ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 571 ขอให้ความรักที่ถูกทำนองคลองธรรมของพวกเธอยืนยาวไปจนชั่วฟ้าดินสลายนะ / ตอนที่ 572 ตื่นเต้นไหม ประหลาดใจรึเปล่า
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่ 571 ขอให้ความรักที่ถูกทำนองคลองธรรมของพวกเธอยืนยาวไปจนชั่วฟ้าดินสลายนะ / ตอนที่ 572 ตื่นเต้นไหม ประหลาดใจรึเปล่า
ตอนที่ 571 ขอให้ความรักที่ถูกทำนองคลองธรรมของพวกเธอยืนยาวไปจนชั่วฟ้าดินสลายนะ
“เรื่องสินเดิมยังไม่ได้หาลือกันเลยไม่ใช่เหรอ รอให้งานหมั้นจบลงก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
เฉินซั่งหวาเอ่ยตัดบทของเจียงหรงหรงด้วยสีหน้าบึ้งตึง
สีหน้าของเจียงหรงหรงขุ่นลงทันตา “งั้นการหมั้นของเฉินเชียนโหรวครั้งนี้ คุณคิดจะให้อะไรเธอ”
“ให้อะไร อะไรอีก หมั้นก็คือหมั้น ไม่จำเป็นต้องวุ่นวายขนาดนั้น! รอให้งานหมั้นจบลงก่อนแล้วค่อยพูด พอถึงตอนนั้นก็เรียกหนูฝานซิงกลับมาคุยพร้อมกันด้วย”
“แต่…”
“อย่าทำเหมือนว่างานหมั้นจะต้องแบ่งมรดกกันเสียให้ได้! ฉันยังไม่ตายนะ!”
เจียงหรงหรงยังอยากจะพูดต่อ แต่ทว่าก็ถูกขัดด้วยเสียงทรงอำนาจของเฉินซั่งหวา
เมื่อเห็นว่าเขาไม่อยากจะเสวนาด้วยอีกต่อไป เจียงหรงหรงจึงทำได้เพียงล้มเลิกไปชั่วคราว
เฉินเชียนโหรวที่ฟังบทสนทนาด้านนอกห้องลองเสื้ออยู่ตั้งแต่แรก เมื่อได้ยินผู้เป็นปู่และผู้เป็นย่าเอ่ยถึงหุ้นบริษัทก็พลันทำให้ลมหายใจของเธอถี่กระชั้น
ในคราแรกที่ยืนกรานจะจัดงานหมั้นในครั้งนี้ เพราะความเห็นแก่ตัวที่หวังว่าจะได้อะไรพวกนี้จากผู้เป็นปู่เป็นพิเศษ
ตอนนี้หลานอวิ้นไม่อาจรู้ได้ว่าหมู่นี้ใครกันที่มาแอบซื้อหุ้นอย่างลับๆ ตามที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ หุ้นของบุคคลผู้นั้นคงจะแซงหน้าหุ้นของพวกเขาไปในไม่ช้า หากผู้เป็นปู่มอบหุ้นให้กับเธอตอนนี้ นั่นก็หมายความว่า หากนำหุ้นในมือของพวกเธอทั้งหมดมารวมกันก็จะครองตำแหน่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของหลานอวิ้นได้อย่างมั่นคง และมีอำนาจเด็ดขาดในบริษัท
แต่เธอกลับนึกไม่ถึงเลยว่า การที่เธอจัดงานหมั้นขึ้นมาเกินความจำเป็นเช่นนี้ ผู้เป็นปู่กลับไม่ได้ให้อะไรเธอเลย
เธอสวมเสื้อผ้าเสร็จไปด้วยสีหน้าเย็นชา ทว่าขณะที่เธอเดินออกมาอีกครั้ง สีหน้าของเธอก็กลับมาสงบและดูอ่อนแอเหมือนดังที่เคยเป็นมา
“คุณย่าคะ คุณปู่เขา…”
