ตัวเอกพวกนั้นฉันฆ่าเองแหละ (The Protagonist Are Murdered by Me) - ตอนที่ 25
ในย่านแถวฮวายัง
เลเลสเต้นั้นกำลังเดินอยู่ในคาเฟ่สมัยใหม่ที่ได้มาตรฐาน
ในทุกวันนี้รูปแบบการตกแต่งภายในทั้งหมดของคาเฟ่นั้นคล้ายคลึงกันและผู้คนวัยหนุ่มสาวในช่วงอายุ 20 ปีก็เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของคาเฟ่ประเภทนี้ คาเฟ่พวกนี้ใส่ใจในเรื่องเกี่ยวกับการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากกว่าที่จะสนใจในเรื่องของต้นทุนเพียงอย่างเดียว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คาเฟ่ในฮวายังที่มีมหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติและสถาบันฮันเตอร์อันทรงเกียรติตั้งอยู่
ที่นี้มีเหล่านักศึกษามาเยี่ยมเยื่อนจำนวนมากตั้งแต่ที่มันได้รับการเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดียและมีแม้กระทั้งหนุ่มสาวที่น่ารักหลายคนและแม้แต่ดาราก็ยังมาที่คาเฟ่นี้บ่อยครั้ง แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเซเลสเต้นั้นค่อนข้างที่จะโดดเด่นจากพวกที่กล่าวมาทำให้เหล่าลูกค้าหมุนเอียงคอของพวกเขามองตามกันจนคอเคล็ดเลยที่เดียว
เธอได้เลือกที่นั่งที่อยู่ข้างหน้าต่าง ถอดเสื้อกันฝนสีชมพูของเธอออกวางไว้ที่วางไว้ที่ผนักพิงของเก้าอี้และค่อยๆเอาแท็บเล็ตของเธออกมา
[เนื่องด้วยมีผู้พบเห็นเหตุการณ์จำนวนมากที่ยังคงแสดงตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้รูปถ่ายของสมาชิกกิลด์ลอสเดย์ที่ได้แอบเข้าไปในดันเจี้ยนที่บิดเบี้ยวได้ถูกค้นพบเมื่อคืนที่ผ่านมา]
หนึ่งสัปดาห์ก่อน
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่ามหัศจรรย์ที่ฮันเตอร์เพียงแค่สองคนนั้นประสบความสำเร็จในการเคลียร์ดันเจี้ยนที่บิดเบี้ยวนี้ แต่ข่าวที่ยังคงออกมาอย่างต่อเนื่องกลับยังเป็นเรื่องที่ฮันเตอร์สามคนได้แอบเข้าไปในดันเจี้ยนนี้ซึ่งได้ส่งผลกระทบกับกฎหมายระหว่างประเทศอย่างรุนแรง
การเปิดเผยที่น่าตกใจนี้เกิดขึ้นเมื่อมันถูกค้นพบว่าฮันเตอร์ทั้งสามคนที่ได้แอบเข้าไปแท้จริงแล้วเป็นฮันเตอร์แรงค์ S ของกิลด์ลอสเดย์ และพวกเขาได้ถูกจัดการโดยฮันเตอร์ยูซอดัมและเทเลอร์ไนน์
เกาหลีเกิดความโกลาหลขึ้นในทันที
ผู้คนต่างพากันตกตะลึงด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ประดังอย่างต่อเนื่องและความคิดเห็นของสาธารณชนต่างพากันมุ่งเป้าไปที่ลอสเดย์
เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นในตอนที่คนทั่วโลกกำลังมุ่งความสนใจไปที่ประเทศเกาหลีอยู่แล้วดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เหตุการณ์ครั้งนี้จะถูกละเลย
[ถ้าคุณมองไปที่รูปนี้ดี ๆ ฮันเตอร์ทั้งสามคนนั้นเป็น…]
ด้วยการที่เหล่าผู้เห็นเหตุการณ์และรูปภาพเป็นหลักฐานที่ยังคงหลั่งไหลเข้ามา
หลักฐานที่ควรจะถูกกลบฝั่งได้ด้วยอิทธิพลของกิลด์ลอสเดย์
ทั้งที่ควรจะเป็นแบบนั้นแต่มันไม่ได้เป็นไปตามนั้นนะสิ ด้วยความที่เหตุการณ์นี้มันใหญ่เกินไปที่จะถูกละเลย
ซอดัมนั้นรับรู้ความจริงข้อนี้เป็นอย่างดีดังนั้นเขาจริงจงใจที่จะเผยแพร่มันออกไปในตอนที่ความสนใจของผู้คนจำนวนมากนั้นกำลังอยู่ที่ตัวเขา
นอกจากนั้นแล้วคนตายไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้
[อ้า ไอ้พวกเ-ยนี้อยู่ๆก็ตามเรามา อะไรนะ? ไอ้เ-ยนี้ ไอ้สั-ว์นรกพวกนี้ฉันอยากจะถามตรงนี้เลยนะว่า ทำไมไอ้พวกเ-ยนี้ถึงได้แอบตามเข้าไปในดันเจี้ยนด้วยหละ? โอ้ว? ฮ่าฮ่าไอ้พวกเ-ดแม่เหล่านี้แกล้งทำเป็นว่าต้องการที่จะเคลียร์ดันเจี้ยนไปพร้อมกับพวกเรา…]
เทเลอร์ได้พ่นเรื่องราวมากมายที่ทั้งจริงและไม่จริงเกี่ยวกับเหตุการนี้ไปยังสื่อต่างๆ
เธอเป็นทั้งฮันเตอร์แรงค์ S และยังเป็นดาราดังนั้นแล้วเธอได้รับความสนใจจำนวนมากอยู่แล้วซึ่งเป็นเพราะว่าเธอมีรูปลักษณ์ที่งดงามที่ได้ดึงดูดความสนใจจำนวนมาก
แม้ว่าความเป็นจริงแล้วมันจะเป็นยูซอดัมที่เป็นคนที่ได้รับบทบาทหลักในเรื่องต่างๆทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างบ่อยครั้งในเร็วๆนี้แต่กลับเป็นเรื่องยากนักที่เขาจะถูกขอสัมภาษณ์ในขณะที่เทเลอร์นั้นได้ไปปรากฎตัวในแม้กระทั้งการทอล์คโชว์ในตอนเช้าเลยด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าลอสเดย์ไม่สามารถที่จะทำตัวนิ่งเงียบได้อีกต่อไป
[กิลด์มาสเตอร์ของลอสเดย์ได้กล่าวไว้ว่าฮันเตอร์ทั้งสามคนนั้นได้ทำสัญญาและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับกิลด์นี้แล้ว]
พลังอำนาจนั้นยังคงแสดงบทบาทสำคัญในสื่อ
ถ้าลอสเดย์ได้พูดเช่นนั้นแล้วหละก็ไม่ว่าใครก็ตามไม่สามารถปฏิเสธมันได้
แต่ทุกคนรู้ดี
ว่ามันเป็นไปได้ด้วยหรือที่ฮันเตอร์ในสัญญาทั้งสามคนจะติดสินบนกับทางกองทัพและแอบเข้าไปในดันเจี้ยนโดยที่ไม่มีใครสักคนสักเกตเห็นได้เลยหรอ?
