ตัวของผมในต่างโลก…. แม่งบ้า!!! - ตอนที่ 10 หมู่บ้านต้องสาป อิสรัน (5)
มีดพิธีกรรม
คืออุปกรณ์เวทแรงก์ B มีความคมในระดับที่สามารถตัดหินได้เหมือนกับเนย และมีความสามารถในการเชื่อมวิญญาณกับผนึกวิญญาณ
แต่หากมันมีความสามารถเพียงเท่านี้ คงไม่ถูกประเมินให้อยู่ในแรงก์ B
มีดพิธีกรรมมันมีอีกชื่อหนึ่งว่ากริซลบอาคม ซึ่งความสามารถอีกอย่างที่ทำให้มันน่ากลัวก็คือ..
การลบสกิลที่มีผลในการบัพ ฟื้นฟู หรือดีบัพ ให้หายไปถาวร
โดยการสุ่มสกิลที่ใช้งานอยู่ให้ถูกลบหายไป สกิลไหนจะหายไปก็ขึ้นอยู่กับดวงแล้วล่ะ
ฉึก!-
“ อ๊าก!?- ”
อยู่ๆผมก็รู้สึกชาที่ขาขวา เมื่อผมหันกลับไปก็เห็นร่างของพวกบูชาลัทธิคลั่งที่ตอนนี้แม่งไม่น่าจะใช่คนแล้ว ใช้มีดพิธีกรรมแทงมาที่ขาของผม ก่อนที่มันจะสิ้นใจไป
มันเล่นเอาผมใจเต้นตึกตักเลยแฮะ
คผมมีวามรู้สึกชาที่ขาขึ้นมาก่อนจะรู้สึกตัว พอได้สติแล้วความเจ็บปวดจากการโดนมีดแทงก็ได้แล่นเข้ามายังโสดประสาททันที มันเป็นความประมาทของผมเองที่ไม่เช็คดูให้ดีก่อนว่าฆ่ามันมันตายรึเปล่า ทำให้ตอนนี้ต้องมาเจ็บตัว ผมไม่ได้คิดอะไรมากเพราะคิดว่าฟื้นฟูฉับพลันจะช่วยให้ผมเอาตัวตัวรอดมาได้
จริงๆแล้วผมก็กลัวอยู่บ้างเหมือนกัน ไอ้การฆ่าคนเนี่ยแต่เหมือนว่าความรู้สึกของกอร์ตลอดเวลาที่อยู่ในสงครามมันจะทับกับอารมณ์ของผมจนกลายเป็นว่าผมไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อยเวลาที่ต้องสังหารคนชั่วพวกนี้แล้ว
ทันใดนั้นหน้าต่างลิสต์สกิลก็ได้มาปรากฏตรงหน้า สิ่งที่เห็นนั้น.. ทำให้ผมถึงกับหน้าซีด และใจหายร่วงไปอยู่กับตาตุ่ม
…สกิลที่โคตรสำคัญของผมมัน.. หายไป
[ ลิสต์สกิล :
–
(พาสซีพ) – จุติ ????????????? (ล็อค) [NEW!!]
คำอธิบายสกิล – พลังทุกอย่างจะไร้ขีดจำกัดเมื่ออยู่ในสภาวะจุติ
เงื่อนไขปลดล็อค – ตาย
(แอ็คทีพ) ผลาญชีพ S (ล็อค) [NEW!!]
คำอธิบายสกิล – ผลาญพลังชีวิตของเจ้าของ แลกกับการเพิ่มกำลัง ความเร็ว และความอึด ให้เกินขีดจำกัดสูงสุด
เงื่อนไขปลดล็อค – บาดเจ็บเจียนตาย โดยที่จิตใจไม่ย่อท้อ
(แอ็คทีพ) ยุทธศาสตร์จำลอง SS / ต้องห้าม (ล็อค) [NEW!!]
