ตัวของผมในต่างโลก…. แม่งบ้า!!! - บทที่ 2 ตอนที่ 49 ห้องพิเศษ พบกับ ห้อง S
นานแล้วสินะ ที่ข้าไม่ได้มาที่อัฟฟา และอารุฟานที่เป็นบ้านเกิดของภรรยาของข้า
ข้ามาที่นี่เพราะได้ข่าวว่าที่อารุฟานเองก็เคยถูกลัทธิบุกเหมือนกับที่อิสรัน ข้าจึงต้องการสืบข่าวของลัทธิให้ได้มากที่สุด
เพื่อหาการเคลื่อนไหวของมัน และหาวิธีป้องกันพวกมันไม่ให้รุกรานดินแดนของเราอีก
” ยินดีต้อนรับดยุคเจเนซิสแห่งอาร์คาร์เรียมสู่อารุฟาน”ซารา
” ไม่ได้พบกันนานเลยนะ ท่านซารา “นัวร์
” ไม่ต้องสุภาพนักก็ได้ เจ้าเองก็ถือเป็นหนึ่งในครอบครัวของเราเช่นกัน ส่วนเรื่องที่หอบเจ้ามาที่นี่คงจะเป็นเรื่องลัทธิสินะ? “ซารา
” อืม.. ที่นี่.. ค่อนข้างต่างจากเดิมมากเลยนะท่าน”นัวร์
” นั่นเป็นเพราะพวกลัทธิบ้านั่นมาบุกอาณาจักรของเราน่ะสิ โชคดีที่พวกเราและคนในอาณาจักรของเจ้าหยุดมันเอาไว้ได้ก่อน ไม่งั้นคงจะแย่แน่ “ซารา
” แล้วเรากำลังจะไปที่ไหนกันหรือ? “นัวร์
” ลาสต์โฮลเดอร์ ปกติแล้วคนนอกไม่สามารถเข้าไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้นได้ แต่ครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษ บรรพบุรุษของเราผู้ที่รู้จักลัทธิดีที่สุดอยู่ที่นั่น “ซารา
” จะอนุญาตให้เข้าได้เฉพาะเจ้า ส่วนผู้ติดตามไม่สามารถตามเข้าไปได้ “ซารา
” ขอรับ “นัวร์
หลังจากนั้น ท่านซาราก็นำทางข้าไปสู่ดินแดนสุดท้ายของโลก ที่ที่อยู่ใกล้กับจุดจบมากที่สุด
ลาสต์โฮลเดอร์
” ยินดีต้อนรับสู่ลาสต์โฮลเดอร์ “ซารา
ที่นี่มันต่างไปจากที่ที่ฉันคิดอยู่ในหัวมาก
ตอนแรกคิดว่ามันจะมีแต่ความว่างเปล่า แต่ไม่เลย มันกลับเป็นทุ่งดอกไม้โล่งกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ที่มีต้นไม้ใหญ่กับวิหารแห่งหนึ่งตั้งอยู่ก็เท่านั้น
เคล้ง!
เคล้ง!
เคล้ง!
ตั้งแต่ที่ข้าได้ก้าวเข้ามา ก็ได้ยินเสียงคล้ายกับว่ามีคนกำลังตีเหล็กอยู่เลย
ไม่นานนัก เหล่าภูติลมตัวจิ๋วก็มาปรากฏตัวต่อหน้าข้า และแสดงท่าทีสงสัย
” เสียงนั่นคือ? “นัวร์
เคล้ง!!
