ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1085 เทพกระบี่ มารกระบี่
เป็นจิตกระบี่จริงๆ
และสิ่งที่ทำให้ผู้คนสนใจมากกว่าก็คือ จิตกระบี่ไม่ได้มีแค่สายเดียว แต่เป็นจิตกระบี่สองสายที่พันตูกันอยู่ คล้ายกับกระบี่สองเล่มกำลังสู้กัน ส่งเสียงดังเคร้งคร้างสะท้อนไปทั่วมิติ
เสียงกระบี่นั้นเหมือนกับดังจากอดีตที่ไกลแสนไกล ข้ามผ่านยุคสมัย มาถึงปัจจุบันขณะ
จิตกระบี่ที่เย็นยะเยือกอยู่ห่างออกไป แต่ก็ยังทำให้ผู้คนต้องสยิวกาย
พวกเยี่ยนจ้าวเกอเข้าใกล้ หลังจากอยู่ห่างจากมันน้อยลงกว่าเดิม ก็แยกแยะจิตกระบี่นั้น ก่อนที่พวกเขาจะรู้สึกหวั่นใจไปพร้อมๆ กัน
สายตาของจักรพรรดิแพรและจักรพรรดิไร้จำกัดต่างมองมาทางเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำ “กระบี่หยกเบิกนภา…”
ในตอนที่ยังอยู่ที่เขาคุนหลุน เขาเคยสนทนาแลกเปลี่ยนกับพวกหวังผู่มาก่อน และไม่ได้รู้สึกไม่คุ้นเคยกับกระบี่หยกเบิกนภา
ยิ่งอย่าว่าแต่ตอนอยู่ในทะเลหวงเจีย ยังเคยเห็นกระบี่เดียวเบิกฟ้าที่ทลายศิลาสะท้านสวรรค์ของกษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยด้วยตาตัวเอง
เยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้หลังจากแยะแยะจิตกระบี่สองสายแล้ว ก็พบว่าจิตกระบี่สายหนึ่งในนี้กลับเป็นกระบี่หยกเบิกนภาที่เยี่ยนซิงถางปู่ของตัวเองสร้างขึ้น
จิตกระบี่ของเยว่เจิ้นเป่ยกับจิตกระบี่นี้เป็นการสืบทอดเดียวกัน บริสุทธิ์และไร้สิ่งเจือปน
จักรพรรดิแพรกับจักรพรรดิไร้จำกัดต่างจำจิตกระบี่ของกระบี่หยกเบิกนภาได้ “เพียงไม่ทราบว่าเป็นสิ่งที่กษัตริย์กระบี่ทิ้งไว้ หรือว่าจะเป็นของ…ราชันพระศุกร์?”
“จิตกระบี่อีกสายกลับไม่ใช่กระบี่สายเหนือพิสุทธิ์” จักรพรรดิแพรเผยสีหน้าสนอกสนใจออกมา
ถึงแม้ว่าคนที่เคยสู้กันจะมีพลังฝึกปรือสูงล้ำ แต่ว่าจิตกระบี่ก็คงอยู่มาถึงวันนี้ไม่หายไป ยังป้องกันการกัดกินมิติของนพยมโลกได้ การรักษาที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ความสำคัญส่วนหนึ่งก็คือ จิตกระบี่สองสายพันตูกันจนอยู่ในสภาพสมดุลอันน่าอัศจรรย์ ต้านทานการเคี่ยวกรำจากกาลเวลา
จิตกระบี่อีกสายหนึ่งเห็นได้ชัดว่าถูกกระบี่หยกเบิกนภาสะกดไว้ แต่ว่าก็ไม่ธรรมดา เรียกได้ว่าน่าทึ่งยิ่ง
จิตกระบี่นี้ พวกเยี่ยนจ้าวเกอกลับแยกแยะได้ว่าไม่ใช่สี่กระบี่รัตนาแห่งสายเหนือพิสุทธิ์
สี่กระบี่รัตนาเป็นความสำเร็จสูงสุดของวิชากระบี่สำนักเต๋ามาโดยตลอด
ในใจของจอมยุทธ์สำนักเต๋าจำนวนมาก โดยเฉพาะในใจของจอมยุทธ์ที่สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ สี่กระบี่รัตนาเป็นความสำเร็จสูงสุดในโลกเสมอมา
หลายปีมานี้ เพียงปรากฏผู้ท้าทายไม่กี่คนที่มีคุณสมบัติในการท้าสู้กับผู้ฝึกกระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ แต่กลับเป็นแค่คุณสมบัติเท่านั้น
อย่างเช่นหยกโปหยิน ศิษย์ของเทวกษัตริย์บรรพกำเนิด บรมครูสายหยกพิสุทธิ์ในตำนานยุคสถาปนาเทพ
อย่างเช่นที่จักรพรรดิจื่อเวย หนึ่งในสี่เทวราชแห่งสำนักเต๋าได้สร้างมรรคากระบี่ จากวิชาทัณฑ์ครอบฟ้าซึ่งเป็นหนึ่งในห้าจุดจบตามหลังวิชาสายเอกพิสุทธิ์ เป็นการสืบทอดสายใหม่
พวกเขาสองคนและเทวกษัตริย์วิเศษคณานับ ยอดฝีมือที่เป็นผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ ที่แล้วมาถูกเรียกว่าเป็นสามยอดฝีมือแห่งมรรคากระบี่ซึ่งอยู่ในระดับสุดยอดที่สุดของสำนักเต๋า
