ซ่อนรักเคียงบัลลังก์ - ตอนที่ 45-1 กับดัก
ที่ตำหนักซอชอนในขณะนี้ได้มีการประชุมหารือกันลับๆ เกิดขึ้น ดึกวอลและโอรันนอนเปลือยกายกอดเกี่ยวกันไปมา เสื้อตัวนอกของดึกวอลถูกใช้คลุมร่างเปลือยของคนรักไว้อย่างหมิ่นเหม่ ด้านหน้าของทั้งคู่มีม่านผืนบางแขวนกั้นอยู่ อีกด้านหนึ่งของม่านนั้นสะท้อนเพียงเงาของทั้งคู่ที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว บรรยากาศของทั้งสองฝั่งที่ถูกม่านกั้นไว้นั้นแตกต่างกันอย่างลิบลับ ด้านในนั้นเต็มไปด้วยอุณหภูมิร้อนแรงที่กระจายไปทั่ว ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้นมีผู้ส่งสารลับที่ยืนรายงานเรื่องราวอยู่อย่างสำรวม รอบกายของเขาเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เคร่งขรึมและตึงเครียด
“พระชายาทรงเสด็จไปที่ตำหนักดงชอนพ่ะย่ะค่ะ”
การที่พระชายาฮวางแทจาไปที่ตำหนักของฮวางแทจานั้นถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องพิเศษอะไร เดิมทีแล้วก็มีข่าวลือแพร่ไปทั่วอยู่แล้วว่าพระชายาฮวางแทจาที่มาจากต่างอาณาจักรได้ทำให้ฮวางแทจาที่แสนเย็นชาหลงใหลในตัวนาง ถึงแม้ว่าในช่วงนี้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูเหมือนจะกลับไปไม่ค่อยดีดังเช่นเมื่อก่อน แต่ขึ้นชื่อว่าความสัมพันธ์ของชายหญิงแล้วนั้นย่อมมีทั้งช่วงที่ดีและไม่ดีเป็นเรื่องธรรมดา ทว่าประโยคต่อมาก็ทำให้ตาของดึกวอลเป็นประกายขึ้น
“หลังจากนั้นก็ทรงปรากฏตัวที่คุกชั่วคราวที่กรมราชองครักษ์พ่ะย่ะค่ะ”
“คุกขุมขังอย่างนั้นหรือ เหตุใดนางถึงไปที่นั่น”
ดึกวอลที่ลูบไล้เนื้อตัวนุ่มนิ่มของโอรันอยู่หยุดการกระทำทั้งหมดลงแล้วถามออกไป โอรันเองที่ส่งเสียงออดอ้อนอู้อี้อยู่ก็ผ่อนลมหายใจหอบแล้วลดเสียงลง
เนื่องจากเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในวังเหนือจึงได้มีการเปิดศาลหลวงชั่วคราวที่กรมราชองครักษ์แห่งพระราชวังกลาง ดึกวอลจับตาดูสถานการณ์ที่ศาลหลวงอย่างลับๆ มาตั้งแต่ที่มีการไต่สวนคดีเกิดขึ้น ไม่แน่ว่าการสืบสวนครั้งนี้อาจจะนำมาซึ่งคลื่นระลอกใหญ่ของการจัดระเบียนอำนาจภายในราชวงศ์ก็เป็นได้ ทว่าเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้รับฟังข่าวที่เหนือความคาดหมายเป็นอย่างยิ่ง
“น่าแปลกเสียจริงนะเพคะ เห็นว่าผู้ที่ถูกคุมขังอยู่ที่คุกในกรมราชองครักษ์นั้นมีเพียงองค์ฮวางเซจาเท่านั้น”
โอรันกระซิบเสียงเบาพร้อมกับวางมือลูบไล้ลงบนแผ่นอกชุ่มเหงื่อของดึกวอล และนางก็นำตัวเข้าประชิดที่แผ่นหลังของเขา หน้าอกนุ่มนิ่มของโอรันในตอนนี้ถูกกดทับอยู่ระหว่างนางและแผ่นหลังของดึกวอล ดึกวอลลูบไล้ไปที่ฝ่าเท้าของโอรันที่ตอนนี้ใช้ท่อนขาโอบล้อมเอวของตนไว้ แล้ววางฝ่าเท้าไว้ที่ระหว่างหน้าตักตน พร้อมกับเรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมดไปด้วย
พระชายาฮวางแทจา กโยซึล
ตำหนักดงชอน
ศาลหลวง
คุกคุมขัง
ฮวางเซจา รูแฮ
…และพระชายาฮวางแทจา กโยซึล
การกระทำของกโยซึลไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ดูแปลกยิ่ง สิ่งที่เชื่อมต่อระหว่างตำหนักดงชอนและศาลหลวงเห็นจะมีเพียงแค่รูแฮเท่านั้น ผู้ควบคุมการไต่สวนของรูแฮคือบีพาอันผู้เป็นเจ้าของตำหนักดงชอน และรูแฮก็ถูกคุมขังอยู่ที่ศาลหลวง หรือนั่นก็คือคุกในสำนักราชองค์รักษ์
