ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1243 กระบี่เย้ยแคว้นเสินโจว
การติดต่อกันในเมฆดาราปฐมกำเนิดค่อนข้างลำบาก จึงทำให้เกิดการความล่าช้าและล้าหลังได้ง่ายดายสุดขีด
เยี่ยนจ้าวเกอตอนนี้ได้รับข่าวจากเยี่ยนตี๋ หมายคามว่าพวกเยี่ยนตี๋มาถึงเมฆดาราปฐมกำเนิดนานแล้ว
ขณะที่ได้รับข่าว เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกยินดี แต่ก็ไม่ได้ดีใจจนลืมตัว
คำนวณจากเวลา โถงเซียนสมควรเกิดความสงสัย สัมผัสได้แล้วว่าพวกจักรพรรดิอัสนีเย็นเยือกหร่วนหมิงเหยียนสูญเสียการติดต่อไปนานเกินไป
กำลังหลักๆ ของพวกเขาอยู่ที่ราชันพระอังคารสั่วหมิงจาง แต่ว่าการหายสาปสูญของพวกหร่วนหมิงเหยียนหมายความว่าในเมฆดาราปฐมกำเนิดยังมีคนอื่นอยู่
ที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือเยี่ยนจ้าวเกอและทวนพระอังคาร นี่ย่อมดึงดูดความสนใจของคนในโถงเซียน
ทวนพระอังคารพาพวกเยี่ยนตี๋กลับมายังเมฆดาราปฐมกำเนิด นับว่ามีความเสี่ยงใหญ่หลวง
ถ้าหากไม่ใช่เพราะมือดีระดับสุดยอดของโถงเซียนไปตามล่าสั่วหมิงจาง พวกเขาเกรงว่าจะไม่อาจเข้ามาในเมฆดาราปฐมกำเนิดได้
เยี่ยนจ้าวเกอยังคงเก็บกลิ่นอาย พเนจรอยู่ในมิติเวลาของปฐมกำเนิดที่ปั่นป่วน หลังจากผ่านการสนทนาหลายครั้ง เขากับเยี่ยนตี๋ก็สร้างการติดต่อที่ค่อนข้างมั่นคง และหาวิธีเจอกันได้
“พวกท่านมาแล้ว” หลังจากเห็นเยียนตี๋ เยี่ยนจ้าวเกอก็รับพวกเขาเข้ามาในอาณาเขตเงามืดของกงจักรมหาประกายกาฬที่ครอบคลุมอยู่
นอกจากเยี่ยนตี๋กับทวนพระอังคาร เนี่ยจิงเสินก็มาด้วย สิ่งที่ทำให้เยี่ยนจ้วเกอประหลาดใจเล็กน้อยก็คือคนที่ห้าซึ่งเป็นคนสุดท้าย
นั่นเป็นสตรีรูปร่างสูงสะโอดสะอง สวมอาภรณ์สีเขียว ใบหน้าดุจภาพวาดคนหนึ่ง นางยืนอยู่ที่นั่น แม้ดูธรรมดา แต่กลับเหมือนกระบี่ที่ถูกเก็บอยู่ในฝักเล่มหนึ่ง ประกายคมส่องสะท้อน คุกคามผู้คน
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ไม่รู้จัก แต่เพิ่งเคยเห็นตัวจริงของนางเป็นครั้งแรก…กระบี่เย้ยแคว้นเสินโจว อวี่เยี่ย
อัจฉริยะบุคคลที่โดดเด่นที่สุดในสายเหนือพิสุทธิ์ต่อจากเทพกระบี่น้อยหลงเสวี่ยจี้ ได้รับการสรรเสริญเคียงคู่กระบี่สะท้านสวรรค์
‘หนึ่งกระเรียนทะยานสวรรค์ วีรสตรีครองแคว้นเสินโจว’ คำกล่าวที่แพร่หลายกว้างขวางในหลายปีมานี้ของมรกตท่องฟ้าที่สะท้อนกับคำกล่าว ‘คุนหลุนสะท้านมังกรเทพ คนหนุ่มชี้แนะแปดสำนัก’ ของโลกซ้อนโลก
ประโยคแรกหมายถึงเฮ่อเหมียน ประมุขโถงศักดิ์สิทธิ์ในปัจจุบัน ประโยคหลังหมายถึงอวี่เยี่ย พวกเขาสองคนถูกมรกตท่องฟ้ายกย่องให้เป็นคู่อัจฉริยะแห่งยุค
สาเหตุอีกประการที่เยี่ยนจ้าวเกอคุ้นเคยกับนาง เป็นเพราะว่าสตรีนางนี้เป็นหลานแท้ๆ ของกษัตริย์ลี้ลับเกาชิงเสวียนและจักรพรรดิน้ำพุหลงซิงเฉวียน
ลูกพี่ลูกน้องฝั่งแม่ของหลงฮั่นหัว ลูกพี่ลูกน้องคนเล็กของเกาฉิง
กษัตริย์ลี้ลับเกาชิงเสวียนกับหลงชิงเสวียนจักรพรรดิน้ำพุมีบุตรธิดาทั้งหมดสามคน
บุตรคนโตคือเกาเสวี่ยโพ
บุตรีคนรองคือหลงเสวี่ยหนิง
