ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 687 คุณชายป๋อของเธอ / ตอนที่ 688 บทบาทสมมติ
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่ 687 คุณชายป๋อของเธอ / ตอนที่ 688 บทบาทสมมติ
ตอนที่ 687 คุณชายป๋อของเธอ
เฉินฝานซิงชี้ลงไปยังไข่ไก่ในหม้อที่ยังไม่ถูกปอกเปลือก แล้วถามหยั่งเชิงไปว่า
“คุณคงจะไม่ต้มบะหมี่ลงไปในนี้เลยใช่ไหม”
ป๋อจิ่งชวนปรายตามองเธอไปวูบหนึ่ง
เฉินฝานซิงเม้มปาก
ก็ต้องไม่อยู่แล้วสิ!
อย่างน้อยๆ เขาก็ยังมีไอคิวอยู่นะ
–
แน่นอนว่าสุดท้ายแล้ว ป๋อจิ่งชวนก็ต้มน้ำใหม่อีกครั้งเพื่อลวกบะหมี่
แม้ว่าฝีมือจะไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาไม่เลว
ไข่ไก่ถูกต้มออกมาอย่างดีไร้ข้อผิดพลาด ความเหนียวของบะหมี่เองก็ทำออกมาได้กำลังดี เครื่องปรุงยิ่งช่วยเสริมให้สิ่งที่ดีอยู่แล้วดีขึ้นไปอีก
ทุกอย่างไม่ได้ดูทุลักทุเลหรือเกิดหายนะในครัวอย่างเช่นหยิบน้ำตาลผิดแทนที่จะหยิบเกลืออย่างที่เธอจินตนาการไว้
การหยิบจับทุกอย่างดูคล่องแคล่วไปหมด ท่าทีเรียบเฉยและใจเย็นเช่นนั้น ทำเอาเฉินฝานซิงที่คิดจะเดินมาแซวเขาตั้งแต่แรกต้องร้องอุทานในใจ
มันสมองคือของดีโดยแท้จริง
คุณชายป๋อของเธอ ปัญหาเล็กน้อยแค่นี้ ไม่สามารถทำอะไรเขาได้จริงๆ!
เพอร์เฟคต์
สุดท้ายเมื่อเดินมาถึงห้องอาหาร ป๋อจิ่งชวนก็เดินมานั่งลงยังฝั่งตรงกันข้ามของเฉินฝานซิงที่กำลังทานบะหมี่อยู่ นิ้วมือที่เห็นข้อต่ออย่างชัดเจนค่อยๆ ปอกเปลือกไข่ไก่ในมือด้วยท่าทีผ่อนคลาย
เปลือกนอกค่อยๆ หลุดลอกออกไปทีละน้อย ไข่ไก่สีขาวนุ่มค่อยๆ ปรากฏออกมา ภายใต้แสงไฟนั้น มันดูมันวาวและเอิบอิ่มอย่างชัดเจน
มุมปากของป๋อจิ่งชวนกระตุกขึ้นน้อยๆ เฉินฝานซิงเห็นแล้วก็ขนลุกเกรียว
“คุณยิ้มให้ไข่ฟองนี้ทำไม”
ป๋อจิ่งชวนกวาดตามองเธอไปวูบหนึ่ง ก่อนจะเบนสายตากลับมาวางไว้ที่ไข่ต้มอีกครั้ง
“ไม่คิดว่ามันเหมือนคุณบ้างเหรอ”
“ไงนะ” เฉินฝานซิงงุนงง
“ภาพแบบนี้ ก็เหมือนกับตอนที่ผมถอดเสื้อผ้าคุณเองกับมือ รูปร่างทั้งขาวทั้งนุ่มแบบนั้น อืม…ดูดีกว่ามันเยอะเลย…”
ตู้ม พริบตาเดียว ใบหน้าของเฉินฝานซิงก็ถูกย้อมไปด้วยสีแดงเพราะความเขินอาย!
สายตาเธอกวาดไปทั่วสีหน้าหยอกล้อของป๋อจิ่งชวน แล้วมองไปยังไข่ไก่ขาวนุ่มนั่นอีกครั้ง จู่ๆ ก็นึกคำพูดไม่ออกขึ้นมาชั่วขณะ
ในตอนนั้นเอง ป๋อจิ่งชวนก็ยื่นมือออกมา นำไข่ที่ปอกเสร็จแล้วใบนั้นใส่ลงไปในถ้วยของเธอ
“กินสิ”
เฉินฝานซิงมองไข่ฟองนั้น ความรู้สึกอยากจะปฏิเสธก็พลันจู่โจมเข้ามาในทันที
และเธอก็ไม่กล้าสู้หน้ากับไข่ไก่ฟองไหนๆ ในอนาคตอีกแล้วเช่นกัน
แต่เธอก็ยังคงกินมันเข้าไป
ก็เธอไม่ใช่ไข่ไก่จริงๆ เสียหน่อย!
“ได้ยินมาว่าไม่กี่วันก็จะครบรอบวันเกิดของปู่คุณแล้ว?”