“ฮวางเซจา…กับชายาฮวางแทจาอย่างนั้นหรือ” ดึกวอลเอ่ยออกมาอย่างสงสัย ช่างเป็นคู่ที่ดูไม่ควรยิ่งนัก ทว่าก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย
“หรือข่าวลือจะมิได้เป็นเพียงแค่ข่าวลือ”
“ทรงหมายถึงข่าวลือที่ว่าองค์ฮวางเซจามีใจให้กับชายาฮวางแทจาหรือเพคะ”
โอรันตอบรับคำพูดของดึกวอล พร้อมกับลูบไล้ไปทั่วทุกส่วนของร่างกายเขา ริมฝีปากที่ราวกับถูกเคลือบด้วยสีของดอกไม้ไล้เลียอยู่บนผิวสีแทนของดึกวอล โอรันหุบอ้าริมฝีปากจุมพิตไปทั่วดั่งหมึกที่แหวกว่ายอยู่ในท้องทะเล
“ใช่ ข่าวลือนั้น”
มือที่เคยลูบไล้อยู่ที่ฝ่าเท้าขยับขึ้นตามเรียวขามุ่งไปยังส่วนที่เป็นที่ลับของโอรัน ดึกวอลเอี้ยวตัวไปมองหน้าโอรัน ในตอนนี้มือของเขาได้สัมผัสกับส่วนที่นุ่มนิ่มกว่าฝ่าเท้าแล้ว โอรันส่งเสียงร้องกระเส่า ยืดขาเกี่ยวเข้ากับเอวของดึกวอลแน่น
“เช่นนั้น เช่นนั้นแล้วหากเรื่องนี้เป็นไปอย่างราบรื่น แม้เรือนจะเกิดไฟ เห็นทีว่าเราคงจะได้พบ**บสมบัติอยู่ใต้คานหลังคาเป็นแน่เพคะ”
“**บสมบัติอย่างนั้นหรือ”
“ก็**บสมบัติจากกับดักที่เราวางไว้เพื่อวันข้างหน้าของแทฮวางกุน มูอย่างไรเล่าเพคะ”
รูแฮพลันเพิ่มแรงมือที่ลูบไล้สิ่งกลมกลึงนุ่มนิ่มขนาดใหญ่ราวกับว่าเขากำลังลูบไล้ของมีค่า โอรันสะดุ้งตัว พร้อมกับเปล่งเสียงร้องออกมาเคล้ากับเสียงหัวเราะ
“อ๊ะ!”
“ไม่คิดว่าฮวางเซจาจะเข้ามาเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ด้วย”
โอรันทนไม่ไหวอีกต่อไป นางยกตัวขึ้นพร้อมกับเอื้อมแขนไปเกี่ยวไว้ที่คอของดึกวอลแน่น ดึกวอลหาได้ผ่อนแรงที่มือลง เขายังคงวนมือทั้งสองข้างอยู่กับสิ่งนั้น แล้วเขาก็ก้มหน้าลงไป ดึกวอลสูดลมหายใจลึก กลิ่นเหงื่อแสนหวานที่เปียกชุ่มอยู่ระหว่างอกลอยกระทบเข้าจมูก
“อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับชายาฮวางแทจา”
“นางที่ชื่อโฮซานาฝีมือไม่เบาเลยนะเพคะ”
โฮซานา ข้ารับใช้ที่ถูกคุมขังเนื่องด้วยนางคนคือร้ายที่พยายามจะปองร้ายฮเยจินกับลูกที่อยู่ในท้อง
โอรันพูดชื่อโอซานาออกมาจากปากของนางเอง ใช่แล้ว เหตุร้ายที่เกิดขึ้นที่ตำหนักบุกบีและเรื่องของโฮซานานั้นเป็นการกระทำของวังใต้ รูแฮเข้ามาเกี่ยวพันกับแผนการร้ายของพวกเขาอย่างไม่คาดคิด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะงุนงงอยู่บ้างในตอนที่ได้ข่าวว่ารูแฮถูกจับตัวไป แต่มันก็เป็นผลดีต่อวังใต้ ในตอนแรกดึกวอลและโอรันตั้งใจที่จะกำจัดทั้งรูแฮและลูกของฮเยจินไปพร้อมกันทีเดียวเลย
“เห็นทีว่าคงต้องเก็บฮวางเซจาไว้ก่อนเสียแล้ว”
หมับ ดึกวอลอ้าปากกว้างงับเนินเนื้อนุ่มนั้นทำให้สะโพกของโอรันยิ่งสั่นไหวรุนแรงขึ้น
“เขาน่าจะเป็นไพ่ที่ทำให้เกมนี้สนุกยิ่งขึ้น”
“พระองค์ทรงต้องชมเชยหม่อมฉันแล้ว หม่อมฉันเป็นคนไปหาตัวนางมามิใช่หรือเพคะ”
“เช่นนั้นเราควรจะให้รางวัลโอรันอย่างไรดี”
“หม่อมฉันต้องการฝ่าพระบาทแทจาเพคะ”
โอรันที่ตกอยู่ในความลุ่มหลงยื่นมือเรียวยาวออกไปกุมแก้มของดึกวอล ดึกวอลเองก็เลื่อนมือลงไล้ไปตามแผ่นหลังของโอรัน แล้วคว้าเข้าที่สะโพกของนาง หลังจากนั้นโอรันก็ได้ครอบครองดึกวอลอย่างลึกซึ้งดั่งที่นางปรารถนา
***
โฮซานาเป็นนักโทษฐานกบฏจึงไม่ได้รับแม้กระทั่งความสะดวกสบายภายในคุก ยามกลางวันนางถูกทรมานอย่างไร้ความปราณี ยามกลางคืนต้องทนกับความเหน็บหนาวอย่างสุดกลั้น เรียกได้ว่านางต่อชีวิตของตนในแต่ละวันไปอย่างยากลำบาก กลางดึกคืนหนึ่ง ขณะที่นางถูกมัดไว้กับเก้าอี้กลางที่โล่งแจ้งได้มีเงามืดปรากฏตรงหน้า