ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1223 เยี่ยนจ้าวเกอผู้คงอยู่ทุกที่
“พี่ร่วมเส้นทางอย่าทำผิดครั้งแล้วครั้งเล่า!” บนใบหน้าของจักรพรรดิอาทิตย์ฉายแววปวดใจ ไล่ตามทวนพระอังคารด้วยความเร็วสูงสุดของตัวเอง
ขอแค่ขัดขวางทวนพระอังคารได้ก่อนที่จะเข้าไปในร่องแยกร่องที่สอง ต่อให้หยุดไว้แค่ชั่วพริบตาเดียว ลำแสงหลายสายที่พุ่งออกมาจากด้านในร่องแยกร่องแรกกลางอากาศก็จะตามทัน
“พี่ร่วมเส้นทางดื้อดึงไม่ยอมรับผิด รังแต่จะทำร้ายคนอื่นและทำร้ายตัวเอง” ร่างของจักรพรรดิอาทิตย์กลายเป็นลำแสง รวมเป็นหนึ่งเดียวกับโคมในคันฉ่องอาวุธเซียนของตัวเอง
จากนั้นก็มีประกายกระจกสายหนึ่งสาดออกมาจากโคมในคันฉ่อง พุ่งเข้าใส่ทวนพระอังคาร
ความเร็วที่ระเบิดออกมาในครั้งนี้สูงถึงขีดสุด ประกายกระจกบรรลุถึงด้านหลังทวนพระอังคารด้วยความเร็วสูง
ร่างของจักรพรรดิอาทิตย์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็ใช้กระบวนท่าไปที่ด้านหลัง ประกายกระจกเหมือนกลายเป็นเชือก ดึงคันฉ่องโบราณที่ตกอยู่ด้านหลังให้กลับมาในมือของเขาอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกัน จักรพรรดิอาทิตย์ก็คว้ามืออีกข้างหนึ่งใส่ทวนพระอังคาร
ทวนพระอังคารไม่ได้หันหน้ากลับ เพียงแต่สะบัดหางกลางอากาศ ก่อเกิดไฟลุกโชนฟาดใส่กลางฝ่ามือของจักรพรรดิอาทิตย์
ร่างของสองฝ่ายสั่นสะท้านทีหนึ่ง ร่างของจักรพรรดิอาทิตย์นิ่งอยู่ที่เดิม ส่วนความเร็วของทวนพระอังคารช้าลงเล็กน้อย
หลังจากช้าลง ทวนพระอังคารก็เพิ่มความเร็วขึ้นอีกครั้ง
ทว่าตอนนี้จักรพรรดิอาทิตย์มาอยู่ใกล้ๆ ยกโคมในคันฉ่องขึ้น จากนั้นก็ส่องใส่ทวนพระอังคาร
แสงเทียนที่สะท้อนกลับในกระจกสว่างวูบ ลำแสงสีทองจางๆ สายหนึ่งพุ่งออกมาจากด้านใน กลายเป็นเชือกพันธนาการทวนพระอังคารไว้
ทวนพระอังคารที่ต้องการเพิ่มความเร็ว ความเร็วกลับเปลี่ยนเป็นช้าลงมากกว่าเดิมชั่วขณะ
ระหว่างพวกเขา ต่อให้สามารถตัดสินผลแพ้ชนะ แต่ไม่ใช่เรื่องราวที่เกิดในหนึ่งหรือสองกระบวนท่า
จักรพรรดิอาทิตย์เพียงขอแค่ขวางทวนพระอังคารได้แค่ชั่วพริบตาเดียว สำหรับเขาแล้วไม่ใช่เรื่องยาก
ในขณะนี้เอง ในความว่างเปล่าที่อยู่อีกด้าน ลำแสงหลายสายสะท้านฟ้าสะเทือนดินพุ่งออกจากร่องแยกร่องแรก จากนั้นก็ปราดเข้ามาหาทวนพระอังคารกับจักรพรรดิอาทิตย์ในชั่วพริบตา
มิติอันกว้างใหญ่สำหรับพวกเขาใกล้เหมือนห่างกันแค่คืบเดียว เหมือนกับไม่มีระยะห่าง แค่ชั่ววินาทีก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว
กลิ่นอายที่น่าพรั่นพรึงนั้นแทบจะทำให้ผู้คนเป็นอัมพาตไปทั่วทั้งร่าง กระดิกกระเดี้ยไม่ได้
ถึงแม้เรื่องราวตรงหน้าจะเกิดหักมุม แต่ยังคงดำเนินการตามแผนการเดิมได้ จิตใจเป็นกังวลของจักรพรรดิอาทิตย์ในที่สุดก็ผ่อนคลายลง
แต่ทันใดนั้นบนทวนพระอังคารก็มีแสงสว่างสายหนึ่งพุ่งออกมา แสงนั้นสลัวๆ มัวซัว ไม่สว่าง ไม่แยงตา พร่าเลือน
พอเห็นแสงสว่างนั้น จักรพรรดิอาทิตย์ก็พลันสะท้านไปทั่วร่าง “สิบสองวิชาประกายกาฬ?!”
