ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย - ตอนที่ 691 ไม่ต้องตื่นเต้น? / ตอนที่ 692 ตบหน้าใคร
- Home
- ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย
- ตอนที่ 691 ไม่ต้องตื่นเต้น? / ตอนที่ 692 ตบหน้าใคร
ตอนที่ 691 ไม่ต้องตื่นเต้น?
ป๋อจิ่งชวนเอ่ยเรียบๆ พลางใช้สายตาไล่มองตามเธออยู่ตลอด
เพียงแค่สัมผัสอุ่นนุ่มเข้าโอบคลุม เฉินฝานซิงก็หาวออกมาครั้งหนึ่งอย่างห้ามไม่ได้ เธอหันหน้าให้ป๋อจิ่งชวน กระชับผ้าห่มแน่นแล้วหลับตาพริ้ม
ป๋อจิ่งชวนจ้องเธออีกครั้ง หว่างคิ้วมุ่นเข้าหากันเล็กน้อย
ชายหนุ่มปิดแท็บเล็ตแล้วทิ้งมันไปอีกทาง เขาเคลื่อนกายลงแล้วคว้าเอาเฉินฝานซิงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง
เฉินฝานซิงลืมตาขึ้นมองเขาด้วยความฉงน ตั้งแต่เมื่อครู่แล้วที่เธอถูกเขาจ้องมองด้วยสายตาชอบกล
“เป็นอะไร”
ป๋อจิ่งชวนหลุบตาลงมองเธอ “คุณไม่มีอะไรจะพูดกับผมเหรอ”
นัยน์ตาสุกใสของเธอเจือความสงสัย
“พูดอะไรคะ”
สีหน้าของป๋อจิ่งชวนไม่สบอารมณ์ยิ่งขึ้น
“นึกดูสิว่าเมื่อกี้พูดอะไรกับจี้อี้ไปบ้าง”
เฉินฝานซิงกระพริบตาปริบ พลันเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ต้องตื่นเต้น?”
เมื่อต้องพูดคำนี้ เฉินฝานซิงก็อดที่จะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้
ป๋อจิ่งชวนมองนัยน์ตาเจ้าเล่ห์นั้นได้อย่างปรุโปร่ง เขาขัดใจจนต้องก้มลงไปกัดลงบนแก้มเธอไปหนึ่งที
“ทำไขสือกับผมอีกแล้วนะ!”
“เปล่าสักหน่อย คุณก็ได้ยินแล้วนี่ เมื่อกี้ฉันให้กำลังใจจี้อี้อยู่ อ๊ายยย”
จู่ๆ เธอก็รู้สึกจักจี้ขึ้นมาตรงเอว จุดที่ไวต่อสัมผัสถูกระดมจี้อย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเฉินฝานซิงอ่อนยวบ เธอยันกายขึ้นใต้ผ้าห่มเพื่อหลบหนีเงื้อมมือประสงค์ร้ายของป๋อจิ่งชวน
“มันจักจี้นะ…”
“พูดไม่พูด?”
