ตัวของผมในต่างโลก…. แม่งบ้า!!! - บทที่ 2 ตอนที่ 53 ความรู้สึกของจือหนาน (1)
ไม่คิดเลยนะว่าข้าจะได้เห็นอะไรที่มันอลังการเช่นนี้
ทีแรกข้าแค่อยากจะแกล้งเล่นก็เท่านั้นเอง
แต่สงสัยข้าคงจะเล่นแรงเกินไปหน่อย
” … “เฉินเซียน
ปราณของเจ้าหนูเหมือนกับพวกลัทธิมารเลย
แต่มีความบริสุทธ์และเข้มข้นกว่าในระดับที่สูงมาก
มันคงจะกลายเป็นปีศาจไปแล้วสินะ
สภาพแบบนั้น เจ้าหนูนี่คงจะหมดสติไปแล้วสินะ งั้นเจ้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าข้าก็คงจะเป็นสัญชาติญาณาณสุดท้ายที่เหลืออยู่ล่ะสินะ
บรรยากาศรอบตัวน่าเกรงขามใช้ได้
ลมหายใจที่เจ้าหนูนี่ปล่อยออกมามันรุนแรงเสียจนทำให้ผืนหญ้าโดยรอบสั่นไหวอย่างรุนแรงได้เลย
“ ครีเช่ต์ ”
หือ?-
ฟุบ-
อะไรกัน?
เพิ่มความเร็วขึ้นอีกอย่างงั้นเรอะ?
เจ้าหนูพุ่งเข้ามาหาข้าด้วยความเร็วสูง ก่อนที่จะเหวี่ยงหมัดขวาใส่ข้า
มันดูเป็นการโจมตีที่เรียบง่าย และสามารถดูออกได้ไม่ยาก แต่ทว่าแรงกดทับที่เจ้าหนูนี่ส่งออกมานั้นมัยไม่ใช่ธรรมดาเลย
สมแล้วที่เป็นเด็กที่ข้าถูกใจตั้งแต่แรกพบ
อัธยาศัยดี มีสัมมาคารวะ รู้กาลเทศะแถมยังแกร่งอีกต่างหาก
มีหรือที่หญิงชาวเจียงหูจะไม่ชอบ? ข้าชักจะเข้าใจรสนิยมของลูกสาวข้าทั้งสองซะแล้วสิ
แต่ข้ากังวลจัง ว่าหลิงเอ๋อร์จะถูกทิ้งให้อยู่ข้างหลัง เพราะนางนั้นเป็นคนปากไม่ตรงกับใจและฉุนเฉียวง่าย บางทีอาจจะไม่ค่อยได้รับความสนใจจากคนที่นางชอบสักเท่าไร
กลับกันตัวของพี่สาวของหลิงเอ๋อร์นั้นเป็นคนที่จะทำอะไรก็จะพูดออกมาตรงๆ ทั้งยังพอถูกใจใครเข้าแล้วจะติดตามคนผู้นั้นอย่างสุดใจอีก
หน้าตาก็จัดว่าดี ติดตรงที่อาจจะแสดงอารมณ์ยากนิดหน่อย ไม่แปลกที่เจ้าหนุ่มนี่จะติดใจ
อื้มๆ ก็ทั้งคู่เป็นบุตรีของหลินหลินกับข้านี่นะ
” อา…!! “
สติดูจะไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเลยนะเจ้าหนูนี่
มันรัวหมัดใส่ข้าไม่ยั้ง แถมยังผนวกเข้ากับเวทมนตร์และกระบวนท่าส่วนตัวของมันทำให้รับมือกว่าเมื่อสักครู่เยอะ
ก็.. ข้าก็ปัดการโจมตีพวกนั้นเรื่อยๆล่ะนะ มันไม่ได้มีอะไรมากนักหรอก
แต่ยังไงซะ เด็กก็คือเด็ก อารมณ์ที่แสดงออกมาของเจ้าเด็กนี่ในร่างแบบนี้มันบ่งบอกได้ดีว่ามันกำลังโกรธอยู่ล่ะ
และแน่นอนว่าเมื่อใดที่ตนแสดงอารมณ์ออกมามากจนเกินไป จุดอ่อนที่สำคัญที่สุดก็จักถูกเปิดเผยให้ได้เห็นกัน
หืม?
อยู่ๆก็หยุดนิ่งไปเลยแฮะเด็กนั่น
” ย- หยุดเลยนะเฟ้ย- ส่งร่างนี้..มาให้ฉัน!!”
