ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 481 บ้าไปแล้ว! / ตอนที่ 482 ข่าวดี
ตอนที่ 481 บ้าไปแล้ว!
เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ เธอก็จงใจจะเงียบลงสักพัก สีหน้าที่ฉาบไปด้วยความเยือกเย็นทอดมองไปยังนักข่าวด้านล่างเวที ไม่พูดไม่จา
และเมื่อนักข่าวเห็นท่าทีเช่นนี้ของเธอ สุ้มเสียงก็ค่อยๆ อันตรธานหายไปราวกับนักเรียนที่ถูกคุณครูจับทำโทษอย่างไรอย่างนั้น พวกเขาจ้องมองไปยังเฉินฝานซิงเงียบๆ อย่างรอคอยคำพูด
รอจนกระทั่งเงียบสนิท เฉินฝานซิงจึงได้ช้อนสายตาขึ้นเผชิญหน้ากับกล้อง แล้วเอ่ยขึ้นเสียงเย็น
“เรื่องที่สาม อีกครึ่งเดือนนับจากนี้ ที่จัตุรัสผิงเฉิงอิ๋นเหอ จี้อี้จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ที่นั่น…”
เฉินฝานซิงไม่ทันพูดจบ ด้านล่างเวทีก็เดือดพล่านขึ้นมาในทันที!
“คอนเสิร์ตใหญ่ จี้อี้? บ้าไปแล้ว เสียสติกันไปใหญ่แล้ว!”
“จัตุรัสอิ๋นเหอ นั่นมันจัตุรัสที่ไม่ว่านักร้องคนไหนก็ไม่มีวันเอื้อมไม่ถึง อุปกรณ์ครบครันที่สุด คุณภาพดีเยี่ยมที่สุด สถานที่จัดแสดงจุคนได้ถึงสามหมื่นคน! จัดคอนเสิร์ตให้จี้อี้ตอนนี้? นึกภาพไม่ออกเลยจริงๆ ถ้าเป็นฉันล่ะก็ ฉันยอมตายเสียยังดีกว่าจะยอมหน้าแหก…”
“ถึงตอนนั้น…”
จู่ๆ เสียงเย็นที่ดังแทรกความเอิกเกริกของฝูงชนอีกครั้ง ก็เรียกให้ทุกสายตาหันไปมองเธออย่างพร้อมเพรียง
เฉินฝานซิงเอ่ยออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำภายใต้สีหน้าเยือกเย็น
“เมื่อถึงตอนนั้น บัตรคอนเสิร์ตสามหมื่นใบ จะฟรีทั้งหมด! เที่ยงตรง บัตรคอนเสิร์ตที่จัตุรัสอิ๋นเหอของจี้อี้จะถูกขายในทุกๆ เว็บไซต์ขายบัตรคอนเสิร์ตชั้นนำ!”
เมื่อสิ้นคำพูดนั้น ฝูงชนก็พากันส่งเสียงฮือฮา รวมไปถึงทุกคนที่กำลังดูถ่ายทอดสดในครั้งนี้อยู่ด้วย!
เชื่อเขาเลยจริงๆ!
ลำพังแค่ค่าเช่าจัตุรัสอิ๋นเหอก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ไหนจะพวกเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญและบัตรคอนเสิร์ตฟรีสามหมื่นที่อีก การลงทุนมหาศาลที่มีแต่รายจ่ายไม่มีรายรับแบบนี้ เพียงเพื่อนักร้องที่มีคดีติดตัวและถูกประชาชนรุมประณามอย่างจี้อี้คนเดียว?!
บ้าไปแล้ว!
บ้าไปแล้วจริงๆ!
เฉินฝานซิงนี่บ้าจนกู่ไม่กลับแล้ว!
จบเห่แน่งานนี้!
“ส่วนเรื่องที่คุณเพิ่งจะถามฉันไปเมื่อครู่ ไว้มาถามฉันอีกครั้งหลังจากที่ผ่านครึ่งเดือนนี้ไปแล้ว!”
เฉินฝานซิงหันไปกล่าวกับนักข่าวที่ตั้งคำถามเป็นคนสุดท้าย ก่อนจะช้อนสายตาขึ้นและเผชิญหน้ากับกล้องแล้วเอ่ยขึ้นอย่างเรียบเฉย
“ต้องขอขอบคุณการสนับสนุนของเพื่อนๆ สื่อมวลชลและสาธารณชนที่ให้ความสนใจอีกครั้ง งานแถลงข่าวของวันนี้ ขอสิ้นสุดเพียงเท่านี้ค่ะ!”
ว่าเพียงเท่านั้น เฉินฝานซิงก็ไม่รั้งรอ เธอเดินนำลงจากเวทีไป หลังจากนั้นฉีน่าที่อยู่บนเวทีก็พาศิลปินทุกคนทยอยตามหลังเฉินฝานซิงไป!