คำอธิบายสกิล SS – สกิลที่เมื่อใช้งานเจ้าของจะสามารถจำลอง กลยุทธ์ที่ใช้ในการเอาชนะศัตรูได้อย่างแม่นยำ และยังสามารถแบ่งทัศนวิสัยของผู้ที่อยู่ภายใต้ระยะแสดงผลของสกิลให้ผู้อื่นได้ตามความต้องการของตน ไม่เพียงแค่นั้น สกิลนี้ยังมองเห็นทุกสกิลของคนที่ต้องการจะส่องสกิลอีกด้วย
คำอธิบายสกิล ต้องห้าม – ศาสตร์ลับลำนำเผด็จการสามารถล็อคสกิลของศัตรได้ 2 สกิลจนกว่าจะมีคนใดคนหนึ่งตาย หรือเจ้าของสกิลยกเลิกเอง โดยไม่สนเงื่อนไขใดๆหรือแม้แต่ไม่ว่าสกิลนั้นจะอยู่สูงกว่าแรงค์ EX ก็ตาม
เงื่อนไขปลดล็อคสกิลระดับ ต้องห้าม – ทำความเข้าใจบุคคลใดก็ได้ ให้เข้าใจในตัวคนคนนั้นอย่างลึกซึ้ง ]
บ้าเอ้ย! ทำไมต้องเป็นฟื้นฟูฉับพลันด้วยวะเนี่ย!
แย่แล้ว… นี่มันแย่สุดๆไปเลย
แม้พวกบูชาลัทธิที่กลายเป็นครึ่งมอนสเตอร์พวกนี้จะตายกันไปหมดแล้ว ก็ยังเหลือหนึ่งปัญหาให้ผมต้องจัดการ คือเจ้าลอกอช เพียงแต่ว่าตอนแรกผมมั่นใจมากเกินไปหน่อย พอมาตอนนี้ที่ตัวเองสูญเสียสกิลฟื้นฟูไปแล้วมันเหมือนกับว่าผมเป็นพวกน่าสมเพชที่เอาแต่พึ่งพาสกิลตลอดเลย
ผมมันก็.. น่าสมเพชจริงๆนั่นแหละ แต่ก็นะ ยังดีกว่าที่จะถูกลบยุทธศาสตร์จำลองไป
ตอนนี้ผมต้องทำใจดีสู้เสือแล้วล่ะ
ผมฝืนยิ้มออกมา แล้วหยิบมีดพิธีกรรมออกมาจากขาของผมที่มันปักไว้ก่อนหน้านี้ออก แม้มันจะเจ็บและเสียเลือดอย่างมากเลยก็ตามที
“ … ”
ผมคอยดูท่าทีของมันทุกย่างก้าว ตอนนี้ผมทำได้เพียงใช้ยุทธศาสตร์จำลองแค่ X1 เท่านั้นไม่งั้นสติผมได้ดับไปก่อนแน่ ทั้งผมและลอกอชต่างก็ยังยืนเฉยเพื่อลองเชิงฝั่งตรงข้าม
ดูเหมือนว่าเจ้านี่มันจะไม่ได้ไร้สติแบบพวกมอนสเตอร์ไปซะทีเดียว แต่มันเป็นพวกมอนสเตอร์ที่พอมีปัญญาต่างหาก แบบนี้มัน.. งานยากแล้วสิ
ฟุ่ม!!
หนวดหรือสายระยางของมันพุ่งมาที่ผมรวดเดียวทั้งสิบเส้น จากขนาดตัวที่ใหญ่ของมันแล้วทำให้หนวดของมันใหญ่ตามขนาดตัว ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดีที่จะให้ผมปีนป่ายตามหนวดพวกนั้นไปให้ถึงตัวของเจ้าลอกอช
ตึง!!
