ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 685 เอาผลไม้ของผมไปกินอยู่คนเดียว / ตอนที่ 686 จู่ๆ ก็นึกเรื่องสำคัญมากขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่ 685 เอาผลไม้ของผมไปกินอยู่คนเดียว / ตอนที่ 686 จู่ๆ ก็นึกเรื่องสำคัญมากขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง
ตอนที่ 685 เอาผลไม้ของผมไปกินอยู่คนเดียว
แค่เฉินฝานซิงหยุดเคี้ยวผลไม้ลง เมื่อป๋อจิ่งชวนเห็นดังนั้น เขาจึงโน้มกายเข้าไปหวังจะฉกชิมริมฝีปากของเธออีกครั้ง ผลสุดท้ายเฉินฝานซิงกลับเคี้ยวเร็วๆ สองครั้งแล้วกลืนผลไม้ในปากลงไปทันที ก่อนจะรีบเอ่ยขึ้น
“ขายแล้ว! เช็คหกร้อยห้าสิบล้านตอนนี้อยู่ในกระเป๋าของฉัน”
เมื่อกินผลไม้ไม่สำเร็จ ป๋อจิ่งชวนจึงเหลือบมองเธอไปวูบหนึ่ง
เขาหยิบลูกแพร์เขียวป้อนเข้าปากเฉินฝานซิงไป ก่อนจะมองไปยังปากเธอที่กำลังขยับอยู่ แล้วถามขึ้นอีกครั้ง
“ให้เฉินเชียนโหรวไปเท่าไหร่”
ครั้งนี้เฉินฝานซิงไม่หยุดพัก เธอจัดการกลืนผลไม้ลงคอไปเสียก่อน ถึงจะเอ่ยตอบ
“หุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์นั่น เจียงหรงหรงให้เฉินเชียนโหรวเซ็นชื่อตอนนั้นเลย อีกอย่างหุ้นในมือของเจียงหรงหรงและเฉินเต๋อฝานคนละแปดเปอร์เซ็นต์ก็ยกให้เธอไปหมดแล้ว”
ป๋อจิ่งชวนหยิบแอปเปิลอีกชิ้นหนึ่งป้อนเข้าปากเธอไปอีกครั้ง เฉินฝานซิงก็อ้าปากรับไว้
“พูดแบบนี้ หมายความว่าตอนนี้เฉินเชียนโหรวมีหุ้นสามสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์อยู่ในมือ? เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของหลานอวิ้น?”
เฉินฝานซิงพยักหน้า ไร้คำพูด
ป๋อจิ่งชวนเฝ้ามองเธอที่กลืนผลไม้ลงคอไปอย่างไม่ลังเล
มือที่วางอยู่บนเอวของเธอจู่ๆ ก็บีบแรงขึ้น จนทำเอาร่างเธออ่อนยวบ
“อุ๊ย…คุณทำอะไรน่ะ”
“เอาผลไม้ของผมไปกินคนเดียว คุณคิดว่าผมจะทำอะไรล่ะ”
เฉินฝานซิงมุ่นคิ้ว เบี่ยงตัวยกเอาจานผลไม้มาถือไว้
“ใครว่าฉันกินคนเดียว นี่ไม่ใช่รึไง ยังเหลืออีกตั้งเยอะแยะขนาดนี้ ถ้าไม่พอในตู้เย็นข้างล่างก็ยังมีอีก!”
ป๋อจิ่งชวนกวาดตามองผลไม้ในจานแล้วขำหึออกมาเสียงหนึ่ง ทำเป็นไขสือ!
เฉินฝานซิงจึงหยิบองุ่นลูกหนึ่งจ่อไปที่ปากของป๋อจิ่งชวนให้รู้แล้วรู้รอด
“ถ้าชอบกินนัก ก็กินเยอะๆ หน่อย…”
ป๋อจิ่งชวนย่นคิ้วมององุ่นที่จ่อปากของเขาอยู่ ก่อนจะพิจารณาอยู่เนิ่นนาน
“ดูสิ พอฉันให้แล้วคุณก็ไม่กิน…”
เฉินฝานซิงว่าพลางก็ดึงมือกลับหวังจะป้อนองุ่นลูกนั้นเข้าปากตัวเอง ผลสุดท้ายป๋อจิ่งชวนก็กลับชิงอ้าปากงับองุ่นลูกนั้นเข้าปากตัดหน้าไปเสียก่อน
จากนั้นขณะที่เฉินฝานซิงไม่ทันได้ตอบโต้ใดๆ เขาก็กดตรงท้ายทอยของเธอแล้วดึงเธอลงมา
“นี่…”
เฉินฝานซิงร้องอุทานด้วยความตกใจ องุ่นในปากของป๋อจิ่งชวนถูกส่งเข้ามาในปากของเฉินฝานซิง
ขณะที่ถูกดันเข้าไป องุ่นถูกเบียดจนแตก ของเหลวรสหวานเปรี้ยวแผ่ซ่านไปทั่วโพรงปาก ก่อนที่มันจะไหลรินลงมาตรงมุมปาก
จานที่ถูกถือด้วยสองมือมาตลอด บัดนี้กำลังโงนเงนไปมา เฉินฝานซิงรู้สึกว่าแค่การต้องจับมันเอาไว้ก็กินแรงเธอเสียเหลือเกิน
ยามที่สติสัมปชัญญะกำลังหลุดลอย จู่ๆ จานในมือก็เอนเอียง เธอร้องอุทานขึ้นหนึ่งครั้ง แต่สุดท้ายจานผลไม้ในมือก็ถูกป๋อจิ่งชวนแย่งไปถือไว้ก่อนแล้ว ก่อนที่เขาจะวางมันลงไปบนโต๊ะทำงาน
เฉินฝานซิงพรูลมหายใจออกหนึ่งครั้ง
เธอไม่น่ามากินผลไม้วันนี้เลยจริงๆ!