และเสียงตีเหล็กนั้นยิ่งหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป ข้าไม่เคยเห็นหรือได้ยินใครดีเหล็กได้สุดยอดเท่านี้มาก่อนเลย
” ไม่ต้องตกใจไป ท่านกอร์กำลังเตรียมอาวุธอยู่ “ซารา
” อาวุธ? สำหรับสงครามหรอครับ? “นัวร์
” ใช่ เราคิดว่าบางที คงถึงเวลาที่เราจะเป็นฝ่ายถล่มพวกลัทธิบ้างแล้วล่ะ “ซารา
ท่านซาราพาข้ามาที่ศาลากลางสวนดอกไม้ ก่อนที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะปรากฏตัวขึ้น ทันทีที่ข้าได้เห็น ข้าก็สามารถรับรู้ได้เลยว่านางนั้นเป็นใคร
” ยินดีต้อนรับ นายแห่งเจเนซิส “ซิมฟ์
” ข้าไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นหรอกขอรับ ท่านราชาภูติ “นัวร์
ราชาภูติ หรือ ราชันย์ภูติ คือตัวตนเพียงหนึ่งเดียวที่ปกครองเหล่าภูติทั้งที่เป็นบริวารของตน มีความแข็งแกร่งที่ทัดเทียมกับเทพีอิกนิส และเทพีอิกนอร์เลย
ส่วนใหญ่แล้วเหล่าภูติไม่มีเพศ เพียงแต่ว่าหากพวกเขาต้องการสร้างครอบครัว พวกเขาก็สามารถกลายร่างของตนได้เช่นกัน
อย่างท่านราชาภูติแห่งลมที่อยู่ตรงหน้าข้า เดิมทีนางก็ไม่มีเพศ แต่พอตัวของบรรพบุรุษกลับฟื้นมานางก็กลายเป็นสตรีโดยสมบูรณ์ และสิ่งที่ทำให้เป็นเช่นนั้น..
นั่นคงจะเป็นความรักสินะ
‘ บรรพบุรุษที่วิเวียนหมายถึงก็คงเป็นคนรักของนาง ‘นัวร์
” ข้าได้ยินมาจากสายลมว่าพวกเจ้ากำลังสืบเรื่องของมอนเทียสรึ? “ซิมฟ์
” ขอรับ ข้าอยากทราบว่าพวกมันต้องการอะไรที่นี่ “นัวร์
แต่ทว่า..
ยังไม่ทันที่นางจะได้ตอบกลับ เสียงผู้ชายคนหนึ่งก็ได้ดังขึ้นจากทางด้านหลังของข้า
” บางทีพวกมันอาจจะต้องการร่างของข้า “
” ท่านคือ.. “นัวร์
” กอร์ “กอร์
เขามีหน้าตาเหมือนกับอัลเลียน บุตรบุญธรรมของข้า แต่ดูมีอายุและความสุขุมมากกว่า
เขาให้ความรู้สึกเย็นยะเยือก และยังมีกลิ่นไอแห่งความตายอยู่รวมกันที่เขาอีกด้วย
” ไม่สิ – เจ้าพวกนั้นคงต้องการเจ้านี่ “กอร์
เขาหยิบสิ่งหนึ่งขึ้นมา มันคล้ายกับสไลม์ แต่ไม่ใช่สไลม์
” นั่นคือ.. ? “นัวร์
” เรโมดิช อาวุธแรงก์ S ที่ข้าตีขึ้นมาเองกับมือเลย “กอร์
… อะไรนะ..
อาร์ติแฟกส์ S แรงก์ที่มีค่าดั่งสมบัติระดับชาตินั่นน่ะนะถูกมนุษย์ตีขึ้นมา!?
ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย..
” แล้วก็นี่ “กอร์
เขาหยิบคันศรขึ้นมาอันหนึ่ง มันเป็นคันธนูที่อฝงไปด้วยพลานุภาพ แข็งแกร่งขนาดที่ข้าสามารถจับสัมผัสได้โดยไม่ต้องใช้แม้กระทั่งมานารึออร่าเลย
” คือ.. ” นัวร์
” อ้อ! สิ่งนั้นคงจะเป็นของขวัญของมิกะสินะที่รัก! “ซิมฟ์
” ใช่ ข้าใช้เวลาในการตีมันร่วมสามวันสามคืน เนื่องจากว่า.. มันก็ใกล้จะถึงวันเกิดของเหลนของข้าแล้ว ข้าเลยอยากจะทำอะไรให้นางสักหน่อย “กอร์
ไอ้นั่นอะนะที่จะเอามาเป็นของขวัญให้ลูกหลาน?!
ไม่ว่าจะดูยังไงระดับของมันก็คงไม่ต่ำกว่าสมบัติระดับชาติแน่นอน! นี่ท่าน.. ทำของแบบนี้ราวกับว่าเป็นเรื่องง่ายเลยรึ!?