ถึงจะเป็นอย่างนั้นทางกองทัพก็ยังคงปฏิเสธเกี่ยวกับเรื่องนี้และปลดพันเอกฮันแฮจองที่มีหน้าที่ในการจัดการดูแลดันเจี้ยนนี้ออกในทันที
ทางฝั่งของลอสเดย์ ยูฮารามได้ไล่นักตีความแรงค์ A ฮานยูจอนออกไปเรียบร้อย
ดังนั้นข่าวกลับกลายมาเป็นว่าทางกองทัพและลอสเดย์ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นใดๆเกี่ยวเรื่องนี้เลยทุกอย่างถูกเตรียมการโดยฮันแทจองและฮันเตอร์แรงค์ S ทั้งสามคนเอง
ในท้ายที่สุดมันยังคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะคลี่คลายเรื่องทั้งหมดลงเพราะว่าเหตุการณ์นี้นั้นใหญ่มาก
เซเลสเต้สามารถที่จะเดาได้เลยผ่านตำแหน่งในระดับสูงของพ่อเธอที่ว่ามันจะต้องมีหลายคนที่จะต้องเดินออกไปจากกิลด์ลอสเดย์
บางทีเหตุการณ์ครั้งนี้คงจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับลอสเดย์เลยหละ
หลังจากนั้น ก็มีคลิปวิดีโอของกิลด์มาสเตอร์ยูฮารามที่ได้แสดงความขอโทษต่อสาธารณชนและประเทศชาติเผยแพร่ออกมา
ผู้คนยังคงโห่ร้องให้กับเขาในตอนที่เขาได้พูดว่าเขานั้นแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทุกคนยังคิดว่าถ้าหากเขานั้นมีความจริงใจอยู่จริงๆหละก็เขาคงจะไม่ต้องปกปิดร่องรอยของเขาเช่นนี้
เซเลสเต้นั่งจิบกาแฟของเธอที่อยู่บนโต๊ะ
ถ้าสมาชิกของกิลด์ได้แหกกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งกิลด์จะต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบ
บางทีนี้อาจจะถึงขั้นประเมินการมีอยู่ของกิลด์เลยก็ได้
แต่แน่นอนว่าลอสเดย์นั้นไม่มีทางพังทลายลงได้ด้วยเรื่องอื้อฉาวพวกนี้หรอก
พลังอำนาจของพวกเขานั้นยิ่งใหญ่มากเกินกว่าที่จะพ่ายแพ้ในเกาหลีได้
แต่ในตอนนี้พวกเขาได้รับการโจมตีอย่างหนักถึงสองครั้งติดและไม่สามารถที่จะทำอะไรโดยไม่ยั้งคิดได้อีกแล้วสำหรับตอนนี้
ถึงจะเป็นแบบนั้นมันก็เป็นความจริงที่ว่ากิลด์ขนาดใหญ่เช่นนี้ได้รับการประเมินนั้นเป็นการโจมตีที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่รุนแรงเป็นอย่างมาก
ในอุตสาหกรรมฮันเตอร์เป็นที่ที่ภาพลักษณ์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ภาพลักษณ์ของพวกเขาได้ถูกทำลายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
‘นี้มันเป็นแผนการที่คุณยูซอดัมได้วางไว้หรือป่าวนะ?’
ช่วงเวลามันเหมาะเจาะเกินไป
ในตอนที่เซเลสเต้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นั้นเอง ประตูของคาเฟ่ก็ได้เปิดออกและยูซอดัมที่อยู่ในชุดที่ดูเรียบๆก็ได้เดินเข้ามา
“หวัดดี”
‘คาเฟ่นี้มันแพงบรรลัยนั้นนี่น่า’
ในทันทีที่เขามาถึงเขาได้ดูไปที่ราคาสำหรับกาแฟหนึ่งถ้วยในทันทีและดวงตาของเขาก็ได้เบิกกว้างออก
มันแพงมากเลยแม้ว่ามันจะไม่ใช่สถานที่ที่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านกาแฟก็ตาม
“มันเป็นเรื่องที่ยากมากเลยนะคะที่จะติดต่อกับคุณได้นะ”
“ช่วงหลังมานี้ฉันกำลังยุ่งๆอยู่นะ”
มันเป็นเรื่องจริง
ถึงแม้ว่าเทเลอร์ไนน์จะเป็นคนที่กำลังวิ่งไปตามสื่อต่างๆอย่างบ้าคลั่งก็ตามแต่เขาก็ยังคงต้องทำงานเบื้องหลังอยู่ดี
มีเพียงแค่วันนี้ที่เขาสามารถหาช่วงเวลาว่างได้เท่านั้นเอง
“มีเรื่องอะไรหรือป่าวเธอถึงได้ติดต่อฉันมาอย่างเร่งด่วนแบบนี้?”