ป๋อจิ่งชวนดูเธอกินไปพลางเอ่ยถามขึ้น
“อื้ม”
“คุณว่า…ถึงตอนนั้นผมจะไปให้ของหมั้นคุณดีไหม”
“แค่ก...”
เฉินฝานซิงไม่นึกไม่ฝันว่าจู่ๆ ป๋อจิ่งชวนจะเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้น แค่ไม่ทันตั้งตัวก็เผลอสำลักออกมา
“ให้ของหมั้น”
ป๋อจิ่งชวนพยักหน้ารับอย่างเป็นธรรมชาติ “มันก็เรื่องปกติไม่ใช่เหรอ ผมจะสู่ขอคุณ ก็ต้องให้ของหมั้นคุณก่อน”
เฉินฝานซิงส่ายหน้า “แต่ เจียงหรงหรงเคยบอกไว้ว่า ของหมั้นจะถูกส่งเป็นสินเดิมของฉันในสภาพเดิม คุณไปครั้งนี้ก็ได้แค่เดินผ่านฉาก มันไม่มีความหมายอะไรหรอก”
ป๋อจิ่งชวนนำไข่ต้มฟองที่สองวางใส่ถ้วยของเฉินฝานซิงหลังจากที่ปอกมันเสร็จ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ได้แค่เดินผ่านฉากก็ต้องไป!”
เฉินฝานซิงมองป๋อจิ่งชวน เธอโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วคลี่ยิ้มจางๆ ก่อนเอ่ยถามขึ้นว่า
“คุณคิดจะให้อะไรงั้นเหรอ”
ป๋อจิ่งชวนเองก็ถือโอกาสนี้ขยับเข้าใกล้เธอเช่นกัน นิ้วของเขาจับคางของเธอเอาไว้ ลูบไล้เบาๆ สองสามที แล้วกล่าวเสียงเรียบ
“เงิน?”
เฉินฝานซิงกรอกตา “เท่าไหร่”
“แสนนึง?”
เพียะ เฉินฝานซิงปัดมือป๋อจิ่งชวนไปให้พ้นทาง
แสนนึง?
แม้จะรู้ว่าของหมั้นคือหัวข้อสนทนาที่ละเอียดอ่อนก่อนที่ชายหญิงทั้งสองฝ่ายจะแต่งงานกัน
แต่นี่เธอจะแต่งกับผู้บริหารสมาคมสกุลป๋ออันทรงเกียรติ์เลยเชียวนะ ให้ของหมั้นแค่แสนเดียวเองงั้นเหรอ!
รับไม่ได้สุดๆ
“งั้นคุณก็ไม่ต้องไปงานแล้ว!”
ว่าพลางเธอก็แบมือออกแล้วพูดว่า “เอาแสนหยวนนั่นมาให้ฉันตอนนี้เลยก็สิ้นเรื่อง!”
ป๋อจิ่งชวนคว้ามือเธอมาบีบไว้ “กล้าดี”
ตอนที่ 688 บทบาทสมมติ
เฉินฝานซิงเลิกคิ้วขึ้น ดึงมือตัวเองกลับ แล้วหันกลับมากินบะหมี่ที่เหลืออยู่ในชามต่อ
“คุณกล้าให้ ทำไมฉันจะไม่กล้ารับล่ะ ถึงยังไงมันก็ตั้งแสนหยวนเชียวนะ พอจะให้ฉันถลุงใช้ไปได้ตั้งเกือบครึ่งปี”
ป๋อจิ่งชวนขำเบาๆ “แสนนึงถลุงใช้ได้เกือบครึ่งปี? ยังสู้ค่าใช้จ่ายคืนเดียวของอินรุ่ยเจวี๋ยไม่ได้เลย…”
“ฉันก็แค่ชาวบ้านธรรมดา จะไปสู้ไฮโซอย่างพวกคุณได้เหรอ”
เมื่อได้ยินคำว่าชาวบ้านธรรมดา ป๋อจิ่งชวนก็รู้สึกขำขึ้นมา
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า คำว่าชาวบ้านธรรมดาจะอยู่ใกล้ตัวเขาขนาดนี้
“คุณขำอะไร”
เฉินฝานซิงถาม
“อืม…รู้สึกแปลกใหม่ ผมเป็นถูเฝ่ย [1]คุณเป็นชาวบ้านธรรมดา บทโจรฉุดแม่สาวชาวบ้านก็น่าลองอยู่เหมือนกันนะ…”
เฉินฝานซิงรู้สึกอับอาย
เขายังจำเรื่อง ‘ถูเฝ่ย’ ได้อยู่อีกเหรอ
ผู้ชายขี้น้อยใจคนนี้!
“คุณ…นี่คุณจะเล่นบทบาทสมมติงั้นเหรอ”
นี่มันเรื่องอะไรกัน!