“ยังไม่กินมื้อเย็น?”
เสียงนุ่มทุ้มของป๋อจิ่งชวนดังขึ้น ในดวงตาสีดำขลับคู่นั้นถูกฉาบไปด้วยความมืดครึ้มชวนให้หลงใหล
ผู้ชายคนหนึ่งที่ดูออกจะเฉยชาในยามปกติ แต่เพียงแค่สายตาของเขาในตอนนี้ก็กลับทำเอาเธอรับมือไม่ไหวขึ้นมาเสียดื้อๆ
“…อื้ม” เฉินฝานซิงตอบเสียงแผ่วพลางพยักหน้า น้ำเสียงนั้นราวกับถูกระบายออกมาผ่านทางจมูก
“คุณคิดจะกินแค่นี้?”
“ได้สารอาหารพอแล้ว”
ป๋อจิ่งชวนย่นคิ้ว แล้วอุ้มเธอยืนขึ้นจากเก้าอี้
“จะทำอะไร”
“ลงไปกินข้าว”
ตอนที่ 686 จู่ๆ ก็นึกเรื่องสำคัญมากขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง
“คุณวางฉันลงเถอะค่ะ ฉันเดินเองได้”
“อยู่นิ่งๆ”
ป๋อจิ่งชวนก้าวต่ออย่างไม่หยุดพัก
“งั้นถ้าลงไปแล้ว คุณจะทำอาหารให้ฉันกินเหรอคะ”
ป๋อจิ่งชวนชะงักเท้าลงในที่สุด ก่อนจะก้มลงกวาดตามองเธอ
“…คุณอยากกินอะไร”
เฉินฝานซิงครุ่นคิดอยู่สักพักก็ถามขึ้น
“คุณทำอะไรเป็นบ้างเหรอ”
“…”
ป๋อจิ่งชวนย่นคิ้ว น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงเช่นนี้ทำเอาเขาทนไม่ไหว
เขาเม้มปากแน่น เมื่อถึงชั้นล่างก็จัดการวางเฉินฝานซิงลงบนโซฟา
หลังจากที่เสียงทุ้มเย็นเอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า “รอเดี๋ยว” เขาก็ถลกแขนเสื้อขึ้น ก่อนจะพาร่างกายสูงใหญ่เลี้ยวเข้าห้องครัวไป
ในสายตาของเฉินฝานซิง ท่าทางเช่นนั้นแทบจะไม่ต่างอะไรกับแม่ทัพจอมเผด็จการสวมชุดเกราะที่รีบมุ่งหน้าเข้าไปยังสนามรบ
คิดไปคิดมา เธอก็เปิดทีวีดูไปพลางๆ ระหว่างที่รอใครบางคนเตรียมมื้อเย็นแห่งความรักให้อยู่
เธอเลือกรายการทีวีดูไปเรื่อยเปื่อย บนหน้าจอกำลังฉายฉากที่พระเอกกำลังขอนางเอกแต่งงานริมทะเลอย่างสุดแสนโรแมนติกอยู่พอดี นางเอกถือกุหลาบสีแดงสดช่อโตไว้ในมือ แฟนหนุ่มรูปหล่อที่ทั้งเขินอายและตื่นเต้นก็ค่อยๆ คุกเข่าลงตรงหน้าเธอ…
เฉินฝานซิงกะพริบตาปริบๆ จู่ๆ ความรู้สึกแปลกประหลาดก็พลันถูกฉาบขึ้นในหัวใจ!
ไม่ว่าเธอจะคิดอย่างไร เธอก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองหลงลืมเรื่องบางอย่างที่สำคัญมากๆ ไป?