“มันยังไม่มีเรื่องอะไรในตอนนี้ค่ะ แต่ว่า…”
หลังจากที่ปิดข่าวลง เซเลสเต้ได้เลื่อนผ่านแท็บเล็ตของเธอและเล่นวิดีโอบางอย่างขึ้นมา
“การแข่งขันการอภิปรายวิชาดาบในระดับนานาชาติ”
การแข่งขันการอภิปรายวิชาดาบในระดับนานาชาตินั้นเป็นการแข่งขันของเหล่านักดาบที่มีเจ้าภาพเป็นสหพันธ์ฮันเตอร์นักดาบสากลที่ได้กลายมาเป็นกีฬาหลักของผู้คนตั้งแต่ที่คุณค่าของอาวุธเช่นดาบได้ถูกยกระดับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากเมื่อสามสิบปีก่อน
เป็นปกติอยู่แล้วที่จุดประสงค์ของการอภิปรายในครั้งนี้ก็เพื่อที่ได้โอ้อวดให้ทุกคนได้เห็นถึงเพลงดาบของแต่ละคนและพูดคุยสนทนากันเองเพื่อเพิ่มพูนระดับคุณภาพของวิชาดาบบนโลก
โดยธรรมชาติแล้วการแข่งขันเหล่านี้จะมีการกำหนดระดับของผู้เข้ารวมไว้
“เอามาให้ฉันดูทำไมหรอ?”
เมื่อคิดดูแล้วฉันก็เคยได้รับการติดต่อมาจากคนของสหพันธ์ฮันเตอร์นักดาบสากลด้วยเหมือนกัน
พวกเขาบอกว่าพวกเขาอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวรูปแบบของเพลงดาบที่ฉันได้ใช้และพวกเขาจะยินดีเป็นอย่างมากเลยถ้าหากว่าฉันเข้าร่วมงานอภิปรายในครั้งนี้ด้วย
อย่างไรก็ตามฉันไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้วดังนั้นฉันก็เลยลังเลที่จะให้คำตอบพวกเขาไป
‘แล้วคนอย่างฉันมันจำเป็นสำหรับการอภิปรายด้วยหรือไงกัน?’
เซเลสเต้ได้แสดงวิดีโออีกอันขึ้นมาในตอนที่ซอดัมกำลังคิดเกี่ยวกับมัน
เป็นคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครึ่งปีก่อน
วิดีโอได้แสดงถึงการถูกกระหน่ำอยู่ฝ่ายเดียวจนพ่ายแพ้ของเซเลสเต้ในการต่อกรกับผู้หญิงคนหนึ่ง
“โอ้…?”
ในตอนนั้นเซเลสเต้เป็นยอดมนุษย์แรงค์ E
โดยปกติแล้วการแข่งขันกันระหว่างนักดาบจะเกิดขึ้นระหว่างผู้เข้าร่วมที่มีแรงค์เดียวกันแต่เนื่องจากที่มันเป็นในกรณีของตระกูลอันทรงเกียรติเช่นตระกูลของเซเลสเต้แล้ว ทำให้ในบ้างครั้งการแข่งขันจะถูกจัดขึ้นระหว่างผู้คนที่มีแรงค์แตกต่างกันเนื่องจากกรณีของการแข่งขันที่แตกต่างกันไป
เพราะว่าด้วยเรื่องนี้เองที่ทำให้คู่ต่อสู้ของเซเลสเต้คือซานางิ ยอดมนุษย์แรงค์ D ที่เป็นลูกสาวคนโตของตระกูลโอกาโมโต้ที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น (ผู้แปล : เห็นชื่อตระกูลแล้วคิดดีไม่ได้เลยครับ)
การประลองกันระหว่างยอดมนุษย์แรงค์ E และ แรงค์ D
นั้นเป็นการประลองที่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้ล่วงหน้าอยู่แล้ว
“การอภิปรายครั้งหน้ากำลังใกล้เข้ามาค่ะบางที…ฉันอาจจะต้องต่อสู้กับตระกูลโอกาโมโต้อีกครั้งก็ได้นะคะ”
ตั้งแต่ที่ทั้งซานางิและเซเลสเต้เป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่โดดเด่นด้วยกันทั้งคู่อยู่แล้ว จุดสนใจของงานจึงได้พุ่งลงมาที่พวกเขาในทุกครั้งที่การอภิปรายได้เกิดขึ้น
“แต่ตอนนี้เธอเป็นแรงค์ D แล้วไม่ใช่หรอ?”