ป๋อจิ่งชวนเอียงศีรษะเล็กน้อยราวกับกำลังนึกถึงภาพนั้น ก่อนจะเผลอพยักหน้า “เป็นประสบการณ์น่าสนุกที่ไม่เลวอย่างหนึ่ง”
เฉินฝานซิงยกถ้วยขึ้น ซดน้ำซุปบะหมี่ลงคอเพราะไม่อาจทนมองคนข้างหน้าต่อไปได้ จากนั้นก็ถือถ้วยที่ว่างเปล่านั้นลุกเดินไปยังห้องครัวอย่างรีบร้อน
สำหรับเรื่องที่ป๋อจิ่งชวนเสนอขึ้นนี้ เธอทำเป็นไม่ได้ยินไปเสีย
เมื่อเห็นว่าทั้งตัวของเฉินฝานซิงเต็มไปด้วยคำปฏิเสธและคัดค้าน รอยยิ้มจากก้นบึ้งของดวงตาของป๋อจิ่งชวนก็ยิ่งพราวแสงขึ้น
เขาลุกยืน ป๋อจิ่งชวนพาตัวเองไปหยุดลงตรงประตูห้องครัว แล้วมองร่างเฉินฝานซิงที่กำลังยุ่ง พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของอินรุ่ยเจวี๋ย ออกไปเที่ยวกันสักหน่อยไหม”
เฉินฝานซิงปิดก๊อกน้ำ เพราะรู้ว่าเป็นเพื่อนของป๋อจิ่งชวน เธอจึงรู้สึกว่าการอยู่ฉลองวันเกิดกับเขานั้นเป็นเรื่องที่แสนจะธรรมดา
เธอพยักหน้ารับอย่างไม่ลังเล “ได้ค่ะ ได้จองที่ไหนไว้แล้วรึยังคะ”
“ก็คงจะเป็นสถานที่พักผ่อนที่ไม่เลวที่ไหนสักแห่ง”
ก่อนหน้านี้เวลาที่ป๋อจิ่งชวนอยู่ในประเทศไม่ได้ยาวนานนัก ต่อให้เขาอยู่ในประเทศก็น้อยครั้งที่จะได้มีเวลาพักผ่อนหย่อนใจมากมายเช่นนั้น เหมือนกับพวกอินรุ่ยเจวี๋ย
ดังนั้นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในเมืองผิงเฉิงไม่เคยอยู่ในใจของเขาเลย
เฉินฝานซิงมองเขาแล้วพยักหน้า คิดๆ ดูแล้ว ที่ผ่านมากำหนดการต่างๆ ของป๋อจิ่งชวนมักจะรอบคอบเสมอ แต่พอเป็นเรื่องงานเลี้ยงสังสรรค์แบบนี้ เกรงว่าอินรุ่นเจวี๋ยเองจะเคยชินกับการแจ้งสถานที่กับเขาอย่างกะทันหันไปเสียแล้ว
“หลายปีมานี้ฉันมัวแต่วุ่นอยู่กับสกุลซะ…ไม่เคยจะได้มีโอกาสพักผ่อนอย่างเต็มที่สักที ปีนี้…ค่อยดีขึ้นหน่อย…”
ที่จริงแล้วระหว่างนั้นเธอเกือบจะหลุดพูดคำว่าสกุลซูออกมา แต่เธอกลับชะงักลง พลันรู้สึกเกลียดตัวเองขึ้นมาที่จนถึงตอนนี้แล้ว ก็ยังคงเคยชินกับการเอ่ยถึงสกุลซูจนติดปาก
เมื่อต้องนึกถึงสิ่งที่เธอต้องจ่ายไป แลกมากับผลลัพธ์ในตอนนี้ ก็พาลให้เธอคิดว่าตัวเองนั้นเป็นไอ้โง่ไปเสียทุกครั้ง
แน่นอนว่าป๋อจิ่งชวนต้องรู้ว่าคำพูดที่เธอกลืนเก็บไปกลางคันนั้นคืออะไร เขานึกหงุดหงิดใจอยู่เล็กน้อย
ความเคยชินเช่นนี้ บางครั้งก็ทำเอาเขาอับจนหนทาง
แม้จะรู้ว่าเธอกับซูเหิงไม่มีวันกลับไปต่อกันติดได้อีก แต่ซูเหิงคนนี้ ก็เคยครอบครองตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอมาแล้ว
แม้ว่าเธอจะไม่คิดถึงเขาแล้ว แต่ทั้งชีวิตนี้ก็ไม่อาจจะลืมเขาลงได้
ทันใดนั้น เขาก็ตีคิ้วขมวดขึ้นอีกครั้ง เรื่องไร้ทางแก้เช่นนี้เขาจะดันทุรังไปก็ใช่เหตุ
บางครั้งเฉินฝานซิงเองก็อยากกลายเป็นคนไม่ฉลาดดูบ้าง คงทำให้ความรักครั้งนี้โรแมนติกขึ้นไม่น้อย
ผู้ชายส่วนใหญ่ คงมองว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ซื่อๆ เซ่อๆ เป็นอะไรที่น่ารักที่สุด
แต่เธอ…
หว่างคิ้วของป๋อจิ่งชวนดูไม่สบอารมณ์นัก แม้ว่าจะเบาบาง แต่ถึงอย่างไรเธอก็มองออกอยู่ดี
เธอยังรับรู้ได้ถึงความหยิ่งในศักดิ์ศรีและความทะนงตัวที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดของผู้ชายคนหนึ่ง
[1] ถูเฝ่ย โจรท้องถิ่น