ตัวเอกพวกนั้นฉันฆ่าเองแหละ (The Protagonist Are Murdered by Me) - ตอนที่ 83
เจ้าปีศาจตนที่เข้ามาเพื่อลักพาตัวนิชานั้นมีความสามารถในการแทรกซึมเป็นเลิศแต่ว่าพลังในการต่อสู้ของมันกลับอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ ฉันสามารถที่จะฆ่ามันได้ด้วยการเหวี่ยงดาบเพียงแค่ครั้งเดียว มองไปที่ร่างกายของปีศาจตนนั้นที่กำลังค่อยๆระเหยหายไปอย่างช้าๆ ฉันก็ได้พยายามที่จะพูดอะไรบางอย่างกับนิชา
[กำลังทำการแทรกแซงเนื้อเรื่องของตัวเอก ‘เลสคาปี้’]
[กำลังทำการเร่งเวลาไปข้างหน้า]
สิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวของฉันต่างบิดเบี้ยวอีกครั้งหนึ่ง เสียงของนิชาก็ค่อยๆเริ่มจางหายไป กลางวันและกลางคืนได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
[ช่วงเวลา ณ ปัจจุบัน : 30 พฤษภาคม 3021]
[ตำแหน่ง ณ ปัจจุบัน : จักรวรรดิอันวาร์ คาร์เมล หอจดหมายเหตุแห่งวิคตอเรียน]
ตรวจสอบเวลาที่ผ่านไป เวลาหนึ่งปีได้ผ่านไปจากเมื่อตะกี้นี้ในขณะที่ฉันหมุนตัวและมองไปที่ด้านหลังของตัวเอง ฉันได้เห็นนิชาที่มีอายุ 10 ขวบกำลังเดินอย่างช้าๆ และเมื่อเธอเจอฉัน ไหล่ของเธอก็สั่นไหวแล้วร่างเงาที่ดำมืดก็ได้เริ่มที่จะเหวี่ยงไปมาอยู่ที่ด้านหลังของเธอ
มันเป็นปีศาจ
โดยปราศจากซึ่งความลังเลใจใดๆ ฉันเหวี่ยงดาบของตัวเองออกไปและปราบเจ้าปีศาจตนนั้นลง
[กำลังทำการแทรกแซงเนื้อเรื่องของตัวเอก ‘เลสคาปี้’]
[กำลังทำการเร่งเวลาไปข้างหน้า]
[ช่วงเวลา ณ ปัจจุบัน : 30 พฤษภาคม 3022]
[ตำแหน่ง ณ ปัจจุบัน : จักรวรรดิอันวาร์ คาร์เมล สวนแห่งเอเดน]
ผ่านไปอีกหนึ่งปี นิชาในตอนนี้นั้นได้เข้าสู่วันเกิดครั้งที่ 11 ของเธอ
แม้แต่วันนี้เอง โดยที่ปราศจากความล้มเหลวใดๆ ฉันก็ได้ฆ่าปีศาจที่ปรากฎตัวขึ้นรอบตัวของนิชาลงอีกครั้ง
[ช่วงเวลา ณ ปัจจุบัน : 30 พฤษภาคม 3023]
อายุ 12 ปี
[ช่วงเวลา ณ ปัจจุบัน : 30 พฤษภาคม 3024]
อายุ 13 ปี
[ช่วงเวลา ณ ปัจจุบัน : 30 พฤษภาคม 3025]
อายุ 14 ปี
[ช่วงเวลา ณ ปัจจุบัน : 30 พฤษภาคม 3026]
เมื่อถึงตอนวันเกิดครั้งที่ 15 ของนิชา เจ้าปีศาจที่ปรากฎขึ้นมาก็ถูกฆ่าลงอีกครั้ง
และแล้ว
[บท ‘(อารัมภบท) เจ้าหญิงที่ถูกลักพาตัว’ ได้รับการเปลี่ยนแปลง]
ขณะที่เนื้อเรื่องในบทนี้ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไป ในครั้งนี้ เวลาได้ผ่านไปอีกสามปีในครั้งเดียว
[ช่วงเวลา ณ ปัจจุบัน : 19 กรกฎาคม 3029]
[ตำแหน่ง ณ ปัจจุบัน : จักรวรรดิอันวาร์ คาร์เมล ณ แท่นหิมะขาว]
[กำลังทำการแทรกแซงในบท ‘การถือกำเนิดของฮีโร่ (1)’]
……………………………………………………..