หนวดทั้งสิบโจมตีมาที่ผมจุดเดียว ผมที่มีสกิลในการอ่านสถานการณ์ทำให้รู้ได้ว่ามันกำลังจะทำอะไร แม้ผมจะไม่มีแรงเต็มที่ก็ตาม ผมก็กระโดดขึ้นฟ้าเพื่อหลบการโจมตี และเพื่อให้ผมสามารถขึ้นไปเหยียบตามหนวดของมันได้
ผมวิ่งผ่านหนวดพวกนั้นไปด้วยความเร็วสูง ระหว่างทางหนวดอีก 9 เส้นที่เหลือก็คอยโจมตีผม
แต่ดูเหมือนว่ามันจะรู้ว่าผมกำลังใช้หนวดของมันเพื่อเข้าประชิดตัว จึงยกหนวดเส้นที่ผมกำลังยืนอยู่ขึ้น และสบัดขึ้นฟ้าทำให้ผมกระเด็นขึ้นไปบนฟ้าสูง
ยังดีที่ซากปรักหักพักนี้เป็นแบบเปิด ทำให้เพดานของมันมีรูไว้สำหรับแสงแดด ทำให้ผมไม่ได้รับดาเมจจากเพดาน แต่แบบนี้ก็แย่เหมือนกัน เพราะผมไม่สามารถเคลื่อนที่กลางอากาศได้
กลับกันนั้น ลอกอชใช้หนวดทุกเส้นของมันรัดตัวผมเอาไว้จากภาคพื้น ก่อนจะกระโดดตามขึ้นมา ด้วยความใหญ่โตของมันแล้วแล้วให้แรงกระแทกจากลมที่พุ่งขึ้นมามีสูงมาก จนทำให้ผมแทบจะเวียนหัว
ทันใดนั้น ขณะที่พวกเรากำลังอยู่กลางฟ้ามันดึงหนวดพวกนั้นที่รัดตัวผมอยู่เข้าหาตัวอย่างแรงขณะที่มันง้างแขนออกราวกับกำลังจะตบผม
ทันใดนั้นเปลวไฟสีเขียวก็ปรากฏขึ้นที่ฝ่ามืออันเน่าเฟะของมัน
ขยี้ + เพลิงเผาผี
“ เหี้ยยยย!!! อ๊ากกกกกก— ปล่อยกู!!! ”
ป๊าบบบ–
ผมรับแรงกระแทกอย่างจัง ความรุนแรงของมันทำเอาผมแทบสลบไปเลย อีกทั้งเพลิงเผาผีของมันยังคอยแผดเผาร่างของผมอยู่ด้วย แต่การโจมตีของมันได้ได้จบเพียงเท่านั้น
แม้จะตบผมจนผมกระเด็นไปจนสุดปลายหนวดที่มันจะดึงได้แล้วนั้น มันยังเหวี่ยงผมหมุนเป็นลูกข่าง
“ เหวอออ ”
“ หวาาาา ”
“ ว๊ากกกกก!!! ”
แล้วทุ่มผมลงพื้นอย่างรุนแรงจนพื้นดินตรงนั้นเป็นรู ไม่เพียงแค่นั้นหลังจากที่ลงพื้นมาได้สักพัก มันยังจะใช้หนวดจับร่างของผมแล้วหมุ่นไปรอบๆเพื่อให้ผมกระแทกกับต้นไม้ใหญ่โดยรอบทำให้เกิดความเสียหายมากๆ
บอกตามตรง ผมไม่เคยเจออะไรน่าหวาดเสียวและเจ็บปวดทรมาณขนาดนี้มาก่อนเลย มันทำเอาผมแทบจะเป็นบ้าเลยล่ะ
แต่ถึงผมจะเป็นแบบนี้ผมก็พยายามใช้แรงของตัวเองดิ้นให้หลุด หลังจากนั้นก็ใช้มีดนี่กรีดหนวดมันจนขาดออกจากกัน แล้วผมก็สามารถหลุดออกมาได้ในที่สุด
ผมรีบกระโดดถอยจากร่างของมันแล้วกลับขึ้นไปบนต้นไม้ทันที
พอดูดีๆแล้วร่างของมันเต็มไปด้วยศพอย่างที่สกิลบอกจริงด้วย อีกอย่างตอนนี้ผมก็พอบาดเจ็บสาหัสเอาการอยู่..
ตอนนี้ผมควรจะเอาจริงได้แล้วไหมนะ?