ทว่าความจริงแล้ว ยอดฝีมือมรรคากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ก็ยังมีมากกว่า เทวกษัตริย์วิเศษคณานับเป็นแค่ผู้ที่โดดเด่นที่สุดในนี้เท่านั้น
นอกจากสำนักเต๋าแล้ว ในดินแดนอภิรดีของศาสนาพุทธ์ก็เคยให้กำเนิดผู้ใช้กระบี่ผู้หนึ่ง ซึ่งได้หลงเหลือตำนานไว้ไม่ด้อยไปกว่าผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ในตอนนั้น
แต่ว่าผู้ใช้กระบี่แห่งศาสนาพุทธผู้นั้นรักสันโดษ ต่อมาข่าวคราวของเขาก็เริ่มหายไปจากมรรคากระบี่ศาสนาพุทธ และให้กำเนิดผู้สืบทอดที่โดดเด่นคนหนึ่งหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่
ทว่าสิ่งที่ควรค่าแก่ความสนใจก็คือ ถึงแม้ยอดฝีมือเหล่านี้จะโดดเด่นไม่ด้อยไปกว่าผู้ฝึกกระบี่แห่งสายเหนือพิสุทธิ์ แต่สุดท้ายแล้วมรรคากระบี่ที่พวกเขารับสืบทอดก็ยังมีสภาวะด้อยกว่าสี่กระบี่รัตนาอยู่ดี
หรือควรจะบอกว่าสิ่งที่พวกเขาท้าทายเป็นผู้ฝึกกระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ ไม่ใช่มรรคากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์
การท้าทายครั้งแรกที่มรรคากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ได้เผชิญอย่างแท้จริง ความจริงเกิดขึ้นหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่
หลังราชันพระศุกร์เยี่ยนซิงถาง ปู่ของเยี่ยนจ้าวเกอได้กำเนิดขึ้นมาบนโลก แล้วพัฒนามรรคากระบี่ของที่หยกโปหยินได้ส่งต่อให้ขึ้นอีกขั้น สร้างกระบี่หยกเบิกนภา สี่กระบี่รัตนาจึงค่อยพบคู่มือที่แท้จริง
แน่นอนว่ายังไม่อาจกล่าวได้ว่ากระบี่หยกเบิกนภาในตอนนี้จะเทียบได้กับสี่กระบี่รัตนา แต่คนที่มีประสบการณ์ต่างมองศักยภาพด้านในออก
ความสำคัญที่จำกัดความสำเร็จของกระบี่หยกเบิกนภาไว้ก็คือ ระดับของตัวเยี่ยนซิงถางยังไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุด
ถ้าหากไม่ได้จากไปตั้งแต่ยังอายุน้อย ด้วยพรสวรรค์ ความสามารถ และพลังฝึกปรือที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง วิชากระบี่ของเขาก็จะรุดหน้าไม่หยุดยั้งเช่นกัน
สุดท้ายจะทำให้วิชาที่สร้างขึ้นเทียบได้กับวิชากระบี่สะท้านโลกเช่นสี่กระบี่รัตนาได้จริงๆ
ก่อนหน้านี้คนที่มีความเป็นไปได้ว่าจะทำได้มากที่สุดก็คือจักรพรรดิจื่อเหว่ย แต่ทุกอย่างก็หยุดชะงักลงเพราะวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่
เยี่ยนซิงถางเดินซ้ำรอยเดิม ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนทอดถอนใจด้วยความเสียดาย
ทว่าตอนนี้ด้านในนพยมโลกแห่งนี้กลับมีวิชากระบี่นอกจากมรรคากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ สู้กับกระบี่หยกเบิกนภา
ไม่ใช่มรรคากระบี่ศาสนาพุทธ และไม่ใช่มรรคากระบี่ของจักรพรรดิจื่อเวย
แต่เป็นกระบี่มารแขนงหนึ่ง!
“ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ คล้ายกับไม่เคยได้ยินว่าในวิถีมารมีวิชากระบี่เช่นนี้…” เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งนึกย้อน ทางหนึ่งมองจักรพรรดิแพรและจักรรพรดิไร้จำกัด
จักรพรรดิไร้จำกัดครุ่นคิดพร้อมกับเอ่ยว่า “คิดดูอย่าละเอียดแล้ว จิตกระบี่ของกระบี่หยกเบิกนภาที่อยู่ในนี้ เกรงว่าอาจจะเป็นราชันพระศุกร์เหลือไว้ ใช้กระบี่ต่อสู้กับกระบี่หยกเบิกฟ้าในเขตมารของนพยมโลก ข้านึกถึงเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง”
“อินสือหยาง มารกระบี่!” จักรพรรดิแพรเอ่ยต่อ
เยี่ยนจ้าวเกอตาเป็นประกาย “มาร…กระบี่?”