คนเหล่านั้นเดินออกมาเช่นไร ก็เดินกลับไปเช่นนั้น!
เหลือไว้เพียงบรรดานักข่าว หลังจากที่หันมองหน้ากันไปแล้วก็มองหน้ากันมาจนเสร็จ พวกเขาก็สับขากลับสำนักพิมพ์ไปเพื่อเขียนต้นฉบับ!
-
ในห้องทำงานของประธานบริษัทหลานอวิ้น เจียงหรงหรงหน้าเขียวคล้ำ รีโมทคอนโทรลที่ถืออยู่ในมือสั่นไหวตามแรงสะท้านของร่างกาย
“นังชั่วนี่! นังชั่วนี่! มันจงใจจะหาเรื่องฉัน! สารเลว!”
เสียงแห่งโทสะแฝงไปด้วยความเยียบเย็น ก่อนจะกระแทกรีโมทคอนโทรลที่ถืออยู่ในมือลงกับโต๊ะอย่างไม่ออมแรง!
เฉินเชียนโหรวก็ขุ่นเคืองอยู่ใช่น้อย เธอหันไปมองเจียงหรงหรงที่โกรธจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้วขมวดคิ้วถาม
“คุณย่าคะ ย่าก็เห็นแล้วใช่ไหมคะ ว่าตั้งแต่เริ่มเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่เขาเลยสักนิด พอมาตอนนี้เธอก็…”
ปึ้งงง เจียงหรงหรงตบลงบนโต๊ะอย่างแรง เธอผุดลุกขึ้นมาด้วยความโกรธ ทว่าขณะที่ยืดกายขึ้นมานั่นเองร่างของเธอกลับโงนเงนจนต้องทิ้งตัวกลับลงไปในเก้าอี้อีกครั้ง
“คุณย่า! คุณย่าไม่เป็นอะไรนะคะ!”
เฉินเชียนโหรวเห็นดังนั้น ก็วิ่งเข้าไปข้างกายเธอแล้วประคองเธอไว้ด้วยสีหน้าร้อนใจ!
เจียงหรงหรงยกมือขึ้นกุมขมับ สีหน้าซีดจัด ท่าทางอ่อนแอประหนึ่งมีเพียงลมหายใจทว่าไร้ซึ่งเรี่ยวแรง!
ตอนที่ 482 ข่าวดี
เจียงหรงหรงยกมือขึ้นกุมขมับ สีหน้าซีดจัด ท่าทางอ่อนแอประหนึ่งมีเพียงลมหายใจทว่าไร้ซึ่งเรี่ยวแรง!
“ม...ไม่เป็นไร แค่โมโหจนหน้ามืด…ให้ฉันพักสักหน่อย…”
เฉินฝานซิงกัดริมฝีปากแน่น พลางลูบแผ่นหลังของผู้เป็นย่าเบาๆ
“คุณย่าคะ ใจเย็นๆ นะคะ ครั้งนี้พี่เขาอุกอาจเกินไปจริงๆ ลองให้เธอได้เห็นดีสักครั้ง แล้วเธอจะรู้สึก!”
เจียงหรงหรงยังคงโกรธอยู่ไม่น้อย “มันจะได้ได้เห็นดีแน่! นังชั่วนี่ กล้าแหกหน้าฉันต่อหน้าสาธารณชน นี่มันไม่เคยเห็นฉันเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เลยใช่ไหม! ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา! ฉันจะคอยดูสิว่ามันจะร้องไห้ออกมายังไง!”
“คุณย่าพูดถูก!”
เฉินเชียนโหรวเองก็เห็นดีเห็นงามด้วย ทว่าใบหน้ากลับเคลือบแฝงไปด้วยความสงสัย!
ในตอนนั้นเอง ผู้จัดการของเฉินเชียนโหรว ไป๋ฮวนฮวนก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข
“ประธานเจียง เชียนโหรว ข่าวดีค่ะ วันนี้เราเพิ่งจะได้รับคำเชิญจากนิตยสารแฟชั่นสามสำนักพิมพ์ พวกเขาอยากเชิญให้เฉินเชียนโหรวช่วยถ่ายปกนิตยสารของสัปดาห์หน้าให้!”