เจียงหรงหรงเมื่อได้เห็นสีหน้าที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดของเฉินเชียนโหรว ใบหน้าของเธอก็พลันถูกย้อมไปด้วยความระทม
“วางใจเถอะ จะช้าหรือเร็วหลานอวิ้นก็ต้องเป็นของเธอ ไม่ว่าจะพูดยังไง คำพูดที่พูดออกไปวันนี้ถือเสียว่าเป็นการเรียกสติเขาล่วงหน้า อันที่จริงเรื่องสินเดิมของเธอก็ยังไม่ได้ตกลงกันเลย ในเมื่อปู่ของเธอพูดว่าค่อยคุยกันหลังจบงานหมั้น งั้นไว้ถึงตอนนั้นเราค่อยมาว่ากันอีกทีเถอะ”
เฉินเชียนโหรวชอบใจ เธอแอบข่มความดีอกดีใจในแววตาเอาไว้ก่อนจะพยักหน้ารับแล้วพูดว่า
“คุณย่าคะ หนูเชื่อว่าพี่เหิงไม่มีวันรังแกหนู ที่คุณปู่พูดเมื่อกี้ก็ถูก อย่าทำให้บ้านเราต้องมาร้าวฉานเพราะการแต่งงานของหนูเลยค่ะ”
“เด็กโง่เอ๊ย สังคมนี้ใกล้เคียงกับโลกความเป็นจริงที่สุดแล้ว ซูเหิงดีกับเธอ นั่นมันก็เขา แต่เมื่อเธอต้องแต่งออกไปอยู่สกุลซู สิ่งที่เธอต้องเผชิญคือพ่อแม่ของเขาหรืออาจรวมไปถึงคนทั้งตระกูลใหญ่ของสกุลซู แต่เธอกลับตัวเปล่าไม่มีอะไรเลยซักอย่าง คงไม่วายจะถูกจิกหัวใช้ลับหลัง เด็กอย่างเธอ หัดเท่าทันคนซะบ้างเถอะ เลิกไร้เดียงสาได้แล้ว”
เจียงหรงหรงเอ่ยอย่างหนักแน่นด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน
เฉินเชียนโหรวพยักหน้ารับอย่างใสซื่อ
ก่อนที่หลังจากนั้นเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรบางอย่างได้ขึ้นมา เธอหันมองไปทั่วทุกสารทิศ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นทันใด
“คุณแม่คะ พี่มารึยังคะ”
หยางลี่เวยเม้มปาก เธอร่นคิ้วเข้าหากันน้อยๆ พร้อมทั้งส่ายหน้า
“ไม่เห็นเลย คงจะไม่มาแล้วล่ะมั้ง”
“งั้นหนูจะโทรหาพี่เขาสักหน่อย”
ในเวลานั้นเฉินฝานซิงกำลังวุ่นอยู่ในห้องทดลอง เมื่อเห็นว่าเฉินเชียนโหรวโทรมา เธอก็ชะงักสายตานิ่ง ก่อนจะกดรับสาย
“มีอะไร”
“พี่คะ งานหมั้นของฉันกำลังจะเริ่มแล้ว พี่จะไม่มาเหรอคะ”
“…”
คิ้วสีเข้มของเฉินฝานซิงขยับเข้าหากันน้อยๆ ไม่ทันที่จะมีโอกาสได้พูดอะไร เธอก็กลับได้ยินเสียงที่ฟังดูอ่อนแอปนน้อยใจของเฉินเชียนโหรวเอ่ยขึ้นมาอย่างกระอึกระอักอีกครั้ง
“พี่คะ ฉัน…ฉันหวังว่าจะได้ฟังคำอวยพรจากพี่นะคะ…”
เฉินฝานซิงมีสีหน้าเย็นชาลงในทันที “เฉินเชียนโหรว เลิกแสดงได้แล้ว สบายใจเถอะ ถึงยังไงวันนี้ก็เป็นวันมงคลของเธอ ต่อให้ฉันจะไม่อยู่ ยังไงฉันก็จะให้ของขวัญวันหมั้นกับพวกเธอ ขอให้ความรักที่ถูกทำนองคลองธรรมของพวกเธอยืนยาวไปจนชั่วฟ้าดินสลายนะ”
ตอนที่ 572 ตื่นเต้นไหม ประหลาดใจรึเปล่า
“เธอ?”
