ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 607 กิจวัตรของท่านประธาน / ตอนที่ 608 เธอแคร์ใช่ไหม
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่ 607 กิจวัตรของท่านประธาน / ตอนที่ 608 เธอแคร์ใช่ไหม
ตอนที่ 607 กิจวัตรของท่านประธาน
เฉินฝานซิงอยู่ในชุดกระโปรงทรงเอมีระบาย ด้านบนคือเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินสดใส เธอแต่งแต้มใบหน้าด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ
ทำให้เห็นถึงกลิ่นอายของความสูงส่ง เยือกเย็น แข็งแกร่ง และมีความสามารถ
ป๋อจิ่งชวนแวะมาส่งเธอที่ชั้นล่างของบริษัทซิงเฉินกั๋วจี้ก่อน
“อีกสักพักฉันจะไปจือชิ่นเอง คุณขับรถระวังด้วย”
เฉินฝานซิงปลดเข็มขัดนิรภัยไปพลางเอ่ยไปพลาง
ทว่าข้างๆ กันกลับมีเสียงปลดเข็มขัดนิรภัยดังขึ้นเช่นกัน
เธอหันไปมองตามสัญชาตญาณ ภาพที่เห็นคือใบหน้าอันหล่อเหลาที่ทำลายล้างทุกสรรพสิ่งได้ของป๋อจิ่งชวนกำลังโน้มลงมาหาเธอ
เฉินฝานซิงขยับถอยหลังอย่างไว เธออิงนิ้วมือไว้กับริมฝีปากบางของอีกฝ่าย
“หืม?”
เมื่อการจูบล้มเหลว ป๋อจิ่งชวนจึงรู้สึกขัดใจเล็กน้อย
“ฉันทาลิปมา เดี๋ยวมันจะเลอะ จะเข้าประชุมอยู่แล้ว เดี๋ยวฉันก็สายหรอก”
เธอว่าพลางคลี่ยิ้มแทนคำขอโทษก่อนจะเปิดประตูรถ
หญิงสาวเดินอ้อมตัวรถและมุ่งไปยังประตูทางเข้า ทว่าจู่ๆ ประตูตรงฝั่งที่นั่งคนขับกลับถูกเปิดออกเช่นกัน ทันใดนั้นร่างอันสูงสง่าของป๋อจิ่งชวนก็ก้าวออกมายืนนอกตัวรถ
เขาคว้าข้อมือของเฉินฝานซิงอาไว้แล้วจับเธอกดลงกับรถ
เฉินฝานซิงตกใจจนต้องเหลือบมองเขา “คุณจะทำอะไร”
ป๋อจิ่งชวนเลื่อนสายตามองเธอ มือหนึ่งยึดเอวเธอเอาไว้แล้วรวบร่างของเธอเข้าสู่วงแขนของเขา นัยน์ตาสีดำขลับจับจ้องใบหน้าเธอไม่วางตา พลางนวดลงบนเอวนุ่มของเธออย่างเบามือ
เสียงทุ้มนุ่มค่อยๆ เอ่ยดังขึ้น ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดลงเหนือดวงตาของเธอ
“เอวยังปวดอยู่เหรอ”
เฉินฝานซิงพลันหน้าขึ้นสี เธอกัดริมฝีปากเพื่อสะกดกลั้นความเขินอาย
เสียงทุ้มนุ่มของป๋อจิ่งชวนเอ่อล้นออกมาจากลำคอ “ลิปเปื้อนแล้ว”
เฉินฝานซิงรีบคลายริมฝีปากในทันที ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ชายหนุ่มก็ประทับจูบลงมาอย่างไม่ให้สัญญาณ
เฉินฝานซิงฉุนขาด นี่เขาจงใจชัดๆ
หลังจากที่จูบจบลง ใบหน้าแดงๆ ของเฉินฝานซิงเคลิบเคลิ้มเล็กน้อย เผยให้เห็นเสน่ห์ของเธออย่างเลือนราง
“ไม่ได้จูบคุณ ผมคงคิดถึงคุณทั้งวัน”
ป๋อจิ่งชวนว่าพลางหยิบลิปสติกขึ้นมาจากกระเป๋าของเธอ ก่อนจะบรรจงทามันลงไปใหม่อีกครั้ง แล้วจึงปล่อยเธอออกไปอย่างพอใจ
“เรียบร้อยแล้ว”
เขาว่าก่อนจะจุดยิ้มขึ้นด้วยความอบอุ่นและพึงใจ
เฉินฝานซิงปล่อยหมัดใส่อกเขาไปครั้งหนึ่งด้วยความหงุดหงิด
“เป็นแมวเหรอ” ป๋อจิ่งชวนกลั้วขำเสียงต่ำอีกครั้ง
ใบหน้าของเฉินฝานซิงซับสีเลือดฝาดอีกครั้ง เธอผลักไหล่ของเขาออก
“ทุกนาทีเป็นเงินเป็นทอง คิดดูสิว่าเมื่อกี้คุณทำฉันเสียหายไปเป็นเงินเท่าไหร่แล้ว คุณเองก็ควรจะไปทำงานจริงๆ ได้แล้ว!”