แววตาของเฉินเชียนโหรวทอประกาย เธอหันมองไปยังเจียงหรงหรงด้วยความดีใจ
“คุณย่า…”
สีหน้าของเฉินเชียนโหรวค่อยๆ กลับมาดูดีขึ้นอีกครั้ง
“ยังมีที่น่าเซอร์ไพรส์มากกว่านั้นอีกน้า ในสามสำนักพิมพ์นี้ ยังมีนิตยสารแนวหน้าของประเทศอย่าง ‘หงซิ่ว’ ส่งคำเชิญมาด้วย แถมยังใช้ดนตรีเป็นหัวข้อหลักอีกนะคะ แล้วทีนี้เชียนโหรวเธอจะเลือกสำนักพิมพ์ไหนล่ะ”
เห็นได้ชัดว่าไป๋ฮวนฮวนกำลังหยอกล้อเธอ เลือกสำนักพิมพ์ไหนจะต้องถามอีกหรือ
ก็ต้องเป็น ‘หงซิ่ว’ อยู่แล้ว!
หนึ่งในนิตยสารแนวหน้าระดับประเทศที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า สิ่งที่ศิลปินตั้งไม่รู้กี่คนต่อกี่คนอยากได้จนหัวแทบระเบิด เธอจะพลาดได้อย่างไร!
สุดท้ายเจียงหรงหรง ก็ทอดถอนหายใจออกมายาวเหยียด ก่อนจะเอนกายลงพิงกับเก้าอี้แล้วมองหลานสาวตัวเองด้วยใบหน้าพอใจ
“เชียนโหรวแค่ต้องยืนหยัดเข้าไว้มี ‘หงซิ่ว’ ช่วยเสริมอำนาจอยู่แบบนี้ รับรองราชินีแห่งเสียงเพลงของปีนี้ต้องเป็นเธอแน่ๆ!”
ไป๋ฮวนฮวนมองเฉินเชียนโหรวพลางเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้น
เฉินเชียนโหรวยิ้มน้อยๆ ราวกับได้เห็นว่าถ้วยรางวัลนักร้องยอดเยี่ยมตกมาอยู่ในกำมือของเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
-
ซิงเฉินกั๋วจี้
ร่างผอมบางของจี้อี้นั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟา ในมือกำแก้วน้ำเอาไว้แน่น ความตระหนกอัดแน่นไปตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
เฉินฝานซิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องทำงาน หยิบเอกสารขึ้นมาจัดการอย่างไม่ใส่ใจ
ทว่าฉีน่ากลับตรงเข้ามาหยุดลงข้างๆ เธอแล้ววางมือลงบนไหล่ของเธอ
“จี้อี้ นี่เป็นโอกาสที่ประธานเฉินให้เธอได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น อย่ากลัวไปเลย ทำให้เต็มที่ เป็นตัวของตัวเอง ฉันเชื่อว่าครั้งนี้เธอต้องทำได้!”
จี้อี้พยักหน้าแล้วแหงนศีรษะขึ้นมองเธอ ใบหน้าเล็กๆ ยังคงซีดเซียวอยู่
“พี่ฉี ฉันไม่ได้กลัวเรื่องคอนเสิร์ต ฉันแค่กังวลว่า…จะมีคนอยากได้บัตรคอนเสิร์ตรึเปล่า…”
ความประหลาดใจฉาบทับใบหน้าของฉีน่า เธอหันไปมองเฉินฝานซิงที่ก้มหน้าก้มตาเคลียร์เอกสาร ก่อนจะขำออกมาเสียงต่ำ
เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคนจริงๆ!
ก่อนหน้านี้เธอรู้แค่เพียงว่าจี้อี้คือเป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์ แต่ทว่าเธอกลับไม่เคยมีวิธีจะสร้างแรงบันดาลใจให้เธอได้เลย!
แต่นี่เฉินฝานซิงกลับใช้เวลาเพียงสั้นๆ ในระยะไม่กี่วัน จี้อี้ก็แทบจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน!
ก่อนหน้านี้เธอตั้งคำถามกับเฉินฝานซิงคนนี้เสมอมา ทว่าในตอนนี้ การที่เธอคิดจะจัดคอนเสิร์ตให้จี้อี้ การที่เธอเซ็นสัญญากับพวกเธออย่างไม่หวั่นต่อกระแสลม การหลีกเลี่ยงที่จะถูกหลานอวิ้นแบน ไหนจะการที่เธออบรมสั่งสอนจี้อี้อีก นี่เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าจริงๆ แล้วเธอก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉลาดและเด็ดขาด ทั้งยังมีไหวพริบและหัวรั้นอีกต่างหาก!
การที่ได้มาอยู่กับเธอนี่ ชีวิตนี้ช่างคุ้มค่าเสียจริง!
สายตาเหลือบมองว่าอีกกี่นาทีจะได้เวลาสิบสองนาฬิกา จี้อี้หยิบโทรศัพท์ขึ้นเปิดดูเวยป๋อของตัวเองด้วยความตื่นเต้น
ยามที่เธอได้เห็นโพสต์แรกบนเวยป๋อของตัวเอง เธอก็แทบจะสำลักน้ำลายตาย!