อะไรน่ะ? ตีกันเองในร่างเรอะ?
ฮึ่ม ข้าจะอยู่ดูสักหน่อยก็แล้วกัน
” ฟู่ว.. “
วู้ว ถอนหายใจด้วยวุ้ย นี่แสดงว่ากำลังจะแสดงอะไรเด็ดๆให้ข้าได้ชมอีกแล้วล่ะสิท่า!
อื้ม ข้าชอบร่างก่อนหน้านี้ของเจ้าหนูนี่ที่ไม่ใช่ร่างปีศาจนั่นนะ
เอ.. อั้ยหยา… มันเรียกว่าอะไรหว่า?
ปัจฉิมศึก ล่ะมั้ง?
” ฮว๊าากกก!!!! “
เหมือนจะทะเลาะกับตัวเองเสร็จแล้วนะนั่น และหลังจากที่เสียงคำรามได้สิ้นสุดลง ออร่าที่ส่งออกมาพร้อมๆกับเสียงก็ได้ทำให้พวกพืชพรรณต่างๆที่เคยขึ้นอยู่ที่นี่ ต่างก็ตกตายกันไปเกือบทั้งหมด
เป็นพลังที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
พอมองไปที่เจ้าหนูนี่ ก็พบว่าตัวของมันนั้นเหมือนจะได้สติกลับมาแล้ว แถมพลังที่ได้รับมายังมากกว่าร่างปีศาจเมื่อสักครู่แบบดิบๆซะอีก
ถือว่าน่าพอใจเลยทีเดียว
” ไงล่ะไอ้หนู พอใจไหม”เฉินเซียน
” …. คุณ.. ทำให้ผมเป็นแบบนี้? “
” อย่าเข้าใจอะไรผิดไปสิไอ้หนู “เฉินเซียน
” ข้าก็แค่ฆ่าเจ้าไม่ได้ก็เท่านั้น เฉพาะในตอนนี้ล่ะนะ”เฉินเซียน
จริงๆที่ข้าพูดไปนั้นข้าแค่อยากพูดเล่นเท่านั้นเอง
เคยได้ยินไหมว่า”พูดเล่นทีจริง”น่ะ
คงจะไม่เคยล่ะสิ
เพราะข้าพึ่งนึกขึ้นมาได้เมื่อสักครู่นี่เอง
…
ผมจับสังเกตถึงท่าทางของลุงคนนี้ได้
แม้ภายนอกจะดูโหด น่ากลัว แต่เอาเข้าจริงแล้วเขาชิลกว่าที่คิด
ผมพึ่งรู้ตัวว่าตัวผมมีร่างแบบนี้ด้วย
มันคงเป็นเพราะซาตานล่ะมั้ง ของขวัญที่ยัยนั่นบอกไว้คงจะเป็นเจ้านี่นี่แหละ แต่มันก็น่าโมโหอยู่นะ เพราะเงื่อนไขการเปิดใช้ร่างนี้มันเป็นอะไรที่ผมไปถึงได้ยาก
อย่างการใช้งานมันในครั้งนี้ คือการที่ความโกรธ ของผมพุ่งไปจนทะลุปรอท แล้วเอาความโกรธเหล่านั้นมาแปรเปลี่ยนจนเป็นพลัง
หนึ่งสิ่งที่ทำให้สิ่งนี้เป็นของขวัญที่ดีคือ ลองกินุสจะไม่สามารถควบคุมสกิลและเวทมนตร์ของผมได้อีกต่อไปแล้วยังไงล่ะ
เพราะงั้นก่อนหน้านี้ผมถึงสามารถใช้ ครีเช่ต์ ได้แถมยังมีประสิทธิภาพสูงมากอีกต่างหาก
ต้องขอบคุณลุงเฉินเลยนะเนี่ย
” ต่อเลยมั้ยไอ้หนู? “เฉินเซียน
เหมือนเขาจะดูเจตนาของผมออก เลยยิ้มขึ้นก่อนจะถามกับผม
ผมยิ้มให้เขากลับไปก่อนจะตั้งท่าโดยการก้าวเท้าขวาออกไปข้างหน้า ย่อตัวลง กางแขนออกมาเล็กน้อย
ไม่นานนัก มานาจำนวนมหาศาลก็ได้พุ่งออกมาจากร่างของผม
ไม่เพียงแต่ร่างปีศาจนี้จะทำให้การควบคุมมานาผมแม่นยำขึ้น มันยังเพิ่มพลังเวทให้กับผมเป็นเท่าตัวเลย
ART – พญานาคราชร่ายรำ
อนันตนาคราชประทับอินทร์
” ต่อครับ “
จริงๆผมก็พูดไปงั้นแหละ ทั้งที่แท้จริงแล้วร่างกายของผมนั้นมันถึงขีดจำกัดไปนานแล้ว แต่ผมก็ยังดั้นด้นที่จะสู้ต่อ ด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียว..