บุตรคนสุดท้ายหลงเสวี่ยจี้
มารดาของอวี่เยี่ยก็คือหลงเสวี่ยหนิง บุตรีคนที่สองของเกาชิงเสวียนและหลงซิงเฉวียน
หลงเสวี่ยหนิงสองสามีภรรยาแต่งงานกันเร็ว แต่ว่ามีลูกช้ากว่า อายุของอวี่เยี่ยจึงน้อยกว่าหลงฮั่นหัว
หลังจากที่หลงเสวี่ยหนิงสองสามีภรรยาให้กำเนิดนางไม่นานก็เสียชีวิตทั้งคู่ เป็นจักพรรรดิน้ำพุหลงกับเกาชิงเสวียนซึ่งเป็นตากับยายชุบเลี้ยงนางจนเติบใหญ่
นางมีพรสวรรค์และความสามารถเลิศล้ำ ไม่ทันไรก็มีชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วมรกตท่องฟ้า
ผู้คนต่างยกย่องว่านางมีท่วงท่าของกษัตริย์ลี้ลับและกษัตริย์เถา ตัวเกาชิงเสวียนกลับคิดว่าหลานของตัวเองผู้นี้มีศักยภาพไม่ธรรมดา ถึงขั้นที่เทียบได้กับจักรพรรดิกระบี่ตี๋ชิงเหลียน ย่าของเยี่ยนจ้าวเกอ อดีตมือกระบี่อันดับหนึ่งของมรกตท่องฟ้า
ครั้งก่อนตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอไปมรกตท่องฟ้า นางออกท่องโลกไม่ได้กลับมา ดังนั้นจึงไม่ได้เจอ
ตามคำพูดของพวกเกาฉิงในตอนนั้น ก่อนที่อวี่เยี่ยจะออกจากมรกตท่องฟ้า นางมีพลังฝึกปรืออยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย
ถึงแม้จะได้รับการขนานนามเคียงคู่เฮ่อเหมียน แต่เป็นเพราะว่าอายุน้อยกว่า ระดับพลังฝึกปรือในตอนนั้นจึงต่ำกว่าเฮ่อเหมียนที่เป็นประมุขแล้ว
แต่ว่าเมื่อได้พบกันในวันนี้ อวี่เยี่ยถึงกับอยู่ในระดับประมุข ครอบครองร่างของมนุษย์เซียนแล้ว
ในฐานะที่เป็นหน้าเป็นตาให้แก่คนรุ่นหนุ่มสาวในมรกตท่องฟ้า ซึ่งเทียบได้กับเนี่ยจิงเสินและเฉินเฉียนหัวแห่งโลกซ้อนโลก ไม่ว่าจะเป็นพลังของอวี่เยี่ยหรือเฮ่อเหมียนล้วนไร้ข้อกังขา
ถึงตอนนี้จะดูค่อนข้างเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอที่คุ้นเคยกับวิชากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ดีกลับสัมผัสได้อย่างเลือนรางถึงความไม่ธรรมดาของสตรีอาภรณ์เขียวที่อยู่ตรงหน้า
“ศิษย์พี่อวี่ ยินดีที่ได้พบ” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มพลางประสานมือ “ครั้งก่อนข้าไปมรกตท่องฟ้า ท่านออกไปด้านนอกพอดีเลยไม่ได้เจอกัน รู้สึกเสียดายยิ่ง คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้รับการชดเชยแล้ว”
อวี่เยี่ยคารวะตอบ “ศิษย์น้องเยี่ยน ยินดีที่ได้พบ ได้ยินท่านลุงใหญ่กับชิงเอ๋อร์บอกว่าเจ้ามาถึงมรกตท่องฟ้า ข้าเองก็เสียดายที่ตอนนั้นตัวเองไม่อยู่”
หลังจากคารวะกันแล้ว นางก็มองเยี่ยนจ้าวเกอพร้อมพึมพำกับตัวเอง “มนุษย์เซียน? เร็วยิ่งนัก…”
เยี่ยนจ้าวเกอสบตากับเยี่ยนตี๋ ต่างอดยิ้มขึ้นไม่ได้ แต่ตอนนี้เขาสนใจปัญหาอีกด้านมากกว่า
“ท่านพ่อ…” เขามองเยี่ยนตี๋เป็นเชิงถาม
ความเข้าใจต่อพลังของอวี่เยี่ยของเยี่ยนจ้าวเกอจำกัดแค่เรื่องเล่าเท่านั้น ทว่าขอแค่พลังของศิษย์พี่อวี่ผู้นี้ได้รับการขนานนามเท่ากับเฮ่อเหมียนจริงๆ เช่นนั้นก็เพียงพอแล้ว