หากชอบเรื่องนี้สามารถให้กำลังใจและสนับสนุนผู้แปลได้ทาง mynovel.co หรือ
……………………………………………………..
มันเป็นปีที่นิชามีอายุได้ 18 ปี
‘ฉันต้องมองหาฮีโร่ที่จะปกป้องโลกใบนี้เอาไว้ให้ได้’
การจุติของโอเมก้า ราชาปีศาจแห่งภัยพิบัติ
คนเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะสามารถปราบปีศาจตนนี้ลงได้ก็คือฮีโร่ที่ถูกเลือกโดยเทพพระเจ้า ผู้ที่สามารถจะดึงดาบศักดิ์สิทธิ์ยูเล็ทขึ้นมาได้
เจ้าหญิงเพียงหนึ่งเดียวของจักรวรรดิมองไปรอบๆแท่นแห่งนี้ด้วยการแสดงออกที่จริงจัง
“เฮฮฮฮฮฮฮฮ้!!!”
เหล่าผู้ชมนับหมื่นๆคนที่รวมตัวกันมาจากทั่วทุกสารทิศมารวมกันโดยรอบแท่นที่ดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งยูเล็ทปักเอาไว้อยู่แห่งนี้ ดาบเล่มนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งอาณาจักรคาร์เมลอันยิ่งใหญ่ เป็นดาบซึ่งได้ผ่านมือจำนวนนับไม่ถ้วนของเหล่าฮีโร่ที่คอยอยู่เคียงข้างราชวงศ์
‘โอเมก้า ราชาปีศาจแห่งภัยพิบัติ ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว!’
ด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาดและการตัดสินใจที่ฉับไวของจักรพรรดิทำให้เขาตัดสินใจที่จะจัดพิธีการอัญเชิญฮีโร่ออกมา มันทำให้แทนที่เหล่าผู้คนทั้งหลายจะพากันสิ้นหวังไปกับข่าวสารที่ได้รับรู้ กลับกลายเป็นว่าในตอนนี้ เหล่าผู้คนต่างพากันมองลงไปยังด้านล่างเฝ้ามองการถือกำเนิดขึ้นของฮีโร่คนใหม่ด้วยความตื่นเต้นแทน
นี้เป็นวิธีการของจักรวรรดิคาร์เมลที่มีอายุมานับพันๆปีใช้จัดการกับเรื่องทำนองนี้
อย่างไรก็ตาม มันกลับเป็นเรื่องราวที่ฟังดูไร้สาระสิ้นดีที่ว่ามีเพียงแค่ฮีโร่คนเดียวเท่านั้นที่สามารถจะต่อต้านกับเจ้าปีศาจตนนั้นได้ เรื่องไร้สาระในทำนองเดียวกันนี้เองก็ถูกปรับใช้กับเรื่องราวที่ว่าดาบศักดิ์สิทธิ์ยูเล็ทจะตอบสนองกับเพียงแค่ฮีโร่เท่านั้น
‘ฉันหละไม่เข้าใจมันเลยจริงๆ’
ไอ้ดาบศักดิ์สิทธิ์เส็งเคร่งนี้มันพิเศษยังไงกันแน่นะ? มันก็แค่มีออร่าและคมกว่าดาบของคนอื่นแค่นั้นเองไม่ใช่เหรอไง ยังไม่รวมถึงเรื่องที่บอกว่ามีแค่นักรบที่สามารถจะใช้ดาบเล่มนี้ได้เท่านั้นถึงสามารถที่จะเอาชนะราชาปีศาจได้อีกนะ
เหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงไม่สามารถที่จะมองเห็นถึงจุดที่มันออกจะไร้สาระเช่นนี้ได้ก็เพราะว่าเธอนั้นมีอายุเพียงแค่ 20 ปีเท่านั้นเองไม่เหมือนกับประเพณีนี้ที่ได้ดำเนินมานานหลายต่อหลายร้อยปีแล้ว
“เฮฮฮฮฮ้!!!”
“คาลเดกส์ คาลเดกส์ คาลเดกส์”
ผู้คนทั้งหลายต่างพากันส่งเสียงเชียร์ในขณะที่ชายคนนั้นกำลังปีนขึ้นไปยังแท่นที่อยู่ตรงกลาง ชายคนนี้ คนที่แค่เพียงมองดูก็น่าจะเดาได้เลยว่าเขาน่าจะเป็นนักรบและดูเหมือนว่าจะเคยผ่านสงครามมามากมายหลายต่อหลายสมรภูมิ ได้โบกมือของตนเองไปยังฝูงชนในขณะที่เขาเดินมุ่งตรงไปยังดาบสีเงินเล่มนั้น
ในท้ายที่สุด เขาได้วางมือของตนเองลงไปบนดาบสีเงิน
“ฮึบบบบ-อ้าาาา!”
