป๋อจิ่งชวน ก่อนที่ดวงตาจะเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยน “ต้องการให้ผมทำอะไรไหม”
เฉินฝานซิงเผลอส่ายหน้าโดยไม่รู้ตัว สุดท้ายก็นิ่งไป ก่อนจะพยักหน้า “ต้องการคุณ”
ภายในดวงตาเต็มไปด้วยประกายรอยยิ้มแห่งความอบอุ่น น้ำเสียงทุ้มต่ำเผยให้เห็นความดีใจอย่างชัดเจน เขาดมกลิ่นหอมละมุนหลังจากอาบน้ำในตัวเธอ ริมฝีปากหยุดอยู่ตรงเส้นผมที่ปรกบนใบหู
“ต้องการให้ผมทำอะไร”
เฉินฝานซิงยิ้มพร้อมกับหันหน้ามาแล้วขยับเข้าไปข้างหูของเขา พึมพำอะไรบางอย่าง
ป๋อจิ่งชวนหัวเราะออกมาเบาๆ “รู้สึกได้ว่าเป็นเรื่องดี แต่ว่า แค่นี้เองเหรอ”
“เรื่องนี้สำคัญที่สุดแล้ว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคุณแล้วนะ”
“อืม รับประกันความสำเร็จเลย”
ตอนที่ 402 เด็กดี ทนหน่อยนะ
เฉินฝานซิงสูดหายใจเข้าฟอดใหญ่ก่อนจะหันไปมองป๋อจิ่งชวน ภายในดวงตาคู่นั้นแฝงไปด้วยความตื่นเต้นไม่น้อย
“ป๋อจิ่งชวน การแข่งขันปรุงน้ำหอม ฉันจะลบล้างมลทินทั้งหมดให้กับตัวเอง ฉันอยากจะรีบแต่งงานกับคุณทันที คุณยังอยากแต่งงานกับฉันอยู่ไหม”
ใบหน้าหล่อเหลาของป๋อจิ่งชวนนิ่งเรียบ ดวงตาลึกล้ำที่จ้องมองเธอมืดมนไร้ซึ่งประกาย
เฉินฝานซิงรู้สึกขาดความมั่นใจไปชั่วขณะ สายตาที่ลึกซึ้งของเขาแฝงไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่เธอไม่อาจคาดเดา
“ป๋อจิ่งชวน ช่วงนี้คุณเป็นอะไรไป เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”
ผ่านไปครู่ใหญ่ ป๋อจิ่งชวนถึงจะยกยิ้มมุมปาก พลันก้มลงมาประทับจูบลงไปบนหน้าผากของเธอแล้วส่งเสียงหัวเราะทุ้มต่ำในลำคอ
“ดูเหมือนว่า ผมจะต้องคิดเรื่องขอแต่งงานอย่างจริงๆ จังๆ เสียแล้ว จะขอคุณแต่งงานแบบไหนถึงจะดีพอ”
ความตื่นเต้นกังวลในดวงตาของเฉินฝานซิงค่อยๆ จางหายไป
“ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่หรอก ฉันเคยบอกแล้วว่าฉันไม่สนใจเรื่องพวกนั้น”
“ผมก็เคยบอกแล้ว จะทำแบบขอไปทีไม่ได้เด็ดขาด”
ขนตายาวเป็นแพของเฉินฝานซิงกะพริบเบาๆ ก่อนจะซบลงบนไหล่ของเขา
“ถ้างั้นฉันจะรอนะ”
ในระหว่างที่เธอพูดพึมพำ สายตาที่กำลังจ้องมองไปยังขวดน้ำหอมตัวอย่างที่ได้รับรางวัลของเฉินเชียนโหรวก็หรี่ลงเล็กน้อย
“ป๋อจิ่งชวน อีกไม่นาน ฉันว่าจะกลับไปอยู่ที่บ้านสกุลเฉินสักพัก”
มือที่กำลังโอบไหล่ของเธออยู่มีอาการแน่นเกร็ง ป๋อจิ่งชวนก้มหน้าลงมามองเธอด้วยใบหน้าที่คิ้วขมวดมุ่น
“คุณกลัวตัวเองจะอายุยืนเกินไป เลยกลับไปหาเรื่องให้อกแตกตายเล่นใช่ไหม”
เฉินฝานซิงบุ้ยริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นมามองเขา ก่อนจะกะพริบตาปริบๆ
“ยังไม่รู้เลยว่าใครจะอกแตกตายกันแน่ หืม?”
