ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 675 การชำระล้างและเกล็ดหิมะรุ่งอรุณอะไรนั่น / ตอนที่ 676 พยายาม
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่ 675 การชำระล้างและเกล็ดหิมะรุ่งอรุณอะไรนั่น / ตอนที่ 676 พยายาม
ตอนที่ 675 การชำระล้างและเกล็ดหิมะรุ่งอรุณอะไรนั่น
เฉินฝานซิงเอ่ยมาถึงตรงนี้ จู่ๆ ก็เค้นขำเสียงเย็นออกมา ลมหายใจที่ถูกพ่นออกมาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
“ฉันเดาว่า สกุลเฉินและสกุลซูคงเชื่อว่าเฉินเชียนโหรวจะเหนือกว่าฉันในการแข่งขันปรุงน้ำหอม หากครั้งนี้สกุลเฉินคิดจะซื้อหุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของฉันจริงๆ ในเงินจำนวนหกร้อยห้าสิบล้านหยวนนี้ เกรงว่าสกุลซูเองก็จะมีส่วนร่วมอยู่ด้วย…”
เพียงแค่เฉินเชียนโหรวพูดออกมาคำเดียว ทั้งสองบ้านก็พร้อมที่จะเชื่อฟังอย่างไม่มีข้อแม้
เรื่องการมัดใจคนยังต้องมอบให้เฉินเชียนโหรว คนอย่างเธอ เฉินฝานซิงเทียบชั้นไม่ติดจริงๆ
ถึงอย่างไรการหลับหูหลับตาฟังของพวกเขาก็ย่อมมีค่าใช้จ่ายเป็นธรรมดา!
ป๋อจิ่งชวนลูบลงบนเรือนผมสวยอย่างเห็นใจ
เรือนผมนุ่มลื่น สีดำขลับเป็นมันเงา และสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติสร้างความพึงพอใจให้เขาได้ไม่น้อย
“นี่ไม่ดีเหรอ หกร้อยห้าสิบล้านของพวกเขา ถูกตัดสินไว้ว่าจะต้องถูกมอบให้กับคุณฟรีๆ”
เฉินฝานซิงคลี่ยิ้ม ทว่าในร้อยยิ้มนั้นกลับไรวี่แววของความยินดี
“แค่รู้สึกเสียดาย ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณแม่ดิ้นรนทั้งหมดเพื่อสกุลเฉิน สุดท้ายก็มีค่าแค่เงินหกร้อยห้าสิบล้านหยวน พวกนั้นทำลายความทุ่มเทด้วยแรงกายและสติปัญญาของคุณแม่ ฉันรู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับท่าน เลย การแต่งเข้ามาในสกุลเฉินนับว่าเป็นความผิดพลาดหนึ่งของท่าน”
ป๋อจิ่งชวนโอบไหล่เธอเอาไว้แล้วรวบเธอเข้าหาอ้อมกอด
“แต่ผมต้องขอบคุณความผิดพลาดของท่านในครั้งนี้ หากไม่ใช่เพราะท่าน ผมจะได้พบกับคุณได้ยังไง”
เฉินฝานซิงเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยความตื้นตันและความปลื้มใจอย่างสุดซึ้ง
“ใช่ค่ะ ต้องขอบคุณท่านมากๆ ที่ให้ชีวิตกับฉัน”
ป๋อจิ่งชวนกระตุกยิ้มเล็กน้อย ใช้ริมฝีปากคลอเคลียเข้ากับเส้นผมของเธออยู่ครู่หนึ่ง
เฉินฝานซิงอิงแอบเข้าหาไหล่ของเขา ปิดตาซึมซับความอบอุ่นที่เขาเป็นผู้มอบให้
ความสุขใจที่อบอุ่นและเรียบง่ายเช่นนี้ คือสิ่งที่เธอเคยปรารถนามากที่สุดในชีวิต
ล้างมลทินและเกล็ดหิมะรุ่งอรุณ[1]อะไรนั่น!
น้ำหอมรุ่นนั้นคือผลผลิตจากความหวังที่เธอฝากฝังไว้กับซูเหิงหลังจากที่ผู้เป็นแม่จากไปแล้ว!
เธอเผลอคิดไปว่า ซูเหิงที่อบอุ่นและเก่งกาจในปีนั้นจะกลายเป็นที่พึ่งพิงให้แก่เธอไปชั่วชีวิต
เธอไม่เคยขออะไรมากมาย แค่หวังว่าหนึ่งชีวิตนี้ จะมีใครสักคนมอบอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นให้แก่เธอได้ จะมีใครสักคนที่มีไหล่ให้อิงแอบ จากนั้นก็ใช้ชีวิตร่วมกันกับเขาไปอย่างสงบสุข!