หัวคิ้วยิ่งผูกเข้าหากันแน่น ดวงตาของเธอจดจ้องอยู่กับกุหลาบช่อใหญ่ช่อนั้นในอ้อมแขนของนางเอก
ครู่ใหญ่ๆ สีหน้าของเฉินฝานซิงก็ดูผ่อนคลายลง ก่อนที่จู่ๆ เธอก็ร้อง “อ้า” ออกมาเสียงหนึ่ง
จากนั้นจึงผุดลุกยืนขึ้นจากโซฟา เธอเดินวนเวียนอยู่ในห้องรับแขกไปแล้วรอบหนึ่ง ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงไปบนโซฟาอย่างช้าๆ แล้วขบกัดลงไปบนนิ้วมือของตัวเองด้วยความร้อนรนเล็กน้อย
ห้องของเธอถูกเก็บกวาดตั้งแต่เมื่อไหร่
น้ำ…น้ำมันหอมระเหยกลิ่นกุหลาบหายไปไหนแล้ว!
เมื่อคิดถึงเรื่องก่อนที่จะไปแข่ง เธอก็นึกหงุดหงิดใจขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
เธอกำลังคิดอะไรอยู่
กุหลาบในห้องถูกเก็บไปตั้งแต่ตอนไหนเธอก็ไม่ทันได้สังเกตด้วยซ้ำ!
สุดท้าย…
ความจริงก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ความรักพุ่งชนสมองของคนจนทำให้หน้ามืดได้อย่างง่ายดาย
ไม่สิ ถึงขั้นนี้แล้ว เธอแทบจะเป็นคนโง่คนหนึ่งไปแล้วเสียมากกว่า!
นี่มันผ่านไปตั้งนานแล้ว เธอเพิ่งจะมานึกได้เอาตอนนี้เนี่ยนะ!?
ความเรียบร้อยของคอนโดยิ่งไม่ต้องสงสัย ตอนนั้นคนที่รู้รหัสห้องของเธอก็มีเพียงเธอกับป๋อจิ่งชวนเท่านั้น
ดังนั้น…
เฉินฝานซิงกะพริบตาปริบๆ ก่อนที่จู่ๆ เธอจะจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางแล้วยืดตัวขึ้นนั่งเรียบร้อย
ดังนั้น เขาก็ต้องเป็นคนที่ให้คนเข้ามาเก็บกวาดห้อง ส่วนน้ำมันหอมระเหยกลิ่นกุหลาบขวดนั้น ไม่แน่ว่ามันอาจตกไปอยู่ในมือของเขาแล้วก็ได้…
แต่ว่าทำไมถึงไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงมันเลยนะ
หรือไม่แน่ว่าคนที่เข้ามาเก็บกวาดห้องอาจโยนมันลงถังขยะไปแล้ว
เฉินฝานซิงนั่งกระสับกระส่ายอยู่บนโซฟาไปแล้วหลายนาที ก่อนที่สุดท้ายเธอจะค่อยๆ เบนความสนใจไปยังห้องครัว ถามป๋อจิ่งชวนตรงๆ ไปเลยจะดีไหม
เมื่อไม่ได้ยินสุ้มเสียงการเคลื่อนไหวจากในครัว เฉินฝานซิงจึงพาตัวเองลุกยืนขึ้นจากโซฟาแล้วตรงเข้าไปยังห้องครัว
กระทั่งเธอก้าวมาถึงห้องครัว ก็พบว่าร่างอันสูงสง่าของป๋อจิ่งชวนกำลังยืนอยู่ในนั้นอย่างเงียบงัน พลางยืนมองหม้อที่กำลังเดือดปุดๆ อยู่ตรงหน้าโดยไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เฉินฝานซิงย่องเข้าไปอย่างเงียบๆ ก็พบว่าในหม้อใบนั้นมีไข่ไก่กำลังถูกต้ม
ไข่สองฟองที่เปลือกของมันสมบูรณ์แบบไร้รอยแตกร้าวกำลังถูกน้ำเดือดต้มจนสั่นไหวน้อยๆ
ป๋อจิ่งชวนกำลังยกมือขึ้น พลางหลุบสายตาลงมองนาฬิกาตรงข้อมือ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังดูเวลาอยู่
“ใกล้จะได้ที่แล้วมั้ง”
จู่ๆ เฉินฝานซิงก็เอ่ยปากขึ้นมา เพราะเขาอยู่ในครัวมาพักใหญ่แล้ว
ป๋อจิ่งชวนหันไปมองเธอวูบหนึ่ง นัยน์ตาอ่อนโยนถูกฉาบไปด้วยความยุ่งเหยิงจางๆ เขาไม่ทันได้สังเกตเห็นการมาถึงของเธอ จึงทำให้ตกใจอยู่เล็กน้อย
“ยังเหลืออีกสามสิบวิ…”
จำเป็นต้องพิถีพิถันขนาดนี้ไหม
“คิดจะทำอะไร”
“ต้มบะหมี่ สองนาทีก็เสร็จแล้ว”