” งั้น.. เจ้าหนุ่ม ข้าคงจะฝากเจ้าเอาไปให้เหลนข้าที่โรงเรียนได้ใช่ไหม? “กอร์
” แต่-.. “นัวร์
” แน่นอนว่าแลกกับข้อมูลของมอนเทียส “กอร์
เห็นทีคงต้องตบปากรับคำของเขาซะแล้วล่ะ
ก็นะ ข้ามาที่นี่เพื่อหาข้อมูลนี่
ในเมื่อการทำแบบนั้นจะทำให้ข้าได้สิ่งที่ข้าต้องการ ข้าก็จะทำ อีกอย่าง การไปส่งของล้ำค่าแบบนี้ให้คุณหนูจากดินแดนเอล์ฟก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร
” ตกลงไหม? “กอร์
” ขอรับ! “นัวร์
…
” เศษเสี้ยวของกอร์.. “อิกนิส
สถานที่ในการใช้เรียนในคาบนี้คือสนามกีฬาของโรงเรียนนั่นเอง ทว่ายังไม่ทันที่ครูจะเข้ามา อิกนิสที่ราวกับเป็นคนละคนกับทีแรกก็ได้เข้ามาคุยกับผม
เธอเปล่งออร่าอันศักดิ์สิทธิ์ออกมาเป็นจำนวนมาก แต่พลังพวกนั้นมันก็เทียบกับมิคาเอลที่เป็นอัครเทวทูตไม่ได้เลย
แต่ยังไงซะ เธอก็ยังเป็นเทพอยู่ดี.. คือผมหมายถึงเทพีอิกนิสที่เป็นคนคุมร่างของอิกนิสอีกทีน่ะ
” รู้จักกับกอร์ด้วยหรอครับ.. “
รู้สึกว่าเริ่มมีสายตาจับจ้องมาที่ทางนี้มากขึ้นเรื่อยๆแล้วแฮะ ทั้งห้องเรา และอีกห้องหนึ่งที่อยู่อีกด้านนึงเลย
” แน่นอน… ก็กอร์น่ะ เป็นคนที่ฆ่าล้างเหล่าเทพแทบทั้งหมดไง จะเหลือแค่ข้า.. กับเทพอีกไม่กี่องค์ ที่รอดมาได้ เพียงเพราะปีศาจนั่น.. สงสาร “อิกนิส
” ช่างเถอะ- เจ้ากับกอร์ แม้จะดูเหมือนกัน แต่ก็มีบางอย่างที่ต่างกันอยู่สินะ “อิกนิส
” และปีศาจนั่นเอง.. ก็ยังไม่ตาย “อิกนิส
เธอรู้สินะ
จะว่าไป ความรู้สึกที่ได้รับจากบรรยากาศที่เธอแผ่ออกมามันกดดันอย่างบอกไม่ถูก ไม่เหมือนกับครั้งแรกที่เราได้พบกัน
ตอนนั้นเธอ.. ดูอบอุ่นกว่านี้มากเลย
” อืม.. “อิกนิส
เธอจับมือของผมขึ้นมา
ผมสงสัยในการกระทำนั่น
ไม่นานนัก อิกนิสก็แสดงด้านที่ผ่อนคลายให้ได้เห็น
” ขอโทษนะ ข้าแค่อยากจะยืนยันอะไรนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง “อิกนิส
” ข้าเองก็ไม่ได้เกลียดกอร์เพียงเพราะเขาฆ่าล้างเผ่าพันธ์ของข้าหรอกนะ จริงๆแล้วตอนนั้นข้ายังเด็กมากเลยไม่ได้รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากนัก แต่ข้าก็รู้ว่าคนที่เขาฆ่าทั้งหมดนั้นเป็นเทพที่เลวทราม “อิกนิส
” จริงๆแล้วข้าขอบคุณเขามากเลยล่ะ เพราะที่ข้ามีทุกวันนี้ได้ก็เพราะเขาเลย ยังไงก็.. ฝากขอบคุณเขาด้วยนะ “อิกนิส
รอยยิ้มอัยอบอุ่นของอิกนิส ทำให้ตัวผมแทบละลายจนจือหนานต้องเข้ามาดูอาการในทันที
” จะมาพ่ายเพราะรอยยิ้มของสตรีไม่ได้นะบอส “จือหนาน
” ช่วยไม่ได้นี่.. “
BLESS – พรของราชันย์ภูติแห่งลม
[ ทำให้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระกลางนภากาศ สามารถเคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูงขณะที่อยู่บนท้องฟ้าที่มีสายลมพัดผ่าน และสามารถฟังเสียงหรือพูดคุยกับสายลมได้ ]
สายลมที่พัดผ่านเข้ามา ได้กระซิบบอกกับผม
~ข้ารู้สึกไม่ดีเท่าไรนัก ระวังตัวอยู่ตลอดนะขอรับ~
‘ อืม ‘
มันพูดเหมือนกับลูซี่เลย ที่ว่าผมจะมีอันตรายน่ะ ผมมั่นใจว่าช่วงที่ซาตานนี่อันตรายแล้วนะ แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไร
แล้วนี่คือ.. กำลังจะมีอะไรเกิดขึ้นกับผมเร็วๆนี้หรอ?