…ดาบสีเงินนี้ไม่ได้อะไรเลยสักกะติดเดียวและเสียงเชียร์ก็ค่อยๆเริ่มจางหายไป
“โคเดกส์ก็ไม่ใช่ฮีโร่งั้นเหรอ?”
“ไร้สาระนะ ถ้าหากว่าท่านโคเดกส์ที่ได้เผชิญหน้าขุมกำลังนับพันๆคนด้วยตัวเองเพียงแค่คนเดียว ยังไม่ใช่ฮีโร่หละก็ผีห่าซาตานตนไหนกันที่จะได้…”
โคเดกส์ได้ก้าวลงมาจากแท่นตรงกลางและไม่นานหลังจากนั้นนักรบจำนวนนับไม่ถ้วนก็ต่างพากันปีนขึ้นยังแท่นๆนั้น แต่ไม่มีเลยสักคนเดียวจากพวกเขาทั้งหมดนั้นที่สามารถจะดึงดาบเล่มนั้นขึ้นมาได้
นิชาเฝ้ามองดูไปที่เหล่านักรบทั้งหลายที่กำลังดิ้นล้นกระเสือกกระสนดึงดาบเล่มนี้ออกมาด้วยท่าทางที่แตกต่างกันไป
หลังจากคนหนึ่งก็ต่อด้วยอีกคนหนึ่ง
แล้ว หลังจากที่นักรบคนสุดท้ายล้มเหลวลงเหมือนกับคนอื่นๆที่ผ่านมา ก็มีใครบางคนที่มีหน้าตาคุ้นหน้าคุ้นตาเธอเป็นอย่างมากได้เดินไปที่แท่นๆนั้น เขาเป็นชายที่ได้ทำให้ไหล่ของเธอถึงกับสั่นไหว
มันเป็นยูซอดัม ชายคนที่มักจะปรากฏตัวขึ้นมาเสมอๆในความฝันของเธอ
“…เจ้ามีอะไรงั้นเหรอ นิชา?”
“อ้า…”
ด้วยคำถามนั้นของจักรพรรดิท่านพ่อของเธอ นิชากลับมารู้สึกตัวและสัมผัสได้ว่าเธอกำลังยืนอยู่ มันเป็นพฤติกรรมที่หยาบคายสำหรับการที่เธอทำแบบนั้นต่อหน้าจักรพรรดิแต่เธอไม่ได้มีร่องรอยของความกังวลกับเรื่องนั้นเลย เธอนั่งลงอีกครั้งและมองไปที่ยูซอดัม
‘งั้นนี้ก็คือดาบศักดิ์สิทธิ์ยูเล็ทสินะ’
มันช่างเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ มีเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้นคนที่สามารถจะดึงดาบเล่มนี้ขึ้นมาได้และคนๆนั้นก็จะกลายมาเป็นฮีโร่
นี้เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานเลสคาปี้ ในช่วงเวลานี้มันควรที่จะเป็นช่วงเวลาที่ฮีโร่เลสคาปี้ได้ถือกำเนิดขึ้นมา
‘แล้ว ถ้าฉันดึงได้เจ้าดาบนี้ก่อนหละ ไอ้เจ้าฮีโร่นี้ก็คงจะไม่มีวันได้เกิดขึ้นมาใช่ไหมนะ?’
ใช่เลย ด้วยการดึงดาบที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้ เขาจะขัดขวางการถือกำเนิดของฮีโร่คนนี้ได้และในเวลาเดียวกันความเป็นไปได้ที่กำลังท่วมท้นเขาที่ได้จากการฆ่าเดอมาร์ในตอนนี้ก็จะถูกใช้ออกไป
เป็นการฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว
<ด้วยความเป็นได้ของคุณในตอนนี้ คุณสามารถที่จะดึงดาบเล่มนี้ขึ้นมาได้ค่ะ>
<เพื่อที่จะปกป้องการถือกำเนิดขึ้นมาของฮีโร่ นี้มันช่างเป็นความคิดที่สดใหม่มากๆเลยนะคะในความคิดเห็นของฉันเอง>
‘มันแน่อยู่แล้ว’
ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม มันหมายความได้ว่าเขาสามารถที่จะจบเนื้อเรื้องในตอนนี้ลงได้
ด้วยความคิดเช่นนั้นเอง ยูซอดัมค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปหาดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มที่อยู่ตรงหน้าและดึงมันขึ้นมา
แฟลช!