…
“ คุณนาร์!! เข้าไปหลบในบ้านหลังนั้นก่อนแล้วค่อยหาจังหวะสวนกลับ!! ”จิลล์
“ ครับ! ”นาร์
ตามที่คุณอัลเลียนบอก เราจะแยกไปกันสองทาง ทางคุณอัลเลียนจะไปจัดการบอส ผมไม่รู้ว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหนแต่หากเขามั่นใจขนาดนั้นก็คงต้องปล่อยเขาไป ส่วนพวกเราจะมาคอยซุ่มโจมตีและถอยไปเรื่อยๆอยู่ในหมู่บ้าน
แม้มันจะมีจมูกที่เอาไว้ดมกลิ่นดีเยี่ยมแค่ไหน มันก็ต้องพุ่งมาจากทางใดทางนึงแน่นอน
ทางคุณนาร์เองที่เป็นเพียงเด็กอายุ 15 ผมไม่ควรปล่อยให้เขาสู้มากเกินไปเพราะมันอันตรายเกินไป ในกรณีนี้ที่มันมากันมาก เป็นผมเองที่จะจัดการพวกมัน
ส่วนหนึ่งของพวกมันหากหลุดจากแผนที่ผมวางไว้ คุณอลันจะเป็นคนจัดการพวกมันเอง
ส่วนแผนที่วางไว้นั้นมันก็แสนจะเรียบง่าย.. นั่นคือ การที่ผมจะซัดพวกมันทุกตัวให้หายไปจากโลกนี้เลยไงล่ะ!!
“ ฮ่ะ!! ”
แรงจากหมัดสั่นสะท้านไปทั่วบริเวณ อีกทั้งยังส่งคลืนพลังศักดิ์สิทธิ์ที่มีความเข้มข้นสูงออกไปเป็นเวฟคล้ายคลื่นเสียง ทำให้พวกวีโกร์ฟที่ถูกปกคลุมด้วยคลื่นศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ถูกเพลิงสีทองแผดเผาจนดิ้นทุกรนทุราย
เพราะแบบนั้น การใช้หมัดที่ปล่อยคลื่นศักดิ์สิทธิ์ออกไปดูจะมีประสิทธิ์ภาพมากกว่าการใช้กริซซะอีก
ทันทีที่มีพวกมันเข้ามาในพื้นที่ของผม ผมก็จะใช้ศิลปะการต่อสู้ซัดหน้าพวกมันกลับไปทุกตัว ผมจะให้คุณนาร์เป็นคนคอยจัดการพวกมันทันทีที่เผลอ ส่วนผมจะเป็นคนประจัญหน้ากับพวกมันตรงๆเอง
เพราะผมเป็นพรีสต์นักสู้ไงล่ะ!
“ คุณอลัน! มีสองตัวไปทางนั้น!! ”จิลล์
อีกอย่าง เจ้าวีโกร์ฟพวกนี้เหมือนจะถูกดึงดูดมาด้วยแสงไฟจากโรงเตี๊ยม ทำให้มีพวกมันแห่กันมาที่นี่ในรวดเดียว แบบนั้นก็ถือเป็นเรื่องดีเช่นกัน เพราะพวกเราจะได้จัดการพวกมันให้หมดในคราวเดียวเลยยังไงล่ะ
“ เฟลมแอโร่! ”อลัน
เยี่ยม! ทางนั้นก็จัดการพวกมันไปได้โดยง่ายเลย!
แต่เหมือนว่าจำนวนพวกมันที่แห่กันมานี่จะมีมากเกินไปสักหน่อยแฮะ.. ในสถานการณ์แบบนี้คงต้องงัดไอ้นั้นมาใช้
“ ฝากทางตะวันตกด้วยนะครับคุณอลัน ”จิลล์
ส่วนคุณนาร์น่ะ นั่งดูอยู่ตรงนั้นไปเถอะครับ
ผมยกกริซเล่มนั้นขึ้นมา การที่ผมได้ยกมันขึ้นมานั้นทำให้ผมเปิดช่องโหว่ ไม่มีการป้องกันอะไรเลย
ผมตั้งท่าราวกับว่าเจ้ากริซด้ามเล็กนี่มันเป็นดาบยาวของอัศวิน
ขณะที่พวกวีโกร์ฟมันกำลังกรูเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ อยู่ๆพลังศักดิ์สิทธิ์มันก็ระเบิดขึ้นมาจากกริซเล่มนั้น ห้อมล้อมผมเอาไว้ราวกับการคุ้มครองของเทพธิดา
“ด้วยนามของสาวกของเทพธิดาอิกนิสอันเกรียงไกร ข้าจิลล์ อิลแวนน์ ขอเปิดเผยนามแท้อันศักดิ์สิทธิ์!”จิลล์