เพราะการต่อสู้น่ะ มันสนุกยังไงล่ะ!!
” ไหนๆ เจ้าก็เอาจริงทั้งที “เฉินเซียน
” แล้วจะให้พ่อตาคนนี้น้อยหน้าได้เช่นไร? “เฉินเซียน
ลุงเฉินเร่งปราณขึ้นมาจนถึงจุดๆหนึ่ง ที่พลังปราณเหล่านั้นมันควบแน่นจนเป็นปราณสีทองที่เปล่งประกายเป็นสีขาวบริสุทธ์
ไม่นานนักผมของลุงเฉินก็ได้เปลี่ยนเป็นสีขาว และยาวขึ้นอย่างเก็นได้ชัด หางมังกรและเขาของมังกรก็ได้เผยออกมา เป็นรูปลักษณ์ที่คล้ายคลึงกับของมังกรจีน
เขามังกรมันมนๆ ไม่เหมือนกับของตะวันตกที่จะออกไปทางแหลมและเหลี่ยม มันทำให้เขาดูเท่และทรงสง่าเป็นอย่างมาก
ที่สำคัญคือเขาได้อัญเชิญศาสตราประจำตัวของตัวเองมาลอยอยู่ด้านหลังตัวของลุงเป็นวงแหวน
ซึ่งอาวุธแต่ละอย่างนั้นมันส่งออร่าที่น่าเกรงขามออกมาอย่างถึงที่สุด
ใดๆเลย คือมันงดงามมาก
บัญญัติเซียน – ราชามังกร
” ข้าจะเอาจริงสัก 20% ก็แล้วกัน “เฉินเซียน
…
” ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ในร่างนั้นได้ไม่นาน “เฉินเซียน
” ฉะนั้นมาทำให้จบๆกันไปเสียเถอะ “เฉินเซียน
ผมรู้ดีเลยล่ะว่าที่เขาพูดนั้นหมายถึงอะไร
จริงของเขา ตอนนี้ร่างปีศาจนี้ของผมมันอยู่ได้ไม่ถึงสองนาทีด้วยซ้ำ เพราะงั้นจึงต้องจบศึกนี้ให้เร็วที่สุด
ต้องขอบคุณซาตานเลย ทีทำให้ผมที่อยู่ในร่างนี้ไม่สามารถรับรู้การเจ็บปวดอะไรได้อีกต่อไป
แต่พอหลุดจากสภาวะนี้แล้วความทรมาณคงจะตามมาเองเป็นทวีคูณนั่นล่ะ
ขอบคุณนะลุงเฉิน ที่ให้ผมได้ลองพลังใหม่
เพราะงั้น…
ขอใส่สุดเลยละกัน-
ART – พญานาคราชร่ายรำ
อนันตนาคราชประทับอินทร์
MAGIC – ครีเช่ต์ (เสริมกำลังชั้นสูง)
MAGIC – นีราร์ (กระทบระเบิด)
MAGIC – ลัวร์เช่ต์ (สถิตร่างอสนี )
ฟ้าได้ผ่าลงมายังร่างของบี๋ที่ตั้งท่าเตรียมอยู่ แล้วมันก็ได้กลายมาเป็นพลังให้กับเขา
” ยกระดับ “
วงแหวนเวทขนาดใหญ่จำนวนสามวงปรากฏขึ้น และได้สลักเวทสายสนับสนุนที่เขาพึ่งร่ายลงบนร่างของตัวเขาเอง
แล้วเนื่องด้วยการที่เขายกระดับพลังเวทมนตร์ของตนเองขึ้นมา ทำให้พลังที่มากจนเกินไปล้นจนออกมาข้างนอก
ไม่เพียงแค่นั้นเขายังมีร่างของพญาอนันตนาคราชสายฟ้าเป็นบริวารอีกนับร้อยพันเศียร
ท่ามกลางสายฝนเช่นนี้ มันทำให้พลังของเขามันแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปอีก
” อืม~ “เฉินเซียน
เฉินเซียนยิ้มขึ้นอย่างพอใจ
ตัวของเขาในร่างนี้เรียกได้ว่าไร้เทียมทาน บัญญัติเซียนของเขานั้นแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าพลังของบี๋ในตอนนี้มาก
ปราณที่ส่งออกมาจากร่างของเขาตลอดเวลานั้น ทำให้ทุกสิ่งรอบตัวเคลื่อนไหวช้าลงจนเห็นเป็นภาพสโลว์โมชั่น แม้แต่หยาดฝนเล็กๆที่โปรยลงมาจากฟากฟ้าด้วยความเร็วสูงก็ยังร่วงหล่นมาช้ามากๆ
เฉินเซียนมองไปที่ร่างของบี๋ ก่อนจะสังเกตเห็นได้ว่าตัวของบี๋นั้นได้หายไปจากตรงนั้นแล้ว
ตู้มม!!!!