“ใช่ค่ะ แต่โอกาโมโต้ ซานางิในตอนนี้ก็ขึ้นเป็นแรงค์ C แล้วเหมือนกันค่ะ”
“บ้าน้า”
ฉันเคยได้ยินมาว่าโอกาโมโต้ ซานางินั้นมีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้นเอง
แม้ว่าเซเลสเต้จะเกิดในตระกูลนักดาบอันทรงเกียรติ เธอก็ยังมีเธอคงจะต้องมีพรสวรรค์และทักษะโดยธรรมชาติอยู่แล้วแต่มันน่าสะพรึงกลัวยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเธอมีแม้กระทั้งพรสวรรค์ทางร่างกายที่แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน
ไม่เหมือนกับความสามารถอื่นของยอดมนุษย์คนอื่น ร่างกายนั้นจะค่อยๆเจริญเติบโตดังนั้นแล้วมันไม่ง่ายที่จะเติบโตได้อย่างรวดเร็วด้วยอายุเช่นนี้
ถ้าเธอยังคงก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องเช่นนี้หละก็เธอคงจะสามารถท้าทายขอบเขตของแรงค์ S ได้สักวันหนึ่งแน่นอน
มีอยู่แค่ปัญหาเดียวเท่านั้นเองก็คือว่าพรสวรรค์นี้ฝ่ายตรงข้ามของเธอก็มีเช่นกัน
“นี้เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงต้องการคุณฮันเตอร์ยูซอดัมค่ะ”
“ฉันอะนะ?”
“ฉันได้ทำการฝึกฝนร่างการของฉันด้วยความจริงจังตามตลอดอยู่แล้วแต่ฉันก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระที่จะมาคิดว่าฉันสามารถที่จะก้าวหน้าไปสู่แรงค์ C ได้ในช่วงเวลาสั้นๆนี้เพราะงั้นมันเลยมีเพียงแค่ทางออกเดียวเท่านั้น”
สำหรับคนที่แข็งแกร่งกว่าตัวเธอเองแล้วเพื่อที่จะพลักดันขีดจำกัดของเธอด้วยฝีมือดาบที่แท้จริง
เมื่อได้ยินในสิ่งที่เธอพูดออกมาซอดัมนั้นเต็มไปด้วยสีหน้าที่มึนงง
“เฮ เธอคิดดีแล้วหรือว่ามันจะได้ผลนะ?”
ซอดัมถามออกไปอย่างซื่อๆ
“ใช่ค่ะถ้ามันเป็นคุณ”
เซเลสเต้ตอบกลับมาด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจของเธอ
“เอ่อ…”
ซอดัมที่กำลังจะพูดออกไปว่า ‘มันเป็นเพราะว่าฉันมีพรสวรรค์ชำนาญดาบ (A+) ต่างหากหละ’ ได้นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในอดีตซะก่อน
ย้อนไปถึงตอนที่เซเลสเต้ได้เลียนแบบเพลงดาบของเขาที่เขาได้ลอกเลียนมาอีกทีแบบหยาบๆ
‘เดี่ยวก่อนนะ ค่อยเดี่ยวก่อน…หรือว่าพรสวรรค์ชำนาญดาบของเธอจะสูงยิ่งกว่าแรงค์ C กัน?’
ฉันไม่สามารถที่จะเห็นพรสวรรค์ของเธอได้แต่การที่เธอสามารถจับจุดเพลงดาบของฉันได้ตั้งแต่ได้มองแค่ครั้งแรกนั้น
ในความเป็นจริงมันเป็นเรื่องปกติสำหรับอัจฉริยะที่โดดเด่น
อย่างไรก็ตามเพลงดาบในยุคสมัยใหม่ได้รับการพัฒนามาเพียงแค่ราว ๆ 30 ปีโดยมีพลังพิเศษเป็นรากฐานเท่านั้นเองดังนั้นมันเลยมีประวัติศาสตร์ที่สั่นมากทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับคนที่มีพรสวรรค์ที่จะเบ่งบาน
แต่แล้วอะไรจะเกิดขึ้นหละถ้าอัจฉริยะได้เรียนรู้วิชาดาบที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่าหนึ่งพันกัน?