ทันใดนั้นผมก็ประกาศกร้าวถึงเทพธิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นการเปิดเผยนามแท้ของกริซเล่มนี้ ผมจึงต้องได้รับการอนุญาตจากพระองค์
ราวกับว่าเทพธิดากำลังประทับอยู่เบื้องหน้าของผม ความอบอุ่นอันหาที่สุดไม่ได้ ได้ครอบงำพื้นที่แห่งนี้ด้วยกริซของเทพธิดา แต่มันไม่ใช่เพียงแค่นั้น เจ้ากริซนี่นั้นกำลังเปลี่ยนสภาพเป็นดาบยาวเล่มหนึ่ง ที่ประดับไปด้วยออร่าสีทองงามสง่า
“ นานน์ซันน์เดร์! ”จิลล์
กริซศักดิ์สิทธิ์ B → ดาบศักดิ์สิทธิ์นานน์ซันน์เดร์ S++
ในตอนนี้ผมก็ได้อาวุธของพระองค์มาแล้ว เพราะฉะนั้นการกวาดล้างน่าจะเป็นไปได้โดยง่าย
“ …คุณจิลล์.. คุณเป็นใครกันแน่ ..”นาร์
และใช่ เพียงแค่การวาดดาบเพียงครั้งเดียว กองทัพของวีโกร์ฟในทิศตะวันออกหายไปมากกว่าครึ่ง ในส่วนของทางทิศตะวันตกนั้นผมไม่ได้กังวลเกี่ยวกับมันเลย นั่นก็เป็นเพราะว่าทางฝั่งนั้นเป็นตัวของจอมเวทระดับ 5 เองที่จะเป็นคนหยุดเอาไว้ เช่นนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหา
“ มหายุคน้ำแข็ง.. แล้วก็ เพลิงปะทุ ”อลัน
ในขณะนั้นเองเป็นเวลาเดียวกันที่คุณอลันได้ร่ายเวทมหายุค มันคือเวทที่ใหญ่สุดที่อจมเวทขั้นที่ 5 สามารถทำได้ กับเวทเพลิงปะทุที่ซึ่งเป็นเวทระดับ 4 ไปพร้อมๆกัน ตอนนี้มานาของเขาน่าจะแทบหมดตัวแล้วล่ะ
แต่ก็แลกมากับการที่วีโกร์ฟของทางฝั่งตะวันตก โดนจัดการไปหมดทุกตัว..
จะสุดยอดเกินไปแล้ว..
ชนะได้แน่ แบบนี้เราชนะได้แน่!!
ว่าแต่ว่า.. ถ้าหากคุณอลันแบบนี้ได้ ทำไมไม่จัดการเรื่องนี้ไปตั้งแต่แรกกันล่ะ? ผมล่ะงง
แต่ก็ช่างมันเถอะ …ตอนนั้นเขาอาจจะยังไม่ได้เก่งเท่านี้ล่ะมั้ง
….
การต่อสู้ระหว่างผมกับลอกอชนั้นกินเวลาไปอย่างยาวนาน ผมสามารถทำความเสียหายใส่มันได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่เพราะมันอึดมาก ด้วยเหตุนั้นหมัดเปล่าๆของผมเลยต่อยมันไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่
ผมเลยไม่มีทางเลือก นอกเสียจากจะต้องล่อมันไปที่หมู่บ้านเพื่อที่จะได้ขอความช่วยเหลือจากคุณจิลล์
อีกอย่าง พละกำลังของผมในตอนนี้ก็แทบจะไม่มีเหลืออีกแล้วด้วย.. ผมใช้เวลาในการตั้งรับสู้รบปรบมือกับมันมากเกินไป อากาารบาดเจ็บของผมก็ยังไม่ทุเลาลงเลย
ตอนนี้ผมสัมผัสได้เลยว่าความเร็วในการเคลื่อนที่ของผมไม่ได้ไวเหมือนตอนแรกที่พึ่งมาสู้ใหม่ๆ
สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คงมีแค่การล่อลอกอชไปจัดการที่หมู่บ้านสินะ
อ่ะ- เห็นคุณจิลล์แล้ว..
แล้วนั่นมันอะไรน่ะ?? ดาบเรืองแสงยักษ์?????