ควรจะรู้สึกยังไงดีเนี่ย
” อ- เอ่อ… ขอโทษที่ท่านอิกนิส.. เสียมารยาทนะคะ! “อิกนิส
และนี่… คงจะเป็นเจ้าของร่างตัวจริงสินะ
เด็กสาวที่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ของเทพีแห่งรุ่งอรุณ มีสีผมและสีตาราวกับแสงแดดยามเช้าเลย
ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงมีคนชื่นชอบมากมาย
อีกอย่าง.. คงจะเป็นเพราะนิสัยขี้กลัวของเธอที่ทำให้ผู้ชายหลายคนหลงเสน่ห์สินะ
อื้ม… น่ากลัวจริงๆ
” หือ? “
” ? “จือหนาน
อยู่ๆผมก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังกระตุกชายเสื้อของผมอยู่ ผมจึงได้หันไป
… โอ้
วิกตอเรียนี่เอง
” ดีใจที่ได้เจอค่ะมาสเตอร์ “วี
มาสเตอร์หรอ..
ผมนึกย้อนกลับไปยังช่วงที่ผมยังอยู่อัฟฟาเป็นวันสุดท้าย วันนั้นที่อารุนฟานได้จัดงานเลี้ยงให้กับเหล่าผู้กล้าหาญทั้งหลาย
และเหล่าคนที่ได้ช่วยเมืองไว้ ซึ่งวีเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน มันเป็นวันที่น่ายินดี และเจ็บปวดสำหรับผมในเวลาเดียวกัน
ภาพก่อนหน้าที่ผมเห็น เป็นเมืองที่ล่มสลาย กับการต่อสู้สุดจะเว่อร์วังของผมและจอมปีศาจอย่างลูซี่ แน่นอนว่าผมไม่ได้ชนะเธอมาด้วยพลังของตัวผมเอง แต่มันก็ทำให้ผมรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
และในงานเลี้ยงในคืนนั้น ก็เป็นจังหวะที่วี.. ได้กลายมาเป็นอัศวินของผม
นั่นเลยน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เธอเรียกผมว่ามาสเตอร์
ผมเองก็ไม่ได้ติดอะไรหรอกนะ
แต่มันมีคนมองมาทางนี้มากเกินไปหน่อยน่ะสิ
” ไม่ต้องสนใจคนพวกนั้นหรอก… “วี
” วันนี้.. ข้าอยากอยู่กับมาสเตอร์ นานๆ.. “วี
จือหนานเริ่มมองวิกตอเรียแปลกๆ
‘ แต่นั่นมันหน้าที่ข้านะ ‘จือหนาน
แม้มันจะฟังดูแปลกๆ แต่เวลาที่สองคนนี้ต้องกันมันก็ดูตลกดีเหมือนกัน
” เธอไม่มีคนใช้หรอวี? “
” ข้าถูกยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ เป็นเพราะว่าข้าเป็นอัศวินของท่าน.. มันเลย ทำให้ข้าอยู่ในฐานะคนใช้เช่นเดียวกัน “วี
” คนใช้นี่.. เก่งพอๆกับอัศวินเลยหรอ? “
” โดยทั่วไปแล้ว.. ก็เป็นบางครอบครัวน่ะค่ะมาสเตอร์ “วี
” อ๋อ “
งี้นี่เอง
” นี่ มาสเตอร์ “วี
” มีอะไรเรอะ? “
เธอจ้องหน้าผมผ่านหมวกเกราะที่สวมใส่อยู่ทุกช่วงเวลา ความรู้สึกเวลาทีมองเธอมันเหมือนกับกำลังมองดูลูกแมวน้อยขี้อายยังไงยังงั้น
แค่ลักษณะการแสดงออกของเธอมันเหมือนกับหมาป่าก็เท่านั้น
จะว่าไปแล้ว.. ออร่าที่เป็นสัตว์เลี้ยงของผมเองก็เป็นหมาป่านี่เนอะ
คู๊ว~
แล้วเจ้าออร่าตัวน้อยก็มุดตัวขึ้นมาจากสูทที่เป็นชุดประจำตัวพ่อบ้านของจือหนานที่ใส่อยู่ซะงั้น
” เดี๋ยวสิออร่า! “จือหนาน
” … น่ารักจัง.. “วี
วีที่ได้เห็นออร่าแล้ว ก็ต้องเกิดอาการที่เรียกว่าใจฟูจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ เลยอยากจะอุ้มเจ้าตัวเล็กนี่ขึ้นมา
” ขออุ้มได้ไหม “วี
” … ลองดู “จือหนาน
และจือหนานเองก็ไม่ได้รังเกียจอะไร แถมดูนางจะสามารถเข้ากันได้ดีกับวิกตอเรียอีกต่างหาก
เห็นแบบนั้นผมก็ดีใจล่ะนะ
ทีนี้.. เมื่อไหร่อาจารย์จะมากันล่ะเนี่ย?
