ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 651 ทำให้ทุกคนตะลึง / ตอนที่ 652 เธอฉลาดมาก
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่ 651 ทำให้ทุกคนตะลึง / ตอนที่ 652 เธอฉลาดมาก
ตอนที่ 651 ทำให้ทุกคนตะลึง
พระมเหสีมาทิลด้าเองก็อดร้องอุทานออกมาเบาๆ ไม่ได้…
กรรมการแต่ละคนตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้งในชั่วพริบตา ต่างก็พากันมองการกระทำของเฉินฝานซิงตาไม่กะพริบ
จึงได้เห็นเฉินฝานซิงกำลังควานหาบางอย่างในกองเศษแก้วกองนั้น หลังจากที่หาเศษแก้วแผ่นบางที่ขนาดใหญ่พอดีมือหนึ่งชิ้นได้ ก็ยกมือซ้ายของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะกรีดลงไปบนข้อมือของตัวเองหนึ่งแผลด้วยสีหน้าเรียบเฉย
หยดเลือดสีแดงสดไหลออกมาอย่างรวดเร็ว
สุดท้าย เธอพลิกข้อมือให้เลือดหยดลงไปในบรรจุภัณฑ์ใส่น้ำหอมที่เธอเพิ่งทำเสร็จไปก่อนหน้านี้
ภาพนี้ช่างเป็นเหตุการณ์ที่อยู่เหนือความคาดหมาย
ทำให้คนทั้งงานตกตะลึงไปตามกัน
พวกเขายังไม่เคยพบเจอใครที่ใช้เลือดของตัวเองเป็นวัตถุดิบในการปรุงน้ำหอมมาก่อน
ภายในน้ำหอมมีส่วนประกอบเป็นเลือดมนุษย์ แบบนี้แล้วย่อมมีความรู้สึกต่อต้านอยู่ลึกๆ ในใจ
ดังนั้นเมื่อเฉินฝานซิงส่งผลงานน้ำหอมที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วให้กับคณะกรรมการทั้งหลาย พวกเขาจึงไม่แม้แต่จะคิดลอง
ใครจะไปอยากดมกลิ่นคาวเลือดของคนอื่น
แต่พระมเหสีมาทิลด้าอยู่ข้างๆ หลังจากที่เหล่าคณะกรรมการหันมามองหน้ากันแล้ว จึงทำได้เพียงแค่หยิบกระดาษเทสน้ำหอมขึ้นมา วางไว้ที่ปลายจมูกแล้วดมเบาๆ
วินาทีที่กลิ่นหอมเข้มข้นแต่ก็อ่อนโยนกลิ่นนั้นโชยแตะปลายจมูก กรรมการทุกคนต่างก็ดวงตาเบิกโพลงโดยไม่รู้ตัว พลันเงยหน้าขึ้นไปมองเฉินฝานซิงแวบหนึ่ง
เฉินฝานซิงยกมุมปาก หันไปยิ้มบางๆ ให้กับพวกเขา
ดูเหมือนจะไม่ได้รู้สึกตกใจกับท่าทีตอบสนองของพวกเขาเลยสักนิด
จากนั้นเหล่ากรรมการก็สะบัดกระดาษเทสน้ำหอมในมือเบาๆ ก่อนจะก้มหน้าลงอีกครั้งเพื่อดมกลิ่นช่วงมิดเดิลโน้ต ภายในสายตาเผยให้เห็นความตะลึงที่ไม่อาจปิดบังได้
“นี่มัน…”
มีกรรมการอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเฉินฝานซิงอีกครั้ง ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย
“เป็นกลิ่นหอมที่อบอุ่นมาก ความรู้สึกนั้นคล้ายกับ…คล้ายกับอากาศวันที่แสงอาทิตย์เจิดจ้า ไร้ซึ่งเมฆ สะอาดสดใส ถึงกับสัมผัสได้ถึงความโอ่อ่าและความสบายใจยามเมื่อแสงอาทิตย์แรงกล้าส่องกระทบทุ่งดอกไม้ กลิ่นหอมดอกไม้ กลิ่นดินหญ้า…สมบูรณ์แบบจริงๆ จะบอกชื่อของมันหน่อยได้ไหม”
เฉินฝานซิงเงียบไปขณะหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนสายตาไปหยุดอยู่บนตัวพระมเหสีมาทิลด้า
ได้เห็นใบหน้าของเฉินฝานซิงระยะใกล้ ดวงตาสีเขียวมรกตคู่นั้นของพระมเหสีมาทิลด้าก็แสดงถึงความตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็กลายเป็นความสงสัยอย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม
“ทำไมเธอถึงมองเราแบบนี้ล่ะ” พระมเหสีมาทิลด้าเอ่ยถามเธอ
เฉินฝานซิงอมยิ้มเบาๆ “ขอประทานอภัย พระมเหสีมาทิลด้า”
จากนั้น เธอก็หยิบน้ำหอมของตัวเองขึ้นมาวางไว้บนมือแล้วหมุนไปมาช้าๆ ก่อนจะหยุดคิดตึกตรองเล็กน้อยแล้วตอบเสียงเบา “ชื่อของมัน…ก็คือ ‘เต้นรำ’ แล้วกัน”
“เต้นรำ?” กรรมการทุกคนไม่เข้าใจ พากันส่ายหน้า บ่งบอกชัดเจนว่าไม่ได้เห็นด้วยเท่าไหร่นัก “ทำไมถึงชื่อว่า ‘เต้นรำ’ ล่ะ ในนี้ดูเหมือนจะไม่ให้ความรู้สึกอะไรเกี่ยวกับการเต้นรำเลย”
เฉินฝานซิงยิ้มมุมปาก ก่อนจะหยิบน้ำหอมขึ้นมาแล้วเดินไปหยุดข้างๆ พระมเหสีมาทิลด้า น้ำเสียงใสกังวานมาดมั่น รอยยิ้มจางๆ ไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ให้เห็นเลยสักนิด
“พระมเหสีมาทิลด้า อยากลองหน่อยไหมเพคะ”
พระมเหสีมาทิลด้ามองเธอด้วยรอยยิ้ม สายตาหยุดอยู่บนหน้าเธออยู่ครู่ใหญ่ ถึงจะพยักหน้าตอบ
“ในเมื่อกรรมการทุกท่านต่างก็ให้การยอมรับ เราคิดว่าเราคงจะไม่พลาดโอกาสดีๆ แบบนี้”
เฉินฝานซิงส่งยิ้มพลางทาน้ำหอมลงบนข้อมือและต้นคอของพระมเหสีมาทิลด้า สุดท้ายก็ฉีดมันกลางอากาศอีกเล็กน้อย พระมเหสีมาทิลด้าเดินเข้าไปท่ามกลางละอองน้ำหอมที่ฉีดออกมาตามสัญชาตญาณ
“อืม เป็นกลิ่มที่อ่อนโยนเป็นเอกลักษณ์จริงๆ ด้วย เราชอบมาก แต่ว่า เธอบอกเราได้ไหม ทำไมถึงต้องใส่หยดเลือดของเธอลงไปในนี้ล่ะ”
เฉินฝานซิงวางขวดน้ำหอมในมือไว้ด้านข้าง จากนั้นก็หันไปมองพระมเหสีมาทิลด้าแล้วตอบเรียบๆ
“สำหรับคำถามนี้…คงต้องเชิญพระมเหสีออกไปเดินด้านนอกกับหม่อมฉันสักหน่อย…”
ตอนที่ 652 เธอฉลาดมาก
“สำหรับคำถามนี้…คงต้องเชิญพระมเหสีออกไปเดินด้านนอกกับหม่อมฉันสักหน่อย…”
ใบหน้าของพระมเหสีมาทิลด้าเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็พยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นจากที่ประทับ
กรรมการหลายคนต่างก็ไม่เข้าใจ พากันเดินตามหลังพระมเหสีทิลด้าและเฉินฝานซิงออกไปจากสนามแข่ง
ด้านนอกสนามแข่งยังมีคนอยู่มากมาย เฉินเชียนโหรวเองเพราะอยากรู้ผลของเฉินฝานจึงคอยอยู่ข้างนอกตลอดไม่ยอมไปไหน
คนส่วนใหญ่เป็นเพราะได้ยินว่าพระมเหสีมาทิลด้าเสด็จเข้าไปในสนามแข่งจึงอยู่รอเพื่อรับเสด็จพระมเหสีโดยเฉพาะ
แต่เมื่อต่อมาได้ยินว่าด้านในเหลือเพียงแค่ผู้หญิงที่ชื่อว่าเฉินฝานซิงอยู่คนเดียว พวกเขาก็รู้สึกแปลกใจในตัวหญิงสาวคนนี้อยู่เหมือนกัน
“เชียนโหรว เธอว่าเฉินฝานซิงทำอะไรอยู่ด้านในกันแน่ ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่มีหวัง ยังจะฝืนดิ้นทุรนทุรายมาจนถึงตอนนี้…”
อันลี่น่าคิ้วเป็นกระจุก ถึงแม้จะพูดไปแบบนี้ แต่ในใจกลับรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยบางอย่างอยู่ลางๆ
อย่างไรเสียก็ทำงานกับเฉินฝานซิงมาสามปี ความฮึดไม่ยอมแพ้ในตัวของเฉินฝานซิงนั้น เธอคุ้นเคยเสียยิ่งกว่าคุ้นเคย