เสาแสงได้ตกลงมาจากท้องฟ้า และดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้ ยูเล็ท ก็ได้แสดงอภินิหารของมันออกมา
“โอ้ว…โอ้วคุณพระช่วย!”
“นี่คือการถือกำเนิดของฮีโร่!”
[สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในเนื้อเรื่องของตัวเอก เลสคาปี้ ‘การถือกำเนิดของฮีโร่(3)’]
เสียงเชียร์ได้ดังปะทุขึ้น เสาแสงนี้ได้อาบลงไปที่ตัวของยูซอดัมราวกับว่าเป็นแสงแห่งการอวยพรให้กับตัวเอกของโลกใบนี้ แม้แต่จักรพรรดิก็ยังยืนขึ้นและปรบมือให้กับเขา
มันเป็นการถือกำเนิดขึ้นของฮีโร่คนใหม่! การถือกำเนิดของประวัติศาสตร์หน้าใหม่!
[ขอแสดงความยินดีด้วย! คุณได้รับเลือกให้กลายมาเป็นฮีโร่ของจักรวรรดิอันวาร์ คาร์เมล!]
[แต่เนื่องจากว่าคุณไม่ได้กลายมาเป็นฮีโร่ด้วยวิธีการที่ชอบธรรม]
[คุณจึงได้รับการเรียกขานว่าเป็น ‘วายร้าย’ สำหรับการขโมยสิ่งของที่ควรเป็นของตัวเอก!]
มันไม่ได้สำคัญอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นวายร้ายหรือไม่ก็ตาม ยังไงซะ เขาก็ได้กลายมาเป็นฮีโร่ ซอดัมคิดแบบนั้นและยกดาบชี้ขึ้นไปยังท้องฟ้าอย่างมีความสุข
[…บทใหม่ ‘ดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มที่สอง (1)’ ได้เกิดขึ้น]
……………………………………………………..
หากชอบเรื่องนี้สามารถให้กำลังใจและสนับสนุนผู้แปลได้ทาง mynovel.co หรือ
……………………………………………………..
<ดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มที่สอง (1)>
ในความเป็นจริง ในความืดมิดที่มิมีใครทราบ ไม่มีใครเลยสักคนที่รู้ว่าจักรวรรดิอันวาร์มีดาบศักดิ์สิทธิ์อยู่สองเล่ม
อย่างไรก็ตามดาบเล่มนี้ได้ถูกผนึกเอาไว้นานนับพันปีเพราะว่ามันสามารถที่จะถูกดึงออกมาได้ด้วยฮีโร่ที่แท้จริงที่ถูกเลือกโดยสรวงสวรรค์เท่านั้น ฮีโร่ที่แท้จริงท่ามกลางเหล่าฮีโร่แต่ว่ามันกลับได้รับการเปิดเผยออกมาสู่โลกภายนอกโดยฮีโร่ ‘เลสคาปี้’…
เขาได้เปิดเผยความจริงที่อยู่เบื้องหลังของดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มที่สอง!
……………………………………………………..
หากชอบเรื่องนี้สามารถให้กำลังใจและสนับสนุนผู้แปลได้ทาง mynovel.co หรือ
……………………………………………………..
ซอดัมไม่อาจที่จะซ่อนสีหน้าที่ราวกับว่ามีคนปาขึ้ใส่หน้าตนเองได้ในขณะที่เขาได้อ่านพล็อตเรื่องของเนื้อเรื่องใหม่นี้
‘…เชี่ย!! มันกลายมันงี้ได้ไงกันฟระ?’
มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน การปรากฏขึ้นของดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มที่สอง!
ณ ศูนย์กลางของมันนั้นเอง ร่างกายของยูซอดัมก็ได้พล่าเลือนไปกับแสงที่ส่องลงมาและหายไปพร้อมกับความสับสนมึนงงที่อยู่บนใบหน้าของเขา
[กำลังทำการแทรกแซงเนื้อเรื่องของตัวเอก ‘เลสคาปี้’]
[กำลังทำการเร่งเวลาไปข้างหน้า]
[ช่วงเวลา ณ ปัจจุบัน : 30 มิถุนายน 3030]
[ตำแหน่ง ณ ปัจจุบัน : คาร์เมลลิเซียน เมืองหลวงของจักรวรรดิอันวาร์ คาร์เมล]
……………………………………………………..