เฮ่อเหมียนพ่ายแพ้ใต้กระบี่ของหลงเสวี่ยจี้จริงๆ แต่จำเป็นต้องพิจารณาด้วยว่าเฮ่อเหมียนในตอนนั้นเพิ่งจะเลื่อนสู่ระดับประมุข และหลงเสวี่ยจี้ได้ผลักเปิดประตูเซียนไปแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอไม่เคยเห็นอวี่เยี่ยและเฮ่อเหมียนลงมือด้วยตัวเองมาก่อน แต่หลงเสวี่ยจี้เป็นชนชั้นใดเขาทราบแก่ใจดี
เขาไม่สงสัยในพลังของอวี่เยี่ย เพียงแต่รู้สึกเหนือความคาดหมายอยู่บ้าง เพราะเขานึกว่าถ้าเยี่ยนตี๋ไปหาคนที่มรกตท่องฟ้า คนที่มาควรจะเป็นหลงเสวี่ยจี้
“ก่อนผู้อาวุโสทวนพระอังคารจะติดต่อกับพวกข้า ศิษย์พี่เกาทางมรกตท่องฟ้าได้ส่งลูกศิษย์ลอบมาถึงโลกซ้อนโลก นำข่าวมาข่าวหนึ่ง มาถึงไล่ๆ กันกับผู้อาวุโสทวนพระอังคาร” เยี่ยนตี๋อธิบาย
“ทางพวกเจ้าเปิดเส้นทางเชื่อมไปยังตำหนักโอสถ ทางมรกตท่องฟ้าคล้ายมีการคเลื่อนไหวเช่นกัน”
มรกตท่องฟ้าให้ความสำคัญกับตำหนักโอสถของวังเทพมาแต่แรก เฝ้าตามหามาโดยตลอด หลังจากศิษย์ในสำนักหายไปด้านในก็ยิ่งใส่ใจกับการตามหามากกว่าเดิม
ในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอไปยังมรกตท่องฟ้าเมื่อครั้งก่อน เกาฉิงได้เล่าให้ฟังว่าหลายปีมานี้ผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์คล้ายเจอเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับตำหนักโอสถ
ตอนนี้ดูท่าทางราชันพระอังคารสั่วหมิงจางหลังจากที่เปิดเส้นทางที่เชื่อมไปยังตำหนักโอสถ ผ่านความสามารถที่ราชันพระพฤหัสบดีเซ่าจวินหวงได้เหลือไว้ในตอนแรก ทางมรกตท่องฟ้าก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
“ตอนข้าได้รับการแจ้งข่าวจากผู้อาวุโสทวนพระอังคาร ก็ให้ลูกศิษย์สายเหนือพิสุทธิ์ผู้นั้นรายงานศิษย์พี่เกาทันที” เยี่ยนตี๋ว่า “คนห้าคน พวกเราขาดไปหนึ่งคน ดังนั้นจึงขอให้พวกศิษย์พี่เกากับศิษย์พี่หลงลงมือ”
พวกเกาเสวี่ยโพคอยดูแลครอบครัวตน เช่นนั้นเยียนตี๋ย่อมไม่ปิดบังพวกเขา
เยี่ยนจ้าวเกอย่อมไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
พอพูดถึงตรงนี้ สีหน้าของเยี่ยนตี๋ก็จริงจังขึ้นหลายส่วน “ตามที่ศิษย์พี่เกาว่า นอกจากมรกตท่องฟ้าของพวกเขากับพวกเราแล้ว อาจจะมีฝ่ายอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยว”
เยี่ยนจ้าวเกอก่อนหน้านี้ไปถึงโลกมังกรอัคคี จึงทราบดีเช่นกัน “เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นเผ่าปีศาจที่เร้นกายมานาน และเริ่มต้องการเคลื่อนไหว”
ดังนั้นยอดฝีมือจากมรกตท่องฟ้าที่มาในครั้งนี้จึงไม่ต่ำกว่าหนึ่งหรือสองคน
มรกตท่องฟ้าไม่ได้มีแค่ผู้สืบทอดของกษัตริย์ลี้ลับและจักรพรรดิน้ำพุเท่านั้น ยังมียอดฝีมือซึ่งเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสายเหนือพิสุทธิ์คนอื่นด้วย
หลงเสวี่ยจี้ต้องการลงมือด้วยเหมือนกัน แต่เป็นเพราะว่าต้องคิดถึงปัจจัยในแต่ละด้าน จำต้องร่วมทางกับคนอื่นๆ ในมรกตท่องฟ้า
คนที่ร่วมทางมากับเยี่ยนตี๋ จึงเป็นอวี่เยี่ยที่เพิ่งกลับมาจากการออกท่องโลกไม่นาน
‘สถานการณ์ซับซ้อนกว่าเดิม แต่ยังไม่นับว่าอยู่เหนือความคาดหมายเป็นพิเศษ’ เยี่ยนจ้าวเกอลูบคราง ครุ่นคิดในใจ
………………..