“ คุณอัลเลียน!! หลบ!!! ”จิลล์
ทันทีที่ผมได้ยินเสียงนั้น ผมก็รีบกระโดดขึ้นฟ้าทันที คุณจิลล์ยกดาบขึ้นมาเหนือหัวก่อนที่จะตะโกนชื่อท่าออกมา
“ โฮลี่ครอส!!! ”จิลล์
เขาทำการโจมตีมาจากระยะไกลด้วยดาบเรืองแสงสีทองนั่น คลื่นดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ออกมาเป็นรูปไม้กางเขนโดนตัวของลอกอชเข้าจังๆ
เหตุผลในการที่มันไม่หลบท่าโจมตีที่ใหญ่แบบนั้น เป็นเพราะมันพึ่งเข้าสถานะเบอร์เซิร์กไปเมื่อไม่นานมานี้ทำให้มันไม่มีสติในการคิดวิเคราะห์อะไรเลย ตอนนี้มันทำได้แต่ไล่ตามผมไปเรื่อยๆอย่างไร้สติ
“อีกครั้งนะ! ”จิลล์
“ คุณอัลเลียนเตรียมซ้ำมันได้เลย! ”จิลล์
ผมฟังที่คุณจิลล์พูด แล้วร่ายเวทเสริมพลังโจมตีกำลัง 5 ไว้ที่หมัดเนื่องจากว่ามันเป็นการร่ายเวทที่เฉพาะจุด มันเลยทำให้ใช้ปริมาณเวทน้อยกว่าเดิม 4 เท่า แล้วผมก็ร่ายเวทเสริมความเร็วอีกครั้งใส่ที่ขาของผมบวกกับเวทเสริมกำลังกายเพิ่มเข้าไปด้วย
คราวนี้ถึงเวลาที่ผมจะต้องอิมเมจภาพแล้วล่ะ ผมร่ายเวทเสริมพลังโจมตีซ้ำๆๆๆๆๆใส่ที่หมัดเพื่อที่จะให้มันต่อยหัวเข้าลอกอชนี่ทีเดียวแหลกไปเลย
คราวนี้คุณจิลล์ตั้งดาบเอาไว้กลางอกของเขาก่อนจะยกสูงขึ้นเหนือหัวของเขาอีกครั้ง
แต่คราวนี้ต่างไปจากเดิม ความหนักแน่นในปริมาณพลังศักดิ์สิทธิ์นั้นมีสูงมาก ราวกับว่าเขากำลังจะผ่ามันในฉับเดียว ซึ่ง.. ก็น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ
“ สะบั้นศักดิ์สิทธิ์!!!!!! ”จิลล์
คลื่นแสงศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ซัดเข้าร่างของเจ้าลอกอชเต็มๆ แล้วมันก็ได้กรีดร้องโอดครวญขึ้นมาจากความเจ็บปวด
กร๊ากกกกกกกก!!!!!!!
“ คุณอลัน!! ”จิลล์
คุณอลันที่พอฟื้นมานาขึ้นมาได้บ้าง ก็ได้ใช้สกิลพันธนาการที่ใหญ่ที่สุดของเขาทันที
“ กักขังปีศาจ!!! ”อลัน
โซ่ตรวนขนาดยักษ์สีแดงปรากฏขึ้นมาจากวงเวท และเข้าพันธนาการลอกอชนั่นเอาไว้ คาดว่าภายในไม่กี่นาทีมันก็จะหลุดแล้ว และนี่เองที่เป็นเวลาของผม
“ ด้วยนามแห่งข้า ขอพระองค์ทรงคุ้มครองเด็กหนุ่มผู้กล้า ขอองค์เทพธิดาทรงมอบพลังให้กับผู้กล้าหาญที่ต่อต้านมาร ขอเทพธิดาอิกนิสทรงอำนวยพร ”จิลล์
ผมกระโดดเข้าใส่มันพร้อมๆกับพรที่ได้รับมาจากเทพธิดา ที่ซึ่งคุณบาทหลวงอิกนิสอำนวยพรให้ ก่อนที่จะต่อยลงไปบนใบหน้าที่เป็นกะโหลกกวางมูสของมัน จนมันเริ่มแตกร้าวออก และด้วยแรงแห่งนามแท้ บวกกับเวทมนตร์ ได้ทำให้การต่อยในครั้งนั้น ทำให้เกิดแรงกระแทกราวกับพสุธากัมปนาท
ผมที่คิดว่ามันจะจบแล้ว ..เลยหยุด และยืนอยู่บนหัวมันทั้งแบบนั้น
แต่ผมคิดผิด มันยังเหลือสกิลประจำตัวอีก 2 สกิลที่มันยังไม่ได้แสดงให้ผมดู
หลังจากนั้น ร่างกายมันเริ่มขยับอีกครั้ง แล้วส่งเสียกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมาณ
กว๊ากกกกกกกก!!!!!!!