หากชอบเรื่องนี้สามารถให้กำลังใจและสนับสนุนผู้แปลได้ทาง mynovel.co หรือ
……………………………………………………..
นิชานึกย้อนไปถึงวันวาน วันที่เธอมีอายุได้ 9 ขวบ ในวันนี้ปีศาจได้ปรากฏตัวขึ้นมาและโจมตีมาที่เธอ แต่ว่าเธอก็ถูกช่วยชีวิตเอาไว้โดยชายคนหนึ่ง
‘ตอนนี้เธอกำลังฝันร้ายอยู่เข้าใจไหม?’
เช่นเดียวกันกับเหล่าผู้คนที่อยู่รอบตัวเธอต่างก็พากันบอกเธอแบบเดียวกัน
‘เจ้าหญิง เจ้าค่ะ สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นเป็นเพียงแค่ฝันร้ายเท่านั้นแหละเจ้าค่ะ’
อย่างไรก็ตามนิชารู้ดี เธอรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ได้แค่ฝันร้ายแต่เป็นเรื่องจริง
หลักฐานเพียงหนึ่งเดียวก็คือ ร่างกายของเจ้าปีศาจตนนั้นที่ได้ระเหยไปต่อหน้าต่อตาเธอรวมไปถึงตัวตนของ ‘ชายคนนั้น’ คนที่ได้ช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ เช่นเดียวกันกับการที่เธอเป็นเพียงพยานเพียงคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ เขาได้หายไปในทันทีหลังจากนั้น เพราะเหตุนี้เลยไม่มีใครสักคนเลยที่เชื่อในคำพูดของนิชา
อย่างไรก็ตามเธอเชื่อในตัวของ ‘ชายคนนั้น’ คนที่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาในทุกๆปี ณ วันเกิดของตัวเธอเอง หลังจากวันนั้นเธอก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยเพื่อที่จะให้ถึงวันเกิดของเธอแทนที่จะหวาดกลัวเหล่าปีศาจพวกนั้นที่จะเข้ามาโจมตีเธอ
แต่ว่าหลังจากวันเกิดครั้งที่ 15 ของเธอชายคนนั้นก็ไม่เคยที่จะปรากฏตัวขึ้นอีกเลย และ นิชาก็ได้ฝั่งความทรงจำพวกนั้นลงไปและคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ฝันร้ายในช่วงหน้าร้อนของเธอเท่านั้นเอง
แต่ว่าอย่างไรก็ตาม เป็นอีกหนึ่งครั้ง ชายคนนั้นได้ปรากฏตัวขึ้น เขาปรากฎตัวขึ้นในสถานที่แห่งนั้นและได้รับการอวยพรว่าเป็นการถือกำเนิดขึ้นของฮีโร่คนใหม่!
แต่ว่า
‘ชายคนนั้น มันเป็นซาตาน!’
‘เขาเป็นปีศาจชั่วร้ายที่ขโมยดาบศักดิ์สิทธิ์ไป’
ในปีต่อมา เลสคาปี้ ฮีโร่ที่แท้จริง คนที่ได้ค้นพบกับดาบศักดิ์สิทธิ์ในตำนานที่ถูกปิดผนึกเอาไว้หลายพันปีก่อน ได้ปรากฎขึ้นและปฏิเสธตัวตนของยูซอดัม ในตอนแรกเหล่าผู้คนทั้งหลายต่างพากันสงสัยในคำกล่าวอ้างของเขา อย่างไรก็ดีข่าวลือที่ว่าฮีโร่ตัวปลอมคนนี้ไม่ได้แสดงตัวตนเพื่อปฏิเสธความเข้าใจผิดนี้เลย ในท้ายที่สุดแล้วจักรพรรดิก็ทรงพิโรธยูซอดัมและพยายามที่จะค้นหาตัวเขาเพื่อที่จะริบคืนดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มนั้น
แต่ว่านิชาก็ยังคงเชื่อมันในตัวเขา
ชายคนที่คอยปกป้องเธอและปรากฏตัวขึ้นในความฝันวัยเยาว์ของเธอจะเป็นซาตานได้ยังไงกัน?