ป๋อจิ่งชวนดึงเธอกลับเข้ามาในอ้อมแขนได้ภายในคราเดียว สองขายาวกดทับสองขาเรียวเล็กของเฉินฝานซิงเอาไว้ได้ทั้งหมด สีหน้าเต็มไปด้วยความคุกคาม
“โอเค ฉันพูดแล้ว ราตรีสวัสดิ์ ราตรีสวัสดิ์ โอเครึยัง อ๊ะ…”
เฉินฝานซิงร้องเบาๆ อีกครั้ง เมื่อมือของป๋อจิ่งชวนบีบลงไปบนเอวของเธออีกครั้ง
“รู้ทั้งรู้ ทำไมไม่พูดตั้งแต่แรก”
“ฉันผิดไปแล้ว! ปล่อยฉันเถอะ…”
เฉินฝานซิงไม่อาจต้านทานน้ำมือของป๋อจิ่งชวนได้จริงๆ เธอถูกเขาทรมานจนหอบหายใจถี่
“ให้โอกาสคุณแก้ตัวอีกครั้ง”
ป๋อจิ่งชวนหรี่ตา มองเฉินฝานซิงที่ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่ออยู่เล็กน้อย
เฉินฝานซิงพักหายใจครู่หนึ่ง จากนั้นจึงดึงท่อนแขนของป๋อจิ่งชวนให้วางราบลง แล้วยกศีรษะขึ้นหนุนลงบนลำแขนของเขา
แม้ว่าใบหน้าของป๋อจิ่งชวนจะนิ่งขรึม ทว่าก็ปล่อยให้เธอกระทำไปเช่นนั้น
เฉินฝานซิงหาท่วงท่าที่สบาย ลมหายใจแผ่วถูกพ่นออกมาอีกครั้ง เธอแหงนหน้าขึ้นในอ้อมกอดของเขา มองใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบของป๋อจิ่งชวน จู่ๆ ก็มีความรู้สึกปั่นป่วนเกิดขึ้นในช่องท้อง
เธอเชิดคางขึ้นเล็กน้อย แล้วยืดตัวขึ้นให้ถึงริมฝีปากของเขา ก่อนจะจุมพิตแผ่วเบาลงไป
เสียงดังขึ้นตามมาหลังจากที่จูบเสร็จแล้ว เฉินฝานซิงกระซิบกับเขาเสียงเรียบ
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”
แบบนี้สิถึงจะถูก!
ป๋อนิ่งชวนกระตุกยิ้มอย่างพึงใจ “ราตรีสวัสดิ์ครับ”
–
การถ่ายแบบของจี้อี้จะถูกจัดขึ้นในช่วงบ่าย ตอนเช้าหลังจากที่เคลียร์ธุระบางส่วนเสร็จไปแล้ว เฉินฝานซิงก็ดูเวลา จากนั้นก็มุ่งไปยังสถานที่ที่จี้อี้ถ่ายแบบ
งานถ่ายปกนิตยสารในครั้งนี้ของจี้อี้ คือโปรดักส์ใหม่ซึ่งเป็นผลงานจากการ่วมมือกันระหว่าง V-V และChopard จิวเวลรี่
นั่นก็คือการออกแบบแหวนเพชรคู่หนึ่งซึ่งเป็นโปรดักส์ใหม่ล่าสุด
แหวนเพชรคู่นั้นดีไซน์ออกมาได้อย่างเป็นเอกลักษณ์และล้ำเลิศ
แหวนหนึ่งคู่ แหวนสองวงเป็นสีขาวและดำเข้ากันลงตัว
สีสันสวยสดและแปลกใหม่ ที่พิเศษไปกว่านั้นคือแหวนคู่สองวงนี้ประกอบเข้าเป็นแหวนวงเดียวกันได้
พวกมันสอดผสานเข้าด้วยกัน คล้ายดั่งเถาวัลย์สองต้นที่พันเกี่ยวกันแน่น สอดผสานกอดเกลียว ไม่แยกจากกัน
เฉินฝานซิงเองก็ทึ่งในแหวนรุ่นนี้อยู่ไม่น้อย เจตนาที่นิตยสาร V-V เลือกนักร้องสาวที่กำลังมาแรงที่สุดในขณะนี้อย่างจี้อี้ เพราะนอกจากความนิยมในตัวของเธอแล้ว ยังเป็นเพราะความเป็นศิลปินในตัวของจี้อี้อีกด้วย!