เฉินเชียนโหรวเผลอขึ้นเสียงอย่างไม่อาจหักห้าม แต่ต่อมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังมีคนอื่นอยู่ในห้อง เธอก็กะพริบตาปริบๆ แล้วเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่แผ่วลง
“พี่คะ พี่…จะส่งของขวัญงานหมั้นมาให้ฉันเหรอคะ”
เฉินฝานซิงยกขวดแก้วใสขึ้นมาเขย่าในระดับสายตา
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ฟังดูก้ำๆ กึ่งๆ ของน้องสาว ก็ทำให้เธอเลิกคิ้วขำ
“ตื่นเต้นไหม ประหลาดใจรึเปล่า”
เมื่อได้ฟังน้ำเสียงของเฉินฝานซิงที่ทั้งเบาบางและรวดเร็ว เฉินเชียนโหรวก็อดไม่ได้ที่จะมุมปากกระตุก
“ที่จริงแล้ว…”
“สบายใจเถอะ ถึงตอนนั้นพวกเธอได้เซอร์ไพรส์กันกว่านี้แน่”
จู่ๆ เฉินเชียนโหรวก็เผลอรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา “พี่…” ตู๊ดๆ ตู๊ด...
เมื่อสิ้นเสียงสัญญาณสั้นๆ ที่ดังขึ้นหลังจากที่สายถูกตัดขาดไปแล้ว ก็ไม่มีเสียงใดให้ได้ยินอีกเลย
ขมับของเฉินเชียนโหรวเต้นตุบๆ เมื่อเห็นว่าสายถูกตัดไป หนังตาของเธอก็พลอยกระตุกตามไปด้วย
“เป็นไง” เจียงหรงหรงเอ่ยถามเสียงเข้ม
เฉินเชียนโหรวจับโทรศัพท์ในมือแน่น แล้วส่ายหน้าอย่างผิดหวัง “วันนี้พี่เขาไม่มาค่ะ”
เจียงหรงหรงเค้นขำ “มันไม่มาน่ะดีแล้ว มาก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา”
–
หลังจากที่วางสายไป เฉินฝานซิงก็ก้าวเดินออกมาจากห้องทดลอง เธอถอดชุดกาวน์ออก ก่อนจะหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วก้าวเดินออกไป
“นี่ แม่หนู ทำไมวันนี้ถึงกลับเร็วนักล่ะ”
หญิงชราในชุดเสื้อผ้าเรียบง่ายที่ยืนอยู่อีกด้านเอ่ยถาม เธอถืออ่างที่ใส่เสื้อผ้าที่เพิ่งซักเสร็จใหม่ๆ เอาไว้ในอ้อมแขนและกำลังจะกลับพอดี
“วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วค่ะ”
“โอย พูดแบบนี้หมายความว่าต่อไปเราจะไม่ได้เห็นดอกไม้สวยๆ เยอะขนาดนั้นอีกแล้วใช่ไหม”
เฉินเชียนโหรวหันกลับไปมองบ้านหลังน้อยในชนบทที่อยู่ข้างหลังเธออีกครั้ง หลังจากที่ใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งเธอก็เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
“ไม่แน่ว่าหลังจากนี้หนูอาจจะได้กลับมาอีก”
“งั้นก็ดีสิ!” หญิงชราคลี่ยิ้มอย่างปลาบปลื้ม ก่อนจะหันไปมองยังกระโปรงหลังรถของเฉินฝานซิง “โห ยังเหลือดอกไม้เยอะขนาดนั้นเชียว”
“อื้ม หนูเก็บเอาไว้ใช้น่ะค่ะ”
เฉินฝานซิงเดินเข้าไปจัดความเรียบร้อยอีกครั้งแล้วจึงปิดกระโปรงหลังรถลง
“ไว้เจอกันใหม่นะคะ คุณย่าเฝิง”
“จ้า ไว้เจอกัน!”