ในแสงที่ความมมืดและแสงสว่างรวมตัวกัน เงาคนสายหนึ่งปรากฏขึ้นจากด้านใน เป็นเยี่ยนจ้าวเกอ!
“จักรพรรดิอาทิตย์เอาใจใส่ ทั้งใจดำ ทั้งพยายามนัก” ในเสียงหัวเราะ เยี่ยนจ้าวเกอยื่นมือออกมาจับทวนพระอังคาร จากนั้นเขาก็สะบัดคราหนึ่ง!
แก่นแท้ของคัมภีร์เบิกนภาที่เพิ่งจะเริ่มศึกษาจนมีความเข้าใจเล็กน้อยถูกเยี่ยนจ้าวเกอใช้ออกมา พลันผสานกับจิตพลังของทวนพระอังคาร
ถึงแม้ระหว่างกันจะมีความแตกต่างกันไม่น้อย แต่ก็ยังมีจุดที่เชื่อมต่อกันในชั่วพริบตา
พลังของทั้งสองฝ่ายรวมกันทุกส่วน เพลิงเบิกนภาที่บ้าคลั่งและสว่างไสวปรากฏขึ้น
ทวนพระอังคารพลันกลายเป็นสิ่งที่เหมือนขวานไม่เหมือนขวาน จากนั้นก็ฟันใส่ไฟโคมสีทองที่พันอยู่บนด้ามทวนจนหมดสิ้น
พอการพันธนาการหายไป เยี่ยนจ้าวเกอกับทวนพระอังคารพลันเร่งความเร็ว กลายเป็นแสงไฟหย่อมหนึ่ง พุ่งเข้าไปด้านในร่องแยกร่องที่สองในชั่วอึดใจ
แทบจะเป็นในเวลาเดียวกับที่พวกเขาพุ่งเข้าไป ลำแสงที่มีกลิ่นอายแข็งแกร่งถึงขีดสุดหลายสายก็ไล่ตามมาถึงด้านนอกร่องแยกแล้ว!
แต่ว่าหลังจากเยี่ยนจ้าวเกอกับทวนพระอังคารโถมเข้าไปแล้ว ในร่องแยกร่องที่สองก็มีอัคคีที่รุนแรงถึงขีดสุดระเบิดออกมา ม้วนพัดมิติเวลา ขวางลำแสงหลายสายนั้นไว้
ขณะที่เปลวเพลิงเหล่านี้ลอยขึ้น ร่องแยกร่องที่สองก็พลันหุบลง หายไปไม่เห็นร่องรอย
ความรู้สึกโกรธแค้นสั่นสะท้านในความว่างเปล่า ทำให้มิติแหลกสลาย
แต่ว่าไม่ว่าพวกเขาจะโมโหขนาดไหน ยามนี้ก็ได้แต่ต้องรับความจริงหนึ่งให้ได้อย่างอับจนปัญญา
พวกเขาต้องเริ่มการไล่ตามราชันพระอังคารสั่วหมิงจางใหม่แต่ต้น
ถึงแม้ว่าในบรรดาของยอดฝีมือโถงเซียนที่มาถึงจะมีผู้ที่เชี่ยวชาญการเปลี่ยนแปลงของมิติเวลา แต่ว่าหลังจากพยายามล้วงลึกเข้าไปค้นหามิติช่องว่างบริเวณนี้อย่างต่อเนื่องชั่วขณะก็ยังได้แค่ต้องยอมแพ้
สภาพแวดล้อมด้านในเมฆดาราปฐมกำเนิด สำหรับผู้ไล่ตามแล้วเป็นอุปสรรคใหญ่หลวง
จักรพรรดิอาทิตย์เทียนไขถอยไปอยู่ด้านข้าง มองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ความว่างเปล่าสั่นไหวทีหนึ่ง บุรุษวัยกลางคนสวมอาภรณ์ดำคนหนึ่งปรากฏขึ้นด้านข้างเขา “เสียเวลาไปแล้ว”
ถึงกับเป็นจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำ
“เดิมทีแม้จะถูกค้นพบ ข้าก็ถ่วงเวลาเขาได้ทัน แต่ก่อนหน้านี้ไม่พบว่าถึงกับยังมีอีกคนร่วมทาง” จักรพรรดิอาทิตย์กล่าวเสียงทุ้ม “เป็นข้าประมาทเลินเล่อไป เยี่ยนจ้าวเกอ คิดไม่ถึงว่าเขาจะอยู่ด้วย คนผู้นี้อยู่ทุกที่เลยอย่างนั้นหรือ”
นักพรตหน้าแดงมองความว่างเปล่าตรงหน้าอย่างซึมเซา “สามารถหว่านแหจับมาได้ทั้งหมด หรือว่าล้มเหลวตอนใกล้สำเร็จ พูดตอนนี้ยังเร็วไป”
…
“ไม่ต้องกังวลใจชั่วคราว” เยี่ยนจ้าวเกอหลังข้ามผ่านร่องแยกก็หันกลับไปมอง เห็นร่องแยกของมิติเวลาสมานตัวกันแล้วหายไป