จักรพรรดิแพรอธิบาย “พวกเราอย่าเพิ่งเดาส่งเดช เข้าไปดูกันเถอะ”
“ถูกต้อง” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า ทุกคนพากันเข้าใกล้
หมอกดำตรงหน้าเริ่มสลาย ควันมารนพยมโลกหายไป กลับมีแสงสีขาวส่องระยิบระยับ โดดเด่นสะดุดตาในเขตมารแห่งนี้เป็นพิเศษ
แสงสีขาวแซมด้วยแสงโลหะ คล้ายกับมีเสียงสายฟ้าดังมาเลือนราง
พวกเยี่ยนจ้าวเกอพลันกระจ่างแจ้ง ‘จริงด้วย ที่นี่เดิมทีมีร่องรอยที่สายฟ้าอนัตตาได้เหลือเอาไว้ บวกกับการพันตูของจิตกระบี่สองสาย มิน่าผ่านไปนานขนาดนี้ถึงยังรักษาสภาพที่แข็งแกร่งเช่นนี้ไว้ได้’
ถึงแม้ว่าตัวสายฟ้าเซียนจะหายไปแล้ว แต่จิตกระบี่สองสายกับสายฟ้าในตอนนั้นกลับสร้างมิติอันเป็นเอกเทศบริเวณเล็กๆ แห่งหนึ่งขึ้นในมุมหนึ่งของนพยมโลกแห่งนี้
ทุกคนเมื่อเข้ามาด้านใน จิตกระบี่ก็สร้างความเย็นขึ้น แต่ไม่ได้ส่งการโจมตีใส่ผู้มาอย่างพวกเขา
หลังจากเข้ามาด้านในมิติต่างแดนแห่งนี้ และได้สัมผัสจิตกระบี่ที่พันตูกันอยู่นั้น ก็มีภาพหนึ่งลอยขึ้นมาด้านหน้า
ประกายกระบี่สะท้านฟ้าสองสาย หนึ่งดำหนึ่งขาว เกาะเกี่ยวกันพร้อมกับพุ่งมาจากด้านนอก ฟันควันมารนพยมโลกไร้สิ้นสุดกับดินแดนของนพยมโลก หลงเหลือรอยแตกไว้ในเขตมาร
ประกายกระบี่พุ่งลงที่นี่ในขณะที่ปะทะกัน ทำลายสายฟ้าอนัตตากลุ่มหนึ่งเป็นผุยผง สุดท้ายก่อเกิดเป็นมิติต่างแดนแห่งนี้
เยี่ยนจ้าวเกอทราบว่า นี่เป็นฉากเหตุการณ์ในตอนนั้น เขามองไปยังที่มาของประกายกระบี่ด้วยความพยายามทั้งหมด
ตรงนั้น เงาร่างสีม่วงสีดำสองสายกำลังปะทะกันอยู่ ก่อนที่เงาร่างจะพลันหยุด ปรากฏร่างของบุรุษสองคน
บุรุษอาภรณ์ดำที่อยู่ในนี้เงยหน้าส่งเสียงกู่ร้อง “สุดท้ายก็ชนะท่านไม่ได้!”
ความชิงชัง ความยึดมั่น ความคับแค้น ความไม่พอใจไร้สิ้นสุด คล้ายกับจับตัวกันจนสัมผัสได้ ข้ามผ่านเส้นแบ่งของกาลเวลลาและมิติ ถมทับโลกทั้งใบ
คนหนุ่มอาภรณ์ม่วงผู้หนึ่งถือกระบี่เล่มเดียว ยืนอย่างสง่างามอยู่ตรงข้ามเขา
เหตุการณ์หยุดลงเพียงเท่านี้
แค่เวลาเพียงพริบตาเดียว เยี่ยนจ้าวเกอเห็นรูปร่างหน้าตาของคนหนุ่มอาภรณ์ม่วงผู้นั้นชัดเจน เป็นราชันพระศุกร์ เทพกระบี่เยี่ยนซิงถาง ปู่ของเขา!
“ราชันพระศุกร์ปู่ของเจ้า ในอดีตได้ผ่านสงครามน้อยใหญ่มานับครั้งไม่ถ้วน นอกจากจะใช้กระบี่สะกดมรกตท่องฟ้าจนได้ชื่อเทพกระบี่มาแล้ว ยังมีตำนานอีกมากมาย”
จักรพรรดิไร้จำกัดกล่าวอย่างแช่มช้า “หนึ่งในนั้นคือการต่อสู้กับมารกระบี่อินสือหยาง รายละเอียดไม่มีผู้ใดล่วงรู้ แต่ว่าผลลัพธ์สุดท้ายคือ หลังจากเทพกระบี่เอาชนะจักรพรรดิกระบี่ได้ ก็ได้สังหารมารกระบี่อีกครั้ง!”
………………..