แต่ผลสุดท้ายผู้ที่มอบไหล่และอ้อมกอดให้แก่เธอ ไม่ใช่ซูเหิงตั้งแต่ต้น…
เธอควรจะดีใจ…
-
เมื่อพักผ่อนไปหนึ่งวันเพื่อปรับความเคยชินกับเวลาแล้ว เป้าหมายแรกของวันที่สองของเธอก็คือซิงเฉินกั๋วจี้
ผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์ ทว่าภาระงานจำนวนไม่น้อยยังไม่ถูกสะสาง
พวกสิ่งที่จำเป็นเร่งด่วน เอกสารที่จำเป็นต้องจัดการให้เรียบร้อย ยังไม่ทันได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก สายของสวี่ชิงจือก็โทรเข้ามา
“เป็นไงบ้าง ฝานซิง? ผลการแข่งขัน!”
น้ำเสียงนั้นทำให้เฉินฝานซิงจินตนาการไปถึงภาพของสวี่ชิงจือที่กำลังถือโทรศัพท์อยู่ด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“ยังไม่ประกาศผลเลย กว่าจะรู้ว่าเป็นยังไง ก็ต้องรอให้ถึงงานประกาศผลหลังจากที่ผ่านครึ่งเดือนไปแล้วก่อน”
“อย่างนั้นหรอกเหรอ…งั้นแล้วทำไมเฉินเชียนโหรวถึงได้ทำอย่างงั้นล่ะ เพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศก็ไม่คิดจะปิดเรื่องอะไร ให้ข่าวโครมๆ! ทำอย่างกับได้แชมป์แล้วอย่างงั้นแหละ!”
“ไงนะ?”เฉินฝานซิงเลิกคิ้วถาม
สวี่ชิงจือขำเสียงเย็นออกมา น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเย้ยหยันอยู่หลายส่วน
“เธอกลับมาในคืนวันชีซีไม่ใช่หรอ สุดท้ายก็ถูกคนอื่นๆ จำได้ที่สนามบิน วันที่สองพวกนักข่าวก็ไปออกันอยู่ที่หน้าหลานอวิ้น ตอนที่ถูกสัมภาษณ์ เธอบอกว่ามั่นใจในผลงานของตัวเองมาก แถมยังได้รับความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากกรรมการอีก แม้ว่าจะไม่ได้หลุดพูดคะแนนของตัวเองออกมาในตอนนั้น แต่ว่าน้ำเสียงนั่นเห็นได้ชัดว่าเธอชนะเลิศไปแล้ว”
“งั้นเหรอ” เฉินฝานซิงถามขึ้นอย่างเรียบๆ
ตอนที่ 676 พยายาม
“งั้นเหรอ” เฉินฝานซิงถามขึ้นอย่างเรียบๆ
เรื่องนี้เธอไม่ค่อยใส่ใจเท่าไรนัก จะว่าไป ก็ไม่น่าแปลใจเลยที่ทำไมฝั่งของเธอถึงได้เงียบเชียบขนาดนี้ ที่แท้ฝั่งของเฉินเชียนโหรวก็ชิงลงมือไปก่อนแล้วนี่เอง
เธอขำเสียงเย็นออกมาหนึ่งครั้ง ทว่าก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรนัก
เพราะนี่ก็สมกับสไตล์การทำงานของเฉินเชียนโหรวอยู่แล้ว
“งั้น…ฝานซิง เธอคิดว่าครั้งนี้ทำออกมาได้เป็นยังไงบ้าง”
สวี่ชิงจือไม่ทราบกระบวนการของการแข่งขันปรุงน้ำหอมเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเฉินฝานซิงทราบผลการแข่งขันแล้ว เธอยังคงกลัวว่าจะพูดแทงใจของเฉินฝานซิงยามที่เอ่ยถามออกไป จึงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ระมัดระวังเป็นพิเศษ
“ฝานซิง จริงๆ แล้ว ผลของมันไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้นหรอกนะ แพ้ก็แพ้ไปสิ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย เราก็แค่ไม่ต้องเข้าไปในห้างของสกุลป๋อแล้ว เธอไม่ต้องเก็บมาใส่ใจมากนะ…”
เฉินฝานซิงอดไม่ได้ที่จะเม้มปากขำขึ้นอย่างไร้สุ้มเสียง “ฉันไม่เป็นอะไร เธอไม่ใส่ใจก็ดีแล้ว”
“อื้ม...”