“ฉันไม่ได้ต้องการที่จะประลองกับคุณเหมือนกับครั้งที่แล้วแต่ฉันอยากที่จะให้ฮันเตอร์ยูซอดัมมาเป็นนักดาบของตระกูลคอสแตนตินีอย่างเป็นทางการค่ะ”
ซอดัมลูบคางของเขา
มันไม่ได้เป็นข้อเสนอที่แย่เลย
มันค่อนข้างที่จะเป็นข้อเสนอที่มาได้ถูกเวลาด้วยซ้ำ
เขาต้องการสถานที่สำหรับไว้กันพายุฝนที่เรียกว่าลอสเดย์และตระกูลคอสแตนตินีก็เพียงพอแล้วที่จะเป็นเสื้อกันฝนนั้นได้
ไม่สำคัญว่าคนพวกนั้นจะมีแผนการอะไรพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะล่วงเกินลูกสาวคนโตของตระกูลคอสแตนตินีได้
‘มันอาจจะเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับกันฝนนี้ชั่วคราวอะนะ’
ฉันยังต้องหากิลด์อยู่ดีไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง
เปรียบได้กับที่พักชั่วคราวคอสแตนตินีก็คงคิดเช่นนั้น
“แต่เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันยุ่งมากเกินกว่าที่จะออกไปจากเกาหลีได้”
“มันโอเคค่ะ ฉันกำลังคิดว่าจะยังอยู่ที่เกาหลีนานกว่านี้อีกสักพักค่ะ”
“โอเค งั้นเราจะเริ่มกันเมื่อไหรหละ?”
“ฉันจะต้องกลับไปบ้านของพ่อแม่ฉันในอาทิตย์นี้เพื่อเตรียมการสำหรับสิ่งต่างๆงั้นเรามาเริ่มกันอาทิตย์หน้าได้ไหมค่ะ”
เป้าหมายคือการเอาชนะโอกาโมโต้ ซานางิในการอภิปรายดาบครั้งหน้า
การแสดงออกของเซเลสเต้ได้กลายมาเป็นเด็ดเดี่ยวขึ้นมาแล้ว
……………………………………………………..
หลังจากพูดคุยกับจนเลยช่วงเวลาบ่ายที่คาเฟ่ไปมามากแล้ว พระอาทิตย์กำลังเริ่มที่จะตกลงดังนั้นฉันได้ตามเซเลสเต้กลับไปและเมื่อฉันได้มาถึงบ้านแล้ว ฉันได้โยนตัวฉันเองลงไปบนโซฟา
มันพึ่งผ่านไปเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้นเอง
ในหนึ่งสัปดาห์นี้ฉันได้สร้างความเสียหายจำนวนมากด้วยพลังอำนาจของฉันเองซึ่งมันส่งผลมากกว่าที่ฉันคิดว่าฉันจะทำกับลอสเดย์ได้ซะอีก
ลอสเดย์คงจะต้องระวังนิ้วเท้าในครั้งหน้าแล้ว
ฉันนั้นยินดีสุดๆไปเลยหละ
ด้วยความจริงที่ฉันที่ไม่มีอะไรเลยเป็นเพียงแค่ฮันเตอร์แรงค์ F ได้สร้างบาดแผลให้กับกิลด์เช่นลอสเดย์ที่ไม่มีใครสักคนกล้าที่จะมองไปตรงๆเลยด้วยซ้ำ
กริ้ง!
มันเป็นข้อความมาจากเทเลอร์
[ดูเหมือนว่าไอ้สารเลวฮานยูจอนนั้นจะอยู่ที่โรงพยาบาลนะ]
ทำไมฮานยูจอนที่ไม่ใช่นักสู้ถึงได้ไปอยู่ที่โรงพยาบาลได้หละ?