ป๋อชิ่งชวนเงียบไปครู่หนึ่ง “จะไปเมื่อไหร่”
“การแข่งขันรอบคัดเลือกระดับประเทศใกล้จะเริ่มแล้ว ฉันว่าจะไปภายในสองสามวันนี้แหละ”
ป๋อจิ่งชวนเม้มริมฝีปาก พลางลูบไล้บริเวณติ่งหูของเธอ ลึกลงไปในดวงตาสะท้อนภาพเธอออกมา “แยกกันอยู่งั้นเหรอ”
เฉินฝานซิงมีสีหน้ารู้สึกผิด จากนั้นก็บรรจงจูบลงไปตรงช่วงขากรรไกรล่างที่ดูแข็งแรงของเขาเบาๆ “เด็กดี ทนหน่อยนะ”
ป๋อจิ่งชวนดวงตาฉายประกาย เขาก้มหน้าลงตั้งใจจะจูบเธอตอบ ปรากฏว่าเธอกลับใช้มือบังริมฝีปากเอาไว้
“คืนนี้รีบไปพักผ่อนเถอะ ฉันยังมีเรื่องที่ต้องทำอีก”
หัวคิ้วกระจุกเข้ากันเล็กน้อย แต่ไม่นานนัก ป๋อจิ่งชวนก็ยอมโอนอ่อนแต่โดยดี ใบหน้างดงามได้รูปเลื่อนเข้ามาใกล้เธอพร้อมกับพูดขึ้นเบาๆ
“ก่อนแข่ง ผมจะพยายามเชื่อฟังคุณทุกอย่าง”
“…เข้าใจแล้ว”
เฉินฝานซิงสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะลุกขึ้นไปยังห้องหนังสือ
เช้าวันถัดมา เฉินฝานซิงโทรไปหาเฉินซั่งหวา
แน่นอนว่าเฉินซั่งหวาตอบตกลงอย่างไม่ต้องสงสัย
ตอนบ่าย ไม่บ่อยนักที่เฉินซั่งหวาจะออกมาจากบ้านพักด้านหลังมายังโถงกลางของคฤหาสน์ เพื่อกำชับกับคนครัวว่ากับข้าวคืนนี้ต้องเตรียมให้เยอะเป็นพิเศษ
เวลานี้ หยางลี่เวยที่เล่นไพ่นกกระจอกตลอดทั้งบ่ายเมื่อออกมาก็เห็นชายชรากำลังออกคำสั่งให้เพิ่มปริมาณอาหาร
“พ่อคะ มื้อค่ำอยากกินอะไรเหรอ ฉันจะสั่งคนครัวทำให้”
เฉินซั่งหวาไม่ตอบ เพียงแค่เดินแกว่งไม้เท้าออกจากห้องครัวไป
เมื่อถึงเวลาอาหารค่ำ หลังจากที่ทุกคนมาพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วเห็นเฉินซั่งหวานั่งอยู่ในห้องรับแขกต่างก็ตกใจไปตามๆ กัน
เฉินเชียนโหรวรีบเร่เข้าไปหาเฉินซั่งหวาด้วยความดีใจ
“คุณปู่ คืนนี้คุณปู่จะมากินอาหารค่ำกับพวกเราเหรอคะ”
เมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นดีใจของเฉินเชียนโหรว เฉินซั่งหวาก็พยักหน้าตอบรับ “อืม”
คนใช้ที่อยู่ด้านข้างรีบพูดด้วยรอยยิ้ม
“วันนี้คุณท่านสั่งให้ในครัวทำอาหารหลายอย่างเลยค่ะ คุณท่าน ตอนนี้เสิร์ฟอาหารเลยไหมคะ”
เฉินเชียนโหรวยืดตัวขึ้นพร้อมกับพูดตอบ
“เสิร์ฟอาหารเลย ฉันจะเข็นคุณปู่ไปห้องอาหารเอง”
“รออีกหน่อย”
จู่ๆ เฉินซั่งหวาก็พูดออกมาเบาๆ
เจียงหรงหรงแปลกใจ “คืนนี้ที่บ้านจะมีแขกมางั้นเหรอ”
เฉินซั่งหวาไม่แม้แต่จะหันไปมองเธอ “ไม่มีแขก!”
ขณะนั้นเอง มีเสียงเครื่องยนต์จากด้านนอกดังเข้ามาในห้องรับแขกก่อนที่เสียงปิดประตูรถจะดังตามมา