แต่ว่าไม่มีใครสักคนที่ฟังเธอเลย ไม่ว่าจะเป็นสาวใช้,อัศวิน และเหล่าขุนนางที่เธอเชื่อใจมากที่สุดหรือว่าแม้แต่ท่านจักรพรรดิ ท่านพ่อของเธอเองก็อยู่ข้างเดียวกับ เลสคาปี้
‘เจ้าแค่ฝันไปเท่านั้นแหละ’
เขาพูดแบบนั้นกับเธอ
เธอไม่เชื่อมัน มันราวกับว่าโลกใบนี้กำลังหมุนวนอยู่รอบตัวของเลสคาปี้
‘ไม่ใช่มันแน่’
ตัวของนิชาสั่นไหวเมื่อเธอมองเขาไปในดวงตาของเลสคาปี้ มันเป็นสายตาที่น่าขยะแขยงที่ไม่ได้มองว่าคนเป็นคน มันเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความน่ารังเกียจที่ลูบไล้ไปทั่วทั้งตัวของเธอ ก่อนหน้านี้นิชาไม่เคยที่จะสบตากับเลสคาปี้มาก่อนเลยแต่ว่าโชคไม่ดี ที่ในวันนั้น วันที่เธอได้เจอกับเขาในตอนพิธีแต่งตั้งในตอนนั้น มันช่างโชคร้ายที่เขาสนใจในตัวเธอ
‘ถ้าหากว่าข้ากลับมาหลังจากที่เอาชนะราชาปีศาจลงได้ ข้าขอรางวัลเป็นเจ้าหญิงได้หรือไม่ขอรับ?’
เพื่อตอบรับกับคำเรียกร้องนั้น ท่านจักรพรรดิก็ทรงให้คำมั่นสัญญาไปด้วยความยินดี
ตุบ นิชารู้สึกราวกับว่าก้อนหินขนาดมหึมาตกลงมาทับอยู่ที่อกของเธอ
เธอเกลียดชายคนนี้ เธอไม่อยากที่จะแต่งงานกับชายที่น่าขยะแขยงคนนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ดีว่าเขาเป็นฮีโร่เพียงคนเดียวเท่านั้นในโลกใบนี้ หากขาดเขาไปราชาปีศาจตนนั้นก็ไม่อาจที่จะถูกโค่นลงได้
‘…ถ้าหากว่าทุกคนๆสามารถที่จะมีความสุขได้ด้วยการใช้ความรู้สึกส่วนตัวของข้าเพียงคนเดียวเข้าแลกหละก็…นั้นคงจะเป็นสิ่งที่คุ้มค่าแล้ว’
ชายที่เจิดจรัสที่สุดในโลกใบนี้ ฮีโร่ลาสคาปี้
ทุกคนในโลกใบนี้ต่างพากันแสดงความยินดีให้กับ นิชา คาร์เมลที่ได้รับข้อเสนอจากเขา
ฮีโร่ที่วิเศษที่สุดในโลกในบี้และเจ้าหญิงที่งดงามที่สุดมาเข้าคู่กัน!
แต่ว่า
นิชา คาร์เมล เกลียดการที่ได้รับการปฏิบัติราวกับว่าเป็นเพียงแค่ ‘เจ้าหญิงที่งดงามที่สุด’ เมื่ออยู่ต่อหน้าฮีโร่ สมญานามทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น ‘แข็งแกร่งที่สุด’ , ‘ยอดเยี่ยมที่สุด’ และ ‘กล้าหาญที่สุด’ ก็ล้วนถูกเพิ่มให้กับเขา
‘…ไม่สิ มันจะต้องเป็นความผิดของตัวข้าเอง มันเป็นความผิดของข้าเองที่ข้าเอาแต่ใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบสงบราวกับดอกไม้ในเรือนกระจกเช่นนี้’
เธอค่อยๆลดดาบไม้ในมือของตนเองลง ร่างการที่ผอมเพรียวของเธอประดับไปด้วยกล้ามเนื้อที่เข้ารูปและเม็ดเหงื่อที่ไหลลงตามร่างกายของเธอ
ที่ฝ่ามือของเธอ เป็นผิวหนังที่หยาบกร้าน ซึ่งไม่ได้เหมาะกับคำเรียกขานว่าเจ้าหญิงของตัวเธอเองเลย มันเป็นร่องรอยของความบากบันของเธอแต่ว่าไม่มีใครสักคนบนโลกใบนี้เลยที่จดจำได้ว่านิชา คาร์เมลเป็นฮีโร่ พวกเขาจดจำว่าเธอเป็นเพียงแค่เจ้าหญิงเท่านั้น
“เธอฝึกหนักมาเลยนะ”
นิชา คาร์เมลหันหน้าของเธอไปด้วยสีหน้าที่แข็งเกร็งในขณะที่เธอได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
ที่ด้านหลังของเธอ ชายหนุ่มที่มักจะปรากฏตัวขึ้นมาเสมอในความความฝันของเธอและได้ช่วยเหลือเธอหลายต่อหลายครั้งในวันเกิดของตัวเธอเองกำลังมองมาที่เธออยู่
“…ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
เส้นผมสีดำและดวงตาสีขาว
นิชา คาร์เมลยิ้มออกมาอย่างสว่างไสวในขณะที่ดวงตาของพวกเขาทั้งคู่ได้สบกัน
“คนหลอกลวง นี่ท่านรู้บ้างไหมค่ะเนี่ยว่าในตอนนี้ทุกคนในโลกใบนี้ล้วนต่างพากับเกลียดท่านหมดแล้วนะคะ?”