ในใจของเฉินเชียนโหรวก็เกิดความรู้สึกขัดแย้งเช่นกัน ทั้งหวังอยากให้เฉินฝานซิงเข้ารอบ แต่ก็หวังว่าเธอจะถูกเขี่ยทิ้งไปด้วย
“อย่าเพิ่งพูดแบบนี้ สิ่งที่ฝานซิงถนัดที่สุดก็คือชนะได้ด้วยวิธีที่คาดไม่ถึง ในสถานการณ์คับขันก็พลิกเกมได้เสมอ ที่เราคิดว่าไม่มีหวังในตอนนี้ บางทีสำหรับเธอแล้ว อาจจะไม่มีปัญหาอะไรเลยด้วยซ้ำ…”
อันลี่น่าเบะปาก “ไม่มีน้ำมันหอมระเหย เธอจะเอาอะไรมาเข้ารอบ”
เฉินเชียนโหรวแค่นหัวเราะเบาๆ ชำเลืองมองเธออย่างเหยียดหยามด้วยหางตาปราดหนึ่ง “ไม่มีของเธอ คือไม่มีเหลือสักนิดเลยหรือเปล่า”
อันลี่น่าขมวดคิ้ว “ก็ไม่ใช่แบบนั้น แต่ว่าเธอก็เห็นแล้วว่าการแข่งขันกลุ่มหลังๆ คนส่วนใหญ่ก็ถอนตัวออกไปเลยทั้งนั้น เห็นได้ชัดว่าน้ำมันหอมระเหยที่ใช้ได้นั้นน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย…สำหรับคนที่สิ้นไร้ไม้ตอก อย่างมากเธอก็ได้แต่ดิ้นรนจนเฮือกสุดท้าย”
ในสนามแข่ง คนที่มีความคิดแบบอันลี่น่านั้นมีไม่น้อย
ตั้งแต่เมื่อคืนวานพวกเขาก็ไม่ได้มีความรู้สึกดีใดๆ กับเฉินฝานซิงคนนี้ ตอนนี้ยังเป็นคนสุดท้ายที่ออกมาจากการแข่งขัน
ทำให้ผู้คนยิ่งดูถูกเหยียดหยามเธอมากกว่าเดิม
ทว่าขณะนั้นเอง ม่านสนามแข่งก็ถูกใครบางคนเปิดออกอย่างกะทันหัน
จากนั้น รูปร่างเพรียวบางสูงเด่นของเฉินฝานซิงก็ปรากฏขึ้น เธอยังจูงมือพระมเหสีมาทิลด้าที่ตามมาด้านหลังเอาไว้ด้วย
ท่ามกลางสายตาตื่นตกใจของผู้คน เธอจูงพระมเหสีลงมาจากบันไดขั้นสูง จากนั้นก็เดินตรงดิ่งไปที่ทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงที่อยู่ไม่ไกลออกไป
ด้านหลังของพวกเธอตามมาด้วยกรรมการหลายท่านนั้น
เฉินเชียนโหรวขมวดคิ้วมุ่น ไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เดินเข้าไปถามกรรมการ “อาจารย์มิเกล นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ”
กรรมการที่ชื่อมิเกลเพียงแต่ส่ายหน้า “ฉันก็ไม่รู้ ตามไปดูอาจจะรู้ก็ได้”
เฉินเชียนโหรวพยักหน้า
ทุกคนที่อยู่ด้านนอกต่างก็พากันตามเฉินฝานซิงและพระมเหสีมาดิลด้าไป
ในที่สุด เฉินฝานซิงก็พาพระมเหสีมาถึงทุ่งดอกไม้สีม่วง
พระมเหสีมาทิลด้ามองเธอ สีพระพักตร์ยังคงแสดงให้เห็นถึงความสงสัยดังเดิม ก่อนจะไหวไหล่ ส่ายศีรษะแล้วตรัสอย่างจนปัญญา
“เธอดูฉลาดมาก เราอยากจะรู้จริงๆ ว่าตอนนี้เธอคิดจะทำอะไรกันแน่”
เฉินฝานซิงเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะตอบด้วยภาษาฝรั่งเศสอย่างคล่องแคล่ว “ตอนนี้พระมเหสียังรู้สึกไม่สบายคออยู่หรือเปล่า”
พระมเหสีมาทิลด้ากะพริบตาปริบๆ พลางยกมือที่ใส่ถุงมือสีชมพูวางบนลำคอ จากนั้นก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ
“โอ้พระเจ้า ผ่อนคลายขึ้นเยอะจริงๆ พอพูดแบบนี้แล้ว ตั้งแต่เมื่อครู่เราก็เริ่มไม่ไอแล้วจริงๆ ด้วย”
เฉินฝานซิงอมยิ้ม เป็นไปตามที่คาดไว้