เมื่อเฉินฝานซิงเปิดประตูรถออกมา กลิ่นกุหลาบสีแดงสดก็ยังคงอบอวลไปทั่วทั้งตัวรถ
–
ไม่กี่วันมานี้อวี๋ซงยุ่งจนหัวเป็นเกลียวตัวเป็นน็อต หากเป็นเรื่องในบริษัทก็คงจะดีไม่น้อย
ทว่าความเป็นจริงนั้นโหดร้ายเสมอ ตอนนี้เขาถูกลดขั้นลงมาจากผู้ช่วยพิเศษ กลายมาเป็นคุณลุงชาวนาหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน
เมื่อทอดมองไปยังพื้นที่เพาะปลูกสุดลูกหูลูกตาเบื้องหน้า อวี๋ซงได้แต่แหงนหน้าขึ้นฟ้าแล้วถอนหายใจออกมายาวเหยียด
คุณผู้ชายของเขากลายเป็นพวกคลั่งรักไปเสียแล้ว ทำอย่างไรดี!
“ผู้ช่วยอวี๋ ของที่สั่งจากฝรั่งเศสมาถึงแล้วนะครับ เราได้รับเมล็ดพันธุ์เรียบร้อยแล้ว ส่วนของที่เหลือต้องยกให้เป็นหน้าที่ของคุณ”
ต้องยกให้เป็นหน้าที่ของเขาแน่อยู่แล้ว เรื่อง…สำคัญขนาดนั้น จะไปยืมมือคนอื่นได้อย่างไรล่ะ
–
เวลาสิบเอ็ดนาฬิกายี่สิบนาที ที่โรงแรมตี้เหอ งานหมั้นของซูเหิงและเฉินเชียนโหรวกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
เฉินเชียนโหรวอยู่ในชุดประโปรงลูกไม้สีแดงที่ดีไซน์เป็นรูปตัว X ลูกไม้สีขาวถูกออกแบบมาให้เข้ากับริบบิ้นสีขาวได้อย่างลงตัว
ดีไซน์เอวสูงช่วยยืดสัดส่วนโดยรวมของเธอให้ดูระหงและไม่สูญเสียความสวยสง่าของความเยาว์วัย
แต่งแต้มใบหน้าอย่างเบาบางไม่ฉูดฉาด การแต่งหน้าในวันนี้เป็นไปอย่างสุภาพเหมาะสม
ซูเหิงอยู่ในชุดสูทสีดำทรงตรง ตรงอกข้างซ้ายมีขอบผ้าเช็ดหน้าสีแดงโผล่ออกมาให้เห็น เข้ากันได้ดีกับชุดที่เฉินเชียนโหรวกำลังสวมใส่
เป็นการแต่งกายที่ละเอียดอ่อน แต่ทว่าไม่มีจุดไหนที่ดูไม่เหมาะสมกัน เมื่อทั้งสองยืนเคียงคู่กันแล้ว ช่างดูเหมือนกิ่งทองใบหยก ไม่ต้องพูดถึงสิ่งใดให้มากไปกว่านี้
เฉินเชียนโหรวคล้องแขนซูเหิงเอาไว้ ทั้งคู่หยุดยืนอยู่บนบันไดวนชั้นสอง นอกเหนือจากความตื่นเต้นแล้วก็ยังมีความประหม่าเล็กน้อย
แต่งงาน…
อีกไม่นานเธอก็จะกลายเป็นภรรยาของซูเหิงแล้ว
เธอหันมองชายหนุ่มข้างกาย ใบหน้าหล่อเหลาและรูปร่างสูงสง่านั้น ไม่มีตรงไหนเลยที่ไม่เปล่งประกายออร่าอันชวนให้หลงใหล
ผู้ชายคนนี้ คือผู้ชายที่เธอแย่งมาจากมือของเฉินฝานซิง อีกไม่นานเขาก็จะตกเป็นของเธออย่างสมบูรณ์แล้ว
แต่น่าเสียดายที่เฉินฝานซิงไม่ได้มาเห็นมันด้วยตาตัวเอง
เบื้องล่าง แขกเหรื่อทุกคนได้เข้าประจำที่ของตัวเองกันหมดแล้ว ต่างคนก็ต่างยกโทรศัพท์ขึ้นมาท่องโซเชียลระหว่างรอการปรากฏตัวของสองตัวละครหลักในวันนี้…