ความคิดแรกของฉันคือมันอาจจะเป็นแผนเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงพวกสื่อแต่ความคิดที่สองนั้นมันอาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นการกระทำของกิลด์มาสเตอร์
ยูฮารามเป็นคนที่อารมณ์ร้ายเป็นอย่างมากมันไม่แปลกถ้าเขาจะทำอะไรบางอย่างกับฮานยูจอนหลังจากที่สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เป็นไปตามแผน
[ยูซอดัม : ทางฝั่งเธอเป็นยังไงบ้าง?]
[เทเลอร์ไนน์ : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน]
[เทเลอร์ไนน์ : ฉันคิดว่าน่าจะดีมั้ง? 55555]
[เทเลอร์ไนน์ : มันก็สักพักแล้วตั้งแต่ที่ฉันได้ออกทีวีและมันก็โคตรสนุกเลยหละ]
[เทเลอร์ไนน์ : บ้าเอ้ย ฉันคิดว่าข้าวสุกแล้วหละ]
[ยูซอดัม : เธอต้องการให้ฉันช่วยอะไรไหม?]
[เทเลอร์ไนน์ : ไม่นะ]
เดิมที ฉันคิดว่าจะไปออกสื่อด้วยตัวฉันเอง
แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างดูเหมือนว่าเทเลอร์จะรักในการทำงานนี้มากเลยหละ ฉันเลยมอบหมายงานทั้งหมดให้เธอทำ
เธอบอกว่าเธอไม่ได้ชอบที่จะเป็นจุดสนใจแต่ดูเหมือนว่าเธอจะรักการบูลลี่คนอื่นมาก
และเป้าหมายในครั้งนี้ก็เป็นลอสเดย์ด้วยดังนั้นมันเลยทำให้เทเลอร์ดุร้ายเป็นพิเศษเลยหละ
[ยูซอดัม : อย่าไปทำเรื่องผิดกฎหมายเข้าหละ]
[เทเลอร์ไนน์ : 555 กี่ครั้งแล้วที่ฉันโดนข้อหาเรื่องหมิ่นประมาทกันหละ?]
[เทเลอร์ไนน์ : ฉันจะจัดการทุกอย่างเอง]
[ยูซอดัม : ได้เลย]
[ยูซอดัม : แล้วก็ฉันคงจะหายไปสักพักในช่วงนี้นะ]
[เทเลอร์ไนน์ : โอเคจ้า]
ด้วยเหตุผลนี้เองเลยทำให้ฉันเวลาว่างสักพักอะนะ
“ฉันต้องการภารกิจต่อไป”
มีเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์จนกว่าเซเลสเต้จะกลับมา ดังนั้นการเดินทางไปต่างมิติดูเหมือนว่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี
[รายการภารกิจ]
ในตอนที่ฉันได้พยายามที่จะตรวจดูรายการของเหล่าตัวเองที่มีอยู่บนรายการ ฉันก็เห็นบางชื่อที่ดูโดนเด่นอยู่ที่ด้านบนของรายการ
“นั้นอะไรนะ? รายการที่ได้รับการแนะนำเป็นพิเศษอย่างนั้นหรอ?”
<ถูกต้องแล้วค่ะ ฉันได้จัดการคัดแยกตัวเอกที่ไม่เป็นภัยคุกคามในตอนนี้และง่ายต่อการจัดการไว้ให้ค่ะ>
“งั้นถ้าฉันล่าตัวเอกพวกนี้ฉันจะดูดกลืนความสามารถได้สองอย่างงั้นหรอ?”