หากเธอเดาไม่ผิด เธอก็พอจะจินตนาการออกว่าฉากในการถ่ายแบบนั้นจะเป็นรูปแบบไหน
ตอนที่ 692 ตบหน้าใคร
หากเธอเดาไม่ผิด เธอก็พอจะจินตนาการออกว่าฉากในการถ่ายแบบนั้นจะเป็นรูปแบบไหน
เมื่อมาถึงสตูดิโอถ่ายแบบ ฉากเบื้องหลังเป็นแบ็คดรอปสีดำสนิทเกรดดี ดีไซน์เรียบง่ายสไตล์ยุโรป
เปียโนสีดำล้วนหลังหนึ่งถูกจัดวางเอาไว้ตรงนั้น ฝาเปียโนเปิดอยู่ แป้นสีขาวของมันดูโดดเด่นเป็นพิเศษ
สุดท้าย…
ก็เป็นอย่างที่เธอจินตนาการไว้ไม่ผิดเพี้ยน
เพียงแต่ว่า…
บรรยากาศในสตูดิโอนี้ กลับดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
–
ที่สมาคมสกุลป๋อ อวี๋ซงยืนอยู่ในห้องทำงานของผู้บริหารสูงสุด เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบและนอบน้อม
“คุณผู้ชายครับ คุณหลานซี ผู้จัดการของ Chopard กั๋วจี้จิวเวลรี่ สาขาเอเชีย เชิญให้คุณร่วมชมนิทรรศการอัญมณีที่อยู่ภายใต้การบริหาร และครั้งนี้ก็กำลังถ่ายนิตยาสารโฆษณาสินค้าตัวใหม่ อีกทั้งยังฝากมาด้วยว่าหากเป็นไปได้ เธอหวังว่าจะได้ทานอาหารร่วมกันกับคุณครับ”
ป๋อจิ่งชวนถือปากกาสีดำด้ามหรูไว้ในมือ ขับให้มือของเขายิ่งดูสวยสะอาดตา เขาขีดเขียนลงไปบนเอกสารราวกับไม่ได้ยินอะไร
สีหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ แม้แต่ใบหน้าก็ไม่เงยขึ้นมา เสียงเย็นในลำคอถูกเอ่ยขึ้นมาอย่างราบเรียบ
“ปฏิเสธ”
บนใบหน้าของอวี๋ซงไร้ซึ่งความประหลาดใจ
ตั้งแต่กลับเข้าประเทศมา คุณผู้ชายก็เก็บตัวเงียบมาตลอด แต่ถึงกระนั้น ในทุกๆ วัน ก็ยังมีพวกสาวๆ งี่เง่าจ้องจะมาขอพบคุณผู้ชายอยู่นับไม่ถ้วน!
ส่วนผู้หญิงที่ฉลาดหน่อยก็รอจะหาโอกาสเจอกับคุณผู้ชายหลังเลิกงาน
เรื่องแบบนี้เขาเจอมาบ่อยแล้ว อย่าว่าแต่คุณผู้ชายเลย แม้แต่เขาเองก็ระอาไม่ต่างกัน
“ครับ ผมจะรีบแจ้งให้เลขาตอบปฏิเสธไป”
อวี๋ซงหมุนตัวเตรียมจะจากไป ปรากฏว่าจู่ๆ ปลายปากกาของป๋อจิ่งชวนก็หยุดชะงักลง
“เดี๋ยว”
อวี๋ซงชะงักเท้าลง แล้วหมุนตัวกลับ “คุณผู้ชาย?”
“นิตยาสารโฆษณาสินค้าตัวใหม่ของ Chopard ?”