“งานแต่งเธออยากจัดสไตล์ไหนหรอ กลางแจ้งหรือในห้องประชุม”
“…ในห้องประชุมใหญ่ล่ะมั้ง หลีม่อเขา…คงไม่ชอบกลางแจ้งหรอก…”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินฝานซิงค่อยๆ จืดจางลง
“ชิงจือ นี่มันงานแต่งของเธอนะ…”
“มันเป็นงานแต่งของเราสองคน!” สวี่ชิงจือกล่าวอย่างหนักแน่น “ฉันจะเอาแต่ความชอบของตัวเองโดยที่ไม่สนใจความรู้สึกของเขาไม่ได้หรอก คนสองคนต้องไปด้วยกัน หากการถอยออกมาหนึ่งก้าว แล้วมันทำให้เขามีความสุขได้ล่ะก็ ฉันคิดว่ามันก็คุ้มนะ เธอว่าไหม”
เฉินฝานซิงเลิกคิ้วสูง หว่างคิ้วที่ผูกเข้าหากันอยู่เล็กน้อย ค่อยๆ คลายลง รอยยิ้มเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“อื้ม เธอพูดถูก”
เฉินฝานซิงได้ยินเสียงทอดถอนหายใจอันยาวเหยียดผ่านสายโทรศัพท์ของอีกฝ่าย “ฝานซิง ฉันต้องพยายามอีกหน่อยใช่ไหม เขาเป็นพ่อของลูกฉัน เป็นคนที่ฉันชอบ ฉันไม่มีเหตุผลที่จะไม่ใช้ชีวิตให้ดีๆ ถูกไหม”
“อื้ม เธอออกจะโดดเด่นขนาดนี้ หลีม่อเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ชอบเธอ!”
“ฮ่าๆ เธอพูดถูก! ฉันสวี่ชิงจือคือใคร ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้!”
“อื้ม!”
เมื่อฟังออกว่าสวี่ชิงจือมีความมั่นใจเปี่ยมล้น ทั้งยังมีความหวังในการใช้ชีวิตคู่กับหลีม่อ
หัวใจของเธอก็อุ่นซ่านขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว!
ดีจังเลย!
การได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับคนที่ตัวเองรัก ความรู้สึกที่ได้อยู่เคียงข้างกันมันดีจริงๆ…
“ฉันเชื่อมั่นในตัวเธอ ชิงจือ”
จากนั้นทั้งคู่ก็คุยกันต่ออีกสองสามประโยคแล้วจึงจบบทสนทนา
เลิกงานตอนเย็น เฉินฝานซิงก็มุ่งตรงไปยังบ้านสกุลเฉินทันที
ยังคงเป็นห้องรับแขกห้องนั้น ยังคงเป็นผู้คนเหล่านั้น
ใบหน้าของหยางลี่เวยยังคงถูกพันไปด้วยผ้าพันแผล สายตาที่ถูกส่งมายังเฉินฝานซิงเต็มไปด้วยความชิงชังและเย่อหยิ่ง
ทว่าเมื่อเฉินเชียนโหรวที่นั่งหันข้างอยู่ข้างๆ เจียงหรงหรงเห็นว่าเฉินฝานซิงมาถึงแล้ว เธอก็ยืนขึ้นต้อนรับ พลางเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและน่าเอ็นดู
“พี่คะ พี่กลับมาแล้ว!”
สีหน้าคนบาปในคราบนักบุญเช่นนั้นเฉินฝานซิงไม่คิดจะใส่ใจ สายตาเธอมองตรงไปยังเฉินซั่งหวาที่นั่งอยู่บนที่นั่งประธาน เมื่อเห็นว่าเขาปลอดภัยดี เฉินฝานซิงจึงลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
จากนั้นก็โค้งตัวลงนั่งลงบนโซฟาตรงหน้าพวกเขา
“เข้าเรื่องเลยเถอะ ฉันเหนื่อยมากแล้ว”
ท่าทีของเฉินฝานซิง เป็นสิ่งที่พวกเขาเองก็รู้สึกชินไปเสียแล้ว
เจียงหรงหรงเองก็เต็มใจที่จะไม่อ้อมค้อม เธอจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า
“หุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของปู่แก เอามารึยัง”
เฉินฝานซิงเลิกคิ้วถามตอบอย่างเรียบนิ่ง
“หกร้อยห้าสิบล้านหยวนเตรียมไว้รึยัง”
หยางลี่เวยกระตุกมุมปากจนตึงรั้งไปโดนบาดแผล เธอเจ็บจนต้องแยกเขี้ยว
หกร้อยห้าสิบล้าน!
มันไม่ใช่หกร้อยห้าสิบหยวน และไม่ใช่หกพันห้าร้อยหยวน แต่มันคือหกร้อยห้าสิบล้านหยวน!
แค่คิดก็ปวดใจแล้ว!
หัวใจของเจียงหรงหรงเองก็ระบมไม่แพ้กัน เธอลอบกัดฟัน โน้มกายลงหยิบเช็คบนโต๊ะกาแฟขึ้นมายื่นให้เฉินฝานซิง
[1] ล้างมลทินและเกล็ดหิมะรุ่งอรุณ ชื่อรุ่นน้ำหอมของเฉินเชียนโหรว