” รอนานไหมพวกนาย “มอร์แกน
อ้ะ- พูดถึงก็มาเลยแฮะ จารย์มอร์แกน
” วันนี้ช่วงบ่ายเราจะเรียนร่วมกับห้อง S กัน สคาร์ฝากเธอต่อด้วย”มอร์แกน
” อา ก็.. คาบเรียนของเราจะเป็นอะไรง่ายๆ อย่างการล่ามอนสเตอร์ “สคาร์
” ฉันมั่นใจว่าพวกแกคงจะเคยสู้กับมันมาบ้างไม่สักตัวก็เป็นฝูง แต่ไอ้สิ่งที่ฉันจะให้พวกแกสู้ด้วยเนี่ย คือเกรตโกเล็ม “สคาร์
เกรตโกเล็มหรอ? คงจะคล้ายๆพวกยักษ์หินผู้พิทักษ์โบราณสถานอะไรแบบนี้ล่ะะมั้ง
” แรงก์ S “สคาร์
โอ้ แถมยังเป็นแรงก์ S .. ที่เป็นแรงก์ระดับสูงด้วย
ผมตั้งใจฟังครูอย่างดี จนกระทั่งครูมอร์แกนได้ทักผม
” นายไม่ต้องนะอัลเลียน “มอร์แกน
” อ่าว ครู? ไหงงั้น? “
” เพราะนายเจ็บตัวอยู่น่ะสิ ” ครูว์
อยู่ๆครูว์ก็เดินเข้ามาคุยกับผม เธอกระซิบข้างหูผม ด้วยลมอ่อนๆนั้นมันทำให้ผมถึงกับขนลุก
ตัวของเมที่เห็นพอดีก็ค่อนข้างที่จะแสดงสีหน้าที่ไม่พอใจออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ผมหันไปทางเมเดียร์พอดี แต่ก็เห็นว่าเธอกำลังหลบหน้าผมอยู่เลยได้สบตากับลูอิสแทน เธอที่ไปทำแผลที่ตาซ้ายมาได้โบกมือให้กับผมร้อมรอยยิ้มอันขมขื่น
ผมล่ะอยากจะเห็นจริงๆว่าเธอเจอเข้ากับอะไร
“ อา แล้วก็คราวนี้เราจะแยกกันเป็นกลุ่ม คละห้องกันกลุ่มละ 4 คน ”มอร์แกน
“ หมายความว่าในกลุ่มหนึ่งจะต้องมีห้องพิเศษ 2 คนและห้อง S 2 คน เข้าใจไหม ”สคาร์
นักเรียนที่กำลังฟังที่ทั้งคู่พูดอยู่ก็ได้พยักหน้า หลังจากนั้นครูก็ได้ปล่อยให้พวกนักเรียนจับกลุ่มกันในทันที
ผ่านไปสักพัก หลังจากที่ทุกคนมีกลุ่มครบแล้ว อาจารย์ก็จะเริ่มการทดสอบแบบทีมในทันทีเลย โดยที่ปราศจากการมีส่วนร่วมของผมอ่ะนะ
“ เอาน่า ไม่ต้องเศร้านะที่อดสนุกน่ะ ”ราม
“ ราม…. ”
“ นายมันน่ากระทืบชะมัด ”
“ เอเฮะ~ ”ราม
เอ้ออ แซวกันจังเลยน้า ไอ้หน้าหล่อนี่หนิ