ขณะที่ลำเพลิงหลายสายตรงหน้าพุ่งตัว ไกลออกมาก็มีแรงดึงดูดที่รุนแรงส่งมา ดึงพวกเขาเข้าไปด้วยความเร็วสูง
“ถ้าไม่ใช่เซียนผู้ถูกเนรเทศเตือน ข้าอาจจะทำความผิดพลาดใหญ่ไปแล้ว” ทวนพระอังคารกลับกลายเป็นยักษ์เพลิงอีกครั้ง
“ผู้อาวุโสเกรงใจแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านเอาก็สงสัยอยู่แล้วไม่ใช่หรือ”
พวกเขาให้จักรพรรดิอาทิตย์เป็นคนพาไป เพิ่งจะข้ามผ่านวงล้อมที่โถงเซียนผนึกไว้มาด้านใน เข้าใกล้ขอบเมฆดาราปฐมกำเนิดได้ไม่ทันไร เมฆดาราปฐมกำเนิดก็พลันเกิดความผิดปกติทันที
จะมองอย่างไรล้วนบังเอิญเกินไป
ถ้าไม่ใช่เพราะเมฆดาราปฐมกำเนิดเกิดความผิดปกติ ดูดกลืนคนที่อยู่รอบๆ เข้าไป แต่เป็นเพราะการเปลี่ยนงแปลงของมิติเวลาทำให้แต่ละคนพลัดหลง เช่นนั้นพวกเขาจะสลัดหลุดการจับตาดูของยอดฝีมือโถงเซียนที่อยู่รอบๆ เคลื่อนไหวเพียงคนเดียวได้อย่างไร ยังเป็นปัญหาที่ต้องเจอเป็นอันดับแรก
แต่ว่าปัญหานี้กลับหายไปอย่างรวดเร็ว
เบื้องหลังที่ดูเหมือนบังเอิญ ความจริงเป็นยอดฝีมือที่มีระดับสูงกว่าของโถงเซียนเข้าไปในเมฆดารา และทำให้เมฆดาราเกิดการเปลี่ยนแปลง
แบบนี้จึงสามารถทำให้ทวนพระอังคารเป็นอัมพาตได้
เมฆดาราปฐมกำเนิดเป็นไปได้ว่าจะทำให้สั่วหมิงจางหนีออกจากวงล้อมของโถงเซียนได้ ขอแค่เขาไม่เจอเป้าหมายที่ตนเองต้องการหา หลังจากควานหาเที่ยวหนึ่งก็สามารถจากไปได้
โถงเซียนคิดล้อมเขาไว้ จำเป็นต้องเคลื่อนไหวให้เร็วที่สุด
พวกเขาใช่ว่าจะเชื่อใจยอดฝีมือจากโลกซ้อนโลกเช่นกษัตริย์ดิน แต่ว่าจะต้องเชื่อใจทวนพระอังคารแน่ ดังนั้นโถงเซียนจึงหาวิธีให้ทวนพระอังคารนำทาง ช่วยให้เขาหาราชันพระอังคารสั่วหมิงจางเจอให้เร็วที่สุด
ภายใต้เวลาที่กระชั้นเข้ามา ยากจะไม่มีความร้อนใจ ทำให้ผู้คนสงสัยได้ง่าย
“แต่ว่าคำสนทนาระหว่างจู๋หยางจื่อกับฟู่แพรงามอาภรณ์ดำก็ทำให้ข้าคลายความสงสัยไปมากระดับหนึ่ง” ทวนพระอังคารมีน้ำเสียงซับซ้อนอยู่บ้าง
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “สำหรับตอนนี้ผลลัพธ์ยังนับว่าดี”
ภายใต้การชักนำจากลำเพลิงที่เหมือนกับธารน้ำใหญ่ คนทั้งสองข้ามผ่านมิติมากมายด้วยวามเร็วสูง ไม่ทราบเดินทางมานานเท่าไรแล้ว ในที่สุดลำเพลิงก็สลาย ทิวทัศน์ตรงหน้าเกิดการเปลี่ยนแปลง
ยังไม่ทันได้ตั้งหลัก เยี่ยนจ้าวเกอก็ตาเป็นประกาย เพราะเขาสัมผัสได้ว่าวังมังกรของตนสั่นไหวเบาๆ
หรือควรจะบอกว่าเป็นคาน เสา และบานประตูของอดีตวังเทพที่สั่นสะเทือนเบาๆ
เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งตามองไป เห็นในความว่างเปล่าตรงหน้าถึงกับมีวัตถุดำรงอยู่ ไม่ว่างเปล่าเหมือนที่อื่น
ที่นี่ถึงกับซากหินและทราย ดูท่าทางเป็นซากปรักหักพังหลังจากสิ่งก่อสร้างส่วนหนึ่งถล่ม
ใต้ซากปรักหักพักด้านหนึ่ง มีคนนั่งอยู่ที่นั่น
………………..