“เลิกงานแล้วบอกผมด้วย ผมจะมารับ”
ป๋อจิ่งชวนถูกเฉินฝานซิงผลักไปขึ้นรถ “โอเคค่ะ เข้าใจแล้ว รีบๆ ไปหาเงินให้ฉันได้แล้ว หาเงินมาให้เยอะๆ เลย!”
-
สุดท้ายเมื่อเห็นป๋อจิ่งชวนขับรถจากไป เฉินฝานซิงจึงพรูลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ก่อนจะอดขำออกมาไม่ได้
หลังจากที่เธอหมุนตัวกลับมา รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆ จางหายไป ริมฝีปากเม้มเข้าหากันเบาๆ นัยน์ตาถูกฉาบไปด้วยความเรียบเฉยและเฉียบแหลม
ชุดที่ดูภูมิฐานรับกับรูปร่างอันสูงเพรียวและการก้าวเดินราวกับย่ำเท้าอยู่บนสายลม ส่งให้ท่าทีของเธอดูเย็นชาและแข็งกร้าว
เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินเข้าบริษัทไป ร่างอันสูงสง่าร่างหนึ่งก็พลันปรากฏตัวออกมาข้างๆ กายเธอ เฉินฝานซิงรู้สึกได้ว่าใครบางคนกำลังขยับเข้ามาใกล้ เธอจึงเคลื่อนสายตาไปเล็กน้อย เป็นเวลาเดียวกันกับที่เสียงหนึ่งดังขึ้น
“ฝานซิง…”
เสียงที่คุ้นเคยเรียกให้สีหน้าของเธอขรึมลงในทันใด เธอชะงักฝีเท้าลง ร่างของซูเหิงสะท้อนสู่นัยน์ตาเย็นชาของเฉินฝานซิง
ใบหน้าของซูเหิงสลดลงเล็กน้อย เสื้อเชิ้ตบนตัวของเขายังคงเป็นตัวเดียวกับเมื่อวาน ระยะห่างเพียงสองก้าวพอจะทำให้เฉินฝานซิงได้กลิ่นฉุนจากแฮลกอฮอล์
คิ้วสีเข้มของเฉินฝานซิงขมวดเข้าหากัน ก่อนที่เสียงเย็นจะเอ่ยขึ้น
“มาที่นี่ทำไม”
ตอนที่ 608 เธอแคร์ใช่ไหม
“มาที่นี่ทำไม”
เธอถามเสียงเย็น สีหน้าเย้ยหยัน พลันถอยกลับไปสองก้าวเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างเธอกับซูเหิง
“จะมาเอาผิดที่ฉันล่มงานหมั้นของนายกับเฉินเชียนโหรวงั้นเหรอ”
การกระทำที่จงใจจะทำตัวเหินห่าง ทำเอาหัวใจของซูเหิงยากจะเก็บซ่อนความขมขื่นและความรู้สึกที่อยากจะหัวเราะเยาะตัวเอง
“เปล่า…”
เฉินฝานซิงเลิกคิ้ว “งั้นก็คงจะมาคิดบัญชีกับฉันที่ทำให้เฉินเชียนโหรวโกรธจนต้องเข้าโรงพยาบาล!”
ศีรษะของซูเหิงปวดจนแทบระเบิด ทว่ากลางอกของเขากลับถูกทิ่มแทงด้วยคำพูดของเฉินฝานซิงจนร้าวระบม
“ไม่ ฝานซิง ไม่ใช่อย่างนั้น…ฉัน…ฉันมาขอโทษเธอ…”
“ขอโทษเรื่องอะไร!” จู่ๆ เสียงเย็นของเฉินฝานซิงก็ลั่นขึ้นแทรกคำพูดของซูเหิง “นอกจากเรื่องนอกใจ นายยังมีเรื่องอะไรให้ต้องขอโทษฉันอีก”
จากนั้นเฉินฝานซิงก็ขำเสียงเย็นขึ้นอีกครั้ง “นี่มาแทนเฉินเชียนโหรวอีกแล้วงั้นเหรอ”
ความขื่นขมปรากฏขึ้นในดวงตาของซูเหิง “เรื่องพิธีหมั้น…ฉันไม่เคยคิดจะโทษเธอเลย…ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเชียนโหรวจะทำเรื่องแบบนี้ลงไป…”
“ยังมีอีกหลายเรื่องที่นายไม่รู้!” เฉินฝานซิงก้าวขึ้นบันใดอีกด้านหนึ่ง
“อาจจะเพราะนายรักเธอจริงๆ รักเธอจนเชื่อเธอไปหมดทุกอย่าง ถึงแม้ว่า…ทั้งๆ ที่ในใจนายก็รู้สึกสงสัย แต่ก็ยังสรรหาเหตุผลร้อยพันมาแก้ตัวให้เธอจนได้…”
“นายบอกว่าเชียนโหรวใสซื่อ แสนดี! ฉันรังแกเธอมากไป จิตใจฉันมันต่ำทรามไม่ใช่เหรอ คิดแบบนี้ต่อไปสิ! แบบนี้นายจะได้ลำบากใจน้อยลงหน่อย!”