“ฉันรู้ บรรยากาศที่อบอวนไปด้วยเลือดเช่นนั้น ให้ตายเถอะ ไอ้เจ้าดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มที่สองนั้นมันบ้าอะไรกัน?”
นิชาไม่ได้รู้สึกถึงความหวาดวิตกใดๆจากคำตอบแบบขอไปทีของเขาได้เลย เธอวางดาบไม้ของเธอลงและค่อยๆเข้าไปหาเขา ลูบไปที่แก้มของเขา เธออยากที่จะตรวจสอบดูให้แน่ใจว่านี้เป็นความจริงหรือแค่เพียงความฝันของเธอกันแน่
“ท่าน…ไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่นิดเดียวเลยนะคะนับจากวันนั้น มันราวกับว่าท่านเป็นใครสักคนที่ย้อนเวลากลับมาจากอนาคตเลย…”
ยูซอดัมตอบกลับไปอย่างชาญฉลาด
“บางครั้งเมื่อเธอรู้สึกบางสิ่งบางอย่างนั้นมันช่างน่าตื่นเต้นแล้ว เวลาก็มักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วไม่ใช่หรือไง?”
“ฮิฮิ อย่างนั้นเหรอคะ?”
นิชายังคงเติบโตขึ้นเรื่อย เธอมีอายุ 19 ปีแล้วในปีนี้ แต่ว่าเธอกลับให้บรรยากาศที่ดูเป็นผู้ใหญ่และหนักแน่นยิ่งกว่าผู้ใหญ่คนอื่นเสียอีก
“ผู้คนต่างพากันบอกว่าสิ่งที่ท่านได้ทำให้กับข้าในตอนนั้นไม่ใช่อะไรเลยนอกไปจากความฝันนะคะ”
“มันก็คงจะเป็นแบบนั้นแหละ”
“แต่มันไม่ใช่นิค่ะ ท่านปรากฏตัวขึ้นมา แถมท่านอยู่ต่อหน้าข้าในตอนนี้vud”
ในขณะที่เธอพูดเช่นนั้น เธอก็ชี้ไปที่ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในมือของยูซอดัม
“แถม…ดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้เองก็ยังลงส่องแสงออกมาอยู่เลย มันเองก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าท่านเองก็ต้องเป็นฮีโร่ที่ถูกโลกใบนี้เลือกด้วยเช่นเดียวกัน”
“โอ้ว นี้มัน…เออ…มันเป็นเพราะเหตุผลบางอย่างนะ ฉันบอกได้ว่ามันส่องแสงก็จริงแต่ว่ามันไม่ได้มีความสามารถอย่างอื่นหรอกนะ? มันก็แค่ดีกว่าดาบทั่วไปนิดหน่อย…”
ในทางตรงกันข้ามกับคำกล่าวของนิชา ซอดัมนั้นกลับรู้สึกผสมปนเปกันไปด้วยอารมณ์หลายๆอย่างเกี่ยวกับดาบเล่มนี้
เขาคิดว่าถ้าหากเขาดึงดาบเล่มนี้ขึ้นมาแล้ว เขาจะสามารถแทรกแซงการถือกำเนิดของตัวเอกได้ทางไหนสักทางแต่ว่าแทนที่จะเป็นแบบนั้นมันกลับดูเหมือนว่าเขาจะได้ช่วยเหลือตัวเอกไปซะงั้น
นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว ซอดัมก็ไม่สามารถที่จะปลดปล่อยความสามารถที่แท้จริงของดาบศักดิ์สิทธิ์ยูเล็ทได้ นั้นเป็นเพราะว่าระบบได้บอกนี้ไม่ใช่ปัญหาในเรื่องของการใช้จ่ายความเป็นไปได้ออกไปหรือไม่ มันกลับเป็นเรื่องที่หากกว่าเมื่อไหรก็ตามที่เขาใช้งานดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้ เขาจะเข้าสู่กระบวนการกลายมาเป็น ‘ตัวเอก’ ของโลกใบนี้ในทันที
“ฉันค่อนข้างที่จะมีปัญหามันอยู่นะ…เดียวก่อนนะ”
อยู่ดีๆความคิดหนึ่งก็ได้เด้งขึ้นมาในใจของเขาในขณะเดียวกันกับที่เขามองไปยังดาบโง่ๆที่ตนเองไม่อาจจะใช้ได้กับนิชา เจ้าหญิงที่พึ่งจะเสร็จสิ้นการฝึกฝนด้วยดาบไม้ในมือของเธอเอง และดาบอีเทอร์ที่อยู่กับตัวเขา
“เฮ้ นี่เธอเคยได้ลองดึงดาบศักดิ์สิทธิ์ดูบ้างไหม?”