“ครับ Chopard เป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องประดับประจำห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ทุกแห่งของสกุลป๋อ”
นัยน์ตาสีดำขลับชะงักนิ่งเล็กน้อย “งั้นตอบรับไป”
นัยน์ตาของอวี๋ซงประกายความตะลึง
ยิ่งอยู่นานยิ่งได้เจอ
–
สตูดิโอถ่ายภาพ
เฉินฝานซิงก้มลงมองนาฬิกาข้อมือผู้หญิงตรงข้อมือแวบหนึ่ง หว่างคิ้วผูกเข้าหากันน้อยๆ
เวลานี้ ควรจะเริ่มถ่ายได้แล้วถึงจะถูก
ทว่าทุกคนในสตูดิโอต่างก็หน้าดำคร่ำเครียด หยิบจับสิ่งของที่ตัวเองรับผิดชอบไปมาด้วยสีหน้าหมดอาลัยตายอยาก ไม่พูดไม่จากันเลยสักคำ
เฉินฝานซิงอยู่ในกางเกงขายาวสีดำผ้าชีฟอง ด้านบนคือเสื้อเชิ้ตสีขาวลายทาง ผมยาวถูกมัดรวบไว้ด้านหลังอย่างกระฉับกระเฉง กวัดแกว่งไปมาอยู่ข้างหลังของเธอตามจังหวะการเดิน แลดูผ่อนคลายและปราดเปรียว
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”
เฉินฝานซิงออกปากถาม ในใจก็พานกังวลไปว่าจี้อี้อาจจะตื่นเต้นเกินไปจนการถ่ายภาพดำเนินไปไม่ได้ ไม่ก็อาจเกิดข้อผิดพลาดเรื่องการแต่งหน้าหรือไม่ก็เรื่องเวลา
เมื่อทุกคนเห็นเฉินฝานซิง ต่างก็เคารพต่อเฉินฝานซิงอยู่พอสมควร พวกเขากลับมามีชีวิตชีวาขึ้นไม่น้อย
เบื้องหน้าเบื้องหลังในวงการของเฉินฝานซิง เฉินเชียนโหรวและหลานอวิ้น ต่างก็เป็นเรื่องที่รับรู้ทั่วกัน
ไหนจะเรื่องก่อนหน้านี้ที่มีจี้อี้ซึ่งมีข่าวฉาวติดตัวเป็นเดิมพัน เธอดึงจี้อี้ออกมาจากความสิ้นหวัง พยายามพลิกสถานการณ์ครั้งใหญ่จนกระทั่งดังเป็นพลุแตก
ไม่เพียงแต่นำพาชื่อเสียงมาให้จี้อี้เท่านั้น แม้แต่ประธานอย่างเธอเองก็เป็นที่ต้องการอย่างมาก
ฝีมือและความเด็ดเดี่ยวของเธอเองก็เป็นสิ่งที่คนในวงการต่างก็ยำเกรงอยู่ไม่น้อย
“ประธานเฉิน คุณมาแล้ว”
“สวัสดีค่ะประธานเฉิน…”
“ประธานเฉินมาคุมงานจี้อี้เหรอคะ”
“ประธานเฉิน…”
หลังจากที่เฉินฝานซิงตอบคำถามของพวกเขาครบทุกคนแล้ว จากนั้นเธอจึงมองไปยังผู้ออกแบบและจัดหาอุปกรณ์ท่านหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างกัน
“นี่…เป็นเพราะจี้อี้เหรอคะ”
ผู้ออกแบบและจัดหาอุปกรณ์ท่านนั้นมีสีหน้าอ่อนลงทันที
“เปล่าค่ะ จี้อี้ทำดีมาโดยตลอด เป็น…เด็กดีมาก”
เฉินฝานซิงถอนหายใจเบาๆ ไปฟู่หนึ่ง
ใช้คำว่า ‘เด็กดี’ คำนี้มาบรรยายถึงจี้อี้ ก็ฟังดูเข้าท่าเลยทีเดียว
“ใช่แล้ว จี้อี้นิสัยดีมาก มาแต่งหน้ารอคนอื่นที่นี่ตั้งแต่เช้าแล้ว กลัวว่าตัวเองจะทำได้ไม่ดีจนทำให้เสียเวลาในการทำงาน แถมยังซื้อมื้อเช้ามาให้พวกเราอีก ทำให้เราเปิดใจขึ้นเยอะเลย นี่ก็น่าเอ็นดูมากแล้ว”
“ดาราดังที่สุดในตอนนี้ ทำเรื่องที่นอบน้อมที่สุด แต่กลับถูกศิลปินธรรมดาเบี้ยวนัด เรื่องนี้ควรจะตบหน้าใคร”