“คำขอโทษของนายฉันรับไว้ไม่ได้ ต่อให้เฉินเชียนโหรวมาด้วยตัวเอง ก็ไม่มีทาง
อีกอย่าง กลับไปบอกเชียนโหรว อ้อ ไม่สิ ต้องบอกคนรอบๆ ตัวนายทุกๆ คนว่า…
ชาตินี้ ฉัน เฉินฝานซิง สิ่งที่ไม่เคยขาดก็คือศักดิ์ศรี! ฉันไม่มีทางหน้าด้านไปร้องขอให้คนที่ทิ้งฉันไปอย่างนายให้กลับมา! อีกอย่าง สำหรับฉันไม่เคยมีคำว่า ‘ให้อภัย’! เกิดขึ้นแล้วก็คือเกิดขึ้นแล้ว ผิดไปแล้วก็คือผิดไปแล้ว! อย่ามาเรียกร้องให้ฉันยกโทษให้ ในเมื่อทำลงไปแล้ว งั้นก็จงเตรียมตัวรับความเสียใจไปตลอดชีวิต!”
“ต่อไปอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก มัน…น่าสะอิดสะเอียน…”
สิ้นเสียงเยียบเย็นของเฉินฝานซิง เธอก็เตรียมจะตบเท้าเดินจากไป ทว่าซูเหิงกลับขวางหน้าเธอไว้ก่อนจะคว้าข้อมือเธอเอาไว้
“ฝานซิง ฉันไม่โทษเธอ ไม่ด่าว่าเธอเรื่องรูปนั่น แต่ฉันอยากรู้มากกว่า ว่าทำไมเธอถึงเลือกที่จะปล่อยมันออกมาในวันที่เป็นงานหมั้นของฉันกับเชียนโหรวด้วย”
เฉินฝานซิงตีคิ้วขมวด เธอบิดข้อมือตัวเอง แต่เมื่อเห็นว่าไม่เป็นผล เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองซูเหิงอย่างเยือกเย็น
“ปล่อย!”
ซูเหิงทำเพียงแค่บีบข้อมือเธอให้แน่นขึ้น แล้วเอ่ยถามต่อไปอย่างไม่ฟังเสียงใคร
“ฝานซิง มันหมายความว่าเธอยังแคร์ใช่ไหม แคร์ที่ฉันกับเชียนโหรวคบกันใช่ไหม”
ความเย็นชาตรงหว่างคิ้วของเฉินฝานซิงยิ่งทวีคูณขึ้น “ซูเหิง นายเห็นคำพูดเมื่อกี้ของฉันเป็นแค่ลมผ่านหูรึไง”
“ฝานซิง เธอบอกฉันมาสิ ทำไมถึงทำแบบนี้…”
ใบหน้าหล่อเหลาของซูเหิงเต็มไปด้วยความห่อเหี่ยวและพ่ายแพ้!
เฉินฝานซิงสูดหายใจเข้าลึกๆ แต่ก็อดเอ่ยออกมาด้วยความเดือดดาลไม่ได้
“เพราะฉันแค่ไม่อยากให้เฉินเชียนโหรวได้มีความสุขไงล่ะ! หากไม่ใช่เพราะเฉินเชียนโหรวกำเริบเสิบสาน ส่งรูปพรรค์นั้นมาทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียนในคืนก่อนแต่งงาน ป่านนี้งานหมั้นของพวกนายเมื่อวานคงกลายเป็นงานที่ทั้งยิ่งใหญ่โอ่อ่าและสวยงามจนใครต่อใครต่างก็อิจฉาไปแล้ว!”
“รนหาที่เอง หากฉันไม่ใช้โอกาสนี้ตอบแทนเธอ มันจะไม่ทำให้เธอเสียน้ำใจหรอกเหรอ นายจะโทษฉัน ด่าว่าฉันงั้นเหรอ นายมีสิทธิ์อะไร หรือจะบอกว่าเธอไม่ได้หาเรื่องใส่ตัว”
สีหน้าของซูเหิงค่อยๆ ซีดเผือด
แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสิ่งที่เขาคาดเดาเอาไว้แล้ว ท่าทางของเขาดูเหม่อลอยเล็กน้อย ความปวดร้าวและความห่อเหี่ยวบนใบหน้ายิ่งปรากฏให้เห็นชัดขึ้น
เฉินฝานซิงถือโอกาสนี้ดึงมือของตัวเองกลับมา ก่อนจะหันไปมองเขาด้วยความเย็นชา
“รีบกลับไปปลอบใจรักแท้ผู้ใสซื่อ แสนดี และอ่อนโยนของนายเถอะ แล้วก็อย่าให้เธอทำพลาดในงานแข่งปรุงน้ำหอมนานาชาติล่ะ!”