<ไม่ค่ะเพราะว่ามันไม่ใช่ภารกิจฉุกเฉินแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นคุณก็จะได้รับโบนัสเลเวลเพิ่มเติมค่ะ>
“ว้าวว”
มีรายการที่ได้รับการแนะนำอยู่ทั้งหมดสามรายการ
#เกมส์_ที่_ฉัน_สร้าง_ได้_กลายมา_เป็น_ความจริง
#ฟิวชั่น_แฟนตาซี #คำทำนาย
#ประเทศ_เพื่อนบ้าน #เติบโต
#สยองขวัญ
#ฉัน_ตาย_อีกแล้ว_หรือ?_งั้น_ก็_เริ่ม_ใหม่_อีกครั้ง_ละกัน
#แฟนตาซี #วนลูป
#เติบโต #อวด_เก่ง
#หวาน_อม_ขม_กลืน
#ลูกสาว_คน_ที่_สอง_เป็น_แม่มด_และ_ปรมาจารย์_ดาบ
#แฟนตาซี #ยึด_ร่าง
#แข็งแกร่ง_ที่สุด #พรสวรรค์
#วัยรุ่น
…ไม่มีอันไหมปกติสักอัน
ด้วยการเกณฑ์การประเมินของฉันเองในตอนที่ฉันทำให้ฉันตัดสินใจเลือกตัวเองที่จะล่าได้โดย
อันดันแรกนั้นเลเวลควรที่จะต่ำและอย่างที่สองมันควรที่จะมีความเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์หรือไม่ก็วิชาดาบ
อันดับที่สามเลเวลของตัวเองควรที่จะต่ำที่สุดที่เลเวล 70 มันจะได้ล่าง่ายที่สุด
เพราะถึงแม้ว่าฉันจะไม่มั่นใจว่าจะเป็นฝ่ายชนะถ้าต้องต่อกรแบบซึ่งๆหน้ากับเลเวล 70 ก็ตามมันก็ยังไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ถ้าฉันใช้วิธีเดิมกันกับที่ล่ามอนสเตอร์โดยการวางกับไว้
ดังนั้นแล้ว
#ลูกสาว_คน_ที่_สาม_เป็น_แม่มด_และ_ปรมาจารย์_ดาบ
“ฉันเลือกอันนี้”
<คุณต้องการที่จะไปในต้องเลยหรือไม่ค่ะ?>
ฉันได้เตรียมการทุกอย่างไว้ล่วงหน้าแล้ว
ในกรณีที่ฉันจะต้องใช้มันฉันได้แพ็คเมก้าซูตเตอร์ของฉันเป็นอย่างดี
ฉันได้พยักหน้าด้วยใบหน้าที่พึ่งพอใจและทันใดนั้นสายตาของฉันก็ได้เบลอขึ้นมา
[กำลังเดินทาง สู่ จักรวรรดิอาเล็ทเทียร์ โลกของตัวเอกเลเวล 70 แม่มดเอลล่า]
[10…9…8…]
[การเดินทางเสร็จสมบูรณ์]
[ความเหลื่อมล้ำของเวลาเป็น 3.41020X]
หลังจากที่โลกได้ทรุดลงไปอย่างช้าๆและสร้างขึ้นมาใหม่
ฉันได้เปิดตาของฉันออก
…เด็กผู้หญิงที่ดูเหมือนกับเด็กนักเรียนมัธยมต้นกำลังจ้องมาที่ฉันอยู่
“อ-อะไรนะ?”
ฉันได้มองไปที่เหนือหัวเธอโดยสัญชาตญาณและคำว่า ‘แม่มดเอลล่า’ ได้เข้ามาสู่สายตาฉัน
เธอเป็นตัวเอก
นี่เป็นสถานการณ์ที่ฉันไม่ต้องการที่จะเจอมากที่สุด
โดยที่ไม่ได้มีการเตรียมการใดๆเลยมันเป็นไปไม่ได้ที่จะรับมือกับตัวเอกที่ทรงพลังเป็นสองเท่าของฉัน
ในตอนที่ฉันได้ตรึงเครียดมากขึ้น เอลล่าค่อยๆเปิดปากของเธอและพูดขึ้นมา
“คุณเป็นอาจารย์สอนดาบคนใหม่ใช่ไหมค่ะ?”
“…อะไรนะ?”
[คุณได้กลายมาเป็นอาจารย์สอนดาบให้กับเจ้าหญิงเอลล่าลูกสาวของดยุคแห่งอัลมัส]