“ ไอ้บ้าเอ้ย!! มันยังไม่จบหรอเนี่ย!! ”
ผมรีบถอยออกมาในทันที และมุ่งตรงไปที่ที่คุณจิลล์อยู่เพื่อให้เขาช่วยรักษาแผลให้ในตอนนี้ผมต้องได้รับการรักษาบ้างเล็กน้อย ไม่งั้นแย่แน่
ลา ลอกอช ลา วีโกรฟีโอรี-
เกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ขึ้นในพื้นที่ที่เราอยู่ ก่อนที่เหล่าวีโกร์ฟทั้งหลายจะกลับมาจากความตาย และพากันเดินมาจากทางด้านหลังของลอกอช โดยที่ตัวของพวกมันมีเปลวไฟสีเขียวปกคลุมอยู่
ไม่เพียงแค่นั้น จำนวนของพวกมันยังทวีคูณขึ้นมาเรื่อยๆด้วย ยิ่งเป็นคืนบลัดมูนความแข็งแกร่งของพวกมันยิ่งทวีคูณ แบบนี้แย่ของจริงแล้วล่ะ
ลอกอช ชอกอร่า-
ถัดจากนั้นจะเป็นการคำรามและกรีดร้องครั้งใหญ่ของมัน มันค่อยๆฉีกร่างเนื้อของมันออกช้าๆ คุณจิลล์ที่เห็นแบบนั้นจึงได้บอกผม
“ คุณอัลเลียน!! อย่าให้มันเปลี่ยนร่าง!!! ไม่งั้นเราจะตายกันหมด!!!!!”จิลล์
ผมมีเหงื่อไหลลงมาท่วมหน้าแล้วล่ะตอนนี้ แต่ผมก็ยังต้องพยักหน้าก่อนจะรับดาบมาจากคุณจิลล์
ดูแล้วนี่คงจะเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์เป็นแน่แท้.. หวังว่าผมจะพอใช้สกิลของดาบได้นะ
ฟังจากคำของคุณจิลล์แล้ว ถ้าไอ้ตัวนั้นมันเปลี่ยนร่างขึ้นมาเราคงจะแย่ของจริงแน่ เพราะงั้นในตอนนี้ผมจึงรีบวิ่งเข้าประชิดตัวมันทันที ผมที่ได้รับการรักษามาบ้างได้วิ่งฝ่าวงแล้วของพวกวีโกร์ฟเข้าไปเพื่อที่จะจัดการตัวหัวหน้ามัน
ผมฆ่าพวกมันทุกตัวที่เข้ามาขวางทางก่อนที่จะกระโดดขึ้นมาใบหน้า.. ไม่สิ กระโหลกกวางมูสของมัน
พอผมมองไปที่นัยน์ตามันแล้ว ราวกับว่ามีดวงตานับพันกำลังจ้องผมอยู่เลย น่าขนลุกชะมัด
ยังไม่ทันที่ผมจะได้ปักดาบลงไป หนวดหรือสายระยางพวกนี้ก็เข้ามาขวางเอาไว้
“ อึก-… สะบั้น.. ศักดิ์สิทธิ์!!!!!!!! ”
ขวับ-
ผมใช้ท่าใหญ่แล้วหมุนตัวตัดหนวดของมันทิ้งทั้งหมด จากนั้นผมก็กระโดดขึ้น ใช้ประโยชน์จากนามแท้ของผมในการสะตั้นมันเอาไว้ 10 วินาที
“ กอร์!!!! ”
เวลาเพียงแค่นี้ ก็พอที่จะใช้สะบั้นศักดิ์สิทธิ์อีกรอบแล้วล่ะ
“ สะบั้น… ศักดิ์สิทธิ์!!!!!!!!! ”
ฉับบบ—
ผมผ่าครึ่งร่างของมันจนมันไม่สามารถทำอะไรได้อีก.. ก่อนที่จะร่างของลอกอชจะถูกชำระล้างด้วยแสงสีทอง ขณะเดียวกัน เหล่าวีโกร์ฟก็ถูกปลดปล่อยเช่นเดียวกัน..