“เออ? ไม่ค่ะ ข้าไม่มีคุณสมบัติค่ะ”
“งั้นเหรอ?”
หนึ่งในพล็อตเรื่องซ้ำๆซากที่มักจะอยู่ในเนื้อเรื่องของราชาปีศาจและฮีโร่ก็คือบททดสอบที่ราชาปีศาจมักจะส่งไปยังฮีโร่และเมื่อเขาได้ปราบศัตรูเหล่านั้น ฮีโร่ก็จะแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ
ระดับของบททดสอบก็คงจะเป็นดังเช่น ความยากระดับ1 ก็เป็นระดับลูกกระจ๊อก ระดับ2 ก็เป็นพวกตัวทั่วๆไป ระดับ3 นายพล ระดับ4 วอล็อคและระดับที่5 สี่ราชาสวรรค์ และระดับสุดท้ายก็คงจะเป็นตัวของราชาปีศาจเอง
ด้วยบททดสอบที่ยาวนานพวกนี้โดยที่ไม่ได้มีขุมกำลังใดๆเข้ามาแทรกแซง ฮีโร่คนนั้นก็จะได้รับพลังความแข็งแกร่งที่ใช้ในการเอาชนะราชาปีศาจมาครอบครองในขณะที่ราชาปีศาจก็จะหลุดพ้นจากการถูกปิดผนึกได้ในเวลาในใกล้เคียงกันพอดี
ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ เจ้าปีศาจแห่งภัยพิบัติโอเมก้า ซึ่งเขาเคยเห็นมันในอีก 50 ปีต่อจากนี้ในอนาคตยังไม่ได้อยู่ที่นี่ในตอนนี้
พึ่งจะตอนนี้เท่านั้นเองที่เขารับรู้ได้ว่าทำไมโลกใบนี้ถึงได้ถูกทำลายลง และเขาพยายามที่จะพูดบางอย่างออกมา
“มันก็แค่…”
อยู่ๆทันใดนั้นเอง เหล่าอัศวินจำนวนมากต่างพากันพุ่งตรงเข้ามายังลานฝึกซ้อมแห่งนี้
“ทางนั้นๆ!!! ข้าเห็นซาตานเขาหาเจ้าหญิง!”
หญิงสาวได้ชี้มือของเธอไปยังที่ที่ยูซอดัมและนิชายืนอยู่ ที่ด้านหลังของหญิงสาวคนนั้น มีอัศวินนับร้อยๆคนที่กำลังวิ่งตรงมาด้วยความต้องการที่จะปกป้องเจ้าหญิงและลงโทษซาตานที่ได้ขโมยดาบศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาไป
เมื่อเห็นแบบนั้นแล้ว
ยูซอดัมหัวเราะออกมา แล้วเขาก็โอบมือของตนไปที่รอบเอวของนิชา ยกตัวเธอขึ้นไปบนอากาศและเปล่งเสียงหัวเราะอันแสนชั่วร้ายออกมา
“เคี้ยกๆ! นับจากตอนนี้ไปเจ้าหญิงของพวกเจ้าจะถูกข้าปีศาจซุปเค้กข้าว ยูซอดัม! พาตัวไปหากว่าเจ้าต้องการที่จะช่วยเหลือเธอแล้วหละก็มาที่ปราสาทปีศาจในอีกหนึ่งสัปดาห์สิ!”
[เนื้อเนื่องบทใหม่ ‘เจ้าหญิงผู้ถูกลักพาตัวไปโดยปีศาจที่แสนชั่วร้าย?! (1)’ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!]