บี๋พุ่งเข้ามาพร้อมกับฝูงนาคสายฟ้าด้วยความเร็วสูง จนเกิดเป็นโซนิคบูมขนาดย่อมๆ ทำให้ผืนดินที่กลายเป็นแอ่งน้ำถูกความรุนแรงนั้นซัดสาดกระจาย
บี๋ง้างขามาแต่ไกล
ก่อนจะปล่อยลูกเตะที่เต็มไปด้วยพลังนั้นออกไป
ปัก-
เฉินเซียนใช้เพียงแค่มือเปล่ารับหมัดนั่นเอาไว้
เพียงแต่ว่า-
ฟูม- ตู้มมมมมมมม!!!!!
แรงกระแทกที่ได้อัดเข้ามานั้นสามารถทำให้ร่างของเซียนคนนั้นสั่นสะท้านได้เลย อีกทั้งทันทีที่เท้าของเขาได้กระทบกับฝ่ามือของเฉินเซียน ได้ทำให้เกิดระเบิดขนาดใหญ่ที่มีสายฟ้าพุ่งกระจายไปทั่วบริเวณ
” โห~ “เฉินเซียน
เฉินหันกลับไปมองด้านหลังของเขา ก็ต้องพบว่าการเตะเพียงครั้งเดียวของบี๋ในร่างปีศาจนั้น ได้ทำให้พื้นที่ในระยะภูเขาหนึ่งลูกถัดไปจากนั้น ถูกทำลายซะจนไม่เหลือชิ้นดี
ทำให้ภูเขาลูกนี้เกิดเป็นรูโหวขนาดใหญ่เลย
เฉินเซียนยิ้มอย่างพึงพอใจ เขาพอใจเป็นอย่างมากที่คนที่จะลายมาเป็นเขยของเขานั้น มีควาทแข็งแกร่งไม่ต่ำไปกว่าตัวเขาเองแน่นอน
” !? “เฉินเซียน
ทันใดนั้นเปลวเพลิงสีแดงของเทพก็ได้ปะทุขึ้นในคราบร่างปีศาจของบี๋ รอยสักของสัตว์เทพทั้งสองปรากฏขึ้นบนร่างอีกครั้ง
ART – ครุฑนาคาสาปสูญ
ปัจฉิมศึก
” ปักษาเพลิงบรรลัยกันต์!! “
ถัดจากการเตะ บี๋ก็จะโจมตีเขาด้วยการต่อยเลยในเวลาต่อมา
” ฮ่าฮ่าฮ่า!! ยอดเยี่ยม!! “เฉินเซียน
ลุงเฉินกำหมัดแน่น แล้วปล่อยหมัดออกมาชนกับหมัดของบี๋
การปะทะกันในครั้งนั้นทำให้อากาศโดยรอบสั่นสะเทือน และได้เกิดแรงกระแทกที่ทำให้เกิดลมกรรโชกขึ้นมาอย่างรุนแรง
ไม่จบเพียงแค่นั้น พวกเขาทั้งคู่ก็รัวหมัดออกมาปะทะกัน ทำให้ผืนดินสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ด้วยความเร็วของพวกเขานั้น ทำให้แรงกระแทกมันรุนแรงเสียจนพื้นที่พวกเขาได้เหยียบอยู่เกิดเป็นหลุมบ่อขนาดใหญ่ขึ้น
ผ่านไปได้ช่วงหนึ่ง เฉินเซียนถีบร่างของบี๋จนปลิวออกไปไกล และเขาก็ส่งศาสตราวุธทั้งหมดของตัวเองพุ่งเข้าใส่บี๋ตามมาติดๆ
พอบี๋ทรงตัวได้ก็คว้าดาบของเฉินเซียนที่ส่งมาโจมตีมาใช้พักหนึ่ง บี๋ใช้ดาบเล่มนั้นปัดศาสตราวุธทุกชนิดออกไป
ถึงจะไม่สามารถหลบอาวุธมีคมบางชิ้นได้ โชคก็ยังดีที่เขานั้นไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก
ขณะที่บี๋นั้นถือศาสตราวุธอัญเชิญของเฉินเซียนอยู่ อยู่ๆเขาก็ทรุดลงไปกับพื้นพร้อมๆกับร้องโอดโอยอย่างทรมาณออกมาเสียงดังราวกับเสียงคำรามของสัตว์ร้ายเลย
เพราะเขาที่อยู่บนหัวนั้นได้หดกลับเข้าไปยังกะโหลกตามเดิมแล้ว พอหมดสภาวะปีศาจ ความเจ็บปวดมากมายแสนสาหัสก็ถาโถมเข้าใส่ในทันใด
ตอนนี้บี๋ไม่สามารถขยับไปไหนได้แล้ว หลังจากหมดเวลาเพียงไม่กี่นาทีที่ได้ใช้สภาวะปีศาจ กระดูกเขาก็ยิ่งร้าวมากกว่าเดิมอีก
แต่ดูท่าวัน.. กระดูกทั้งร่างของเขาคงจะแตกละเอียดหมดแล้วล่ะมั้ง
” .. จบแล้วรึ “เฉินเซียน
” … “
ผมไม่สามารถพูดอะไรได้ เนื่องจากความเจ็บปวดที่ทรมาณเหล่านี้ผมจึงจำเป็นต้องกัดฟันของตัวเองเพื่อบรรเทา
” ยอดเยี่ยมมากเขยข้า “เฉินเซียน
เฉินเซียนเดินเข้ามาใกล้เข้า หวังที่จะช่วยพาไปที่โรงหมอ ทว่า.. ดันมาเกิดเหตุสุดวิสัยสุดๆซะได้
” เดี๋ยวข้าพาไปรักษ- “เฉินเซียน
” ท่านพ่อ.. “จือหนาน
เสียงของธิดาคนโตของเขาได้ดังขึ้น มันดังมาจากทางด้านข้าง
ทันทีที่ได้ยินเสียงของลูกสาวเขาก็ดีใจที่ได้พบหน้าลูกอีกครั้ง แต่นอกเหนือจากความยินดีแล้วก็คือความกลัว
ตรงหน้าเขาคือร่างที่ไร้สติของบอสของเธอ
เมื่อจือหนานได้มาเห็นภาพนี้ สายตาของเธอก็เปลี่ยนไป มันว่างเปล่า และสิ้นหวัง
” … ” จือหนาน
” บอส ….. “จือหนาน
” … ”
เธอค่อยๆเดินเข้ามาหาร่างของบอส
พ่อของเธอค่อยๆถอยออกห่างจากร่างนั้น
จือหนานกอดร่างของเขาอย่างถนุถนอน ลูบไล้ใบหน้าของบี๋อย่างอ่อนโยน
” ทำไมท่านถึงไม่ตอบข้า.. “จือหนาน
ตอนนี้อารมณ์ของลูกสาวของเขาคงจะดิ่งมากแน่ๆ ถึงได้มองพ่อของตัวเองอย่างไม่ชอบใจนัก
” ท่านพ่อ… “จือหนาน
ลมปราณอันดำมืดเริ่มก่อตัวขึ้นภายนอกร่างของจือหนาน
แรงกดดันทางลมปราณของเธอนั้นมันรุนแรงมาก ถึงกับสามารถทำให้เขาในร่างเซียนนั้นชะงักได้เลย
อีกทั้งเขามังกรสีทองกับหางมังกรสีดำก็ได้ปรากฏขึ้นหลังจากที่จือหนานโกรธพ่อของตัวเองแบบสุดขีด
ข้อหาที่มาทำให้บอสที่เธอรักปางตาย
คนที่ทำแบบนั้นน่ะ เธอไม่เอาไว้แน่…
” ข้าจะไม่อภัยให้ท่าน… “จือหนาน
บัญญัติเซียน – มหามังกรดำแห่งดารทำลาย
เซียนมังกรอสูร
” อย่างเด็ดขาด!! “จือหนาน
ตัดจบตอน