ละอองแสงสีทองสวยสดลอยขึ้นบนท้องฟ้าที่ในยามนี้พระจันทร์ไม่ใช่สีแดงอีกต่อไปแล้ว.. เพราะว่ามันเช้าแล้วยังไงล่ะ
แต่ก่อนรุ่งสางนั้น ขณะที่ผมกำลังถือนานน์ซันน์เดร์อยู่นั้น ละอองแสงสีทองเหล่านั้นได้ก่อรูปขึ้นเป็นผู้หญิงผมยาวสลวยที่ไร้ซึ่งรูปร่าง หากเป็นตามที่ผมคิด นั่นคือเทพธิดาอิกนิสแน่นอน
สมกับชื่อของเทพธิดาของเธอเลย กิริยาของเธอราวกับว่าสามารถโอบอุ้มโลกทั้งใบ และมอบความอบอุ่นให้ทุกคนได้ ผมที่เห็นแบบนั้นก็ไม่ได้เกิดอาการตกใจอะไรเพราะเรื่องแบบนี้ก็พอมีบ้างในไลท์โนเวลของโลกก่อนล่ะนะ
ทว่า เธอนั้นได้ขยับปากอยู่สองสามครั้ง ผมหรี่ตามองเพื่อที่จะได้เห็นลักษณ์การขยับปากของเธอ ก่อนที่ละอองแสงสีทองเหล่านั้นจะกระจายตัวออกไป
“(ไว้พบกัน)… หรอ อะไรล่ะนั่น ”
ผมทิ้งเรื่องนั้นไปก่อนที่จะกลับไปหาทุกคน
…
พอเรื่องสงบลง คุณอลันเขาได้ไปเยี่ยมหลุมศพพ่อแม่ของเขา ภรรยาและลูกสาวอาการดีขึ้นจนหายเป็นปกติ นาร์กลายเป็นนายพราน ส่วนหมู่บ้านนี้ก็ค่อยๆมีคนย้ายเข้ามาเรื่อยๆเนื่องจากการค้าขายที่ดี อนึ่งเป็นเพราะเป็นทางผ่านไปออลการ์ดด้วยแหละ
ส่วนทางคุณจิลล์นั้น..
“ บ- บิช็อป!! ”
เขาหลอกสถานะของตนเองน่ะ ความจริงแล้วเขาคือบิช็อปผู้ดูแลโบสถ์ของเมืองออลการ์ด อีกทั้งเขายังเป็นพรีสต์ A แรงก์อีกด้วย
เขาบอกว่ากริซที่เขาพกมามันเป็นของที่ประทานให้โดยเทพธิดา ที่เมื่อปลดนามแท้แล้วจะแสดงพลังที่แท้จริง ผมเข้าใจได้ถึงเรื่องนั้นจึงพยักหน้าตามน้ำไป หลังจากที่ผมได้ลากับคุณอลันและนาร์แล้ว ก็ได้ตัดสินใจที่จะออกเดินทางต่อ
ไม่นานพวกเราก็ได้ไปที่เมืองออลการ์ดด้วยกัน เป็นเพราะว่าผมมากับรถม้าเร็วด้วยแหละ มันเลยเร็วกว่าการเดินเท้าธรรมดา
ผมต้องขอบคุณเขาให้มากแล้วสิ ที่พาผมมาด้วย
“งั้นก็ไว้เจอกันนะคุณอัลเลียน ”จิลล์
“ ครับ ไว้พบกันใหม่”
ผมมองภาพของเมืองนี้ด้วยตาเป็นประกาย มีคนมากหน้าหลายตา และหลายเผ่าพันธ์จริงๆ
สมกับที่เป็นเมืองแห่งการค้าเลยแฮะ
“ ที่นี่สินะ.. ออลการ์ด! ”
ตัดจบตอน
ผมมือใหม่เรื่องบรรยาฉากสู้สุดๆเลยล่ะ